函館市- Hakodate

หนึ่งวันสั้นๆ ในเมือง HAKODATE

ฮาโกดาเตะ เป็นเมืองท่าซึ่งสำคัญสำหรับเศรษฐกิจแห่งหนึ่งในจังหวัดฮอกไกโด

ซึ่งเป็นเมืองที่ หมี ชอบที่สุดในการเดินทางครั้งนี้

เพราะตัวเมืองฮาโกะดาเตะ มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างความเป็นญี่ปุ่น และตะวันตก แต่เราจะหาตึกสูงระฟ้าได้ยาก ทำให้ยังคงสภาพของความน่ารักทั้งตัวเมือง ให้เราได้เดินชม เดินเล่น กันตลอดเส้นทาง

ส่วนเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง ฮาโกะดาเตะ นั้น
เยอะม๊ากกกกกกกกกกกกกกก

จริงๆแพลนแรกสุดที่เราวางกันไว้
คือมาค้างที่นี่ 1 คืน แต่ด้วยจังหวะการเพิ่มสถานที่เที่ยว
ทำให้เราต้องลดเวลาของเมือง ฮาโกะดาเตะ ลงเหลือเพียง
ไปเช้า-กลับเย็น จากเมือง ซัปโปโร เท่านั้น

ที่ที่เราไปเที่ยวใน ฮาโกะดาเตะ
- ตลาดปลาฮาโกดาเตะ
- หอคอย โกเรียวคาคุ
- สวนสาธารณะ โกเรียวคาคุ
- โกดังแดง
- เนินแฟนเดย์
- จุดชมวิวบนภูเขา ฮาโกะดาเตะ

เดี๋ยวเรามาดูกันนะครับ
ว่า 1 วันในฮาโกะดาเตะของเรา ทำอะไรได้บ้าง

วิวของเมือง ฮาโกะดาเตะ ยามค่ำคืนจากจุดชมวิว

เป็นวิวที่น่าประทับใจจริงๆ ใครไปห้ามพลาดนะครับ



เราสองคนเดินทางมาถึงวันที่ 6 ของทริป

ฮอกไกโด 8 วัน 6 เมือง กันแล้ว



การเดินทางไป ฮาโกะฯ จากซัปโปโร

หากใครมีเวลาพอ อยากให้ไปค้างสักคืนนะครับ

เพราะแม้จะนั่ง JR Rail ยังต้องใช้เวลานั่งกันถึง

เกือบ 4 ชั่วโมงด้วยกัน



โดยหมีหมู ได้ทำการจองที่นั่งสำหรับรถไฟ

รอบเช้าสุด และกลับรอบช้าที่สุด ไว้

(กลับถึง ซัปโปโร เที่ยงคืน ร่างแทบแหลก)



บรรยากาศภายใน JR ยามเช้า



เนื่องจากขึ้นรอบเช้ามาก

เราสองคนก็ไม่ได้กินอะไรตอนเช้า



เลยต้องมาซื้อข้าวกล่องในสถานีรถไฟกินกัน



ถึงแล้วววววว

สถานี Hakodate



ต้องถ่ายกับป้ายสัญลักษณ์กันก่อน

แล้วเราจะไปต่อที่จุดหมายแรกของเรา



"ตลาดปลา ฮาโกะดาเตะ" กัน



บรรยากาศยามเช้าของตลาดปลา



ซึ่งภายในตลาดปลา

ก็จะมีร้านในเราเลือกมากมาย



แต่ร้านที่หมีหมูเลือกเข้าไปกิน

เป็นร้าน คุณลุง ท้ายตลาด



ไปดูรีวิวจาก สุโก้ยโฉะ ฮอกไกโด - Sugoisho Hokkaido มา



อาหารทะเลของร้านคุณลุง สดมากเลย



เมนูนี้เป็น ปลาหมึกต้มยัดไส้ข้าว

ถือเป็นของขึ้นชื่อ ของที่นี่เลย



เมนูนี้ ถ้ามาแล้วไม่โดน ไม่ได้!!!



Hotate หอยเชลสดๆ



สำหรับ DONBURI หรือข้าวหน้าต่างๆ

เราสองคนเลือกกินเมนูนี้ครับ



ประกอบไปด้วย

ไข่หอยเม่น

หอยเชล

ไข่ปลาแซลม่อน

เนื้อปลาแซลม่อน



หลังจากกินอิ่มท้องกันแล้ว

เราก็เดินอ้อยอิ่ง อืดอาด กันมาที่ท่าเรือ เพื่อถ่ายรูปกับท้องฟ้าสีสดใส

(ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นฟ้าแสนทมึน เพราะหิมะกำลังจะตก!!!)



