ชลบุรี 1 คืน 2 วัน So Fun Happy and Delicious

วันหยุดสุดสัปดาห์วนมา เป็นเวลาแห่งการท่องเที่ยวอีกครั้ง ใครใคร่ออกไปเที่ยวก็ตามมาค่ะ อยากใช้เวลา 2 วันให้คุ้มค่าไปกับการท่องเที่ยว จังหวัดชลบุรี จึงเป็นอีกที่หมายสำคัญ เพราะนอกจากจะไม่ไกลจากกรุงเทพฯแล้วยังมีที่น่าเที่ยวอีกเยอะแยะมากมาย ขับรถไปง่ายๆ ชิลๆ

แนะนำแผนการท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน

แบบ “สนุก สุข อร่อย” (So Fun So Happy and Delicious)

วันที่ 1

- ออกเดินทางจาก กทม.

- แวะเที่ยวเล่น สวนสัตว์เปิดเขาเขียว

- เช็คอิน จอมเทียน ธานี

- มื้อเย็น ร้านเชฟตุ๋ย เรนเจอร์

วันที่ 2

- เล่นน้ำทะเล หาดจอมเทียน

- กิน เที่ยว เล่น ที่ A La Campagne

- ไปหนาวใน Frost Magical Ice

- เดินทางกลับ

บันทึกการเดินทาง

วันที่ 1 : ออกเดินทางจาก กทม. - แวะเที่ยวเล่น สวนสัตว์เปิดเขาเขียว - เช็คอิน จอมเทียน ธานี - มื้อเย็น ร้านเชฟตุ๋ย เรนเจอร์

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว

วันหยุดทีไรอยากไปเที่ยวทุกที ทริปนี้ไปใกล้ๆแค่ชลบุรีแต่จะใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด จุดแรกคือ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ด้วยความที่ไม่เคยเที่ยวสวนสัตว์เลย เพราะเคยคิดว่ามันน่าหดหู่ น่าสงสาร สัตว์ต้องอยู่ในกรงเล็กๆไปไหนไม่ได้ แต่อีกใจก็อยากเห็นยีราฟ อยากไปเจอใกล้ๆ จึงตัดสินใจไปที่นี่เพราะได้ยินมาว่าเป็นสวนสัตว์ที่ดีมากๆแห่งหนึ่ง แม้สวนสัตว์ในต่างประเทศหลายๆที่ก็เทียบไม่ได้

บัตรเข้าสวนสัตว์ ราคาปกติ ผู้ใหญ่ คนละ 150 บาท ค่ารถยนต์อีก 80 บาท แต่เรามาช่วงนี้ AIS ให้ส่วนลด 50% สำหรับ 2 คน ก็เหลือคนละ 75 บาท

และได้แผนที่ของสวนสัตว์มาด้วย

รถราง พาเที่ยวฟรี แต่ต้องรอคนมาพร้อมกันเยอะๆนะคะ สำหรับใครที่ไม่อยากขับรถเที่ยวชมเอง หรือกลัวจะไปได้ไม่ทั่วก็สามารถรอใช้บริการได้เลย หรือจะเลือกเช่ารถกอล์ฟเที่ยวแบบส่วนตัว รวดเร็ว ก็สามารถติดต่อกันได้

การเที่ยวชมในนี้ จะแบ่งเป็นโซน และจุดอาศัยของน้องสัตว์ต่างๆหลายจุดค่ะ น้องๆส่วนใหญ่จะอยู่กันอย่างค่อนข้างอิสระ มีไม่กี่ชนิดที่อยู่ในกรง แต่ก็เป็นกรงขนาดใหญ่ น้องๆจะดูแจ่มใสร่างเริง มีสุขภาพดี

สามารถมาเที่ยวอยู่ในนี้ได้ทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น. แวะแต่ละจุดก็เพลิดเพลินใช้เวลานานพอสมควร ทีแรกคิดว่าจะใช้เวลาอยูในนี้สัก 2 ชั่วโมง แต่ก็อยู่ยาวไป 4 ชั่วโมงกว่า จนฝนตกแล้วก็ยังเที่ยวไม่ครบทุกจุด ฮ่าๆๆๆ สงสัยว่าจะได้มีกลับไปซ้ำ

จอมเทียนธานี

ออกมาจากสวนสัตว์ก็เริ่มเย็นแล้ว จึงมุ่งหน้าเข้าที่พักแถวหาดจอมเทียน พัทยา “จอมเทียนธานี” อยู่ที่ ซอยจอมเทียน 5 เป็นโรงแรมขนาดใหญ่และให้บริการมาเป็นสิบๆปีแล้ว แต่ไม่มีเก่าเลย ไม่ว่าจะเป็นสภาพภายนอกและภายใน ยังคงดูแลรักษาให้มีสภาพที่ดูดีมาโดยตลอด

