เมื่อต้นเดือน พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีหลังไมค์จากพันทิปมาเขิญเราไปร่วมงาน "จิบกาแฟ แชร์รอยยิ้ม" กับ CP All ที่เป็นสปอนเซอร์หลักค่ะ สถานที่แห่งนั้น คือดอยช้าง 1 คืน กับคนแปลกหน้าอีกหลายคน เราควรจะตอบรับมั้ย ต้องตอบรับภายใน 2 วันด้วยนะ สถานที่เหล่านั้นเราเคยไปมาแล้ว เราจะยังไปอีกหรือเปล่า มีเหตุผลอะไรที่จะไปอีกครั้ง

สำหรับเราน่ะ "ไปค่ะ" คือคำตอบสุดท้าย 555

พอถึงเวลาเดินทางจริงๆ ทริปนี้ไปกันเยอะมากกกก ซึ่งจะเป็นผู้โชคดีในพันทิปที่ถูกรับเลือกจากทีมงาน 10 คน

และเชิญเป็นกรณีอีก 4 คน เราก็รวมอยู่ในนี้ด้วย และทีมงานของ CP All อีกหลายคนไปร่วมกิจกรรม

จิ บ ก า แ ฟ แ ช ร์ ร อ ย ยิ้ ม

ที่เชียงราย กับทีม CP All เราเรียกกันง่ายๆว่า บริษัทเซเว่น นี่แหละค่ะ ไม่รู้ว่าใครเรียกเหมือนเราบ้าง

ที่ในชีวิตประจำว่ันเราจะเรียกว่า เซเว่นได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตเราในแต่ละวันก็ว่าได้

อาทิตย์หนึ่งเราจะเข้าเซเว่นเกือบทุกวัน เพราะเซเว่นมีมากกว่าของกินค่ะ 555

และที่แน่ๆ ตอนนี้ เซเว่นในหลายๆ สาขา กำลังจะมี ร้านกาแฟ 24 ชั่วโมงภายในเซเว่นด้วยนะเออ

นี่แหละที่เรากำลังจะไปสัมผัส ก่อนจะมาเป็นกาแฟในเซเว่น นั้นเค้ามีที่ไปที่มาอย่างไร อันนี้สิน่าสนใจหน่อย

แต่จริงๆแล้วพอจบทริปกลับมาเปิดกล้องตัวเองดู ตกใจ!!

เพราะมีแต่รูปอาหารเยอะมาก 555 ไปชมกันค่ะ สมควรที่ถูกเรียกว่าทริปตัวแตกกันได้มั้ย


เริ้มต้นทริปที่สนามบินสุวรรณภูมิกันเล้ยยยย ไปตอนเช้าๆ ด้วยสายการบินไทยสมายด์ บิน 1.25 ชั่วโมง งีบแป๊ปๆ ถึงเชียงรายแล้วค่า




พิกัดแรก พาไปไร่ชาฉุยฟง ที่ดอยแม่สลองก่อนเลย ห๊าาา มาจิบกาแฟ แต่ประเดิมด้วยไร่ชานี่นะ คือทาง CP All ต้องการให้พวกเราได้ชมทัศนียภาพสวยๆ ของไร่ชาที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ ใจกว้างให้ได้เรียนรู้กิจการไร่ชา ซึ่งทุกคนแฮปปี้มาก



ความแฮปปี้ที่ประเดิมด้วยการกิน 555


ไร่ชาฉุฟง เรามาไม่ต่ำกว่า 4 ครั้งแล้วนะคะ และทุกๆครั้ง คือต้องมานั่งกิน นั่งทานกันที่ร้านนี้เลย เค้กชาเขียว สารพัดอร่อยมากกก ยิ่งเป็นเครปเค้กชาเขียวเป็นชั้นๆ ล่ะก็อร่อยไม่แพ้กัน จะบอกว่า เรามาหลายครั้งแต่ส่วนใหญ่เราจะสั่งแต่เค้กชาเขียวเอย

