คุณเคยมีเรื่องบางเรื่อง สถานที่บางที่ คนมาบางคนที่ติดอยู่ในใจมั้ย เรามีสถานที่ที่นึง ที่คิดมาตลอด ห้า หกปี ว่าครั้งนึงต้องมาให้ได้ มันไม่ได้ไกลข้ามทวีป ไม่ต้องนั่งรถไฟครึ่งโลก แค่ถีบตัวเองมาที่จังหวัดนึงสุดชายแดนฝั่งตะวันออกของประเทศเรานี่แหละ ที่นั่นคือ “เกาะหวาย” จังหวัดตราด เมื่อประมาณห้า หกปีที่แล้ว สมัยเรียน เราไปอ่านเจอบล๊อกเกอร์ ฝรั่งคนนึง ที่มาเที่ยวที่เกาะนี้ ซึ่งเราไม่เคยได้ยินมาก่อน ปกติที่ตราดก็จะรู้จักอยู่แค่เกาะช้าง เกาะหมาก เกาะกูด ในรูปรีวิวนั้น เป็นแค่กระท่อมบ้านๆ ธรรมดา แต่อยู่ติดริมทะเลที่น้ำทะเลเป็นสีฟ้าใสมาก กับหาดทรายขาวละเอียด เราคิดในใจว่ามันมีอยู่จริงๆ หรอวะ อยากไปเห็นด้วยตัวเองจัง



จนมาถึงวันนี้ที่เราว่าง และพร้อมที่จะถีบตัวเอง แบกเป้เดินทางออกมาคนเดียว เราโทรไปสอบถามที่พัก และเรือข้ามเกาะ แค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง “อย่าคิดนานเดี๋ยวไม่ได้ไป” ใครสนใจก็ตามมานะ

เกาะหวายเนี่ย เป็นเกาะเล็กๆ (เล็กมาก) เกาะนึงที่อยู่ระหว่าง เกาะช้าง และเกาะหมาก มีขนาดเล็กจนถ้ามองใน map ผ่านๆ ก็มองไม่เห็นอ่ะ แล้วก็คงคิดไม่ถึงหรอกว่าจะมีคนอาศัยอยู่ หรือมีที่พักน่าสนใจอะไร แต่ความเล็กนี่แหละ มันทำให้น่าสนใจ แล้วก็มีที่พักหลายที่เลยบนเกาะนี้ อีกทั้งยังเป็นจุดเล่นน้ำของทัวร์ต่างๆ จากเกาะช้าง เกาะหมาก ที่จะแวะมาดำน้ำตื้นกัน เดี๋ยวเราจะลองเดินสำรวจทั่วๆเกาะกัน

การเดินทาง

เราถีบตัวเองเพื่อจัดกระเป๋า โดยที่ไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวมากนัก และรีบเดินทางมาขึ้นรถบัสให้ทันเวลา เส้นทางรถบัส กรุงเทพฯ - ตราด ขึ้นรถที่เอกมัย ของเชิดชัยทัวร์ รอบ 23.30 น. เที่ยวสุดท้ายของวัน ราคา 230 บาท ได้ที่นั่งแถวเกือบหลังสุด แต่ก็ยังโชคดีเบาะข้างๆไม่มีคนนั่ง หรือเพราะเค้าเห็นเรามาคนเดียวเลยให้ที่นั่งเดี่ยวไม่รู้ เหม่อมองริมถนนไปเรื่อยจนหลับไป ตื่นมาอีกทีตี 4 กว่าๆ ก็มาถึงที่ ขนส่งตราดแล้ว ตื่นมา งงๆ คนก็เริ่มทยอยลงกันเกือบหมดคัน

