ที่นี่ สังขละบุรี หลายคนคงมาเที่ยวแล้ว ผมว่าคงมากันไม่ต่ำกว่าหนึ่งครั้งชัวร์ป้าดดดด....... หาไอเดียในการเขียนคอนเท้นท์ค่อนข้างยาก นะครับ รู้กันอย่างทะลุปรุโปร่งแน่ๆ.......... เอาที่ตัวผมเองถนัดละกัน ว่ากันด้วยเรื่องมุมกล้องถ่ายภาพนี่แหละ จุดแรกที่เป็นไฮไลท์หัวใจสำคัญของสังขละบุรีเลย คือ....สะพานไม้เก่าแก่ ข้ามแม่น้ำซองกาเลีย สายเลือดสำคัญ ของคนที่นี่เลย

ขอกล่าวถึงความสำคัญของสะพานแห่งนี้นิดนุงนะ :) ตรงจุดที่เป็นสะพานข้ามนี้เรียกว่า “สามประสบ” คือบริเวณที่ลำน้ำสามสาย อันได้แก่ แม่น้ำซองกะเลีย แม่น้ำบิคลี่ และแม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำแควน้อย อ่ะ รู้จักกันละ จัดกันไปนะ ความรู้เล็กๆ น้อยๆ จุดแรกพาไปตั้งกล้องถ่ายเลยคือ บนสะพานปูนที่รถวิ่งข้ามแม่น้ำซองกาเลีย จุดนี้เริ่มตั้งกล้องถ่าย ตั้งแต่ฟ้าใกล้สว่างเลยครับ แนะนำว่าให้ตั้งกล้องใกล้ๆ กึ่งกลางสะพานให้มากที่สุด (ตรงป้ายสะพานที่น้องนางแบบยืนอ่ะครับ) เพราะมีสายไฟแรงสูงห้อยตกคล้องช้างอยู่ หากตั้งริมๆ สะพาน อาจเห็นสายไฟครับ รอฟ้าระเบิด รอพระอาทิตย์ขึ้นแจ่มๆ เตรียมเลนส์ไปสองช่วงนะ ช่วงไวด์มุมกว้าง กับช่วงซูมมุมแคบ สะดวกที่สุดคือเลนส์สองช่วง กล้องสองตัวครับ จะได้ไม่สับสนเวลาเซ็ทกล้อง กล้องเลนส์ไวด์ตั้งบนขา รอเวลาไว้เลย ส่วนอีกตัวเลนส์มุมแคบ 70-200, 70-300 ถือมือเปล่า ยกซดเลยครับ


รอจังหวะเรือแล่นไปมา เห็นเกลียวคลื่น สวยๆ สุดยอดดดดด ครับผม ยังอยู่กับตัวสะพานยาวววววว กันอยู่ครับ มาดูแสงเย็นกัน ตั้งกล้องตรงไหนกันดีล่ะ? เอาใกล้ที่สุดก่อนครับ ไม่ต้องเดินไปไกล

นี่เลย.....แพลูกบวบ ท่าขึ้นเรือ ของที่ทำการอุทยานครับ มองจากบนสะพานเห็นเลยไม่ไกลมาก ตั้งกล้องใช้ช่วงเลนส์ไวด์ ยิงมุมกว้าง เต็มสะพาน รอแสงเย็นช่วงพระอาทิย์ตกหลังสะพานลงตรงกลางสะพานพอดีครับ ดัน WB ให้ไปสุดๆ ที่ 10000 KV เลยครับ จะไปปรับใน PS ก็ได้ ผมยังใช้ปรัชญาเดิมครับ กล้อง 2 ตัว เลนส์ 2 ช่วง ใช้เทเลซูมสุด 200-300 มิล เก็บแสงชิลลูเอด เงาดำ สวย ฝุดๆ ครับ หรือไม่ซูมสุด เล่นสเปซได้ตามใจเลย


หากมีเพื่อนอยู่บนสะพาน ตะโกนบอกให้แอคติ้งใ้หน่อย จะชูมือ หรือกระโดด หรือเต้นแร้ง แต้นกา ก็จัดกันไปนะครับ ฟิน สุดๆ ตรงจุดนี้ จารย์เจี๊ยบฟันธงครับ