เค้กมะพร้าวเอย สั่งมันซ้ำๆ นี่แหละคะ พอมาครั้งนี้ เราก็สั่งเค้กมะพร้าวเหมือนเดิมด้วยความเคยชิน

แต่กลับไปกิน เครปเค้กชาเขียวของเพื่อนร่วมทริปมากกว่าอีก 555 ก็มันอร่อยอ่ะ ติดใจเลย




รวมถึงน้ำด้วย มาทีไร เราสั่งแต่ชานมเย็นๆๆๆๆ อันนี้คือน้ำประจำสำหรับเราเองแหละ แต่วันนี้ได้มากิน น้ำชาเขียวใส่ถั่วแดงเพิ่มวิบครีมไปอีก

ป๊าดดด อ้วนแน่ๆ อ้วนแล้วยอมมั้ยล่ะ (เสียงในใจพูดมา) ..........



ซึ่งนอกจากจะมีบรรดาเค้กชาเขียวหวานๆ อะไรต่างๆ แล้ว ที่นี่ยังมีอาหารคาวด้วยนะคะ

เราได้ลองชิม ใบชาทอดกรอบมาด้วยอร่อยดี แต่อย่างอื่นเราจำรสชาติไม่ค่อยได้แล้วล่ะ

เพราะทีมงานบอกว่า ไม่ต้องกินกันเยอะนะ นี่แค่ออเดอฟ ห๊าา นี่คืออออ น้ำจิ้มหรอกเหรอ

เดี๋ยวจะมีมื้อหนักอีก อึมๆๆ ดูกันต่อไปค่ะ

เพราะตอนนี้นำหนักตัวขึ้นมาแล้ว 0.1115 ขีด




"ไส้อั่วสะพรึง" นี่คือชื่อกลุ่มทีมของเรา รถ VAN 1 ค่ะ ซึ่งทีมงานจะมีการจัดแต่ละคนไว้แล้วว่าอยู่ทีมไหน รถคันไหน มีกิจกรรมต่างๆ ตอบคำถามให้เล่นมาตั้งแต่อยู่ในรถตู้นั่งมาจากสนามบิน และมีรางวัลให้ด้วย ถือว่าเป็นสีสันของงานนี้ได้ดีเลยทีเดียว

เก็บภาพเป็นที่ระลึกกันหน่อย ทั้งทีม

ไส้อั่วสะพรึง

เราก้ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทุกคนมาเห็นแล้วจะสะพรึงอะไรหรือป่าว

หรือว่า สะพรึงอายุทุกคนรวมกันหรือน้ำหนักตัวก็ว่าได้นะคะ 555



ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เบิร์น์ไขมันออกด้วยการเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันหน่อยในไร่ชาฉุยฟง สำหรับเราท่าธรรมดาไม่ เราต้อง Strong ค่ะ

ลงก่อน เดี๋ยวไมมีรูปตัวเองแล้วนะ 555




ก่อนจะนั่งรถตู้ไปยังแม่สาย แวะเข้ามาชมโรงงานของไร่ชาฉุยฟง ที่มีการตากใบชาบนลานกว้าง พร้อมกลิ่นชาหอมฉุย

อย่างเป็นธรรมชาติ

คาดว่าอยู่นานๆ ตัวคงหอมเป็นกลิ่นชาเขียวก็เป็นได้นะคะ อิอิ




พิกัดต่อมา คราวนี้มาที่อำเภอแม่สายค่ะ แวะพักทานอาหารที่ร้านนี้เลย หยิงปิง ยูนนาน ร้านนี้เป็นร้านที่เพิ่มน้ำหนักของแท้เลยก็ว่าได้ คาดกว่าน้ำหนักเราเพิ่มอีก 0.250 ขีด ><



เฮ้ นี่มันโต๊ะจีนชัดๆ ดูอาหารแต่ละอย่างสิ ตั้งแต่ออเดอฟ กะเพาะปลาผัดแห้ง ซุปเสฉวน ไก่ราดน้ำมัน ยกแมงกะพรุน

