9 จุดเช็คอินห้ามพลาด!
@ดาลัด เมืองแห่งดอกไม้และขุนเขา
.
ว่ากันว่าที่นี่คือ "ลิตเติ้ลปารีส" แห่งทวีปเอเชีย
ด้วยอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี บวกกับสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากทางตะวันตก อีกทั้งยังเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ที่สลับกันเบ่งบานในทุกฤดู ทำให้ดินแดนแห่งนี้เป็นที่หลงไหลของใครหลายๆคนที่มาเยี่ยมเยือน
ครั้งนี้ เราจะพาไปดูกัน ว่ามาดาลัดแล้ว มีจุดไหนบ้างที่ไม่ควรพลาด
เอาล่ะ!! พร้อมแล้วเราไปลุยกัน
#หนีนายไปJourney
#vietnam #dalat
ฝากติดตามเพจเล็กๆของเราด้วยน้า หนีนายไป Journey
1. coi xay gio : ร้านขนมปังฝรั่งเศสหรือที่เรียกอีกชื่อว่าบั๋นหมี่
ตึกสีเหลืองโดดเด่นใจกลางเมืองดาลัด เป็นจุดที่ใครๆผ่านไปมาก็ต้องแวะมาถ่ายรูปสักหนึ่งแชะ คือคิวถ่ายรูปยาวมาก ทั้งคนเวียดนามเองนักท่องเที่ยวเอง สาวๆที่ไหนอยากมาถ่ายรูปที่นี่ก็ต้องอดทนรอคิวนิดนึงนะ 555
บั๋นหมี่ที่นี่อร่อยใช้ได้ทีเดียวและอีกอย่างที่ห้ามพลาดก็คือนมดาลัด ใครมาที่นี่ต้องลองชิม อร่อยคอนเฟิร์ม
จริงๆ coi xay gio นี้มีหลายสาขาอยู่นะ ถ้าใครอยากกินอย่างเดียวไปสาขาไหนก็ได้ แต่ถ่าอยากถ่ายรูปกับตึกเหลืองเก๋ๆ ให้ปักหมุดไปสาขาที่ใกล้ๆ Dalat Night Market นาา
2. Domain de marie church : โบสถ์สีชมพู
โบสถ์แห่งนี้จะตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองดาลัดมากนัก เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกที่โดดเด่นสวยงามและโดดเด่นด้วยสีชมพูอ่อนๆ
เป็นโบสถ์ที่เล็กๆ ค่อนข้างเงียบและร่มรื่น อีกทั้งยังสามารถมองเห็นวิวเมืองดาลัดได้อีกด้วย ทำให้ที่โบสถ์แห่งนี้เป็นอีกสถานที่นึงที่คนมักจะมาเดินเล่นชิลๆ ชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามกัน
3. Garden Hydrengear : ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย
อีกหนึ่งพิกัดที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งสำหรับสาวๆ ด้วยอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปีทำให้เมืองแห่งนี้สามารถมาเยี่ยมชมทุ่งดอกไฮเดรนเยียได้ตลอดทั้งปี
เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับสาวๆที่รักการถ่ายรูปกับดอกสีม่วงช่อโตๆ หรือจะไปวิ่งเล่นถ่ายรูปในทุ่งไฮเดรนเยีย ประหนึ่งหลุดมาจากโลกแห่งเทพนิยายก็สามารถทำได้ไม่แพ้กันนะ 555
ที่ตั้งของทุ่งดอกไฮเดรนเยียจะอยู่ห่างออกจากเมืองมาราวๆ 10 กิโลได้
4. Datanla Waterfall : น้ำตกดาตันลา
สำหรับขาลุยทั้งหลาย ที่น้ำตกดาตันลา จะมี Roller Coaster ให้ได้มาขยับแข้งขยับขากันเล็กๆ ความน่ากลัวนั้นขึ้นอยู่กับความเร็วในการบังคับของเราเอง ถ้าอยากซิ่ง แต่เจอคันข้างหน้าขับช้าก็ซวยหน่อย 555