ลานจอดรถก็กว้างขวางมาก สามารถรองรับรถยนต์ได้หลายสิบคันเลยล่ะค่ะ

ภายในห้องพักค่อนข้างกว้าง เครื่องอำนวยความสะดวกครบ สามารถเลือกห้องที่มองเห็นวิวทะเลหาดจอมเทียนได้ด้วย แต่ติดนิดเดียวตรงที่มีกลิ่นอับจากเฟอร์นิเจอร์ ต้องเปิดประตูกระจกบานเลื่อนออกเพื่อให้อากาศถ่ายเทสักพักแล้วจะดีขึ้น

ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำให้ด้วย สามารถนอนแช่น้ำอุ่นๆสบายๆได้เลย

ตอนเย็น คิดว่าจะลงไปชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ชายหาด แต่จากห้องพักของเราก็สามารถมองเห็นทะเลและชมวิวอาทิตย์ตกได้จากระเบียงห้องแล้ว จึงนั่งชมวิวอยู่ที่นี่เลย ไม่ต้องเดินไปไหน หรือถ้าหากต้องการเดินออกไปที่ชายหาดจอมเทียนก็สามารถเดินเท้าออกไปได้ เพียงแค่ 170 เมตรเท่านั้นเอง

ร้านเชฟตุ๋ย เรนเจอร์

หลังจากตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว ได้เวลาลงมาทานอาหารเย็น วันนี้เราทานที่ร้านเชฟตุ๋ย เรนเจอร์ เป็น 1 ใน 50 ร้านที่ต้องกินก่อนตาย อยู่ใกล้ๆที่พัก เดินไปด้านหน้าจอมเทียนธานี ทางลานอดรถ ร้านจะอยู่ติดกับลานจอดรถของโรงแรมเลยค่ะ

สำหรับร้านเชฟตุ๋ย เรนเจอร์ มีชื่อเสียงเรื่อง บาร์บีคิวเมตร ซึ่งเป็นบาร์บีคิวซี่โครงมีความยาวหลายขนาดให้เลือกทาน รสชาติกลมกล่อมอร่อยเข้าเนื้อ เนื้อติดซี่โครงนุ่มล่อน ซอสหอมอร่อย ได้รสชาติที่ลงตัวมาก ทราบมาว่าร้านนี้มีชื่อเสียงจากการบอกกันปากต่อปาก จึงทำให้มีนักชิมมากมายต่างมายังร้านเล็กๆแห่งนี้ ไม่ใช่เพียงชาวไทยเท่านั้น ชาวต่างชาติก็ยังแวะเวียนเข้ามานั่งทานกันไม่เว้นวัน

เชฟตุ๋ย เรนเจอร์ มีหลายสาขา คือ พัทยา นครปฐม นนทบุรี ตลาดนัดหัวมุม และตลาดนัดรถไฟรัชดา วันนี้เรามาที่สาขาพัทยา มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาตินั่งกันอยู่เต็มร้าน บรรยากาศในร้านดูสบายๆ อากาศปลอดโปร่งถ่ายเทสะดวก มีพัดลม และความสว่างจากดวงไฟหลายดวง

อาหาร นอกจากบาร์บีคิวซี่โครงอันเป็นซิกเนเจอร์ของที่ร้านแล้ว ยังมีอาหารจำพวก บาร์บีคิว เฟรนช์ฟรายด์ สลัด และอื่นๆให้เลือกทานอีกหลายเมนู

ที่เราทานไปจะมี เมนูซิกเนเจอร์ต้องทานให้ได้ คือ Small Ribs (0.25 m.) หรือบาร์บีคิวซี่โครง, บาร์บีคิวหมูและไก่, Fantastic 4 เป็นชุดเฟรนช์ฟรายด์รวม และโค้ก

นอกจากที่ร้านแล้ว เชฟตุ๋ย เรนเจอร์ยังมีบริการรับสั่งทำบาร์บีคิว,บาร์บีคิวจัดเลี้ยง

เชฟตุ๋ย เรนเจอร์

โทรศัพท์ : 089-776-6356

ไลน์ : cheftui

เฟซบุ๊ก : ChefTui

หลังจากอิ่มมื้อเย็นกันแล้ว ออกมาเดินเล่นกันต่อ บรรยากาศยามค่ำยืนแถวนี้ดูค่อนข้างคึกคัก มีบาร์หลายร้าน แสงไฟให้ความสว่างตลอดทาง