ขาหมูน้ำแดง-หมั่นโถว เห็ดหอมมรกต ปลานึ่งซีอิ้ว ผลไม้ตามฤดูกาล เราถ่ายภาพมาเป็นบางส่วนนะคะ เพราะเน้นกิน เอ้ยไม่ใช่

เริ่มจุกกันแล้ว อิมจริงๆ เดี๋ยวต้องเบิร์นกันต่อด้วยการช็อปปิ้งล่ะ ฮี่ๆ





ออกจากร้านมาก็เปลั่ยนนั่งเป็นรถบัสเพื่อข้ามแดนไปยังฝั่งพม่า ซึ่งรถหว่างที่นั่งรถนั้น ผู้บริหารของ CP All ได้มากล่าวทักทาย

คุณบัญญัติ คำนูณวัฒน์ ผช.กรรมการผู้จัดการ CP All ที่ดูแลด้านสื่อสารองค์กร ค่ะ


คุณบัญญัติ หรือคุณแดง ท่าทางใจดีมากกก พูดคุยอย่างเป็นกันเองที่สุด

พร้อมทั้ง เชิญคุณบอย อภิศิลป์ ตรุงกานนท์ ผู้ก่อตั้ง พันทิป มาพูดคุยกับผู้ร่วมทริปด้วย ทำให้รู้ว่า กิจกรรมแบบนี้ CP All และพันทิปได้ร่วมมือกัน จัดกิจกรรมมาหลายครั้งแล้ว จะเรียกได้วา เป็นกิจกรรมคืนกำไรให้สังคมก็ว่าได้ค่ะ

ภาพคุณบอยไม่ขอลงนะคะ เพราะเราถ่ายมาเบลอ กลัวถูกเคือง 555




เข้ามาแล้ว พม่า แวะที่นี่ก่อนเลย ทริปจิบกาแฟ มาไหว้พระ เดี๋ยวค่อยแชร์รอยยิ้มนะ เพราะเวลานี้ยิ้มไม่ค่อยออก แดดร้อนมากกก นี่คือแดดหน้าหนาว เดือน พฤศจิกายน ช่วงนี้ อากาศหนาวยังขอวีซ่าเข้ามายังไมไ่ด้ ก็เลยเป็นแบบนี้ค่ะ


วัดพระพุทธรูปหยก และพระสามมิติ เข้าไหว้พระและขอพรกันค่าา



อีกหนึ่งไฮไลท์ของแม่สายที่ต้องมาเยือน นั่นคือ ชเวดากองจำลอง สีทองเหลืองอร่ามงามตามาก ต้องถอดรองเท้าเข้ามาภายในพื้นที่ด้วยนะคะ

ใครใส่เท้าเปล่าเดินลงมานี้เขย่งหน่อยเพราะพื้นสะท้อนแสงแดดเวลาบ่ายๆ เนี่ยร้อนมาก 555



มีพระประจำวันรอบฐาน ชเวดากองจำลองด้วย เราเกิดวันศุกร์พอดี จึงเลือกถ่ายเฉพาะวันนี้มา สาธุ

ออกจากชเวดากองจำลองแล้ว มุ่งหน้าไปตลาดท่าขี้เหล็กฝั่งพม่ากันค่ะ เพื่อช็อปปิ้งสินค้าก็อปเกรดเอ ในราคาที่เอื้อมถึง 555

เต็มอิ่มกับการช็อปปิ้ง 2 ชั่วโมงต้องทำเวลารีบกลับไปยังเคหะสถานบนดอยช้างแล้ว

รถตู้มุ่งหน้าจากแม่สาย มายังดอยช้างเชียงราย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง มาถึง ดอยช้างฮิลล์ รีสอร์ท ที่พักคืนนี้มืดพอดี