ลงมาที่ขนส่ง ก็มีลุงๆ สองแถวคอยถามว่าจะไปไหน ด้วยความสะลึมสะลือเลยโดดขึ้นรถ สองแถวมาตั้งแต่เช้า ราคา 80 บาท พร้อมกับกลุ่มที่จะไปเกาะช้างเที่ยวแรก ทั้งๆที่เรือเราก็ออก ตอนสายๆ นู่น นั่งหน้าคุยมากับลุงคนขับจนมาถึงท่ารถแหลมงอบ ตั้งแต่ยังไม่สว่างเลย คนไปเกาะช้างเค้าก็จองเรือ เตรียมออกไปขึ้นเรือกันตั้งแต่ยังไม่รุ่งสาง ส่วนเราและกลุ่มที่จะเดินทาง ไปเกาะหวาย เกาะหมาก ก็นอนตบยุงตรงท่ารถหน้า “อนุสรณ์สถานยุทธนาวีที่เกาะช้าง” นี่แหละ

เรารอเรือ Seatales แหลมงอบ เกาะหวาย เกาะหมาก เที่ยว 11.30 น. ก่อนถึงเวลาครึ่งชั่วโมง รถสองแถวก็จะมาส่งเราที่ท่าเรือ ค่าเรือ 450 บาทต่อเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณสามสิบนาที หลังจากอ้อนเกาะช้างมา ก็จะมาถึงเกาะหวาย เรือสปีดโบ๊ท จะจอดใกล้ๆ กับหน้าหาด Koh Waii Paradise แล้วจะมีแพลอยน้ำ ให้เราลงไปนั่ง พี่ๆจะสาวเชือกเข้ามาที่ฝั่ง เรือเข้ามาใกล้ไม่ได้เพราะไม่มีท่าเรือ แล้วก็อาจมาโดนแนวปะการังได้

มาถึงที่พักเราโทรติดต่อมาแล้วเมื่อวาน เราพักที่บ้านหลังเล็ก(ห้องเดี่ยว) เบอร์ 18 ราคาคืนละ 400 บาท ที่นี่เป็นห้องน้ำแยกอยู่ด้านนอกนะคะ แล้วก็มีไฟเฉพาะช่วงเย็น ถึงประมาณสี่ทุ่ม เราเก็บของที่ห้องเสร็จ ก็ออกมาสั่งอาหารกินราคาอาจจะสูงกว่าข้างนอกหน่อย แต่เนื่องจากมันเป็นเกาะๆเล็กๆ นะคะ วัตถุดิบอะไรต่างๆ ก็อาจจะนำเข้ามาลำบากหน่อย แต่เป็นการกินข้าวกลางวันที่วิวดีที่สุดเลยอ่ะ เพราะวันนี้โชคดีฟ้าใส ไม่มีฝน มีเมฆลอยอยู่สวยงาม

กินข้าวเสร็จ ก็เริ่มออกเดินเล่นกัน เป้าหมายคือเดินไปสุดทางนั่นแหละ เดินไล่ไปเริ่มตามชายหาดต่างๆ โดยเริ่มจากที่พักเรานี่แหละ เดินไปเรื่อยๆ แต่ละรีสอร์ต ถ่ายรูปมุมไหน หาดไหนก็สวย ไม่ต้องใส่ฟิลเตอร์ อะไรทั้งนั้น เริ่มจากที่พักเรานี่แหละ ที่หาดยาวแล้วก็สวยมาก น้ำใสวิ้ง ใสจนถึงกับต้องชิมว่ามันน้ำทะเลจริงรึป่าว เค็มมั้ยนะ เออก็เค็มอ่ะ

ติดๆกันก็จะเป็น Good feeling ที่นี่ก็วิวดี ติดทะเลเหมือนกันนะ หาดอาจจะไม่กว้างเท่าอันแรกแต่ก็มีห้องน้ำในตัว ราคาลองสอบถามกันดูนะคะ

เดินลัดเลาะ ไต่เขาไปเรื่อย ลงมาเดินตามทรายบ้าง ก็จะถึง ปะการังรีสอร์ต หรือ เกาะหวายกรีนรีสอร์ต เนี่ยแหละ แต่เงียบเลย ไม่รู้ทางนี้เค้าปิดกันรึป่าวนะ ที่นี่จะมีประภาคาร ตรงกลางทะเล ที่คนชอบไปถ่ายรูปกัน

