ยืนงงในดงไฮเดรนเยียที่ดาลัด

ซินจ้าว!!! วันนี้เรามาสวัสดีกันแบบเวียดนามโหน่ย

รีวิวของเราอันนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้ แน่นวล!เราจะมาพูดถึง “เมืองดาลัด” ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในเวียดนามใต้นั่นเอง (รายการทีวีแชมเปี้ยนก็มา)

ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมสถานที่สุดฮิต ที่ใครมาดาลัดจะต้องแวะมาถ่ายรูป คือใครมาเที่ยวที่ดาลัดจะต้องมีรูปกับทุ่งไฮเดรนเยียนี่กลับไปอย่างแน่นอน

มาค่ะ ล้อมวงกันเข้ามา มาฟังกันว่าเราไปที่นี่ยังไง แล้วมันมีอะไรทำไมถึงต้องมา

***Trick
-ที่สนามบินดาลัดไม่มีที่แลกเงิน ถ้าจะแลกให้เข้ามาแลกได้ในเมืองดาลัด แต่อาจจะหายากหน่อยทางที่ดีแลกให้เรียบร้อยไปตั้งแต่ที่ไทย ส่วนถามว่าควรเอาเงินไปเท่าไหร่ดี อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละทริปของแต่ละคนค่ะ แต่ถ้าไปไม่กี่วันแลกไป3,000-4,000บาท ก็พอ

-สนามบินดาลัดไม่มีซิมขายอีกเช่นกัน ถ้าจะซื้อให้ไปหาในเมืองจร้า แต่ถ้าหากใครจะใช้แค่อินเตอร์เน็ตไม่จำเป็นต้องซื้อซิมเลย เพราะเมืองนี้เค้า Free Wifi ทั้งเมือง ตั้งแต่โรงแรม คาเฟ่ ยันร้านข้าวธรรมดาเลย

-ที่พักในดาลัดราคาไม่แพง โรงแรงส่วนใหญ่ไม่มีแอร์ เพราะอากาศที่นี่หนาว

-การเดินทางในเมืองดาลัดมีทั้งแบบเช่ามอเตอร์ไซต์ขับเอง ราคาร้อยกว่าบาทต่อวันเท่านั้น และมีแบบใช้บริการแท็คซี่ แต่ถ้าใครอยากเที่ยบแบบสบายๆ แนะนำให้เช่ารถพร้อมคนขับค่ะ ราคาอาจจะสูงหน่อยแต่ถ้าไปกันหลายคนถือว่าคุ้มค่ะ

-เอาโดรนเข้าเมืองดาลัดไม่ได้นะจร้ะ

-อาหารที่นี่ส่วนใหญ่รสชาติค่อนข้างจืด แต่ก็รสชาติไม่ได้เลยร้ายนะเออ

-เมืองนี้คาเฟ่เยอะมาก บางทีบ้านคนธรรมดาก็เป็นคาเฟ่ ทุกคาเฟ่จะเสิร์ฟน้ำชาร้อนมาให้คนละแก้วเมื่อเราไปถึง

-บินตรงได้บินตรงเถอะ เชื่อเรา ใช้เวลาอยู่ในเมืองนี้เมืองเดียวก็คุ้มแล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/laiteaw/ นะคะ

เราขึ้นเครื่องบินจาก Bangkok - Ho Chi Min ด้วยสายการบิน AirAsia
สำหรับสายการบินที่จะบินไปโฮจิมินห์มีให้เลือกหลายเจ้า หลายราคา แต่เราเน้นถูก555 ก็เลยได้เจ้านี้มาไปกลับก็แค่สามพันนิดๆเอง นี่เป็นราคาที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้านานๆด้วยนะ ถ้าจัดตารางท่องเที่ยวดี ราคาคงถูกกว่านี้แน่นอน
สำหรับใครที่วางแผนจะไปเที่ยวดาลัด เราแนะนำให้บินตรงเลยจะดีกว่า ถ้าราคาไม่แพง ส่วนของเราตอนนั้นราคาบินตรงดาลัดไปกลับเกือบแปดพันแหนะ เลยของแวะไปเที่ยวโฮจิมินห์ก่อน แต่ถ้าไม่อยากเหนื่อย ไม่อยากเสียเวลาก็บินตรงเหอะ นี่แนะนำ

