สวัสดีครับ เย็นวันพุธหลังเลิกงานผมมีนัดกับสามสาวที่สนามบินดอนเมืองซึ่งสาวๆนั้นเดินทางมาจากสุราษฎร์ธานีและเราจะเดินทางต่อไปยังอุดรธานีกัน หลังจากเดินทางถึงอุดรก็ดึกมากเเล้ว เข้าที่พักใกล้ๆกับ บขส. เพราะพรุ่งนี้พวกเราจะเดินทางไปต่างประเทศกันครับ

ตอนเช้าพวกเราเช็คเอ้าท์กันแต่เช้ารีบมาจองตั๋วรถเพื่อเดินทางไปเมืองนอกกันครับ

สถานที่ผมพูดถึงนั้นก็คือ เวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทศลาวนั่นเอง ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นการมาเวียงจันทน์เป็นครั้งที่ 4 ของผมครับ ทุกครั้งที่ไปวังเวียงก็จะเเวะเดินเล่นที่เวียงจันทน์ตลอด หลายๆคนคงคิดเหมือนกันว่าเมืองหลวงเล็กๆแห่งนี้ที่มีเวลาเที่ยวแค่ครึ่งวันก็เก็บสถานที่สำคัญได้หมด แต่พวกเราจะมาอยู่ที่นี่กันตั้งสองวัน มาเริ่มต้นการใช้ชีวิตแบบสโลวไลฟ์ที่นี่กับพวกเรากันครับ

Mali Namphu Boutique Hotel ที่พักของเราตลอดสองคืนที่นี่ครับ คนไทยนิยมพักที่นี่เยอะครับ ทำเลดีใกล้ร้านเหล้าตรงวงเวียนน้ำพุ เอ้ยยย...ร้านอาหาร

กองทัพต้องเดินด้วยท้องพวกเราเริ่มตั้นกันที่ Sabaidee Sushi ทำไมมันไม่เป็นเฝอ หรือไม่ก็ส้มตำปราร้าหละ? 55+ ร้านนี้ใกล้โรงแรมเราครับ ด้วยความหิวจัด

โฉมหน้าของสายเปย์สำหรับทริปนี้ครับ เรียกให้ถ่ายรูปตลอดดด 55+

หลังจากหนังท้องตึงพวกเราจึงเริ่มสำรวจเมืองแห่งนี้กันครับ สองข้างถนนที่นี่จะเป็นวัดซะส่วนใหญ่ ที่นี่คือ วัดมีไชย ครับ ข้างหลังนี่คือที่เก็บกระดูก ซึ่งน่าจะเพิ่งมีการเก็บกวาดกันไปนะครับ สวยดี บางช่องยังมีชื่ออยู่เลย ถ้ามากลางคืนน่าจะหลอนหน่อยๆ

สังเกตุทางเท้าที่นี่ดูเเล้วมีดีเทลการปูอิฐที่น่าสนใจ แลดูเรียยร้อยน่ามอง สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ทางการน่าจะดูแลดีมาก

สนุกกับการถ่ายรูปรอบบ่อน้ำที่ วัดอินแปง ทั้งคุณแม่และคุณลูก

วิถีแนวฮิปเตอร์ก็มีมาให้เห็น

ถ่ายรูปแนวสรีตกับรั้วและหน้าบ้าน ชาวบ้านชาวช่องไปเรื่อยๆ

เดินกันเรื่อยๆ มาโผล่กันที่ สวนสาธารณะหาดดอนจันทน์ ซึ่งเป็นลานกว้างๆริมแม่น้ำโขง ตอนเย็นจะมีคนมาเดินเล่น วิ่งออกกำลังกายกันเยอะ

นั่งพักเหนื่อยกันแถวนั้นได้ยินเสียง "ทำเล็บบ่สาว" เป็นสปาเท้าเคลื่อนที่สไตล์ลาว คุณลูกเริ่มก่อน คุณแม่จึงตาม สวยงามอย่างลาว 55+

บรรยากาศยามเย็นที่นี่ มองข้ามฝั่งไปก็คืออำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย เป็นการมองพระอาทิตย์ตกในประเทศไทย แต่ตัวเรานั้นอยู่อีกประเทศนึง หลังจากนั้นก็เดินเล่นตลาดตอนเย็นกันที่นี่

เช้าวันต่อรีบลงมาทานอาหารเช้าของโรงแรม ก่อนสำรวจเวียงจันทน์อีกวัน

วันนี้สามสาวแต่งตัวตัวธีมเดียวกันด้วย มองด้านหลังนึกว่าสามพี่น้อง ไม่ธรรมดาจริงๆ

ที่แรกเราเดินจากโรงแรมมากันที่ วัดสีสะเกด จะว่าไปภาษาลาวนี่เค้าเขียนกันตรงตัวเลยนะครับ ขอเล่าประวัติวัดนี้หน่อยนะครับ วัดนี้เป็นวัดที่ไม่ได้ถูกทำลายจากการบุกรุกเผาเมือง ทำให้ยังคงหลงเหลือศิลปกรรมสมัยพระเจ้าอนุวงศ์มาจนถึงปัจจุบัน ว่ากันว่าด้วยรูปแบบศิลปะที่เหมือนกับวัดในประเทศนั้นนั่นเองทำให้วัดเเห่งนี้ไม่ถูกเผา บางคนอาจจะงงว่าลาวเคยโดนเผาบ้านเมืองลาวด้วยหรือ จริงๆมีปรากฏในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนข้อมูลเบื้องลึกนั้นลองหาอ่านกันดูนะครับ เราข้ามเรื่องนี้ไปดีกว่า 55+

