สวัสดี วันนี้ลาเต้ปั่นเย็นๆมารีวิวทริปใกล้บ้านที่เขาค้อมาให้ชมเล่นๆกัน

ที่นี่เป็นรีสอร์ทที่เปิดได้ไม่นาน รีวิวก็เยอะพอสมควร ทริปนี้เป็นทริปที่ถ่ายรูปเยอะมากๆ

เพราะเป็นสไตล์ที่ จขกท ชื่นชอบด้วย ตกแต่งแบบ English Country เพื่อนๆน่าจะรู้แล้วล่ะว่าคือที่ไหน.

...........The Bluesky Resort @Khaokho........... ลองมาชมรีวิวตามแบบฉบับของลาเต้ปั่นเย็นๆกันนะคะ

ภาพเปิดสบายตากับดอกไม้สวยๆสีแดงแปร๊ด ตัดกับฟ้าใสๆวันนี้ค่ะ



วันนี้ ลาเต้ปั่นออกจากบ้านมาแบบชิวๆตื่นสายๆ ก็จากบ้านมารีสอร์ทใกล้นิดเดียวเอง 20 กว่ากิโลเอ๊ง


ฟินม๊ากกค่ะ เดินทางถนนเส้นหล่มสัก-พิษณุโลก เลยสี่แยกไฟแดงแคมป์สนมาไม่ไกลมากค่ะ

ก่อนถึงปั๊มบางจาก จะมีทางเลี้ยวขวาเข้าไปมีป้ายบอกตลอดค่ะ



เข้าไปในซอยแอบคิดว่า เอ๊ะเหมือนเป็นชุมชนเลย ทางแคบนิดเดียว บรรยากาศจะเป็นยังไงเนี่ย


แต่พอไปถึง โอ้โห สวยมากกกก ฟ้าแจ่มว้าวววว

ถึงตึกนี้ก่อนเลยค่ะ Lobby สีขาวสะอาดตา บนเนินเขาเล็กๆ



พนักงานผู้ชาย 1 คน หน้าตาเป็นมิตร รีบวิ่งมาที่รถช่วยยกกระเป๋าเชิญไปที่ Lobby


ทำให้เห็นว่าถึงแม้มีพนักงานไม่มากแต่ก็ใส่ใจค่ะ ได้ใจไปละ 1



ปฏิทินบอกวันเวลา เก็บไว้เป็นที่ระลึก วันที่มาเยือน



ที่นี่ตกแต่งสไตล์วินเทจค่ะ ส่วนตัวแล้วชอบมากกกกก เพิ่งไป Swiss Valley ที่สวนผึ้งมาอาทิตย์ที่แล้ว


อารมณ์วินเทจยังค้างอยู่เลย มาเจอที่นี่อีกถ่ายรูปจุใจกันละทีนี้



นั่งรอเชคอินกันสักครู่ วันนี้เราไปกับคุณพ่อและน้องสาวค่ะ ทางรีสอร์ทก็ใจดีนะ


ไม่คิด Extra bed หรือ Extra person เพิ่มเลยค่ะทั้งที่จริงก็ 10 ขวบแล้ว ได้ใจไปแล้ว2



ในระหว่างที่นั่งรอเชคอินก็เดินเล่นเก็บภาพเรื่อยๆ มุมนั่งเล่น ป้ายน่ารักๆสำหรับถ่ายภาพเยอะแยะเลยค่ะ



Shop ขายของที่ระลึก สไตล์วินเทจ อีกละ มีแต่ของน่ารักๆทั้งนั้นเลย



ปฏิทินเล็กๆน่ารัก กับน้องแกะ กับน้องหมี



Welcome drink มาแล้วค่ะเป็นน้ำปั่นแก้วเล็กมากกก น่ารักเหมือนแก้วยาดอง อิอิ


(พูดเหมือนเคย ฮ่าๆ) ชื่นใจหายร้อนกันไปเลย



Check in เรียบร้อย พนักงานพาเดินไปห้องพักค่ะ เดินทะลุ Lobby ลงมาตรงสวน



ตกแต่งสวนสไตล์อังกฤษ มีน้ำพุเป็นจุดเด่น



หญ้าเขียวๆ กับฝูงเป็ดน้อยใหญ่ ถ้าเป็นของจริง จขกท กระเจิง (กลัวววว ฮ่าๆ)