เดินเข้าป่าไปอีกไกลๆ หน่อย นิดนึง ขึ้นๆลงๆ ผ่านหาดเล็กๆ แล้วก็จะมาถึง ดินแดนกระท่อมยายมา ที่นี่จะเงียบๆหน่อยนะ ไม่ค่อยมีคนเข้ามากัน ช่วงนี้น่าจะปิด มีฝรั่งเข้าไปออกมาบอกว่าหมาเห่า 55555 เราเข้าไปมีคุณลุงอยู่ที่นั่น มีอ่าวยายมา เป็นเวิ้งโค้งเข้ามา ด้านในเป็นแนวที่พัก สลับกันทิวมะพร้าว ลุงบอกให้เดินต่อไปอีกดูหาดถัดไป สวย และโรแมนติกมาก เดินเข้าไปโห้ะ เหนื่อยอยู่นะ แต่พอมาเห็นละ สวยจัง ทรายเม็ดเล็ดขาวละเอียดมาก เราเลยนอนงีบ พักเหนื่อยอยู่ตรงใต้ร่มไม้ริมชายหาดนี้แหละ เห็นมีคนแล่นเรือมาดำน้ำเล่นกันหลายลำเลย เสียดายที่เราไม่ได้พก snorkel ติดมือเดินไปด้วย

นอนได้หนึ่งงีบเราก็เดินกับหมาพร้อมหมาหนึ่งตัว เออใช่ตัวนั้นแหละที่ตาฝรั่งคนนั้นบอกว่ามันเห่าน่ากลัว จริงๆแล้วเป็นมิตร น่าเอ็นดูมาก เดินตามมาส่งเราถึง Good feeling แต่ก็ไม่กล้าผ่านด่านแมวเปอร์เซียมา (ใช่ค่ะ บนเกาะนี่มีแมวด้วย จะเรียกว่าเกาะแมวเลยก็ได้) เดินหอบกลับมาถึงที่พัก พี่ๆขอโค้กป๋องนึง ร่างกายต้องการน้ำตาลอย่างรุนแรง

นั่งพักสักแป๊บก็เดินกลับไปที่ห้อง เตรียมอุปกรณ์ snorkel ที่พกมาเอง ลงไปดำน้ำเล่นหน้าหาดกัน ขอบอกว่า ปะการังที่นี่ตื้นมาก ตื้นมากๆเลยนะคะ เราว่ายน้ำ ดำน้ำไป ยังกลัวหัวเข่าลงไปโดนปะการังเลย ที่นี่มีปลาตัวเล็กๆ หลายชนิดเลย แต่เราเรียกชื้อไม่ถูก แล้วเราก็เจอปลานกแก้วสี่ห้าตัว แทะปะการังอยู่ แถมตามซอกซอย ยังหอยเม่นแอบอยู่หลายตัวอีกต่างหาก ดำผุดดำว่ายอยู่นานจนแดดเริ่มหมด ก็เลยออกมาอาบน้ำ หาข้าวกินกันต่อ หิวแล้ว

คืนนี้มีเพื่อนนั่งคุยไม่เหงาละนะ การมาคนเดียวมันก็อย่างนี้แหละ พบเจอเพื่อนใหม่ คนใหม่ๆ ตลอดเวลา ตอนนี้ใกล้จะสี่ทุ่มแล้ว คงต้องหนีกลับห้องก่อนที่เค้าจะปิดไฟแล้วล่ะ อากาศร้อนหน่อย แต่ก็มีเมฆเยอะ งั้นคืนนี้นอนเปิดหน้าต่าง เปิดประตูรับลมทะเลละกันเน้อ