ซึ่งจุดหมายปลายทางที่ Roller Coaster จะไปถึงนั้น ก็คือน้ำตกดาตันลานั่นเอง หรือถ้าใครกลัวหรือไม่ชอบเล่นอะไรแบบนี้ ก็มีบันไดให้เดินขึ้นลงไปชมน้ำตกนะ แต่ต้องออกแรงเหนื่อยนิดนึง 555
5. Lalaland Homestay : โฮมสเตย์และร้านกาแฟสุดชิค
จริงๆที่นี่เป็นทั้งที่พักและคาเฟ่สุดเก๋ แต่ครั้งนี้เราไม่ได้มีโอกาสมาพักที่นี่ เลยลองมาแวะที่คาเฟ่แห่งนี้ดูสักหน่อย ตัวร้านจะมีทั้งหมดสองชั้น ตกแต่งแบบเรียบง่าย เน้นวัสดุจากธรรมชาติหมดเลย เหมาะกับการมานั่งชิลปล่อยกายปล่อยใจเป็นอย่างยิ่ง อิอิ
6 ann cafe : แอน คาเฟ่
เที่ยวเหนื่อยแล้วก็ต้องมากินกันบ้าง ที่นี่เป็นทั้งคาเฟ่และร้านอาหาร มีให้เลือกครบครับ เฝอที่นี่อร่อยมากๆ ใครมาที่นี่ห้ามพลาดต้องมาลองกันให้ได้
ส่วนตัวร้าน จะมีหลายโซนด้วยกันทั้งที่นั่งแบบชิงช้า โซนเอ้าดอร์ อินดอร์ หรือจะที่นั่งแถวยาว นั่งกินไปชมรถที่วิ่งผ่านไปมาก็เพลินดี
7. Langbiang : แลงเบียง
Langbiang เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในดาลัด อยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 12 กิโลเมตร สามารถนั่งรถจี๊บขึ้นไปเที่ยวได้ หรือใครจะ trekking ก็ได้เช่นกัน
วิวข้างบนจะมองเห็นเมืองดาลัดสุดลูกหูลูกตา สวยงามมากๆ อากาศก็ดีมากๆเช่นกัน
8. Dalat Night Market : ตลาดกลางคืนเมืองดาลัด
ตลาดกลางคืนใจกลางเมืองดาลัด ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบซวนเฮือง ซึ่งเป็นทะเลสาบกลางเมืองมากนัก
ที่นี่มีครบแทบทุกอย่างทั้งของกินของใช้เสื้อผ้า เสื้อกันหนาว เหมาะกับการมาเดินผ่อนคลายหลังจากเที่ยวมาเหนื่อยๆทั้งวันมาก
อาหารที่ไม่ควรพลาด มาที่นี่แล้วต้องลอง คือพิซซ่าดาลัด ลองไปหากินดูกันได้
9 Truc lam temple : วัดตั๊กลัม
วัดตั๊กลัม เป็นวัดพุทธในนิกายเซ็น แบบญี่ปุ่น เที่ยวธรรมชาติแล้วก็หันมาเข้าวัดเข้าวากันบ้าง 555 ภายในจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามมาก ใครมาดาลัดที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งที่ๆอย่าลืมแวะมากันนะ
ยัง ยังไม่จบ อันนี้ของแถม 555
ที่พักที่เราไปพักกันชื่อว่า Sweet Home เป็นบ้านหลังเล็กๆน่ารักใจกลางเมือง ราคา ประมาณ 2000 บาทต่อคืน มีทั้งหมด 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น สามารถพักได้ทั้ังหมด 6 คน หารมาก็ถูกมากๆ ถ้าใครมากันหลายๆคนแนะนำที่นี่เลย ถูกและดี เดินไปตลาดกลางคืนก็ได้ด้วย ไม่ไกลมาก
มาเถอะ เชื่อเราสิ แล้วจะหลงรักดาลัดอย่างแน่นอน
แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าครับ 😊
FB PAGE : หนีนายไป Journey
หนีนายไป Journey
วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.46 น.