สวัสดีค่าาาา นี่เป็นทริปแรกสำหรับการเขียนรีวิว เพราะเพิ่งไปมาสดๆร้อนๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ไฟกำลังลุกโชน เกิดอาการคันไม้คันมืออยากเขียนรีวิว จุดประสงค์หลักของการไปภูเก็ตในครั้งนี้คือ เกาะไม้ท่อน นั่นเองส่วนสถานที่อื่นๆถือเป็นของแถมที่ประทับใจมากกก

หลังจากที่เราปักหมุดที่จะไปเกาะไม้ท่อนแล้ว เราก็เริ่มจองเครื่อง จองทริป ซึ่งเราเลือกจองแบบ One Day Trip ของ Love Andaman เพราะชื่อเสียงเรียงนามของที่นี่มีมากอยู่ไม่น้อย ทั้งจากดารา ซุป'ตาร์ หรือ Travel Blogger ต่างๆ ครั้งนี้เราจึงเลือกทัวร์ของ Love Andaman



วันแรก -----> ณ ภูเก็ต

เริ่มออกท่องภูเก็ตในช่วงเย็นของวัน เพราะต้องรอพี่สาวเลิกงาน จึงเที่ยวไม่ได้เยอะมาก

เริ่มต้นจากแวะถ่ายรูปที่ "PHUKET GLASSPLATES MUSEUM"

https://www.facebook.com/Phuketglassplatesmuseum/

เมื่อเข้าไปเค้าจะให้ชิปการ์ด สำหรับเข้าห้องเพื่อไปถ่ายรูป

บรรยากาศภายในคาเฟ่ สวย สุขุม แสงดี ไฟได้

มุมถ่ายรูปเท่ๆ คลาสสิคมาก เห็นแล้วคิดถึงพี่ฌอห์ณ จินดาโชติ

หลังจากนั้นก็ขับรถชมเมืองบริเวณเมืองเก่า เลยแวะถ่ายรูปบริเวณตึกเหลือง

และสุดท้ายขอปิดท้ายที่จุดชมวิวเขารัง ไปยืนกินลมชมวิวของภูเก็ตอยู่สักพัก

เวลามีลมเย็นๆปะทะหน้า ได้มองแสงไฟยามค่ำคืน มันเป็นอะไรที่ธรรมดาแต่กลับทำให้เรารู้สึกดีอยู่ไม่น้อย



วันที่ 2 -----> "ณ เกาะไม้ท่อน"

อย่างที่บอกไปนะคะ โปรแกรมที่เราเลือกเป็น One day Trip ของ Love Andaman ราคาในช่วงโลซีชั่น จะอยู่ที่ประมาณราคา 2300 บาท ราคาปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2900 บาท สามารถเข้าไปดู Program อื่นๆ ได้ที่ https://www.loveandaman.com/ หรือ https://www.facebook.com/loveandaman/ ก็ย่อมได้ ติดต่อได้ทุกช่องทาง สะดวกสบายมากๆ

วันนี้เราต้องแหกตาตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพราะรถตู้จะมารับเราที่หมู่บ้าน เวลา 08.30 น. เพื่อไปยังท่าเรือแพแสง เพื่อไปยังเกาะไม้ท่อน เมื่อไปถึงเค้าจะให้เราลงชื่อเพื่อรับริสแบนด์ และเมื่อไปถึงเกาะเราก็จะได้ริสแบนด์ที่มีชิปฝังอยู่อีกหนึ่งอัน

บริเวณท่าเรือก็จะมีจุดนั่งพักรอเรือ มีอาหารว่างให้ทาน ขนมปัง ข้าวต้ม คุ๊กกี้ น้ำผลไม้ ด้วยความตื่นเต้นก็จะทานได้นิดๆหน่อยๆ เป็นวันที่ลุ้นจนตัวโก่ง เทแต้มบุญจนหมดหน้าตัก ลุ้นว่าฝนจะตกรึป่าว แต่สุดท้ายปลอดโปร่งจ้าาา ดีใจยิ่งกว่าถูกหวย

เมื่อรอลูกทัวร์จนครบแล้ว ก็ขึ้นเรือเพื่อไปยังเกาะไม้ท่อน เรือที่พาเราไปในวันนี้ เป็นเรือสปีดโบ๊ท ชื่อเจ้าอลูมินัส1 สามารถนั่งได้ 30 คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที เร็วมาก ไม่มีเวลาให้คุณเมาเรือแน่นอนค่ะ