สาวๆต้องนุ่งซิ่นก่อนเข้าวัดนะครับ ต้องแต่งกายเรียนร้อย แต่เห็นทีจะชอบกันมากกว่าโพสท่าไม่ยอมหยุดกันเลยทีเดียว

กรุ๊ปช็อตต้องมี แต่...เหมือนจะยังไม่พร้อมกันสักเท่าไหร่ 55+

รักกกกันนน...ม๊วฟฟฟ

ลูกสาวคนกลางเหมือนไม่ได้อ่านกรุ๊ปไลน์นะครับ...ขอสำรวมนิดนึง 55+

เอ่อออ...เหมือนจะไล่ความสูงกันผิดตำแหน่งนะครับ

ตรงข้ามกับวัดสีสะเกด มีสถานที่สำคัญอีกที่นึงคือ หอพระแก้ว ที่ซึ่งเคยประดิษฐานพระแก้วมรกต ณ ขณะนั้นเวียงจันทน์โดนบุกเผาเมืองและยึดพระแก้วมรกตไป ปัจจุบันพระเเก้วมรกตอยู่ในประเทศที่เป็นผู้บุกทำลายเมืองเวียงจันทน์ ซึ่งประดิษฐานวัดพระศรีรัตนศาสดารามนั่นเอง :) !!!

ด้านในมีการจัดเเสดงพระแท่นบัลลังก์ปิดทองจารึกพระไตรปิฏก ภาษาขอมและกลองสำริดประจำราชวงศ์ลาว และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ

เสร็จแล้วพักมื้อกลางวันกันที่ร้าน Khop Chai Deu Restaurant อาหารหมดเร็วมากอาศัยมาชาร์จแบต หลังจากนั้นดิวกับรถสามล้อหน้าร้าน พวกเราจะไปกันสามสถานที่สำคัญที่พวกเราคิดว่าจะไม่เดินกันแล้ว

ที่แรกถือเป็นจุดแลนด์มาร์คของที่นี่นั่นคือ ประตูไซ นั่นเองเห็นปุ๊ปรู้ปั๊ปว่าที่นี่คือเวียงจันทน์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีวีรชนผู้ร่วมรบเพื่อประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส

เต็มมากบังประตูซะมิดเลยยย

อะเเจกความสดใสซาบซ่านเล็กน้อย

แล้วก็ขึ้นไปชมวิวเมืองด้านบน เหล็กดัดตรงหน้าต่างนี่ได้รับความนิยมมาก ว่าแล้วจัดแบบซิลูเอทซะหน่อย

อากาศที่ลาวไม่ร้อนเท่าไหร่ แต่มันร้อนมากกกกก น้ำท่าอย่าให้ขาดต้องติดตัวตลอดเวลา

อากาศร้อนไม่ได้ทำให้พลังของสาวกลุ่มนี้หมดไป อารมณ์ดีมีความสุขกันมากเลย

และก็ขอคนละหนึ่งช็อตไปตามระเบียบ

และก็นั่งรถส่วนตัวปรับอากาศพร้อมคนขับ ไฮโซมาก อย่าแล่นไวเด้อลูกพี่ 55+ พวกเราไปต่อที่ วัดพระธาตุหลวง นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งเวียงจันทน์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ

แปลงโฉมเป็นสาวงามชาวลาวอีกครั้ง วันที่ไปยังมรการบูรณะทาสีใหม่กันอยู่ คนอาจจะน้อยยังสงสัยอยู่ว่าสถานที่ท่องเที่ยงระดับประเทศแบบนี้คนมาน้อยจัง

สามสาวพลังเหลือๆ

พี่สาวคนโตกับน้องสุดท้อง วัดจากความสูงนะครับ 55+

"ถ่ายรูปกับรถบ่" ลูงคนขับถาม เสร็จโจรสิครับ 55+ ที่สุดท้ายพวกเราจะไปกันที่ วัดสีเมือง

หลังจากไหว้พระขอพรก็ถ่ายรูปเล่นกันเรื่อยๆ

ผนังวัดที่นี่สีเด่นมากกก ใครถ่ายก็สวยยย

ยังไม่จบกับรถ ถ้าอยู่ต่อนี่คิดว่าคงซื้อกลับไทยแน่ๆ

จบทริปวันนี้ให้รถมาส่งที่ริมแม่น้ำโขงที่เมื่อวาน เดินตลาดหาของกินก่อนกลับโรงแรม

เช้าวันสุดท้ายฝนตกไม่ได้ไปไหน เลยไป บขส. เพื่อกลับรถรอบเช้าๆ เพื่อนั่งรถกลับประเทศ 55+

ตัดภาพมาที่สนามบินอุดรธานี ด้วยความหิวโซ

หลังจากถึงดอนเมือง ผมก็ต้องแยกย้ายกับสามสาว โดยสามสาวมีไฟลท์ต่อกลับสุราษฎร์ธานีค่ำวันนี้เลย จบทริปท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าเป็นแค่เมืองหลวงลาวอย่างน้อยก็ได้เปิดประสบการณ์ตัวเองทั้ง ภาษา วัฒนธรรม ผู้คน ที่อาจจะคล้ายกันแต่มันก็มีความต่างกันอยู่บ้าง ทำให้เรารู้ว่าคนลาวน่ารัก ใจ ดีแค่ไหน ว่าแต่ครั้งต่อไปพวกเราจะไปไหนกันดีครับ?