เมื่อมาถึงก็ได้เวลา Dinner ทันทีคะ มื้อนี้ จัดไปอีก น้ำหนัก 0.5972 ขีด เพราะเน้นๆ อาหารเหนือเต็มอิ่มเยอะมากกกกก

เริ่มที่ไส้อั่วที่หั่นแบบพอดีคำมาให้แล้ว ปรุงรสได้อร่อยมากกกก




ตุ๋นมะระไก่ ผัดมะระหวาน ปลาทอดกระเทียม และที่อร่ยสุดๆ อาหารเหนือนี่สิ ขนมจีนน้ำเงี้ยวทำน้ำได้อร่อยมากค่ะ

ต้มดอกเงี้ยวได้เปื่อยดีด้วยเราชอบ เติมไปหลายรอบเลย 555

และๆ จานนี้สิ มาเยือนถิ่นปลูกกาแฟแล้วก็ต้องกินดู ยำใบกาแฟค่ะ

รสชาติเป็นไงไม่รู้ เราไม่ได้กินนะอิ่มน้ำเงี้ยวไปล่ะ 555



ค่ำคืนนี้ที่มีปาร์ตี้กัน ทั้งดนตรี เครื่องดื่ม การละเล่นแสดงของชาวเขา มีเล่นปิงโกอีกด้วย แต่เราไม่ได้รางวัลกะเค้าเลย

ภาพล่างนี้คือ ดร.นริศ ธรรมเกื้อกูล ประธานผู้บริหาร ทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์

ที่แวะมาทักทายผู้ร่วมทริปค่ะ ถ่ายภาพพร้อมกับคุณวัฒน์ ที่ที่เรียกติดปากว่า ชายกาง ห้องก้นครัวจากพันทิปมาทักทายกัน




พอถึงเวลาเข้าที่พัก อึ้งเลยล่ะค่ะ เราเคยมาพักที่ดอยช้างฮิลล์รีสอร์ทมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ 3 ปีก่อนได้จองห้องช้างป่าไว้ด้วย

เพราะเป็นห้องที่อยู่บนที่สูงที่สุดของรีสอร์ท วันนี้ ทริปนี้ก็เช่นกัน ความบังเอิญ หรือจงใจก็ไม่รู้นะ

เราได้นอนห้องนี้อีกครั้ง ชุดเครื่องนอนยังคงเป็นชุดเดิมที่เราได้มาพักเมื่อ 3 ปีก่อนอยู่เลยนะ 555



บรรยากาศยามเช้าๆ ตื่นมาอากาศดีค่ะ ดอยช้างฮิลล์ รีสอร์ทที่นี้จะมีดอกไม้สวยๆ ของเมืองหนาวเยอะมาก

เดินดูไปด้วยสวยๆ ไปด้วย เช้านี้เรายังคงทานอาหารที่ภายในรีสอร์ทกับข้าวต้มรวมมิตรหม้อโตๆ ไม่มีภาพแห่งความอิ่มเพราะลืมถ่าย 555 จริงๆใจอยากไปชมทะเลหมอกยามเช้า แต่ไม่ได้ไปถ้าจะไปต้องนั่งรถขึ้นไปยังจุดชมวิวอีกหลายนาที ซึ่งภายในรีสอร์ทยังมองไม่เห็น

เพระาอยู่ในเขตหมู่บ้านค่ะ

และกิจกรรมยามเช้าวันนี้ซึ่งจะเป็นกิจกรรมหลักๆ ของทริปจิบกาแฟ แชร์รอยยิ้ม นั่นคือ

พาไปเยือน ไปชม "เส้นทางเดินของเมล็ดกาแฟ" กว่าจะมาวางขายใน All Café ในร้าน 7-11

คุณอ๋า เจ้าของธุรกิจ BlueKoff เจ้าของกิจการมาต้อนรับและให้ความรู้ด้วยตัวเองเลยนะคะ เกี่ยวกับการอธิบาย เส้นทางเดินของกาแฟ และนี่คือแผนผังการเดินทางของเมล็ดกาแฟที่รู้เรืองและเข้าใจได้ง่ายอีกทางหนึ่งค่ะ