และแล้วก็ถึงแล้วจ้าาาาา อื้อหือออออ สวยมากกกก น้ำใสจนเห็นตัวปลา สมคำร่ำลือจริงๆ

เราหยุดรอให้ลูกทัวร์คนอื่นเดินเข้าเกาะไปก่อน เพื่อจะได้ถ่ายรูปบนสะพานไม้สวยๆ จะโพสลายใหญ่ขนาดไหนก็ย่อมได้

เราถ่ายรูปกันอยู่สักพักก็เข้าไปบริเวณโต๊ะที่ทางทัวร์จัดไว้ให้ ก็จะมีอาหารมารอต้อนรับอีกแล้วจ้าาา

เค้าให้เวลาถ่ายรูป ชมวิวกันอยู่สักพัก ประมาณ 11 โมง ก็จะขึ้นไปยังจุดชมวิว ใครจะขึ้นหรือไม่ขึ้นก็ได้ ซึ่งข้างบนจุดชมวิว จะมีศาลาพระประจำเกาะไม้ท่อน มีมุมต่างๆให้ถ่ายรูป

ประมาณ 11.50 น. เค้าก็จะพาเรากลับลงมาข้างล่าง เพื่อทานอาหารเที่ยง เวลานี้ที่รอคอยยย อาหารที่นี่อร่อยมากทุกเมนูเลย แต่ที่เด็ดสุดน้ำจิ้มซีฟู้ด สุดยอดดด อยากจะขอเทใส่ขวดกลับบ้าน อาหารซีฟู้ดเค้าจะจัดใส่จากไว้ให้เรา เราแค่มีหน้าที่หยิบ กิน และก็เติม เติมเท่าไหร่ก็ได้แล้วแต่ที่กระเพาะจะรับไหว ส่วนน้ำดื่มเค้าก็มีให้เราสั่งได้ตามที่ใจปรารถนา

ช่วงบ่ายก็จะเป็นกิจกรรมดำน้ำ ดูปะการัง ทัวร์ที่นี่ดูแลดีมาก ใครที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็จะมีพนักงานคอยดูแลตามประกบอย่างดี ก่อนลงดำน้ำทะเล ใครที่ใช้ snorkel ไม่เป็น เค้าจะมีสอนวิธีการใช้ให้ก่อน หรืออาจจะไปฝึกที่สระว่ายน้ำก่อนก็ได้

ใครที่ไม่อยากดำน้ำทะเล ก็ Relax ได้ตามอัธยาศัย ส่วนเรานั้นนน เสียสละถ่ายรูปอยู่บนฝั่งค่าาา


เมื่อดำน้ำเสร็จไม่ต้องกลัวว่าถูกดองนะจ๊ะ เค้าก็จะมีที่อาบน้ำแบบ Outdoor ให้เราล้างเนื้อล้างตัว และเดินเข้าไปก็มีห้องน้ำสะอาด สะดวก ไร้กังวล หลังจากล้างเนื้อล้างตัวเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีไอศครีมกะทิรวมมิตรเย็นๆ ให้ทานก่อนกลับ และเค้าจะเรียกขึ้นเรือกลับ เวลาประมาณ 16.00 น. ถือเป็นอันจบทริปอย่างงดงาม

*** สุดท้ายสำหรับหลายๆคนที่มีคำถามในใจว่าไปกับทัวร์ของบริษัท Love Andaman แล้วดีจริงหรอ? จะคุ้มกับเงินที่จ่ายไปรึป่าว? : ซึ่งตอนแรกยอมรับว่ามีคำถามเหล่านี้อยู่ในใจตัวเองเหมือนกัน แต่ขอบอกเลยว่าประทับใจมากกกก ตั้งแต่ไปถึงท่าเรือเลย พนักงานต้อนรับดีมากตั้งแต่ต้นจนจบ ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดทริป จะขอให้ถ่ายรูปกี่ร้อยกี่พันรูปคุณพี่ก็ยังถ่ายให้ด้วยความเต็มใจ แถมยังสอนโพส จัดท่า ดูแสงให้อีกต่างหาก น่ารักมากๆ เรารู้ว่าเค้าบริการด้วยใจจริงๆ เราเชื่อว่าในวันนั้นทุกคนจบทริปด้วยรอยยิ้มกันทุกคน และโอกาสหน้าเรารับรองว่า Love Andaman จะได้เงินเราอีกแน่นอนค่ะ ^^"

และขอปิดท้ายวันนี้ด้วยอาหารซีฟู้ดที่ร้าน "หอยป้ายแดง" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งร้านดังในเมืองภูเก็ตนะคะ




