อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า เกาะช้าง อยู่ในเขตจังหวัด ตราด จากการเรียงตัวของหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 52 เกาะ เป็นลักษณะคล้ายโขลงช้างเดินเรียกตัวกัน จึงเป็นที่มาของชื่อ หมู่เกาะช้าง อีกทั้งยังมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ในทะเลอ่าวไทย และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยรองลงมาจากเกาะภูเก็ต

พูดถึง #เกาะช้าง กิจกรรมสำหรับสายลุยคงหนีไม่พ้นการดำน้ำดูประการังทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก แต่สำหรับสายชิลที่ต้องการพักผ่อน นั่งนิ่งๆชาร์จพลังให้ร่างกายแบบเรา ที่เกาะช้างก็มีชายหาดที่มีความเงียบสงบผู้คนไม่พลุกพล่านอยู่มากมายหลายหาด ซึ่งเกาะช้างสามารถเที่ยวได้ทั้งปีช่วงที่ท้องทะเลสวยที่สุดคือในฤดูร้อน เพราะเป็นช่วงที่ไม่มีมรสุม แต่ครั้งนี้คนงบน้อยอย่างเราอยากลองเที่ยว #เกาะช้าง ในฤดูฝนดูบ้าง ฤดูที่เงียบสงบ ฤดูที่ค่าที่พักถูกลงครึ่งราคา ฤดูที่หาดส่วนรวมกลายเป็นหาดส่วนตัว

เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เที่ยวไปขึ้นเรือที่ท่าเรือเฟอรี่ เกาะช้าง หรือ ท่าเรืออ่าวธรรมชาติ : ค่าโดยสารราคา 80 บาท/เที่ยว ถ้านำรถยนต์ไปด้วย ราคา 120บาท/คัน (ไม่รวมคน) ไม่สามารถซื้อเที่ยวกลับเอาไว้ก่อนได้ ให้บริการตั้งแต่เวลา 6:00 น. – 17:00 น. ช่วงเทศกาลให้บริการจนกว่ารถจะหมด ออกทุกๆ 30 นาที

ระหว่างที่รอเรือออกจากท่าก็มีร้านค้าร้านอาหารให้เราได้เติมพลังกันก่อนขึ้นเรือ

ใช้เวลาในการเดินทางจากท่าเรืออ่าวธรรมชาติถึงเกาะประมาณ 20-30 นาที ลงท่าเรืออ่าวสับปะรด บนเกาะช้าง

ด้วยภูมิประเทศที่เป็นภูเขา เส้นทางบนเกาะจึงค่อนข้างชันและมีโค้งห้กศอกอยู่หลายโค้ง จึงต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ

ทริปนี้เราพักที่ #โคโคนัทบีชรีสอร์ท ที่พักริมหาดคลองพร้าว ซึ่งตัวรีสอร์โดดเด่นด้วยการประยุกต์สถาปัตยกรรมแบบไทย–บาหลีได้อย่างลงตัว สะดวกสบายด้วยการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บรรยากาศร่มรื่นท่ามกลางสวนแมกไม้เขตร้อน ยังมีห้องประชุมสัมมนาขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ความจุ 40 – 250 ท่าน

มาดูห้องพักที่เราพักกันบ้าง เป็นห้องซูพีเรีย บังกะโล ติดชายหาด ห้องกว้างขวาง สะอาด เราจองผ่าน agoda ราคา 2,000 บาท พร้อมอาหารเช้า ซึ่งถูกกว่าช่วงไฮซีซั่นถึง 50% นี่เป็นข้อดีลำดับต้นๆของการเที่ยวช่วงโลซีซั่นเลย

ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งทีวี ตู้เย็น ไดร์เป่าผม ตู้เซฟ กระติกน้ำร้อน ชา กาแฟ

ภายในห้องน้ำมีอ่างให้นอนแช่กันด้วย พร้อมทั้งเครื่องใช้ครบ

ด้านหน้าห้องยังมีระเบียงให้นั่งมองทะเล รับลมชิลๆด้วย

แต่หากว่าใครมาทะเลแต่ไม่ชอบนั่งริมชายหาด หรือไม่ชอบอากาศร้อน ก็สามารถนั่งตากแอร์เย็นๆ มองดูทะเลได้จากในห้องเลย

ภายในรีสอร์ทยังมีสระว่ายน้ำถึง 2 สระ ว่าแล้วก็ไม่รอช้าเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปเล่นน้ำกันเถอะ

ร้านอาหารของรีสอร์ทอยู่ติดชายทะเล ถ้ามาเป็นคู่รักนี่รับรองว่าได้บรรยากาศสุดๆ

เช้าวันใหม่ก็ออกมาเดินเล่นรับลมทะเลริมชายหาดที่แสนจะเงียบสงบ นี่เป็นข้อดีอีกข้อของการมาเที่ยวช่วงโลซีซั่นแบบนี้ ชายหาดที่แสนวุ่นวาย มากมายด้วยนักท่องเที่ยว ก็กลายมาเป็นหาดส่วนตัวในทันที

เที่ยวกลับ เราขึ้นเรือที่ท่าเซนเตอร์พอยท์ เฟอร์รี่ : ที่นี่เป็นท่าเรือที่เปิดให้บริการมานานกว่าท่าเรืออ่าวธรรมชาติ ใช้เวลาเดินทางถึงเกาะประมาณ 30-45 นาที ขึ้นที่ท่าเรือบ้านด่านเก่าบนเกาะช้าง ราคา 80 บาท สามารถซื้อตั๋วไป-กลับได้ในราคา 160 บาท รถยนต์ลงเรือคันละ 120 บาท ไป-กลับ 200 บาท ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 19.00 น. ออกทุกๆ ครึ่ง ชั่วโมง

อย่าให้เรื่องของเวลาเป็นข้อจำกัดในการออกเดินทาง มาเปลี่ยนวันหยุดที่แสนธรรมดาเป็นวันที่ไม่ธรรมดากับเรานะคะ

ฝากติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่ : https://www.facebook.com/wanttotravel29/