เน้นพักผ่อน นอนเล่น และกินวนไปค่ะ ^^ เมื่อใจอยากพัก แล้วรออะไรล่ะ !!

มีตัวเลือกว่า จะไปภูเขาหรือทะเลดีในครั้งนี้ ที่อยากพักให้เต็มที่ และใกล้กรุงแบบว่าไม่อยากเหนื่อยกับการเดินทางมาก ขอแค่ไปนั่งๆ นอนๆ พักชาร์ตแบตก็ดีเหมือนกันน้า เราจึงเปลี่ยนมานอนเล่นที่ ทะเลภาคตะวันออก กันบ้างค่ะ

ขับรถมาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เลยจากตลาดหนองมนมาหน่อยนึง และบางแสนด้วย ก็จะเป็น #หาดบางพระ

หือออ จะบอกว่าเราเพิ่งเคยมาหาดบางแสนในพื้นที่ ที่ไม่มีถนนกั้น ในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกจริงๆ ค่ะ

สงบไม่วุ่นวาย เป็นหาดส่วนตัวที่รีสอร์ทเลย งั้นก็เหมาะเหม็งล่ะสำหรับการพักผ่อนของเราในวันหยุดนี้

ที่นี่ Sikhara Resort สิกขรา พลาโซ่ รีสอร์ท

รีสอร์ททำเลดี ติดหาดบางพระ (ที่อยู่ในพื้นที่ของ ต.แสนสุข) ที่มีห้องพัก 47 ห้อง มี 7 Room Type

เปิดบริการได้เพียง 2 ปีเท่านั้น ภายในห้องเฟอร์ฯ 5 ดาวชัดๆ เตียงนอนนุ่มๆ แบบนี้ทำให้เราได้นอนหลับสบายตัวไปเล้ย

ราคาเริ่มต้นคืนละ 4000 บาทรวมอาหารเช้า ยามเย็นพลาดไม่ได้ที่จะมาดูพระอาทิตย์ตกริมทะเล แบบว่า โรแม้นซ์ที่สุด ถ้ามาคนเดียวก็ฟินได้เหมือนกันนะเออ ตรงที่สบายใจนี่ล่ะค่า 555

หรือว่ายน้ำชิลๆ หน้าห้องพักก็ยังได้ เช้ามาทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ที่แบบอิ่มๆ นอนพัก นอนเล่นกันได้ยาวๆ ถึงเช็คเอาท์ แค่นี้ก็ทำให้เราได้พักผ่อนแบบสบ้าย สบายกันไปสิ

ไม่อยากให้รอช้า ตามไปดูรีวิวรายละเอียดเต็มๆ กับเราได้เลยค่า

การเดินทางไปยัง สิกขรา พลาโซ่ รีสอร์ท ด้วยการชับรถยนต์ส่วนตัวค่ะชั่วโมงเดียวเอง

นับจากบางนานะ อิอิ หากใครอยู่นอกพื้นที่ไปอีก ก็บวกเพิ่มไม่น่าจะเกิน 2 ชั่วโมงค่ะ

เส้นทางรีสอร์ทหาง่ายมาก Google Map เลยค่า สะดวกสุดๆ เอาแผนที่มาให้ดูกันเลยว่ามีทำเลดีจริงๆ

ติดทะเล เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนอย่างมาก

อ้อ ที่นี่เค้าจะมีห้องประชุมสัมมนา จัดเลี้ยงด้วยนะคะ ที่จะเหมาเป็นกรุ๊ปๆ นี่สะดวกกันอย่างมาก

ขับรถเข้ามาภายในรีสอร์ทแล้วค่า รีสอร์ทจะอยู่ซอยสุขุมวิท 22 ค่ะ ที่ยังอยู่ในเขต ต.แสนสุขอยู่ เราสอบถามมาแล้วเป็นรอยต่อ

ระหว่าง บางแสน และบางพระค่ะ ทำให้หาดแถวนี้เรียกว่า หาดบางพระ ก็ย่อมได้

ที่จอดรถ ภายในรีสอร์ท มีที่จอดกลางแจ้งเพียงพออย่างมากสำหรับผู้มาเข้าพัก หรือมาทานอาหาร

เร็วๆนี้จะมีร้านอาหารซีฟู้ดเปิดใหม่ของ สิกขรา พลาโซ่ รีสอร์ท ชื่อว่า "ออเจ้า ซีฟู้ด"

ตอนนี้มาเช็คอินกันก่อนเลย

Lobby โล่งๆ โปร่งสบาย พื้นที่นั่งรอสบายๆ พอสมควรค่ะ เพดานสูงด้วย

เหมาะกับการนั่งรอ หรือเซลฟี่รอ ^^

เวลาเช็คอินตามปกติของรีสอร์ททั่วๆ ไปนะคะ คือ เช็คอิน 14.00 น. และเช็คเอาท์ 12.00 น.