อีกจุดหนึ่งเดินไปไกลมากครับ ต้องเดินข้ามสะพานไม้ไปต่อด้วยการเดินข้ามสะพานปูน คดเคี้ยวไปตามถนนไหล่เขา เห็นวัดอยู่ข้างบน เดินไปสักพัก จะมีทางลงไปที่ศาลา ไปตั้งกล้องตรงนั้นเลยครับ แต่มุมนี้ผมยังไม่ประทับใจ 100% ให้แค่ 50% อาจจะเป็นเพราะวันนั้น แสงไม่สวย ฟ้าปิดครับ เลยไม่โดน ส่วนช่างภาพแนวสตรีท แนวไลฟท์ ที่หงุดหงิดกับการรอคอยไม่ชอบไปตั้งกล้องตบยุง บนสะพานมีเรื่องให้เก็บภาพเยอะครับ ตั้งแต่เช้าแดดไม่ร้อน ยิ่งช่วงไหนตรงกับเทศกาล ได้ภาพสมใจอยากของช่างภาพแนวนี้แน่ครับ


ช่วงเลนส์ถนัดช่วงไหนก็ช่วงนั้นนะ บางคนชอบฟิกซ์ช่วงสั้นหลังละลาย หรือช่วงยาว 70-200 อะไร ก็จัดกันไปนะครับ ช่วงเย็นๆ แดดร่มลมตกก็สวยงามครับ ช่วงกลางวัน จะเลือกเอาสายๆ แดดยังไม่แรง หรือบ่ายแก่ๆ แดด ร่ม ร่ม นั่งเรือไปเที่ยววัดร้างกันครับ เรือลำหนึ่งลงได้ 6 คน เหมาลำตกลำละ ห้าร้อยครับ ได้นั่งเรือชมวัดร้างสามวัด วัดที่มีชื่อเสียงที่สุดคือโบสถ์จมน้ำ วัดวังก์วิเวการามหลังเก่า ก่อนทำเขื่อน คือ

วัดหลวงพ่ออุตตะมะนั่นเอง ตรงนี้เรียกวังกะล่างครับ หามุมแนวๆ ถ่ายกันครับ เอาแบบมินิมอล หรือแอบสแตรค เซอเรียล หรือจะเป็น พิคโทรียล ก็จัดกันไปนะครับ อีกหนึ่งวัด เป็นวัดเล็กๆ มีพระประทาน รูปทรงยังสมบูรณ์ ชาวบ้านเอาผ้าใบไปขึงกันแดดแทนหลังคา แบบภูมิปัญญาท้องถิ่น กันแดดลงตอนเที่ยงๆ เพราะวัดนี้ ผนังอยู่ครบ แต่ไม่มีหลังคา แดดลงมาตรงๆ เลย วัดนี้นักท่องเที่ยวนิยมเอาหินก้อนเล็กๆ มาเรียงแนวตั้ง รอบบริเวณโบสถ์ด้านนอก เต็มไปหมด ดูแปลกดีครับ ส่วนอีกวัดหนึ่ง ตอนผมไปเป็นช่วงน้ำขึ้นเยอะ เลยเห็นเป็นกล่องสี่เหลี่ยม ไม่มีอะไรน่าดูเป็นพิเศษ ถ้าน้ำลด จะเห็นหน้าต่าง เรือคายัค สามารถมุดเข้าไปข้างใน พอที่จะถ่ายภาพมุมสวยๆ กลับมาได้ครับ

จุดตั้งกล้องสามจุด ผมขอฟันธงครับ งดงาม ปัง เว่อร์ ครับ


อ้อ หากใครสนใจถ่ายดาว ถ่ายทางช้างเผือก ที่โบสถ์จมน้ำวัดวังก์วิเวการามหลังเก่า เป็นโฟกราวด์ ถ่ายทางช้างเผือกได้สวยครับ ผมนัดคนขับเรือไว้แล้ว ตกลงกันในราคา 600 บาทใช้เวลาการถ่าย 3 ช.ม. ผมมัดจำไป 100 บาท แต่พอถึงเวลา แกเบี้ยวผมเฉยเลยครับ อดเลย เรื่องนี้ต้องระวังกันด้วยนะครับ จบรีวิว สังขละบุรีเพียงเท่านี้ครับ ลองหาโอกาสไปเที่ยวกันดูนะครับ ถ้าเป็นช่วงเวลาจัดงานใหญ่ของวัดวังก์วิเวการาม ก็จะดีเยี่ยมเลยครับ โรงแรมที่ผมไปพัก

แนะนำเลยครับ วังกะรีสอร์ท สถานที่สวยงาม สะอาด บริหารงานโดยสองสามีภรรยาเจ้าของโรงแรมมาต้อนรับ ด้วยตัวเองเลยครับ น่ารักมาก #ททท #เที่ยวภาคกลาง #สุขกลางใจใกล้แค่เอื้อม #สะพานมอญ #สังขละบุรี #กาญจนบุรี #ซองการเลีย #วังกะรีสอร์ท
ความคิดเห็น