เราบินลงที่โฮจิมินห์ ก็อาศัยเวลารอเครื่องเพื่อเดินทางต่อ ในการท่องเที่ยวในเมืองจนถึงเวลาต่อเครื่องไปดาลัด

พอใกล้เวลก็ไปเช็คอินที่สนามบิน พร้อมบินไปเมืองดาลัด ใช้เวลาเพียง 50 นาทีก็ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเลียนเคือง
ระยะทางจากสนามบินห่างจากเมืองดาลัดประมาณ 30 กิโลเมตร เท่านั้น
จัดแจงรับกระเป๋าเราก็เตรียมตัวเดินทางต่อ เพื่อไปยังตัวเมืองดาลัดด้วยรถบริการสาธารณะอย่างรถบัสและรถแท๊กซี่ เราเลือกใช้บริการรถบัส เป็นบัสเล็กๆคล้ายๆรถตู้ ราคาไม่ถึงร้อย ถ้าจำไม่ผิดก็ราวๆ70บาท รถจะจอดหน้าสนามบินเพื่อนๆลองเดินเข้าไปถามดูเลยค่ะ ว่าไปดาลัดมั้ย ถ้าใช่ก็ตกลงซื้อตั๋วขึ้นรถไปนั่งรอรถออกได้เลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีก็ถึงเมืองดาลัดแล้ว

ดาลัด เป็นเมืองนึงที่คนไทยให้ความสนใจไปเที่ยวกันเยอะมากๆ เพราะเป็นเมื่องงที่มีวิวทิวทัศน์ ตึกรางบ้านช่อง อากงอากาศ ที่ดีงาม เหมาะกับการมาเยือน เมือดาลัดตั้งอยู่บนที่ราบสูง ล้อมรอบไปด้วยทิวเขา ทะเลสาบ และป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์
ที่สำคัญเมืองนี้อากาศดีมาก เย็นสบายตลอดปี ตั้งแต่ก้าวถึงเมืองนี้ก็สัมผัสได้ถึงลมหนาวเบาๆ เราเดินทางถึงเมืองช่วงเย็นๆ ก็เดินทางเข้าที่พักหลังจากนั้นก็วางแผนกันว่าจะออกไปเดินตลาดกลางคืน

เมื่อเดินตลาดกลางคืนเสร็จเราก็กลับเข้าที่พักเพื่อพักผ่อนเอาแรง พร้อมเดินทางในวันพรุ่งนี้ไปยังจุดหมายของเรา

ตื่นเช้าขึ้นมารับลมหนาวพร้อมดื่มนมดาลัดที่เค้าเลื่องชื่อลือชาว่าอร่อยกันซักหน่อย

อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ เราก็ออกมาทานอาหารที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ซะหน่อยเมื่อทานอิ่มก็ไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์จากทางโรงแรมเพื่อไปตระเวรรอบเมือง

การเดินทางในดาลัดสำหรับนักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขับเองหรือว่าจะเรียกแท็กซี่ก็แล้วแต่ความสะดวกและงบในกระเป๋านะคะ หรือถ้าไปหลายคนจะเช่ารถแบบเหมาทั้งคันมีคนขับให้ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี แต่ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อยนึง ยังไงก็ลองตัดสินใจดูกันเอาเองว่าสะดวกแบบไหน
ส่วนเราเช่ารถขับชิลๆ(แต่ความจริงก็ไม่ได้ชิลอย่างที่คิดหรอก555)

และแล้วเราก็เดินทางมาถึง Hydrangea Garden Da Lat

ที่นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจมาดาลัดเพราะดูรูปแล้วแบบว่า เห้ย!!! มันสวยอ่า ต้องไปโดน!!! อยากไปถ่ายรูปในทุ่งไฮเดรนเยียแล้วทำท่าแบบเรื่อง The Sound Of Music 🤣🤣🤣 ฮ่าาาา