ประเพณีเตียวขึ้นดอยไหว้สาป๋ารมีพระบรมธาตุดอยสุเทพ

ทริปนี้ตั้งใจไปร่วมเดินขึ้นดอยสุเทพในงาน "ประเพณีเตียวขึ้นดอยไหว้สาป๋ารมีพระบรมธาตุดอยสุเทพ" หรือในเวปของ ททท. ในชื่องาน "ประเพณีเดินขึ้นดอยสรงน้ำพระธาตุดอยสุเทพในวันวิสาขบูชา" จัดขึ้นทุกปีก่อนวันวิสาขบูชา 1 วัน เคยได้ยินคนเชียงใหม่เล่าให้ฟังบ่อยครั้งที่มาเที่ยว ตั้งใจไว้หลายปีแล้วที่อยากมาสักครั้ง ปีนี้โอกาสดีหลายอย่างทั้งเรื่องตั๋วและเวลาในการเดินทาง ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน (28-30 พฤษภาคม 2561) ขาไปออกจากสุวรรณภูมิลงลำปาง อยากลองเส้นทางนี้บ้าง นั่งคุ้มชั่วโมงครึ่ง

จากสนามบินลำปางมาสถานีขนส่งมีรถสองแถวบริการคนละ 50 บาท รถตู้จากลำปางมาเชียงใหม่ 73 บาท มาถึงเชียงใหม่ฝนตกหนักพอดี เข้าที่พัก ไม่ไกลจากแยกรินคำนัก พอฝนซาก็เดินกางร่มออกมาเตรียมขึ้นดอยสุเทพ ระหว่างรอข้ามถนนที่แยกรินคำก็ถ่ายแสงสียามค่ำคืนค่าเวลา (สัญญาณไฟแยกนี้ยาวนานจริงๆ)

เดินต่อมาเรื่อยๆ ถนนปิดตั้งแต่หน้ามช. คืนนี้เดินขึ้นไม่เหงาแล้ว คนเยอะมาก

เดินมาถึงข่วงอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เจอขบวนแห่น้ำพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสรงพระธาตุดอยสุเทพ มีการแสดงและการกล่าวเปิดงาน

หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดซุ้มประตูเปิดงานเดินขึ้นอย่างเป็นทางการเราก็เริ่มเดินขึ้นดอยพร้อมกับหลายคนที่รอพิธีเปิด

เดินกลางร่มเพราะฝนตกตลอด เริ่มเดินก็เริ่มสนุก ได้ยินเสียงประกาศว่าจากข่วงอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ 13 กิโลเมตร หวั่นใจเหมือนกันว่าจะขึ้นไหวไหม เดินเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน ข้างทางจะมีคนมาเปิดโรงทานมีทั้งอาหาร ขนม น้ำ ลูกอม ผ้าเย็น และยาดมตลอดทาง สนุกกับสีสันข้างทางไปเรื่อยๆ ไม่นานก็ถึงจุดชมวิวที่ 1 ได้มายามดึกครั้งแรก สวยดี

พักจุดนี้พักใหญ่ๆ ก็เดินต่อจุดที่สองที่เราแวะคือวัดผาลาด อยากไปโบสถ์แต่ทุกคนบอกมืดและเปลี่ยวมาก มากลางวันดีกว่า ก็เลยได้แค่ถ่ายภาพเดียวที่ศาลาริมทาง

เดินต่อเรื่อยๆ ได้ยินเสียงแซวเพื่อนจากเด็กๆ ที่มาเป็นกลุ่มให้ได้สนุกเป็นระยะๆ เราเริ่มพึ่งพาน้ำดื่มเยอะขึ้น ฝนตกตลอดยังต้องใช้ผ้าเย็นช่วย คิดเลยว่าถ้าร้อนๆ ขึ้นไม่ไหวแน่ และแล้วก็เห็นจุดนี้ แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว แรงใจมาเต็มเร่งเท้าได้อีกเยอะ

ถึงจุดนี้เรารับอาหารมาด้วย เพราะยังไม่รู้ว่าจะได้ลงกี่โมง

หลังจากเพิ่มพลังก็เดินขึ้นบันไดนาคต่อ (ได้ยินว่ากระเช้าเปิดบริการ) หลายคนเริ่มเกาะเพื่อปีนบันไดแล้ว เรายังพอไหวก็เดินเรื่อยๆ เราชอบเจ้าหน้าที่วัดมาก จะคอยมากวาดรองเท้าที่ถอดตรงบันไดไปกองไว้ด้านข้างที่วางรองเท้าที่วัดจัดให้ ถอดรองเท้าตรงบันไดถ้าผู้สูงอายุเดินสะดุดรองเท้าตกลงมาบาดเจ็บจะรับผิดชอบไหวไหม มีที่วางรองเท้าบริการแล้ว เดินอีกนิดเดียวเองนะ ขึ้นมาถึงแล้ว เราเดินไหวจริงๆ จากโรงแรมเดินมาอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย 3.5 กิโลเมตร และจากอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพอีก 13 กิโลเมตร

ฝนตกจนหมอกฝนเริ่มปกคลุมพระธาตุแล้ว ได้อีกบรรยากาศที่ดีจริงๆ ถึงฝนจะเริ่มแรงขึ้นก็เถอะ

เดินต่อมาจุดชมวิว ได้ยินเสียงประกาศว่ามีการสวดมนต์ตรงจุดนั้น ยิ่งเดินมายิ่งหนาว ทั้งลมทั้งฝน

หนาวจนต้องเดินลง ขาลงเราไม่ได้เดินลงดอยฝนตกทางลื่นมากๆ ต่อคิวนั่งสองแถวลงมาหน้า มช. คนละ 40 บาท ถึงที่พักตี 3 กว่าจะได้นอนตี 4

บ่าย 3 เราถึงได้มีแรงออกมาหาของกินที่ร้านอัครฯเนื้อตุ๋นที่ศิริมังคลาจารย์ เนื้อตุ๋นดี ซุปดี

ตรงข้ามมีร้านกาแฟคนเยอะมาก วันนี้เราไม่ได้รอ เดินต่อมาที่ประตูสวนดอก

ถึงเวลาเติมคาเฟอีน ร้านนี้เรามาหลายรอบ คั่วกาแฟเอง เข้มและหอม เราชอบ ร้านกาแฟทอฝัน ด้านหลังวัดพระสิงห์

เดินต่อมาที่ร้านอาหารตามสั่งข้างรั้ววัดพระสิงห์ เราชอบร้านนี้ อร่อย ถูก เยอะ จานนี้ 30 บาท

เดินต่อเข้าวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ฝนตกเราก็ไม่หวั่น

ออกจากวัดพระสิงห์มาที่หออินทขีล สักการะพระหลักเมืองเชียงใหม่

วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร มาทันเวียนเทียนพอดี

พอเสร็จก็เดินมาที่วัดพันเตา ชอบที่นี่แต่งสถานที่สวยอีกแล้ว

สามทุ่มกว่าแล้ว เราลืมไปว่ารอบนี้ไม่ได้นอนที่ประจำแถวท่าแพ แต่นอนที่แยกรินคำ ก็รีบเดินกลับที่พัก ระหว่างทางแวะกินบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง-หมูกรอบ ร้านราชาบะหมี่ เกี้ยว ปู หมูแดง