ทริปต่อเนื่องจาก กาลครั้งหนึ่ง...ที่แพโตนเตย เราเดินทางด้วยการติดต่อบริษัททัวร์ที่ขายตั๋วรถ ตั๋วเรือ รับกลับ และไปส่งสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี แต่มีวิธีเดินทางไปสมุยมากมาย ด้วยรถตู้ที่ตลาดเกษตร 2 หรือบริษัทพันธ์ทิพย์ หรือบริษัทเรือที่มีรถโค้ชบริการ เราเดินทางกันกลุ่มเดียว 4 คนทั้งรถตู้ ส่งท่าเรือก็วิ่งขึ้นเรือรอบ 11:00 พอดี เรือออกตรงเวลามาก เรือออกก็เริ่มสนุก
ฝนตกเกือบตลอดทาง แต่พอถึงเกาะสมุยกลับไม่มีฝน ถือว่าโชคดีมาก
บรรยากาศที่ท่าเรือหน้าทอน
เดินมานั่งรถตู้ ไปเฉวงในราคา 80 บาท และคนขับบอกส่งถึงหน้าโรงแรมเลย รอบนี้พัก บีทูที่เฉลง ติดหาด ใกล้ห้าง ของกินมีให้เลือกเยอะ เก็บกระเป๋าเสร็จก็ออกมาเดินเล่นที่เซ็นทรัลสมุย
ฝนหยุดก็ออกจากห้างไปโบกสองแถวไปถนนคนเดินบ่อผุด ของกินเยอะ ร้านขายของเยอะ คนก็เยอะ สนุกดี
คืนนี้ซนนิดๆ หน่อยๆ ก็กลับที่พัก
เช้าวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ตื่นเข้ามาริมหาดหน้าที่พัก สงบมาก สวย
สักพักคนขับรถตู้ของบริษัททัวร์โทรตามว่ามาถึงหน้าที่พักแล้ว พวกเราก็รีบออกไปจับจองที่นั่งก่อน มาส่งขึ้นเรือของบริษัททัวร์ เราใช้บริการเป็นรอบที่ 2 แล้ว บริการดี อาหารดี อร่อย ไม่ได้ค่าโฆษณา จ่ายเงินเที่ยวเองทั้ง 2 รอบ ชอบก็ชมและอยากแนะนำต่อ
มาถึงก่อนกลุ่มแรกๆ ก็เลือกนั่งได้เต็มที่ พวกเราไม่กลัวแดดก็จองหัวเรือกัน รอบก่อนไม่ได้ซื้อแบบมีคายัค มารอบนี้ซื้อแบบมีคายัคด้วย ระหว่างทางก่อนถึงเกาะวัวตาหลับ
จุดแรกไปเกาะวัวตาหลับ เดินขึ้นจุดชมวิวผาจันทร์จรัส เพื่อชมหมู่เกาะอ่างทอง ระยะทาง 500 เมตร
พอเริ่มเดิน อ้าวๆๆๆๆๆๆ ทำทางใหม่ไฉไลสวยงาม เป็นบันไดสวยงามแล้ว เดินง่ายมาก ไม่ต้องไต่เชือกแบบเดิมแล้ว เสียดายแบบเดิมมาก ไกด์เล่าให้ฟังว่าคนไทยชอบไปบ่นกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ว่าขึ้นยาก ต้องไต่เชือกอันตราย และแล้วอุทยานฯ ก็ทำทางเดินสวยงาม จุดชมวิวผาจันทร์จรัสเป็นอิฐแข็งแรงมาก เชิญคนที่เคยบ่นกลับมาเที่ยวได้แล้วจ้า
เอารูปเก่าเมื่อ 4 กรกฎาคม 2559 ตอนมามาผาจันทร์จรัสครั้งแรก กับอีกรูป 1 พฤษภาคม 2561
ขาลงมาถึงจุดชมวิวที่ 1 แวะถ่ายรูปสักนิดและเป็นรูปที่ดีที่สุดในทริปนี้เลย
เดินลงมาถึงด้านล่างใครมี passport อุทยานแห่งชาติประทับตราได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
ยังพอมีเวลาก่อนขึ้นเรือก็แวะถ่ายรูปกับป้ายกันก่อน