ซึ่งดอยช้างแห่งนี้ ที่ถือเป็นแหล่งผลิตเม็ดกาแฟพันธุ์ อาราบิก้า ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย

พร้อมแล้วสำหรับการแปรรูป เมล็ดกาแฟที่เป็นสีๆ นี้เรียกว่าเม็ดกาแฟเชอรี่นะคะ ซึ่งผ่านการล้างมาแล้วคัดเกรทกาแฟที่ลอยน้ำนั้นทิ้ง ย่อมมีเม็ดที่เสียอยู่บ้าง จากนั้นก็ทำการตีเปลือกกาแฟออก และล้างน้ำอีกครั้งหนึ่ง


ขั้นจังหวะด้วยเด็กชาวเขาน่ารักๆ กันก่อนนะคะ อิอิ


หลังจากล้างเปลือกออกไปแล้วก็จะไปสู่กระบวนการอบ ในโรงงานคุณอ๋า เป็นเครื่องอบที่สั่งมาจากบราซิล

และเป็นเตาอบที่ทันสมัยที่สุดของเมืองไทยมีขนาดใหญ่มาก โดยใช้ไม้ลิ้นจี่เป็นเชื้อเพลิงเพราะไม้ลิ้นจี้ให้ความร้อนยาวนานมาก จากนั้นก็นำไปตากแดด บนลานตากแดดขนาดใหญ่ของโรงงานค่ะ



ซึ่งพื้นที่ตากแดดบนดอยช้างนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีพื้นที่ตาดแดดเม็ดกาแฟของคุณอ๋า ซึ่งอยู่ที่จังหวัดลพบุรีอีกด้วย

ซึ่งจะเป็นสถานที่เก็บเม็ดกาแฟที่ต้องเอาไปบ่มเอาไว้อีก 6 เดือนก่อนนำไปคั่วต่อ

คือตรงนี้ทำให้เราได้รู้เลยว่า เส้นทางกว่าจะมาเป็นกาแฟในแต่ละแก้วนั้น เมล็ดกาแฟใช้เวลายาวนานมากจริงๆ




ออกเดินทางสู่ไร่ปลูกกาแฟกันค่ะ เมื่อรู้ขั้นตอนของการผลิตเม็ดกาแฟในระดับหนึ่งแล้ว

และอยากให้รู้เริ่มต้นตั้งการการปลูกต้นกาแฟ การเก็บเม็ดกาแฟ บนดอยช้างแห่งนี้อีกเรื่องหนึ่ง





เมล็ดกาแฟเชอรี่เม็ดแดงๆ สุกนี้ต้องใช้มือเก็บเท่านั้นนะคะ ซึ่งเป็นมาตรฐานของโรงงานเขานะคะ ซึ่งนอกจากการใช้มือเก็บเม็ดกาแฟ เม็ดต่อเม็ดแล้ว ยังถือโอกาสเป็นการคัดเมล็ดเชอรี่ไปในตัวอีกด้วย ซึ่งมีทั้งสีแดงและสีเหลือง ได้ยินคนที่ชิมมาบอกว่า รสชาติต่างกันด้วย

ไอ้เรายังไม่กล้าชิมผลสดๆ หรอกนะ 555



ต้นกาแฟใช้เวลาปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยวประมาณ 3 ปีค่ะ และเป็นพืชยืนต้นที่มีอายุถึง 30 ปี ซึ่ง จะมีผลผลิตต่อต้นประมาณ 4-5 กิโลกรัม และปีต่อๆ ไปผลผลิตต่อต้นจะลดน้อยลง จึงต้องทำการตัดยอดต้นกาแฟเพื่อให้แผ่กิ่งก้านผลผลิตออกมาใหม่