เช้าวันที่สอง ตื่นมาประมาณเจ็ดโมงคงเป็นเพราะหมดแรงจากเมื่อวานมา เอ วันนี้อากาศมันอึมครึม ประหลาดๆนะ เดินเล่นริมชายหาดสักพัก ก็นึกขึ้นได้ เรายังไม่ได้เดินไปเที่ยวจุดชมวิวเลยนี่นา ว่าแล้วก็เดินไป บริเวณบ้านหลังที่ 22 ก็จะมีเส้นทางเดินเลาะตามเขาขึ้นไป พี่ๆเค้าเตือนไว้ว่าเหนื่อยหน่อยนะ เดินไปสักพัก เอขึ้นเขามาจนตอนนี้เดินลงเขาแล้ว จุดชมวิวที่ว่ามันอยู่ที่ไหนกันนะ เดินมาคนเดียวอีกต่างหาก แต่จะหันหลังกลับมันก็ดูไม่คูลเลยว่ะ อ่ะเดินไปอีกนิด ขึ้นเขาไปอีกหน่อย ก็เริ่มเห็นแสงสว่างแล้วหล่ะ

และแล้วเราก็มาถึง จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก ที่เราขึ้นมาชมในตอนเช้า ย้อนแย้งอ่ะ ฮ่าฮ่า พอมาถึงปุ๊บฟ้าก็ส่งเสียงร้องทักทายเราเลยทันที เป็นการย้ำเตือนว่า เราได้ขึ้นมาผิดที่ผิดเวลาจริงๆสินะ บนจุดชมวิวนี้จะเป็นทะเลอีกด้านหนึ่งของเกาะ หันหน้าไปทางเกาะหมาก จุดชมวิวด้านนี้แม้จะไม่มีชายหาด แต่ก็เป็นภูเขาและหน้าผาหิน เวิ้งน้ำ สวยงาม ทำเลดีเหมาสมที่จะมาชมพระอาทิตย์ตกเป็นอย่างมาก หากโชคดีเราคงได้เดินขึ้นมาตอนเย็นอีกรอบ หลังจากดื่มด่ำบรรยากาศจนอิ่มหน่ำสำราญลืมหิวข้าวกันไปทีเดียว ฟ้าฝนก็เริ่มทักทายมาอีกครั่ง แต่คราวนี้ดำมืดขยับเข้ามาหาไม่หยุดหย่อนเลย คงถึงเวลาแล้วล่ะ ที่เราต้องวิ่งลงเขา ขึ้นเขา และลงเขาอีกรอบ เพื่อกลับไปยังที่พัก ให้ทันเวลา ก่อนเมฆก้อนใหญ่นั้นจะกลายร่างเป็นฝนอันชุ่มช่ำ ถล่มลงมาหาเรา

โชคดีก็เข้าข้างเราจะตลอด หลังจากที่เราวิ่งหนีฝนปรอยๆ ที่ตกลงมา ก็ถึงที่พักได้ก่อนที่พี่ฝนก้อนใหญ่จะถล่มลงมาที่หลังคาบ้านเรา เราใช้ช่วงเวลานี้ในการนอนชิวๆ อ่านหนังสือ และค่อยๆ คล้อยหลับไปอย่างสบาย ท่ามกลางเสียงฝนที่ตกลงมากระทบหลังคา

ลืมตาตื่นมาอีกทีก็ตอนที่ฟ้าฝนเงียบหายไปหมดแล้ว แสงแดดเริ่มออกมาทักทายชวนให้เราออกไปเล่นน้ำทะเล และดำน้ำอีกแล้วสินะ แต่เดี๋ยวก่อนท้องมันเริ่มร้องทัก ดูนาฬิกา ก็เวลาเที่ยงกว่าแล้ว เลยเดินออกไปสั่งผัดไทกุ้งกิน อาหารที่นี่จานใหญ่มากๆ แต่ด้วยความโหยเราก็กินหมดทุกครั้ง ไปนอนพักอาบแดดสักแป๊บ เราก็วิ่งพรวด พร้อมสน็อกเกิ้ล ว่ายหนีลงน้ำไปตามล่าปลานกแก้วกันต่อ โลกใต้น้ำที่นี่นั้นสวยงามกว่าที่คาดไว้มาก อาจจะมีบางส่วนทรุดโทรมไปบ้างแต่โดยรวมก็ยังสวยงามแล้ว และมีปลาหลากหลายชนิดอาศัยอยู่ เราใช้เวลาดื่มด่ำไปกับการว่ายน้ำ ดำน้ำ นานพอสมควรเลยละ สุดท้ายเราก็ขึ้นมาจากน้ำเพราะฟ้าเริ่มครึ้มมาอีกแล้ว รีบหนีไปอาบน้ำดีกว่า ห้องอาบน้ำรวมที่นี่ ตอนแรกเราก็กลัวนะว่าจะมีตุ๊กแกรึป่าว (ส่วนตัวเรากลัวตุ๊กแกมาก) แต่ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย อาจมีจิ้งจก หรือคางคกบ้าง แต่อยู่ๆ ไปมันก็ชิน