รับคีย์การ์ด และลากกระเป๋าเข้าห้องพักเลยค่า จะมีพนักงานพาไปส่งที่ห้องค่ะ

ห้องพักของเราคือ Deluxe

ระหว่างลากกระเป๋าจาก Lobby ก็จะผ่านช่องว่างตรงสระว่ายน้ำของรีสอร์ทด้วย มองเห็นห้อง Pool นี่น่าพักมากกว่า 555

ห้อง Deluxe ที่เราพักค่าขนาด 30 ตรม. พร้อมห้องน้ำในตัว และเฟอร์นิเจอร์ครบ

พอล้มตัวนอน และสำรวจเฟอร์ฯ ภายในห้องพักแล้วรู้สึกได้เลยค่ะว่า ใช้ของดีจริงๆ

อยางหมอนและเครืองนอนต่างๆ นี่ล้มตัวลงนอนเล่น ก็จะหลับทุกทีไปสิน่า

ห้องน้ำพร้อมทั้งอุปกรณ์อำนายความสะดวกครบๆ ค่ะ มาแค่กระเป๋าใบเดียวก็พอ

แต่ไม่เท่านี้นะคะ เปิดตู้เสื้อผ้า เห็นรองเท้าแตะสำหรับขายหาดด้วยแ ละผ้ารองนอน ตลอดจนกระเป๋าสานอีก

ช่วงนี้กำลังอินเทรนด์เครื่องจักสานด้วยสิ

ของที่ตกแต่งในห้องนอน ก็บังเอิญเป็นแนวจักสานไปด้วย เก๋ได้อีก

มีให้เลือกทั้งเตียงเดียว และเตียงคู่ค่ะ วันนี้เราพาสาาวๆ มาเที่ยวด้วย จึงเลือกห้องแบบทั้งเตียงคู่ และเตียงเดียว

ให้นอนสบายๆ กันไปเล้ย

มาถึงตอนบายกว่าๆ แล้ว ณ เวลานี้คือ หิวมากค่ะ 555

ขอเข้าไปหาอะไรทานในห้องอาหาร Chefs De Plago ก่อนล่ะกัน ^^

Chefs De Plago ณ ตอนนี้จะเป็นห้องอาหาร All Day ของรีสอร์ทนะคะ แต่เร็วๆนี้จะมีห้องอาหารเปิดใหม่

คือเน้นอาหารซีฟู้ด ชื่อ "ออเจ้า ซีฟู้ด" วันนี้เราจึงได้มีโอกาสลิ้มลองอาหารแนะนำของออเจ้าก่อนจึงขอมาบอกต่อ

เริ่มจากเมนูที่เราชอบที่สุดคือ ราดหน้าล็อปเตอร์

ยกมาวางไว้ หน้าตานากินมากๆ ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มแต่อย่างใด

ตามด้วยสเต็กเนื้อชิ้นใหญ่กินกัน 3 คนก็ไม่หมดค่ะ ออสเตรเลี่ยนทีโบน ซอสที่เคี่ยวจากกระดูก 24 ชั่วโมง

เพื่อดึงความเหนียวออกมา อีกเมนู ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน รสจัดอร่อยดี ตามด้วย ปลากะพงนึ่งมะนาว

ห้องอาหารที่นี่จะใช้มะนาวแท้ๆ และไม่ใส่ผงชูรสนะคะ

โดยลูกค้าจะมาจากข้างนอก ที่จะมาทานอาหารโดยเฉพาะ หรือเป็นลูกค้าที่มาพักที่นี่ได้หมด

เมื่อของคาวไปแล้ว มาเพิ่มความหวานกันบ้าง กับไอติมยกมาเป็นเซ็ตนี้ อร่อยแค่ไหน เรากินหมดเลย 555

