"ไต้หวันครั้งแรก"... คุณวาดภาพไต้หวันไว้ยังไงกันบ้าง ก่อนที่จะไปเที่ยวจริงๆ (มาลองแชร์กันค่ะ)
ตอนแรกเรารู้จักไต้หวันจาก "รักใสใสหัวใจ 4 ดวง" (ทีมไจ่ไจ๋ค่ะ 55) กับ "ตึกไทเป 101" แต่เรื่องข้อมูลท่องเที่ยว อาหาร ผู้คน พิพิธภัณฑ์อื่นๆ ไม่ทราบสักเท่าไหร่ ซึ่งช่วงหลายๆ ปี ที่ผ่านมา เพื่อน/บล็อกเกอร์หลายคน ไปเช็คอินสถานที่แปลกๆ ฮิปๆ ทำให้เกิดอยากไปเที่ยวไต้หวันครั้งนี้ขึ้นมา
...แต่มาถึงจริงๆ ก็รู้สึกได้ว่า ไต้หวัน เป็นประเทศที่ดีมากๆ ในหลายๆ อย่าง ซึ่งสิ่งที่เราชอบมากที่สุด คือ ผู้คน ยิ้ม ช่วยเหลือ active เค้าชอบคุยกับชาวต่างชาติถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ภาษาจีนก็ตาม เค้าก็พยายามหาแอพมาแปลคุยกับเราให้เข้าใจ มีสถานที่ที่ฮิปเยอะ แถมยังใช้จ่ายไม่สูงมากด้วย
เอาเป็นว่า เพื่อนๆ ลองมาแชร์ประสบการณ์ไต้หวันครั้งแรกกันหน่อย ว่าเป็นยังไงบ้าง
ฝากกดไลค์ ติดตามข้อมูลในเพจ www.fb.com/lazycoup กันด้วยนะคะ
มาเริ่มต้นเล่าเรื่องของเราบ้างดีกว่า ทริปนี้เรามากันสองคนตามสไตล์คู่รัก เลือกบินกับสายการบิน EVA airline (วันที่ 29 พ.ค. - 3 มิ.ย. 2018) แพลนอยู่ในไทเป 1 คืน แล้วค่อยต่อไปนอนพักที่ไถจง อีก 2 คืน จากนั้นกลับมาไทเปกันยาวๆ กันค่ะ
จาก Taoyaun Airport ก็นั่ง MRT 160NTD มาลงที่ Taipei Main Station แล้วลากกระเป๋ามาเช็คอินที่โรงแรม Mr Lobster’s Secret Den design hostel เนื่องจากวันนี้เพิ่งลงเครื่อง และวันถัดไปก็ต้องนั่งรถไฟไปไถจงแต่เช้า เลยขอเลือกที่พักที่เดินไปมาไม่ห่างจากสถานีมากค่ะ
โรงแรมนี้ก็จะมีพื้นที่ส่วนกลาง เอาไว้นั่งเล่น หรือพูดคุยทำความรู้จักกับคนอื่นๆ ได้ตามสไตล์ hostel
ในส่วนของห้องพักด้านในจริงๆ มีหลาย type มาก บาง type จะเป็นใช้ห้องน้ำรวม แชร์กัน
แต่ใน type ที่เราเลือกก็เหมาะกับคู่รัก มีห้องน้ำส่วนตัวให้เสร็จเลย
โดยรวมรู้สึกว่าโรงแรมมีความเป็นมิตร อยู่ง่าย ใกล้สถานีต่างๆ
จองห้องพัก
Webside : http://www.mrlobstersecret.com/
Facebook : https://www.facebook.com/MrLobstersSecretDen/
โจทย์ในการเที่ยววันแรกของเรา คือ อยากเห็นมุมไทเป 101 ได้ทั้งแบบนั่งทานอาหารไปชมวิวไป และขึ้นเขาดูวิวแบบธรรมชาติคู่กันกับตึก 101
เราจึงจองร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ไว้ กับร้าน 饗饗 หรือ Inparadise (อินพาราไดซ์) ตอน 11.30 เพื่อทานข้าวไป ชมวิวไปค่ะ
พิกัด : ชั้น 46 ของตึก Breeze มาง่ายมาก คือ ลงที่ MRT สถานี The City Hall ทางออกที่ 3
ราคา : เราขออธิบายตามตารางข้างล่างนี้เลย จะได้ง่ายต่อความเข้าใจ
1.เรื่องรอบอาหาร จะแบ่งออกทั้งหมดเป็น 3 รอบด้วยกัน คือ เริ่ม start ที่ 11.30 / 14.30 / 17.30 ซึ่งแต่ละรอบจะราคาต่างกัน และจำกัดเวลาทานต่างกัน (ไม่เหมือนบุฟเฟ่บ้านเราที่จำกัดเลยว่าทานไป 1 ชั่วโมง จะเริ่มเเมื่อไหร่ก็ได้) และอาหารในแต่ละรอบก็ต่าง
***รอบที่อาหารดีสุด คือ รอบแรก กับ รอบสุดท้าย
ยกตัวอย่าง : รอบที่ได้เวลานานสุดคือรอบสุดท้าย มีเวลาให้ทาน 4 ชั่วโมงเลย ราคาก็ 1590 หรือ 1790 NTD