แวะไปซื้อของในเซเว่นแล้วเลียบๆเคียงๆตู้ไอศกรีม เพื่อนบอกว่านี่รสนี้อร่อย ไอศกรีมมะม่วงน้ำปลาหวาน ด้วยความที่อยากลองจึงจัดมา 1 แท่ง สำหรับเรานะ คิดว่าตัวเนื้อไอศกรีมด้านนอกใช้ได้ แต่ข้างในเป็นซอสเยิ้มๆมันออกเค็มไปหน่อย เราให้ 6 เต็ม 10 ไม่เข้าทาง ฮ่าๆๆๆ

วันที่ 2 : เล่นน้ำทะเล หาดจอมเทียน - กิน เที่ยว เล่น ที่ A La Campagne - ไปหนาวใน Frost Magical Ice - เดินทางกลับ

ช่วงเช้าลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม อยู่ชั้น 1 ชั้นเดียวกันกับหน้าฟร้อนท์ ถือว่าเป็นห้องอาหารที่ขนาดใหญ่กว้างขวางมาก บรรยากาศค่อนข้างดี มีที่นั่งรองรับอยู่ทั้งด้านในและด้านนอกเยอะจริงๆ

ส่วนไลน์อาหารก็มีให้เลือกทานหลากหลายเมนู ที่สำคัญเลยคือ เราว่านะ อาหารเช้าของโรงแรมนี้อร่อยทุกเมนูเลยจริงๆ ชิมอันนั้นก็ใช่ ชิมอันนี้ก็ถูกปาก

หลังจากทานอาหารเช้าอิ่มแล้ว มาเดินดูรอบๆโรงแรมกันต่อ ที่นี่มีพื้นที่ภายในอาคารค่อนข้างกว้างมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายรองรับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนให้สุขสบายตลอดการเข้าพัก สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ห้องฟิตเนส โต๊ะพูล โต๊ะปิงปอง ทำกิจกรรมได้หลากหลายในโรงแรมแห่งนี้

เดินออกมาลงทะเลที่หาดจอมเทียนใกล้ๆ หาดนี้ดีตรงที่ชายหาดไม่สกปรก มีต้นไม้อยู่ริมถนนฝั่งหาดค่อนข้างมาก และเก้าอี้ชายหาดอยู่หายจุด

A La Campagne

มื้อกลางวัน มาแวะกันที่ A La Campagne (อะ ลา คอมปาณย์) “ร้านอาหารที่เป็นมากกว่าร้านอาหาร” เป็นการจำลองหมู่บ้านสไตล์ชนบทยุโรปเอาไว้ริมถนนสุขุมวิท ตรงข้ามอัยการพัทยา ก่อนถึงสี่แยกห้วยใหญ่ ซึ่งภายในจะมีเนื้อที่กว้างขวางมาก โดยมีร้านต่างๆอยู่ภายใน เช่น

- Tea Factory เป็นร้านอาหารและเบเกอรี่ ในโรงงานชา

- Somtum Villa ร้านส้มตำ ในอาคารสไตล์ยุโรป

- Le Rouge ร้านไวน์และค็อกเทล

และมีลานกิจกรรมต่างๆอีกมากมาย ที่สามารถมาใช้เวลาอยู่ในนี้ได้ทั้งวัน เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ที่นี่จะทำให้มีแรงบันดาลใจอะไรอีกมากมายเลยล่ะค่ะ ร้านอาหารที่เป็นมากกว่าร้านอาหาร เป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจ การเรียนรู้ และให้ความสุขได้ทั้งครอบครัว ใกล้ๆแค่พัทยานี่เอง

ชมรีวิว A La Campagne เพิ่มเติม ที่นี่

A La Campagne

ที่อยู่ : 21/2 หมู่ 1ต.นาจอมเทียน ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ตรงข้ามอัยการพัทยา ก่อนถึงสี่แยกห้วยใหญ่ บางละมุง ชลบุรี 20250

โทรศัพท์ : 091-783-8772

ช่วงเวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 10.00 – 21.00 น. (ศ. – อา. เปิดถึง 22.00 น.)

