"ผาหินกูบ"

ทริปนี้คิดใว้นานแล้วว่าจะไปแต่ก็ไม่ได้ไปสักที จนสะสมความอยากจนเต็มแล้วมันก็ระเบิดออกมา "ไม่ใหวแล้ววว" วางแผนวันหยุดส่งข้อความหาสหาย ตกลงได้วันก็ตั้งหน้าตั้งตารอวันไปไม่เป็นอันทำงานเลยทีเดียว จนถึงวันเดิน"ผาหินกูบ" นั้นตั้งอยู่ที่เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าเขาสอยดาว อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเผล ต.ฉมัน อ.มะขาม จ.จันทบุรี มีความสูง 960 ม. จากระดับน้ำทะเลและเส้นทางการเดินป่า 6-7 กม. ใช้เวลาเดิน 5-6 ชม. ในการเดิน "ผาหินกูบ" นั้น ที่เรียกกัน มาจากหินก้อนหนึ่งบนยอดเขา มีรูปลักษณะโหนกนูนตรงกลาง และโค้งลาดลงสองด้าน คล้ายกับกูบช้าง คำว่า "กูบ" หมายถึงที่นั่งบนหลังช้าง เมื่อขึ้นไปนั่งบนยอดเขา จึงเหมือนนั่งอยู่บนหลังช้างนั่นเอง

แนะนำการเดินทางจ้า

-การโทรจองการเดินทางล่วงหน้า ติดต่อได้ที่ หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเพล ที่ 082-2050079 คุณ ชาลี สุลัย 086-3791597 คุณ ฉัตรชัย สุลัย (ตอนที่ผมโทรไปขอขึ้นแค่ 1-2 คน ไม่ต้องจองนะครับไปถึงจ่ายเงินขึ้นได้เลย)
-ลูกหาบราคา 1,000 บาท ต่อน้ำหนักของไม่เกิน 30 กิโลกรัม และต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าว่าต้องการลูกหาบ มีค่าบำรุงหน่วยฯ และเจ้าหน้าที่ในการนำทางขึ้นเขา 1,000 บาท ต่อเจ้าหน้าที่หนึ่งคน ดูแลนักท่องเที่ยวไม่เกินห้าคน นักท่องเที่ยวเกินจากนั้นคิดเพิ่มคนละ 200 บาท (ตอนผมไปคิดแค่คนละ 200 เพราะไปแค่ 2 คน)
-ผาหินกูบนัน้เที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ให้ขึ้นเฉพาะวันเสาร์วันเดียว ค้างข้างบนคืนวันเสาร์ ลงวันอาทิตย์ กำหนดให้นักท่องเที่ยวรวมทุกกลุ่มขึ้นไปต่อครั้งประมาณ 40 คน เพราะข้างบนมีพื้นที่จำกัด(แต่วันที่ไปขึ้นไปได้ 70 คน นักท่องเที่ยวใหล นรกแตกมาก ฮ่าา)
-ช่วงหน้าฝน ควรโทรสอบถามก่อนว่าเปิดให้ขึ้นไปได้หรือไม่ เพราะบางทีหินและเส้นทางจะลื่นมาก ปีนยาก ถ้าหากเจ้าหน้าที่เห็นว่าอันตรายเกินไป ก็อาจจะต้องปิดชั่วคราวและการเดินขึ้นผาหินกูบนั้น ต้องเชื่อฟังเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ไม่เดินออกนอกเส้นทาง หรือไปในจุดที่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาติ เพราะอาจหลงป่า หรือเกิดอันตรายได้
-เส้นทางเดินเป็นการเดินเข้าป่าดงดิบชื้่น ควรเตรียมเครื่องป้องกัน แมลงต่างๆ เช่น ทาก เห็บลม ผึ้ง(ควรแต่งกายให้มิดชิด ทากนี่ตัวดีเลยคิดว่าจะไม่โดนยังโดน)
-บนเขาใกล้ที่พักมีแหล่งน้ำไกล้ๆ ที่ต่อมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติสามารถอาบน้ำ แปรงฟันล้างหน้าได้ แต่ไม่มีห้องสุขา
-ผาหินกูบนี้ไม่ต้องกางเต็นท์ จึงไม่ต้องเอาเต็นท์ขึ้นไปก็ได้ ควรเตรียมผ้าสำหรับปูพื้น เช่นพลาสติกปูพื้นสีฟ้า-ขาว กราวชีส ผ้ายาง เสื่อ ถุงนอนหรือเปล(หน้าฝนนี่แนะนำเป็นอย่างเดียว)
-สำหรับสายโซเชียล บนเขามีสัญญาณโทรศัพท์ (บางค่าย) ให้