ซึ่งเมล็ดกาแฟเชอรรี่นั้นจะรับซื้อจากไร่กาแฟของชาวบ้าน สูงถึง กิโลกรัมละ 21 บาท เฉพาะโรงงานของคุณอ๋า นะคะ

ส่วนโรงงานอื่นจะอยู่ที่ กิโลกรัมละ 14-16 บาท ซึ่งราคารับซื้อนี้เป็นราคากำหนดของ CP All ด้วยเช่นกันค่ะ

และไม่แปลกใจเลยที่จะบอกว่า ชุมชนชาวเขาบนดอยช้างที่นี่จะมีความสุข และมีฐานะดีกันมาก

เรามีเพื่อนอยู่หมู่บ้านบนดอยช้างนี้เหมือนกันค่ะ เคยไปเยือนบ้านเพื่อนมาแล้ว ครอบครัวขายเม็ดกาแฟส่งโรงงานเช่นกัน อูู้ฟู่กันเลย ^^



พอรู้เรื่องเส้นทางเดินของเม็ดกาแฟเยอะๆ แล้ว ชักมึน มาเติมพลังงานมื้อเที่ยงกันดีกว่าค่ะ กลับมาที่โรงงานคุณอ๋าอีกครั้ง

ซึ่งคุณอ๋าได้สร้างไว้เพื่อต้อนรับแขกที่มาดูงานโดยเฉพาะ ได้ชิมทั้งอาหาร และได้ดูวิวสวยๆ บนดอยช้างด้วย

ฟินล่ะซี้ ^____^


อาหารที่ถูกปากเราในมื้อนี้ยกให้ ไข่พะโล้ น้ำพริกอ่อง และยำหมูยอค่ะ ซึ่งยำหมูยอนี่จะเป็นหมูยอใบตองอย่างดีแน่นมากอร่อยเลยล่ะ มาวางอยู่ตรงหน้เราด้วย จานนี้จึงหมดก่อนใคร 555 มื้อนี้ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นไปอีก 0.1234 ขีด อิอิ



เมื่อสิ้นสุดภารกิจศึกษาเส้นทางกาแฟแล้ว ก็เก็บภาพเป็นที่ระลึก ร่วมกันอีกครั้งค่ะ

ระหว่างผู้ร่วมทริปทุกคน ชาวพันทิป ฝ่ายบริหารและพนักงาน CP All คุณอ๋าเจ้าของโรงงานผลิตเม็ดกาแฟ

ที่ทำให้ทริป จิบกาแฟ แชร์รอยยิ้มได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี


กับวิว พานารามาสวยๆ ที่ใครๆ ก็มาทำมิวสิคได้นะจุดนี้ 555



ลงจากดอยช้างมาแวะที่เซเว่นสาขาประตูล้อที่เชียงราย ทีนี้เราก็สามารถดื่มกาแฟกลุ่นหอมๆ ได้อย่างเข้าใจ

ได้รู้เส้นทางกว่าจะมาเป็น All Café ในร้าน 7-11


เมนูที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษ และทุกๆ ครั้ง จะสั่งคาปูชิโน่ปั่นค่ะ ฮีๆๆ



พิกัดต่อมา มาแวะจริงๆ แวะแป๊ปเดียว ได้มาภาพเดียว วัดร่องขุ่น ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆสิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ

ก่อนจะไปตัวแตกที่ๆๆๆ สุดท้าย



นี่เลยๆ VAN 1 ทีมไส้อั่วสะพรึงนี่ละคะ มาก่อนใครเลย ได้กินก่อนใครด้วย คือกรี๊ดมากร้านนี้ มาเชียงรายปีละหลายครั้งมาก แต่ไม่เคยมาร้านนี้ เอ๊ะ ยังไง

ร้านกาแฟชีวิตธรรมดา และไม่ธรรมดาจริงๆค่ะ ได้ข่าวว่า ราคาไม่ธรรมดาซะด้วยสิ ใช่ป่าว ไม่รุ้ อันนี้เพื่อนบอกมา 555