ห้องมีทั้งหมด 28 ห้อง แบ่งออกเป็น 3 ตึก ค่ะ


ตลอดทางมีดอกไม้สวยๆเป็นทุ่งหญ้า ถึงร้อนแดดแต่ก็สุขใจมากมาย



เดินผ่านทุ่งดอกไม้สวยๆ ตึกที่เราพักอยู่ตึกสุดท้ายเลยค่ะ ตึก 3



เลขที่ออก 308 อยู่ชั้น 2 ค่ะ แต่ละตึกจะมี 2 ชั้น ชั้นบนจะตกแต่งภายในสีเหลืองหวานๆ (Diva Blossom)


ส่วนชั้นล่างตกแต่งภายในสีฟ้าแนวบ้านชนบท (Country Lover)



ห้องพักมี 2 แบบ คือ ห้องสวีท (Suite ) เป็นห้องหัวมุมมีห้องใต้หลังคาเหมาะสำหรับมาเป็นครอบครัว


และห้องดีลักช์ (Deluxe) วันนี้เราพักห้องแบบ Deluxe ค่ะ



เตียงสีขาวนุ่มๆดูดวิญญาณ หมอนหลายใบเหมาะแก่การพักผ่อน



โทรศัพท์วินเทจ โบราณแบบหมุน แต่สามารถโทรออกได้จริง



Sofa bed ที่มีหมอนเพียบเช่นเดิม



มองออกไปฝั่งประตูทางเข้าค่ะ



ที่เห็นประตูสีขาวนั้นคือตู้เสื้อผ้านะคะ



ผ้าขนหนู รองเท้า ตู้เซฟมีพร้อม แต่ที่สำคัญมีผ่านเปิดปิดทะลุกับห้องน้ำได้นิสิ



ขอภาพเตียงอีกซักภาพ ชอบมากกกกก หวานแหวว สวยจริงไรจริงค่ะ



ปลายเตียงจะมีทีวี ตู้เย็น ชากาแฟฟรีค่ะ



ระเบียงหลังห้อง มีมุมน่ารักๆนั่งเล่นชมวิวภูเขาสวยๆกันค่ะ'



เดี๋ยวไปสำรวจห้องน้ำกันบ้างค่ะ



ห้องน้ำแยกส่วนแห้ง เปียกชัดเจน มีผ้าม่านกั้น



ห้องน้ำตกแต่งสีสบายตาดีค่ะ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ก็วินเทจได้ใจมากๆ



มีทั้งแบบ shower และ rain shower



เครื่องเคียงทั้งหลาย แบรนด์ The Blue Sky



เดี๋ยวออกไปเดินเล่นข้างนอกกันดีกว่า วันนี้ฟ้าเป็นใจมาก


อาทิตย์ที่แล้วฝนยังตกทุกวันอยู่เลย อากาศตอนบ่ายๆยังร้อนอยู่เลยค่ะ



จุดเด่นของที่นี่ มีทุ่งบลู ซัลเวีย ดอกไม้สีม่วงคล้ายดอกลาเวนเดอร์ ออกดอกได้ตลอดทั้งปี


เพราะฉะนั้นที่นี่คงสวยด้วยทุ่งดอกไม้สีม่วงตลอดเวลาสินะ



เดินลงเนินเขาไปห้องอาหาร หาอะไรทานเล่นๆยามบ่ายกันดีกว่าค่ะ



เป็นรีสอร์ทที่วิวทานข้าวสวยที่สุดที่นึงที่เคยไปมาเลยค่ะ โชนนี้น่าจะเป็นโซนระเบียงสีเทา แบบ open air