นัดสหายมานั่งรอรถไปจันทบุรี ที่หมอชิต กับ บขส.999 รถออก 14.30 น. รอนานมว๊ากก !!

มาถึง บขส.จันทบุรี เวลา 19.30 น. มาถึงมองหารถสองแถวที่จะพาเราไป หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเผล ในวันรุ่งขึ้นตกลงกันเรียบร้อย ได้แล้วก็หาข้าวกินหาที่ซุกหัวนอนกันในตัวเมืองนี่แหละ



รุ่งเช้าเรารีบตื่นไปเตรียมเสบียงหาของกินบนเขากัน เนื่องจากช่วงเย็นไปสำรวจมาแล้ว ในตลาดน้ำพุซึ่งอยู่ใกล้ที่พักเลย ไม่ถึงโล

7.00 น. หลังจากจัดการกินข้าวกินปลาเตรียมตัวเรียบร้อยก็โทรเรียกพี่สองแถวมารับที่โรงแรม แชว่บบ !! อย่างเท่ห์ ใช้เวลาเดินทางไปหน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเผล ประมาณ 1 ชม.


มาถึงแล้วก็ชำระเงินกับเจ้าหน้าที่ เตรียมตัวยืดแขนยืดขา ก่อนไปถ่ายรูปกับป้ายนิดนึง เพื่อแสดงให้เห็นว่าจะขึ้นล่ะนะ !!






ช่วงแรกสบายๆ ยังระรื่น เดินผ่านดงระกำ ชมนกชมไม้ ชิมนู่นนี่นั่น ระกำกินได้และเปรี้ยวมากกก



ยังอยู่ในดงระกำ แต่เริ่มเละทางมีแต่โคลนมันส์กันเลยทีเดียวว


บางจุดจะมีลำธารใหลผ่านให้เติมน้ำ ล้างหน้า เย็นเฉียบบบ สดชื่นทันที





ความสวยงามของป่าดิบชื้นในหน้าฝน เขียวชอุ่มและอุดมไปด้วยน้องทาก มาให้แบบไม่รู้ตัวแม้ว่าคุณจะมีเครื่องป้องกันแน่นหนาขนาดใหนน้องพร้อมแทรกได้เสมอ ถอดรองเท้าควักถุงเท้าออกมาพร้อมพบเสมอ และในป่าไม่ได้มีแต่พวกเรายังมีพี่ใหญ่(ช้าง)ด้วย สังเกตุจากเห็ดที่ขึ้นบนขี้ช้าง ตอนเดินป่าก็สังเกตพี่ใหญ่กันด้วยนะ เดี๋ยวจะวิ่งกันไม่ทัน !!




เดินๆๆๆๆ ตามสภาพในที่สุดก็มาถึงจุดพักกินข้าวที่หินแปดเหลี่ยมสักที กินข้าวพักผ่อนตามอัธยาศัย มีจุดเติมน้ำล้างหน้าอยู่ใกล้ๆหินแปดเหลี่ยม กินข้าวเสร็จได้เวลาเดินทางต่อพี่เจ้าหน้าที่บอกต่อไปจะขึ้นอย่างเดียวแล้วนะ หึยยยย !!