มารีสอร์ทหวานๆ ก็ต้องพลาดไม่ได้กับน้ำสีหวานๆ นี่ด้วยเช่นกันค่า

ไม่ว่าจะเป็น Rasberry Peana หรือ Virgin Mojito คนละ 1 แก้ว ถือไปเดินไปนั่งชิลๆ ริมทะเลก็ย่อมได้ในเวลานี้

ส่วนตัวเรา พามาดูห้องพักในรีสอร์ทกันต่อค่า

ที่เป็นห้องที่เราชอบเลยก็ว่าได้ นั่นคือ ห้อง Pool Access

ห้อง Pool Access เด็ดคือ เปิดม่านมาเดินสองสามก้าว ลงสระว่ายน้ำหน้าห้องได้เลย

ใครเลือกพักห้องนี้ สำหรับคนชอบเล่นน้ำ จะฟินสุดๆ จริงๆคา

ยิ่งหากมาวันธรรมดา คนน้อยๆ บอกได้เลยว่า เสมือนสระว่ายน้ำแห่งนี้เป็นสระว่ายน้ำ่ส่วนตัวเองก็ว่าได้ ^^

ภายในห้องพักจะตกแต่งคล้ายๆ กันเป็นธีมเดียวกันของ สิกขรา พลาโซ่ รีสอร์ท

ห้องนี้มีเรทราคาอยู่ที่ 7000-8000 บาท สำหรับวันธรรมดาและวันหยุดราคาจะต่างกันนะคะ

และอีก Type หนึ่งที่เป็นห้องที่แพงที่สุด หรูหราที่สุดมีเพียงห้องเดียวของ สิกขรา พลาโซ่ รีสอร์ท

สำหรับห้อง Grand beach front

กระซิบว่าห้องนี้สำหรับคู่ฮันนีมูน ที่มาจัดงานแต่งภายในรีสอร์ทและเลือกใช้ห้องนี้ค่ะ

เหมาะมากๆ

Grand beach front ทีมีห้องพักที่กว้างมาก 2 ชั้น โดยชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น

ห้องอาหารที่รองรับแขกได้หลายจุด พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว และสามรถเปิดม่านมาเดินลงทะเลกันได้เลย

ราคาอยู่ที่คืนละ 21000-26000 บาท

สำหรับเรามองว่าค่อนข้างสูงไปหน่อย แต่สำหรับคู่แต่งงานที่จัดงานในครั้งเดียวในชีวิต

ก็จะนิยมมาเลือกห้องนี้กันค่า

เปิดขึ้นมาภายในห้องพักที่หันหน้ารับลมริมระเบียง

ตามด้วยห้องน้ำที่กว้างมากเช่นกัน

นอกจากห้องน้ำที่กว้างมากแล้ว ระเบียงยังมีอ่างจากุชชี่ให้เล่นอีกด้วย

ฟินแค่ไหน ถามใจดู เราว่าคืนหนึ่งคงไม่พอแน่ๆ กับการมาใช้ชีวิตให้คุ้มที่ห้อง Grand beach front แห่งนี้ อิอิ

ณ เวลานี้ ไม่มีอะไรจะฟินเท่าการพาตัวเองออกจากห้องพักมารับลมไอทะเลกันแล้วค่า

เนื่องจาก สิกขรา พลาโซ่ รีสอร์ท ติดทะเล เป็นชายหาดส่วนตัวเลยจึงมีคนน้อยที่จะมานั่งเล่นแถวนี้

นอกจากพวกเราซะเอง ^^

อากาศดีดี เย็นสบายมาก นี่คือจองโต๊ะเตรียมดินเนอร์กันที่ริมหาดนะคะ

แต่ฝนเจ้ากรรม มืดเข้ามา เคลื่อนที่มาเรื่อยๆ ทำไงดี 555

พวกเรามาเที่ยวหน้าฝน ก็อย่าไปกลัวอะไรกับฝนตกค่ะ ย้ายที่สิคะ 555

พอฝนหยุดตกก็ค่อยมาเดินเล่นใหม่ ในเวลาที่พระอาทิตย์ล่วงลับขอบฟ้า ขอบทะเลไปแล้ว โฮะๆๆๆ