ดอกไม้สีสดๆ กับแจกันสังกะสีวินเทจ สวยค่ะ



ดอกไม้สีสดๆ กับแจกันสังกะสีวินเทจ สวยค่ะ



ชอบทุกอย่างเลยที่นี่ ไร้คำบรรยาย อะไรที่เราชอบถึงเยอะแค่ไหนก็ไม่มีเบื่อเลยค่ะ



โชนภายในค่ะ เก้าอี้หวายตัวสูง กับเพดานที่สูงโปร่ง ทำให้รู้สึกสบายๆไม่อึดอัด



เราเลือกนั่งมุมนี้ค่ะ หมอนเยอะมากเหมือนเป็นเอกลักษณ์ของ The Blue sky ไปแล้ว



คุณ yuechan เราก็ชอบเหมือนกันค่ะ ดูสบายตาดี



คุณ papae ใช่ค่ะ เป็นเครือเดียวกันกับที่เกาะพยาม ระนอง ค่ะ



____________________________________



เก้าอี้เหล็กๆ ไม่ว่าจะเก่าจริง หรือโดยตั้งใจ ก็สวยเข้ากับที่นี่ไปหมดเลย



คาปูชิโน่เย็นของคุณพ่อ รสชาติดี เข้มข้นค่ะ



บ่ายนี้เรามาจิบ Afternoon tea กัน จำไม่ได้แล้วว่าชาอะไร กลิ่นหอมดีค่ะ



ตามด้วยขนมต่างๆนาๆ รสชาติใช้ได้ค่ะ



โซนด้านใน ส่วนมากจะเป็นโต๊ะใหญ่ทั้งนั้นเลยค่ะ นั่งได้หลายท่าน


เหมาะที่จะมานั่งเมาท์มอยเป็นกลุ่ม จิบชาเพลินๆกับเพื่อนๆ



ห้องน้ำที่ห้องอาหารค่ะ ตกแต่งได้ลงตัวทีเดียว


กระจกกลมๆกับนกตัวน้อย ดีเทลเล็กๆ เก็บทุกรายละเอียด



เพดานใส กับไม้เลื้อยสีเขียว ที่เราชอบเลยคือโคมไฟเหมือนกรงนก



รูปปั้นน้องแมว นั่งเฝ้าห้องน้ำ



ทานอิ่มแล้วเดี๋ยวเดินไปจุดชมวิวค่ะ เดินผ่านเนินเขาเล็กๆไปเรื่อยๆ ผ่านทุ่งหญ้าพริ้วไหว


กับลมพัดเบาๆ สัญญาณเตือนว่าความหนาวกำลังมาเยือนเขาค้อแล้วสินะ



มีปลูกข้าวด้วยนะคะ คงจะได้เก็บเกี่ยวกันแล้วละ ออกรวงสีเขียวแล้วจ้า



ถึงแล้วค่ะ มีที่พักให้หายเหนื่อย แถมได้ชมวิวภูเขาสุดลูกหูลูกตา


เป็นรีสอร์ทในเขาค้อที่มีจุดชมวิวสวยที่สุดที่นึงเลยเราว่า มองเห็นวัดพระธาตุผาแก้วด้วยนะคะ



แสงแดดสาดส่อง พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้วสินะ



ขากลับ นั่งพักเหนื่อยหน่อย โย่วๆ ฮ่าๆ



แว่บมาที่ Lobby แป๊บนึงก่อนไปหาอะไรทาน



พระอาทิตย์ดวงโตๆ กำลังลอยลาลับขอบฟ้า



มาการองสีหวานๆที่ห้องอาหารค่ะ



มุมโปรดของคนรัก Bakery



เมื่อตอนกลางวันเรานั่งมุมนี้ ม่านยังปิดอยู่ค่ะ พอตกเย็นเปิดม่านแล้ว


ได้วิวสวยๆไว้ชมตอนทานข้าว มันช่างมีความสุขซะจริงๆเลย



โซนนี้น่าจะเป็น โซนระเบียงส้มค่ะ อยู่ด้านนอกแต่ก็มีหลังคาด้วยนะคะ


ใครที่กลัวน้ำค้างเย็นๆนั่งตรงนี้ได้ค่ะ แถมยังได้ชมวิวด้วย



ส่วนเราขอนั่งด้านนอกท้าลมหนาวค่ะ เย็นนี้มาทานกะน้องสาว 2 คน


คุณพ่อขี้เกียจออก สั่งไปทานที่ห้องค่ะ พนักงานเสิร์ฟน้ำสตรอเบอรี่ปั่นเย็นๆก่อน

ส่วนของน้องเป็นน้ำมะนาวจี๊ดๆ แต่แอบหวานไปนี้สสนึง เลยโดนแย่งสตรอเบอรี่ปั่นเลยเรา



สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ของน้องค่ะ



ส่วนของเรา พาสต้าเส้นหมึกดำผัดปลาเค็ม โรยด้วยแฮมและเบคอนกรอบๆ


จริงๆแล้วเราสั่งพิซซ่าค่ะ มีพี่ที่เคยมาแนะนำว่าพิซซ่าอร่อย แต่พอเราสั่งพนักแจ้งว่าหมดแล้ว

และต้องรอวัถุดิบต่างๆจากกรุงเทพ ซึ่งทางรีสอร์ทจะกระจายไปตาม The Blue Sky หลายๆที่

ทั้งที่เกาะพยาม ระนอง และเขาค้อ ....อดเลยเรา พนักงานยังบอกอีกว่าเร็วๆนี้จะเปิดที่หัวหินค่ะ