เว็บไซต์ : https://www.alacampagnepattaya.com

เฟซบุ๊ก : A La Campagne

Frost Magical Ice

ก่อนกลับเข้า กทม. มาแวะอีกที่หนึ่ง คือ Frost Magical Ice อยากเจออากาศหนาวๆ อุณหภูมิ -15 องศาเซลเซียสไปเลย บึ๋ยๆ

ที่นี่จะมีเสื้อโค้ทกันหนาว และรองเท้าที่ต้องใช้ในห้องอุณหภูมิติดลบให้เช่าค่ะ ถุงมือถุงเท้าจะมีขาย หรือเตรียมมาเองก็ได้เช่นกัน ส่วนกางเกงขายาวต้องเตรียมใส่มาเองนะคะ หนาวมากบอกเลย ถ้าใส่ขาสั้นเข้าไปอาจจะใช้เวลาอยู่ด้านในได้ไม่นาน

เมื่อซื้อบัตรเข้าชมเรียบร้อยแล้ว เดินเข้ามาจะต้องผ่าน ประติมากรรมทรายขาว The Himmapan เป็นผลงานประติมากรรมทรายขาว ณ ฟรอสต์ เมจิคัล ไอซ์ ออฟ สยาม ได้นำเรื่องราวของ “ป่าหิมพานต์” ดินแดนมหัศจรรย์ที่เป็นตำนานของศิลปะวรรณกรรมอันเลื่องชื่อของประเทศไทยและอินเดีย ซึ่งรวบรวมสรรพสัตว์และพืชพันธุ์แปลกๆไว้ด้วยกัน

ยิ่งช่วงเย็นๆตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น. จะมีการเปิดไฟสีทำให้ป่าหิมพานต์สีขาวแห่งนี้ดูมีสีสัน และมีชีวิตชีวาขึ้นมา

อีกด้านหนึ่งนั้นเป็นร้านอาหารไทยและซีฟู้ด ชื่อว่า “ครัวเคียงสวรรค์” ให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น.

หลังจากชื่นชมความงดงามป่าหิมพานต์สีขาวด้านหน้าแล้ว เดินเข้าไปด้านในกันต่อค่ะ เมื่อเข้ามาถึงแล้วก็มารับเสื้อโค้ทตัวยาว คนละ 1 ตัว ใส่ให้เรียบร้อย ถ้าเช่ารองเท้าบู้ทเพิ่มก็มาตรงเค้าน์เตอร์ใกล้ๆ แล้วเดินเข้าไปยังห้องปรับอุณหภูมิร่างกายก่อน

จากนั้นก็ได้เวลาเข้าไปยังเมืองน้ำแข็งกันแล้ว ภายในห้องอุณหภูมิติดลบนี้มีชื่อว่า WORLD-CLASS ICE SCULPTURE เป็นเมืองน้ำแข็ง รวบรวมเรื่องราวความเป็นไทยที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกประทับใจมารังสรรเป็นน้ำแข็งแกะสลัก เช่น ยักษ์วัดโพธิ์ รถตุ๊กตุ๊ก ฯลฯ

มีสไลเดอร์น้ำแข็งถึง 2 จุดด้วยกัน ตรงนี้สนุกมากเดินขึ้นเล่นอยู่หลายรอบเลย

ใกล้ๆกับสไลเดอร์มีบ้านน้ำแข็ง และตุ๊กตาหิมะอยู่ด้วย

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายจุดที่น่าสนใจ โพสต์ท่าถ่ายรูปลั่นชัตเตอร์กันได้รัวๆ

และมุม ICE BAR สามารถนำบัตรเข้ามาแลกรับเครื่องดื่มในแก้วน้ำแข็งได้ เป็นน้ำอัดลมหลายรสชาติให้เลือกคนละ 1 แก้ว แล้วนำมานั่งดื่มที่บาร์น้ำแข็งได้เลย

หลังจากดื่มหมดแล้ว ให้นำแก้วมาทำลายอย่างสนุกสนานด้วยการปาเข้ากำแพงตรงนี้เลยค่ะ

คำเตือน : กล้องถ่ายรูปทุกชนิด รวมถึงโทรศัพท์มือถือ สามารถนำเข้าไปด้านในห้องอุณหภูมิติดลบได้ แต่อาจจะทำให้แบตเตอรี่หมดไวกว่าปกติเนื่องจากความเย็น และหลังจากที่ออกมาเจออุณหภูมิห้องด้านนอกแล้ว กล้องจะเริ่มคลายความชื้น โดยมีไอเกาะหน้าเลนส์ ควรค่อยๆเช็ดฝ้าและไอน้ำออกโดยระวังมิให้หน้าเลนส์เป็นรอย จนกว่าอุณหภูมิของกล้องจะเป็นปกติแล้วจึงจะสามารถใช้ถ่ายรูปต่อได้

เมื่อออกมาแล้ว ต้องการเครื่องดื่มอุ่นๆ หรือขนมขบเคี้ยว สามารถซื้อที่เค้าน์เตอร์ตรงนี้แล้วนั่งทานชิลๆปรับอุณหภูมิร่างกายกันสักหน่อยก่อนออกไปเจออุณหภูมิปกติด้านนอก