หลังจากกินข้าวเย็นอิ่ม เราก็ออกมาเดินเล่นรับลม นั่งนึกถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา คืนนี้ก็เป็นคืนสุดท้ายบนเกาะหวายของเราแล้ว ต้องขอบคุณความกล้าของเราเองที่พาตัวเองออกมาเที่ยวคนเดียว มาที่ที่เราอยากมา ทำสิ่งที่เราอยากทำ โดยที่ไม่ต้องรอใครให้มากมาย เวลาเราอยู่คนเดียวมันทำให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น รู้ว่าสิ่งที่เราอยากทำจริงๆคืออะไร เรานอนคิดเรื่องต่างๆไปเรื่อยๆ พร้อมกับฟังเสียงคลื่น รับลมทะเลที่ริมชายหาด จนสี่ทุ่มทางรีสอร์ตปิดไฟ จึงเดินกลับไปนอนที่บ้านพัก

....เดี๋ยวต่อในคอมเม้นนะคะ

วันที่สาม



หกโมงกว่าๆ แม้วันนี้จะเป็นวันสุดท้าย อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องขึ้นเรือเพื่อกลับฝั่งแล้ว แต่เราก็อยากใช้เวลาบนเกาะให้มากที่สุด เลยตื่นแต่เช้าออกไปเดินเล่นจนสุดฝั่งอีกด้านของที่พัก ดื่มด่ำบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น เราใช้เวลานั่งอยู่บนโขดหินริมหาดนานมาก เผลออีกทีก็เจ็ดโมงกว่า ก็ถึงเวลาต้องไปอาบน้ำจัดกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้านกันแล้วล่ะ



เก้าโมงตรงเรือสปีดโบ๊ท ที่วิ่งมาจากเกาะหมาก ก็มาจอดบริเวณหน้าที่พักเรา ณ ตอนนั้นเราก็นั่งอยู่บนแพ ลอยโครงเครงรอขึ้นเรืออยู่กลางทะเลแล้ว พี่หล่อเจ้ารีสอร์พร้อม เจ้ามะขามและมะลิ หมาเจ้าถิ่นประจำเกาะ ออกมายืนโบกมือส่งเราขึ้นเรือ ถึงเวลาแล้วสินะ ที่เราก็ต้องโบกมือลาเกาะแห่งนี้เหมือนกัน ไม่รู้หรอกว่าจะมีโอกาศได้กลับมาอีกเมื่อไหร่ แต่ในใจลึกๆ ก็ประทับใจที่นี่มาก ยังไม่อยากกลับเลย แต่การเดินทางมันก็ต้องมีที่สิ้นสุด เราก็คงต้องกลับไปทำหน้าที่ของใครของมัน การมาเที่ยวครั้งนี้ก็คงเหมือนการออกเดินทางมาเพื่อเติมเต็มความรู้สึกต่างๆ มีมันขาดหายไปจากความเหนื่อยล้า จากเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิต เติมความสนุกและความสุข เก็บไปเป็นความทรงจำที่นึกถึงขึ้นมาเมื่อไหร่ก็รู้สึกดี...