มีโอกาสหวังว่าคงจะได้ไปพักผ่อนสักครั้ง



Blue Sky ตัวใหญ่ๆท่ามกลางหุบเขา นั่งทานข้าวไปมองวิวภูเขาไป โอ้โห สุขสุดๆไปเลยค่ะ


ภาพนี้ซูมเต็มพิกัดกล้องเลย อยู่ไกลพอสมควรค่ะ แต่เด่นมากๆ



ทานอิ่มแล้วเตรียมกลับไปพักผ่อน ภาพหน้าห้องอาหารค่ะ



เดินผ่านน้ำพุกลางสวนสวย กลางคืนเปิดไฟก็สวยไปอีกแบบ


ส่งท้ายค่ำคืนนี้ที่เขาค้อด้วยภาพนี้เลยละกันค่ะ



อรุณสวัสดิ์เขาค้อ มารับลมเย็นๆกับกับแสงแดดอ่อนๆก่อนกลับบ้านกันดีกว่า



ส่งท้าย The Blue Sky Khaokho กับภาพนี้เลยค่ะ จิบกาแฟกับวิวภูเขาสวยๆ


นั่งมองต้นไม้สีเขียวสุดลูกหูลูกตา ชื่นใจมาก



ปกติ จขกท ไม่ค่อยชอบเที่ยวภูเขาค่ะ เพราะบ้านอยู่ใกล้ภูเขา เจอแต่ภูเขาๆๆๆ


แต่กับที่นี่รู้สึกว่าเป็นรีสอร์ทที่วิวภูเขาสวยมาก เลยทำให้เกิดความภูมิใจว่าบ้านเรานี่มันก็สวยไม่แพ้ที่อื่นเลย

เลือกมาที่นี่ก็เพราะใกล้บ้าน ตกแต่งสไตล์ที่ตนเองชอบรีสอร์ทเล็กๆสงบเงียบ เหมือนหลุดไปอีกโลกนึง

ถ้ามีโอกาสจะกลับมาอีกค่ะ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ประทับใจพนักงานยกกระเป๋ามากค่ะ ตั้งแต่จอดรถ พาไปที่ lobbyเพื่อเชคอิน

ตลอดจนพาไปส่งที่ห้อง พยายามแนะนำที่เที่ยวต่างๆในเข้าค้อแบบตั้งใจสุดๆ ทั้งที่จริง จขกท เที่ยวมาทุกที่จนพรุนหมดละ(แต่เค้าไม่รู้ อิอิ)

น่ารักมากๆค่ะ พนักงานร้านอาหารก็น่ารักพูดจาสุภาพ บริการดีค่ะ วิวสวย มุมถ่ายภาพเยอะ แถมยังมีจุดชมวิวสูงๆให้ชมวิวเขาค้อแบบจุใจ

สไตล์การตกแต่ง ออกแบบได้สวยงาม ดีเทลเยอะ ใกล้แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เดินทางไม่ไกล เช่น วัดพระธาตุผาแก้ว ร้านกาแฟ Route12



ควรปรับปรุง ตรงส่วนที่จอดรถ จริงๆแล้วมีประตูที่สามารถเปิดปิดได้ ซึ่งเชื่อมกับห้องพักใกล้มากๆ

แต่ทางรีสอร์ทปิดไว้ในวันที่เราไปทำให้ต้องเดินอ้อมไปไกลหน่อย ตอนเชคเอาท์ก็ถือกระเป๋าออกมาเอง

เพราะว่าพนักงานมีน้อยค่ะเลยไม่ได้โทรไม่อยากรบกวน เพราะว่าของเราไม่เยอะมาก ส่วนเรื่องอื่นโดยรวมโอเคดีค่ะ

พนักงานหน้าฟรอนท์ยิ้มมากกว่านี้หน่อยนะคะ ลูกค้ามาเจอที่แรกเลยจะได้รู้สึกว่าประทับใจตั้งแต่แรกเจอ

แล้วก็ตึกที่เราพักตึกสุดท้ายสัญญาณไวไฟอ่อนค่ะแทบไม่ถึงเลย แต่สรุปแล้วประทับใจให้คะแนน 4.5 เต็ม 5 ค่ะ

มีโอกาสจะกลับมาอีกนะคะ ส่วนเก็บตกทริปนี้เดี๋ยว จขกท จะมารีวิวอีกรอบค่ะกับร้านกาแฟ และวัดพระธาตุผาแก้ว



ภาพปิดทริปนี้คุณพ่อ กับ คุณน้อง ท่ามกลางทุ่งบลู ซัลเวีย นะคะ ราตรีสวัสดิ์จ้า



ลาเต้ปั่นเย็นๆ

 วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 13.35 น.

ความคิดเห็น