พอขึ้นเรือก็ถึงเวลาอาหารเที่ยง ยังเป็นกับข้าวที่เหมือนเดิมกับครั้งก่อน อร่อยเหมือนเดิม เด็ดสุดก็น้ำพริกนี่แหละ
พอทุกคนอิ่มเรือก็เคลื่อนออกไปที่เกาะแม่เกาะ ระหว่างทางก็สวยแปลกตาดี
ครั้งนี้เราซื้อทัวร์แบบมีคายัค 1 ลำนั่ง 2 คน ระหว่างรอก็ถ่ายวิวทะเลไปด้วย
ถึงเวลาสนุกกับการพายคายัคแล้ว
พายประมาณ 30 นาทีก็มาที่จุดขึ้นชมทะเลใน เดินขึ้นบันไดไป 80 เมตรก็จะเห็นทะเลในสวยๆ แล้ว
ลงบันไดไปด้านล่างชมทะเลในใกล้ๆ
ตอนขึ้นกลับนี่ถึงขั้นต้องปีนกันนิดหน่อย บันไดชันมาก
ก่อนลงไปหน้าหาดจะเห็นวิวแบบนี้ สวยดี
ลงมาเจอดอกกล้วยไม้รองเท้านารีใกล้ๆ สวยจริงๆ ชอบมาก
ที่นี่มีจุดชมปะการังน้ำตื้น และมีปลาเยอะมาก แต่วันนี้น้ำขุ่นจนแทบถ่ายอะไรไม่เห็น
ถึงเวลากลับเกาะสมุยแล้ว ขากลับก็ยังคงสนุกอยู่ตลอดทาง
ฝนมาแล้ว หนักจนต้องลงมาห้องด้านล่างกันทั้งหมด ทั้งลมและฝนหนักจริงๆ
ขากลับที่พักที่เฉวง รถตู้ขับไปทางละไม เราก็เลยขอลงที่ร้านครัวชาวบ้านตามคำแนะนำของใครหลายคน
เช้าวันสุดท้ายของทริปนี้ ตื่นกันสายมาก เก็บของคืนห้องและไปวินรถตู้เพื่อไปท่าเรือ ขากลับแดดดี ฟ้าใสมาก สวย
ถึงท่าเรือก็ขึ้นรถบัสเข้าเมือง และไปร้านยกเข่งชม โล้งโต้ง ผักบุ้งไต่ราว ก๋วยจั๊บน้ำข้น และข้าวเหนียวมะม่วง
เดินต่อไปศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี
เดินต่อมาชมวิวแม่น้ำตาปี
หมดเวลาซนของทริปนี้แล้ว ถึงเวลาไปสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี รถมาส่งก่อนเวลาให้เรามีเวลาเดินหาของกินของฝากกันก่อน เราจองตั๋วออนไลน์ ไปจองได้ที่นี่ จองตั๋วรถไฟออนไลน์ ไม่มีที่ปริ้นก็แคปหน้าตั๋วขึ้นรถได้เลย เราโทรถามและถามเจ้าหน้าที่สถานีแล้ว
ก่อนขึ้นรถก็ซนรอบๆ สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี ที่อยู่อำเภอพุนพินกันก่อน
พอขึ้นรถได้ไม่นานก็มาปูเตียงแล้ว
เดินไปนั่งที่ตู้เสบียงก่อนยังไม่ง่วง พอไปถึงสั่งอาหาร ได้ความว่า ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำสดอีกแล้ว มีบริการอาหารอุ่นร้อนแบบชุด ซึ่งมันไม่ถูกปากเรา และปริมาณน้อยลงอย่างมาก เสียดายบรรยากาศตู้เสบียงที่มีเสียงเคาะกระทะเวลาผัด กลิ่นอาหารหอมๆ รสชาติอาหารสั่งได้ตามชอบ
ถึงเวลากลับไปนอนแล้ว ง่วงจากลมพัดที่ตู้เสบียงนี่แหละ
ติดตามทริปเดินทางอื่นๆ ได้ที่:
IG: prapat / ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 08.22 น.