ขอบคุณทุกท่านที่ได้อ่านมาถึงตรงนี้ กับการบอกเล่าความรู้สึกต่างๆ ผ่านเรื่องราวการเดินทางในแง่มุมของเรา ที่ไม่ใช่แค่รีวิวการไปเที่ยวสั้นๆ แต่เป็นบันทึกเรื่องราวของความรู้สึกในการออกไปเที่ยว พบเจอสิ่งใหม่ พบเจอผู้คน ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้แปลว่าคุณได้เข้ามาอยู่ในบันทึกของเราแล้ว อย่าลืมรอเปิดอ่านบันทึกหน้าถัดๆไป ของเราในเพจ https://www.facebook.com/Termtemtung ที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคตด้วยนะคะ ขอบคุณพระคุณค่ะ

สรุปทริปคนเดียวเที่ยวเกาะหวายโดยย่อ(นี่ย่อแล้วจริงๆนะ)



📍สถานที่ : เกาะหวาย จังหวัดตราด สองคืน สามวัน



🛏ที่พัก : Koh Waii paradise เกาะหวายพาราไดซ์



⚓️การเดินทาง : รถทัวร์จากเอกมัย - ตราด (ขนส่ง)

ต่อด้วยรถสองแถว ตราด - แหลมงอบ

นั่งเรือสปีดโบ๊ท แหลมงอบ - เกาะหมาก (เรือจะแวะส่งเกาะหวาย)

🍴อาหาร : ร้านอาหารบริเวณท่าเรือแหลมงอบ ราคาไม่แพง

ร้านอาหารที่รีสอร์ตบนเกาะราคาสูง 100 - 150 บาท (น่าจะเป็นเพราะค่าขนส่ง) แต่ขอบอกว่าอร่อย และให้เยอะมากๆ

ร้านอาหารที่บขส.ตราด มีสองร้าน พอกินได้ประทังความหิวไปวันๆ ราคาไม่แพง



🔍กิจกรรม : เดินเล่นไปตามชายหาดต่างๆ รอบๆเกาะหวาย เส้นทางเดินตั้งแต่ เกาะหวายพาราไดซ์ ยาวไปจนถึงอ่าวยามา ระหว่างทางมีหาดเยอะมาก แวะถ่ายรูปนั่งชิงช้าเก๋ กันไป

ดำน้ำหน้าหาด ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวสุดๆ ลุกเดินจากที่พักประมาณ 20 ก้าว ก็จะเจอแนวปะการัง ตรงชายหาดหน้าบ้านเรานั่นแหละ เราพกsnorkel ส่วนตัวไปเอง หากใครไม่มีก็ขอเช่าที่รีสอร์ตได้ มีปลาหลากหลายสีสัน หอยมือเสือสีสวย ปลานกแก้วแทะปะการัง ว่ายน้ำหลบหอยเม่น สนุกมาก มันดีตรงที่เราอยากดำตรงไหนก็ได้นานแค่ไหนก็ได้ แถมตื้นมากๆ ไม่น่ากลัวเลย

เดินป่าศึกษาธรรมชาติ เพื่อขึ้นไปสุดชมวิวพระอาทิตย์ตก ทางขึ้นจะอยู่บ้านพัก เบอร์ 22 ของที่นี่แหละ เดินไปได้เลยไม่น่ากลัว เราเดินไปคนเดียวมันก็จะเปลี่ยวๆ หน่อย เดินขึ้นเขาแล้วก็ลงเขา แล้วก็ขึ้นเขาอีกรอบ เอ้างง ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที แล้วแต่ใครขาสั้นขายาว เอ้ย!! ก้าวสั้นก้าวยาว

มีเรือคายัค ให้เช่าด้วย สามารถพายเล่นหน้าหาดได้ หรือจะรอบเกาะก็แล้วแต่ แต่อันนี้เราไม่ได้พายนะ พายคนเดียวมันจะหว้าเหว่เกินไป เห็นเค้าพายกันเป็นคู่อู้หูเหม็นความรัก 5555 หนีไปดำน้ำดีกว่า