ทางขึ้นนี่มันช่างยาวนานเหลือเกินนน ยังดีที่มีลมพัดมาตลอดทางที่เดินขึ้น อารรร์... แต่ไม่พัดอย่างเดียวนะหอบฝนมาชุดใหญ่เลยด้วยย โว้ยยย !! @#^$&^%$^&%$#%$ +! ไม่เป็นไรน่ะ !! เดี๋ยวมันก็หยุด เดินพลางปลอบใจตัวเองไปจนถึงถ้ำ ถ้าถึงถ้ำแสดงว่าใกล้ถึงจุดหมายแล้วนะอีกนิดเดียว

มาถึงข้างบนแล้วก็รีบจัดแจงหาที่ซุกหัวนอน กางฟลายชีต กางเปล หลังจากกางเสร็จไม่นาน ฝนฟ้าก็กระหน่ำมาแบบไม่บันยะบันยัง เจ้าพระคุณรุนช่องเอ๋ยตกจนทำอะไรไม่ได้มากนักนอกจากต้มมาม่าแล้วนอน จะเรียกว่านอนก็ไม่ได้แทบไม่ได้นอนฝนสาดจนในเปลเป็นอ่างน้ำนอนทั้งๆที่เปียก หมดอารมณ์ถ่ายรูป แล้วก็สลบภาพตัดไปยังตีสอง ตื่นเพราะได้ยินเสียงโอดครวญ "ยังไม่ได้นอน ตอนนี้ยังไม่ได้นอนเลยจะสิบโมงเช้า"ของกลุ่มอื่นๆ ฮ่าาา








ตื่นกันตอนตีห้ามารอพระอาทิตย์ขึ้นหลังจากผิดหวังจากยามเย็นไปแล้ว พระอาทิตย์ ?? ใหนพระอาทิตย์ !! โอ้วววว ไม่มีขอหมอกก็ได้ทะเลหมอกเยอะๆ นี่คือสิ่งที่ได้กลับมา ฟ้าเปิดๆปิดๆ หมอกฟุ้งกระจาย กับสาวๆหน้าใสเพื่อนร่วมทริปที่ "ยังไม่ได้นอนนนน" ก็ชื่นชมบรรยากาศกันไป จะว่าผิดหวังใหมก็ไม่ทีเดียวอย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่าเที่ยวหน้าฝนมัน "ลำบากอย่างนี้นี่เอง" สักแปดโมงเช้าเราก็ลงจากเขากัน



ลงมาถึงหน่วยแล้วที่ข้างๆหน่วยมีฝายน้ำตกอยู่เจ้าหน้าที่เราให้ไปอาบชำระร่างกายกันที่นั่นน้ำเย็นสดชื่นสุดปลดล็อกทุกความเหนื่อย อาบเสร็จแล้วสำรวจร่างกาย เย้ยยย !! เลือดใหลนองงง ว่าจะไม่โดนแล้วเชียวว ทากที่นี่ดุจริงคอนเฟิร์ม !! หลังจากจัดการเรียบร้อยแล้วก็โทรหาพี่รถสองแถวให้มารับ ลืมบอกแกชื่อ "พี่เล็ก" พี่เขาเหมาหัวละ 200 บาท เราไปสองคนแกให้เหมา 400 บาท รับเที่ยวทั่วในตัวเมืองจันทบุรี เวลาไปเที่ยวติดต่อพี่แกได้ที่ 084-7806274 ปล.ขากลับพี่แกซิ่งมากจับราวใว้ให้ดีๆนะ ฮ่าาา ถึง บขส.จันทบุรี ก็หารถกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพและความอ่อนเพลีย

สรุปค่าเดินทางและค่าใช้ต่อคน (จ่ายไม่รวมค่ากิน)
-ค่ารถทัวร์ หมอชิต-บขส.จันทบุรี 151 บาท (บขส.999 มีส่วนลดค่าตั๋วให้ 20%)
-ค่าที่พักโรงแรม 220 บาท
-ค่ารถสองแถว 200 บาท
-ค่าบำรุงหน่วยฯ และเจ้าหน้าที่ 200 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 771 บาท
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดฝากติดตามเพจด้วยนะครับ ที่
https://www.facebook.com/artistpeak/






























Bear Mountain

 วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.42 น.

ความคิดเห็น