บรรยากาศภายในร้าน เรไม่ได้เก็บภาพมาค่ะคนเยอะมาก แทบไม่มีทีทนั่งดีที่ทีมงานจองไว้ริมแม่น้ำกกให้บรรยากาศดีด้วยนะ เราชอบ ถ้าพูดถึงการตกแต่งของร้าน ก็เก๋ไก๋ เก๋กู๊ดออกแนวยุโรปไปเลย เราไม่สน เราสนเค้กอร่อยตรงหน้านี่มากกว่า

กรี๊ดดดดดด มื้อนี้น้ำหนักขึ้น 1 ขีดแน่ๆเลย



ถ้าถามเราว่า ร้านชีวิตธรรมดานี้อร่อยมั้ย เราตอบได้เลยค่ะว่า เกลี้ยง รู้แค่นี้จริงๆ เพราะทุกรายการบนโต๊ะมันฟ้องมา 555

เร็วๆ นี้เราจะได้ไปเยือนเชียงรายอีกครั้ง ไม่พลาดแน่ๆ แล้วจะมาบอกด้วยตัวเองอีกครั้งว่า

ร้านชีวิตธรรมดาเนี่ย ราคาไม่ธรรมดาด้วยหรือไม่ อยากรู้ต้องจ่ายเองค่ะ ชัดเจนนะ !!!

เนื่องจากยังมีเวลาเพียงพอและเหลือเฟือที่ไม่ต้องกลัวตกเครื่องกลับเย็นนี้ มาแวะกันต่อที่ วัดห้วยปลากั้ง

มาวันหยุดคนเยอะเช่นเคย และเช่นเดิมที่เจ้าแม่กวนอิมและโบสถ์สีขาวยังสร้างไม่เสร็จ

คงเร็วๆ นี้ล่ะนะคะ เรามาเยือนที่นี่ 2 ครั้งแล้วทุกครั้งก็คือ มาช่วงวันหยุดบ้างเทศกาลบ้าง เราไม่เคยที่จะเก็บภาพได้แบบเดี่ยวเลย ครันจะไปไดคัท คนที่เค้ากำลังยืนคู่กัน ไดคัทคนที่กำลังเซลฟี่อยู่ให้ออกไปก็หินเอาเรืองค่ะ

วันนี้จึงเดินหามุมแบบไร้คนดูบ้าง ณ วัดห้วยปลากั๊ง




และเราก็ได้มุมทีปราศจากคนมาบดบังฉากได้สมใจด้วยการเดินไปมุมด้านข้างๆ ก็แปลกใจที่มุมนี้ไม่มีคนเดินมาเลยนะ

เข้าใจว่าเว้นไว้ให้เรามาเก็บภาพใช่ป่าว 555

จบทริปดื้อๆ แบบนี้ล่ะค่ะ จิบกาแฟ แชร์รอยยิ้มที่เราอยากคอมเม้นต์ให้อีกเรื่องเป็นพิเศษ

นั่นคือทีม ออแกไนซ์ จัดงาน ซึ่งเป็นทีมงานจากบริษัท MJ หรือ Magical Journey ที่คล่องตัว รู้งานและเป็นมืออาชีพมากๆ เลยค่ะ สีหน้าแต่ละคนเหนื่อยนะ แต่ใจก็สู้อะ จึงเป็นอีกเรียวแรงหนึ่งที่ทำให้ทริปนี้สำเร็จไปด้วยดี

คราวหน้าว่างๆ ชวนเราไปได้อีกนะคะ 555 ขอบคุณ พันทิป และ CP All ที่ชวนเราไปตัวแตกในครั้งนี้ด้วยค่ะ

กลับบ้านมา สรุปว่า น้ำหนักขึ้นไป 3 ขีด สบายตัวเลย


RinSa YoyoLilve

RinSa YoyoLive

 วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.55 น.

ความคิดเห็น