อีกกิจกรรมนึงที่ไม่ควรพลาด เนื่องจากที่บนเกาะเนี่ยมันสงบมาก เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง กิจกรรมที่ว่าคือการนอน เออ นอนนี่แหละดีที่สุด จะนอนอาบแดดริมหาด นอนในน้ำใส่ชูชีพลอยเล่น นอนดูดาวฟังเสียงคลื่นชายหาด หรือจะนอนหลบฟังเสียงฝนอยู่ในบ้าน อาจหยิบหนังสือติดเป้มาสักเล่ม หรือขอยืมที่พักเค้าก็มีเพียบ ก็เพลิดเพลินทั้งนั้น เพราะบางทีการมาเที่ยวพักผ่อนก็คือการไม่ทำอะไรเลยนี่แหละ ผ่อนคลายที่สุด



สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับที่นี่📝

1. ไม่มีไฟฟ้าใช้ตลอดเวลานะ ปั่นไฟ เวลาประมาณ 17.00 - 22.00 น. ในห้องไม่มีปลั๊กนะ อยากชาร์ตแบตมากองรวมกันตรงล๊อบบี้นี่ ตามสบายเลย

2. เนื่องจากเราอยู่กับธรรมชาติ ห้องพัก(จองขั้นต่ำสองคืน) ก็จะมีแค่เตียงที่นอน หมอน มุ้ง ผ้าห่ม แค่นั้นนะคะ อยากได้พร๊อบอะไรก็เอาไปเองเน้อ (ไม่มีห้องน้ำในตัวนะ) back to basics สุดๆ แต่วิวที่ระเบียงหน้าบ้านแต่ละหลังนี่คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม

3. ยุงเยอะมาก มาก ตัวใหญ่มาก มาก และยุงร้ายมาก ไล่ไม่ไปนะ สะบัดแค่ไหนก็ไม่หนี ตบอย่างเดียว ฉะนั้นทุกท่านควรพกยากันยุงแบบทา แบบฉีดไปด้วย

4. ถ้าถามว่าร้อนมั้ย มันก็แล้วแต่ดวงนะ เราไปวันแรกร้อนอบอ้าว แต่ดำน้ำเหนื่อยก็หลับได้ไม่ยาก เปิดประตูหน้าต่าง ลมโกรกเบาๆ วันที่สองฝนตกทั้งวัน กลางคืนก็ปรอยๆ นอนหนาวเลย ต้องปิดหน้าต่างห่มผ้า สภาพอากาศนั้นต้องลองไปลุ้นกันเอาเอง

5. ระวังตกเรือนะ เนื่องจากเป็นเกาะเล็กๆ ช่วงนี้รีสอร์ทก็เปิดอยู่แค่ไม่กี่ที่ ดังนั้นก่อนเดินทางควรติดต่อกับทางเรือให้ดี และเผื่อเวลาเดินทางด้วย



💸💸ค่าใช้จ่ายในทริปนี้💸💸



รถทัวร์ (เชิดชัย) เอกมัย - ตราด ไปกลับ 460 บาท

รถสองแถว ขนส่งตราด - แหลมงอบ 140 บาท (ขาไป 80 ขากลับ 60 งงกันไป)

เรือสปีดโบ๊ท Seatales แหลมงอบ - เกาะหวาย 900 บาท

ค่าที่พัก Koh Waii paradise 800 บาท (คืนละ 400 บ้านหลังเล็กนอนคนเดียว)

อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งหมด ~ 800 บาท



รวมแล้วค่าใช้จ่าย สำหรับการเดินทางไปเที่ยวคนเดียว เกาะหวาย 3วัน 2คืน 3,100 บาท

ถือว่าราคาไม่แพงเลย สำหรับทริปไปเที่ยวทะเลเมืองตราด ดำน้ำหน้าหาดส่วนตัว อย่าลืมเก็บเกาะหวายไว้ในลิส ลองไปดูสักครั้งว่าคุณจะชอบเหมือนเรามั้ย

Bam_Termtemtung

 วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.12 น.

ความคิดเห็น