2.ราคาดังกล่าว ยังไม่รวม service charge 10%
3.ราคาเด็ก
-ต่ำกว่า 3 ขวบ ฟรี
- 3 ขวบ - 5 ขวบ ราคาหาร 3
- 5 ขวบ - 12 ปี ราคาหาร 2
4. ราคานี้รวมเครื่องดื่ม alcohol แล้ว ทั้ง ค็อกเทล และเบียร์
การจองผ่านทางเบอร์โทร 02-8780-9988 เท่านั้น (โทรไปไต้หวัน เบอร์เป็น +8862-8780-9988 )
แนะนำควรโทรจองล่วงหน้าสัก 1-2 เดือนนะคะ
รายละเอียดภาพเมนูอาหารอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถกดเข้าไปอ่านกันในกระทู้ https://th.readme.me/p/17600
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ ก็ขอเดินเล่นย่าน xinyi, Taipei city hall ก่อน เพราะแถวนี้ก็เป็นแหล่งช็อปปิ้งหลายอย่างมาก รวมถึงแบรนด์เนมหลายๆ อย่าง และถ่ายรูป street ย่านนี้สนุกมาก
มีคาเฟ่ กับ shop line ด้วย
หลังจากที่เดินเล่นสักพัก เราก็ตัดสินใจทีจะไปขึ้นเขาช้างกัน (ฝนหยุดตกพอดี)
โดยปกติ ใครจะมาเขาช้าง ให้นั่งมาลงสุดสายที่สถานี Xiangshan station เดินตามป้ายทางออก2
แต่เราสองคนอยู่ตรง Taipei city hall นั่งแท็กซี่ไปจอดหน้าทางขึ้นเขาช้างก็ไม่ไกลมาก เลยลองนั่งแท็กซี่ดู
พบว่าแท็กซี่ที่นี่ถนัดภาษาจีนมากกว่าภาษาอังกฤษ แนะนำว่าหาชื่อภาษาจีนของแต่ละสถานที่ไว้ ไม่หลงแน่นอน และราคาแท็กซี่ก็ไม่แพงมากเหมือนญี่ปุ่น หากมากันหลายคนอาจจะคุ้มกว่านั่งรถไฟฟ้า
เงาฝนตกในกระจก ระหว่างที่ผ่านจึกไทเป 101
ภาษาจีน 象山 Xiangshan (Elephant Mountain)
คำว่า Xiang 象 แปลวาช้าง , shan 山 แปลว่าเขา รวมกันเลยเป็นเขาช้าง แปลกันตรงตัวเลย
ทำไมถึงชื่อว่าเขาช้าง เพราะว่าเขาลูกนี้พอเรามองภาพมุมสูง จะเป็นว่ามีรูปร่างลักษณะคล้ายกับช้างค่ะ
สำหรับทางเดินในการขึ้นเขาช้าง เป็นบันไดปูนเรียบตลอดทาง ตอนที่เราไปฝนเพิ่งหยุดตก ก็ไม่ได้ลื่นน่ากลัว และขากลับก็มืด แต่ไม่เปลี่ยว และมีไฟตลอดทางเดินค่ะ
ระหว่างการเดินขึ้นก็จะได้ยินเสียงธรรมชาติชัดมาก เพราะแต่ละคนหายใจไม่ทัน ต้องโฟกัสเรื่องใช้พลังงานในการเดินเท่านั้น 5555
แนะนำว่าให้ซื้อน้ำสักขวดจากตู้กดน้ำข้างล่างก่อนเดินขึ้นมาค่ะ
ขึ้นมาถึงจุดพักแรง หน้าก็เยิ้มแล้ว
แต่เค้าบอกว่าจุดถัดไป จะมีหินขนาดใหญ่หลายลูกอยู่ตรงจุดนี้
เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมปึนขึ้นไปถ่ายรูป คู่กับวิวตึกไทเป
ซึ่งรอบนี้เราขอใช้นายแบบท่านอื่นเป็นแบบให้เราแทน
สำหรับเวลาที่เหมาะกับการขึ้นเขาช้างคือช่วงเวลาเย็น พระอาทิตย์ตก และยามกลางคืน เพื่อดูแสงเมืองกัน
หลังจากลงเขา เราก็ไปที่ Cathay Financial Conference Hall ( 國泰金融會議廳 ) เพื่อถ่ายรูปอุโมงทางเดินสวยๆ ที่มีฉากหลังเป็นไทเป 101 อยู่ในซุ้มประตู แต่ดันมีตึกอื่นสร้างมาบังวิว 101 ไปเรียบร้อย เลยขอนั่งถ่ายรูปคู่ชิวๆ ก่อนเข้าที่พักแทนค่ะ
จบทริปสำหรับวันแรกเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ Day 2 ในไต้หวัน จะเริ่มเข้า ไถจง กันแล้วยังไงก็ฝากติดตามตอนต่อไปกันยาวๆ ด้วยนะคะ
ปล.อัลบั้มนี้ถ่ายด้วย fujifim X-T100 และ X-H1 คู่กับเลนส์ 16-55, 10-24 และ 50-140
Lazy Coup
วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 18.16 น.