หลังจากนั้นเราก็เดินมาซื้อ ตั๋วรถราง

ที่เป็นพาหนะการเดินทางขึ้นชื่อประจำเมือง

กันที่สถานีรถไฟ ฮาโกะดาเตะ



โดยค่าโดยสารรถรางให้ซื้อแบบเป็น

1-Day Pass ไปเลยครับ คุ้มกว่าแน่นอน



ราคา 600 เยน ต่อคน



วิธีการตรวจสอบบัตรของนักท่องเที่ยว ที่นี่น่ารักและง่ายมาก



ทำเป็นแผ่นแบบนี้ออกมาให้ขูด

ว่าคุณซื้อ วันที่เท่าไหร่ เดือนไหน ปีอะไร



แค่ยื่นแผ่นนี้ให้กับพนักงานขับรถราง เขาก็จะเข้าใจว่าเป็นวันเวลาที่ตรง

และให้เราโดยสารไปไหนมาไหนก็ได้ตลอดวันนั้น



รถรางมาแย้วววววววว



นั่งรถรางมาสัก 20 นาที

เดินต่ออีก 10 นาที เราก็มาถึง หอคอยโกเรียวคาคุ กันแล้ว



ค่าขึ้นหอคอย

คนละ 900 เยน



ค่าขึ้นหอคอย

คนละ 900 เยน



นี่!! วิวที่เราจะได้เห็นจาก หอคอย โกเรียวคาคุ



สวนรูปดาว 5 แฉก

ซึ่งมีปราสาทตั้งอยู่ตรงใจกลาง



เดี๋ยวเราไปดูกันว่าปราสาท สวยแค่ไหน



นี่งายยยยยยย



ก่อนจากบริเวณโกเรียวคาคุไป

ก็ได้มาถ่ายกับคลองรอบสวน ที่ตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็งไปหมดแล้วว



หลังจากหิมะหยุดตก

ก็เป็นเวลาพอดีที่เราสองคนเดินทางมาถึงบริเวณ



Red Brick Warehouse

บรรยากาศจะคล้ายๆกับ เอเชียธีค บ้านเรา



ซึ่งนำโกดังเก็บสินค้า มาทำเป็น Shopping Mall



รูปคู่สักนิด



แล้วเราก็มาที่ เนินแฟนเดย์ กันครับ



มาแล้ว ไฮไลท์ ของเรา

คือการขึ้นยอดเขาไปจุดชมวิว Hakodate ให้ได้



วิธีการขึ้นไป จริงๆเราสามารถเดินเท้าขึ้นไปได้ แต่เนื่องจากเป็นหน้าหนาว และระยะเวลาที่สั้น ทางเจ้าหน้าที่แนะนำให้นั่งกระเช้าขึ้นไปครับ



ราคาคนละ 1,280 เยน



สวยม๊ากกกกกกกกกก



ยิ่งพอฟ้ามืดแล้ว แสงไฟสลัวๆ สีนวลๆ เป็นบรรยากาศ ที่ดีมากเลย



เมื่อลงจากภูเขากันแล้ว

เราสองคนผู้หิวโหย

(หิวอะไร!!! เห็นกินทั้งวัน!!!)



ก็เดินตามรอยมาลองลิ้ม

ราเม็งขึ้นชื่อของฮาโกะฯ



"ราเม็งซุปเกลือ" กันครับ



มาแล้วววววว

ราเม็งซุปเกลือ



ของขึ้นชื่อเมือง ฮาโกะฯ



ส่วนนี่เป็น



ชาชูเมนซุปมิโซะ



บอกเลยว่า ราเม็งที่นี่อร่อยจริงๆ

ยิ่งอากาศข้างนอกหนาวๆ ได้มาเจอซุปอุ่นๆ



ฟินนนนน อย่าบอกใคร



ที่เมืองฮาโกะดาเตะหน้าหนาว



ก็มีการประดับประดาไฟสวยๆให้ได้ถ่ายรูปกันด้วยนะ



สุดท้ายของวัน

(กินอีกแล้ว!!!)



ชีสเค้กประจำเมือง

ก้อนแค่นี้ แต่คุณภาพ (และแคลอรี่) เหนือชั้นมากๆ

หากใครมา ขอให้ลองเนอะ



อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ

สามารถเดินไปซื้อได้แค่ไม่ถึง 5 นาที



ต้องลากันไปแล้วนะครับสำหรับเมืองท่าที่แสนน่ารักในวันนี้

สรุปสั้นๆเลยเนอะ



ว่าคุ้มมาก

*แต่หากใครจะวางฮาโกะดาเตะ ไว้เป็น 1 ในแพลน หมีหมูแนะนำให้ซื้อ JR-Pass ไว้ด้วยนะครับ เพราะเพียงแค่ค่า JR ตรงมาที่ฮาโกะดาเตะ ก็ปาไปเกือบ 10,000 เยนแล้วครับ



ครั้งหน้า เราจะเหลืออีกเพียง 1 เมืองเท่านั้น

คือ



S A P P O R O

เมืองหลวงของ Hokkaido



เดี๋ยวเราไปดูกันนะครับว่าในเมืองหลวง มีอะไรให้เราไปค้นหากันบ้าง



สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ//ค่ะ



หากชื่นชอบการท่องเที่ยว

อย่าลืมกด Like กด Share กันนะครับ^^

TurkTS

 วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 08.49 น.

ความคิดเห็น