แต่บอกได้เลยว่วา วิวดีมากๆๆ หากได้มานั่งดินเนอร์ดูพระอาทิตย์ตกกัน ในมุมนี้

แนะนำเลยค่า

เก็บภาพมาฝากกันเรื่อยๆ ค่ะ กับแสงทไวไลท์ยามเย็นที่อยากบอกว่า สวยและโรแมนติกมากๆ

หากมาเป็นคู่ ทะเลคงสีหวานไปเลยแน่ๆ ^^

ก่อนขึ้นห้องไป เดินผ่านตรงสระว่ายน้ำยามค่ำคืนกันหน่อย

ท่ามกลางฝนตกปรอยๆ และตอกย้ำให้รู้กันไปค่ะว่า ห้อง Pool Access นั้น น่าพักที่ซู้ดดดด

ตัดภาพมาที่ยามเช้า บวกกับยามสาย ที่สิกขรา พลาโซ่ รีสอร์ทกันนะคะ

เมื่อคืนหลังจากฝนตกมา ฟ้าใหม่ ก็สดใสอีกครั้ง แดดมีหน่อย เราก็เดินเล่นกันค่า

ตอนเช้าจะมีกิจกรรม โยคะด้วยนะเออ เห็นมีป้ายเชิญชวนกันที่ลิฟท์ค่ะ อยู่ที่ว่าใครจะตื่นไหว

เพราะกิจกรรมโยคะร้อนนี่เล่นกันตอน 6 โมงเช้า เรานี่นอนหลับอุตุกันอยู่ในห้องไม่ยอมตื่น อิอ

และเลือกที่จะมาเดินเล่นลัลล๊ากันที่ริมทะเลแทนในตอนสายที่เราพร้อมแล้วเท่านั้น

ทะเลในเวลานี้น้ำลดลงไปเยอะมาก ถ้าเทียบกับเมื่อวาน และค่อนข้างมีหินหยาบๆ เยอะมากเช่นกัน

เราว่าทะเลตรงนี้ไม่น่าเล่นนะ เอาไว้ชมวิวพอได้ค่ะ

นี่ก็เลยได้มาเล่นโยคะริมทะเลกันเอง อิอิ

เมื่อโยคะเสร็จ ก็มาทานอาหารเช้ากันต่อเลยค่า

อาหารเช้าที่ สิกขรา พลาโซ่ รีสอร์ท จะเป็นแบบบุฟเฟต์นานาชาติค่ะ

และจากที่เราสำรวจดูแล้วค่อนข้างถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน เรียกว่า เน้นลูกค้าคนไทยมากกว่าเสียอีก

อาหารเช้าหลากหลาย และมีเติมให้ตลอด

นั่งกินจนถึง 10.00 น. ห้องอาหารเช้าปิดกันไปเลย

นี่เป็นมื้อเช้าของเราเอง ^^

เมื่อเสร็จภารกิจของมื้อเช้าไปแล้ว นอนต่อค่ะ เอ้ยไม่ใช่ล่ะ

สาวๆ แยกกันไปอาบแดดบ้าง เล่นน้ำบ้าง ส่วนเราเดินเล่นกันต่อ

ในช่วงเวลาที่ยังเหลือๆ ในรีสอร์ทแห่งนี้ ก่อนเช็คเอาท์เทียงตรงไปเที่ยวกันต่อ

กับ 1 คืนของการพัก่ผ่อนที่ สิกขรา พลาโซ่ รีสอร์ท แห่งนี้ให้คุ้มๆ

เน้นพักผ่อนและกินวนไปค่ะ เราว่า คุุ้มค่ากับการเดินมงมาจริงๆ

แค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นก็ได้เห็นทะเลแล้วค่า

นอกจากได้เห็นทะเลแล้ว ที่นี่ยังมีมุมให้ถ่ายรฦูปเพียบ

สำหรับคนที่ชอบเล่นกล้อง หรือชอบถ่ายภาพอัฟเพสบุ๊ค ที่นี่ก็มีจุดเช็คอินเก๋ๆ ให้อวดโชเชียลกันได้เหมือนกัน

ลองมาพักดู แล้วจะรู้เอง ^^

Sikhara Resort สิกขรา รีสอร์ท

Location : 1/1 ซอยสุขุมวิท 22 ถนนสุขุมวิท ต.เเสนสุข ชลบุรี บางแสน, ชลบุรี, ประเทศไทย 20130

โทร. : 0-3819-6085-89 อีเมล : [email protected]

Website : https://bit.ly/2JtJl6T
Facebook : https://m.facebook.com/sikhararesort/
Reserve : https://bit.ly/2JtJl6T

ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ

RinSa YoyoLive

 วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 17.07 น.

ความคิดเห็น