วันที่ 3 -----> ณ ภูเก็ต

วันนี้เราจะเริ่มกันที่ ร้านติ่มซำค่าาา อาหารอันเลื่องชื่อลือชาของเมืองภูเก็ต แต่ร้านที่เราตั้งใจไว้ดันปิดซะนั่น แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการกินของเราแต่อย่างใด เพราะเรามีร้านสำรอง คือ "สภากาแฟ SR แต๋เตี้ยม"

ติ่มซำที่นี่มีให้เลือกเยอะมาก แล้วแต่ละเลือกหยิบตามใจชอบ ส่วนพวกของทอด โจ๊ก/ข้ามต้ม กาแฟเครื่องดื่มอื่นๆ ก็สามารถสั่งเพิ่มได้ น้ำจิ้มที่นี่ไม่เผ็ดมาก เหมาะสำหรับคนภาคกลาง



หลังจากที่ทานกันเสร็จเรียบร้อย ก็ออกเดินทางไปเที่ยงชมเมืองกันต่อ สถานีต่อไปของเราคือ

"แหลมพรหมเทพ"

ไฮไลท์ของภูเก็ตอีกหนึ่งจุด แต่วันที่ไปท้องฟ้าไม่เป็นใจ เมฆขาวเต็มไปหมดเลย อากาศอึมครึม ลมแรงมาก บวกกันเจอแก๊งค์ชาวจีนในทุกอนูพื้นที่อีก แนะนำให้มาช่วงเย็น ช่วงนั่งดูพระอาทิตย์ตกคงสวยไม่น้อย

สถานีต่อไปของเราคือ "จุดชมวิวกังหันลม" จุดนี้อยู่ไม่ไกลจากแหลมพรหมเทพมากนัก อยู่ติดกันเลยก็ว่าได้



หลังจากนั้นเราก็ขับรถชมหาดไปเรื่อยๆ ซึ่งคลื่นค่อนข้างแรง ถ้าสภาพอากาศวันที่ไปเกาะไม้ท่อนเป็นแบบนี้ มีหวังทริปล่ม นั่งห่อเหี่ยวกันอยู่ที่บ้านแน่ๆ ถือว่าบุญกุศลที่ได้สะสมมายังพอมีอยู่บ้าง 5555+ หลังจากนั้นเราก็ไปแวะทานอาหารเที่ยงกันที่ "ร้านกันเองแอทเพียร์ (Kan Eang @Pier)"

https://www.facebook.com/kaneangatpier/

วิวดีมาก เป็นร้านอาหารติดทะเล เห็นวิวท่าเรือ เห็นวิวเกาะโหลน ทานข้าวเสร็จ เดินไปถ่ายรูปบนท่าเรือได้


เมนูแรก ยำซีฟู้ด เปรี้ยวหวานกำลังดี ไม่เผ็ดจนเกินไป

เมนูที่ 2 เป็ดอะไรสักอย่าง จำชื่อไม่ได้ อร่อย เนื้อนุ่มมม


เมนูที่ 3 ต้มจืด อาหารเบสิคๆแต่ก็ยังคงความอร่อย

เมนูที่ 4 แกงปูใบชะพลู ซึ่งจริงๆ Signature ของทางร้านคือแกงปูยอดมะพร้าว แต่นี่ดันอยากกินใส่ใบชะพลู ถ้าเป็นทางภาคกลางจะทานคู่กับขนมจีน แต่ที่นี่จะทานคู่กับเส้นหมี่ มาภูเก็ตต้องจัดเมนูนี้ให้ได้นะคะ

เมนูสุดท้าย The Best ของที่นี่ น้ำพริกกุ้งเสียบ เด็ดดวงมากกก รักที่สุด ซึ่งเป็นเมนูที่ต้องจัดเมื่อมาเหยียบแผ่นดินภูเก็ต อร่อยจริงๆ

หลังจากที่ทานอาคารคาวเสร็จแล้ว เราก็หาร้านของหวานล้างปาก ซึ่งร้านที่ตั้งใจจะไปคือ Torry's Ice cream Boutique แต่คนมหาศาล ได้คิวที่ 14 ก็เลยเดินเล่นแถวย่านเมืองเก่าไปก่อน


หลังจากที่ทนความเมื่อยไม่ไหวก็ไปนั่งพักที่ "ร้านหนัง(สือ) ๒๕๒๑ [Naung (Sue) 2521]"

https://www.facebook.com/bookhemian/

ต่อไปร้าน The Old Phuket Coffee "Coffee Station"ิ เป็นกาแฟตกแต่งด้วยของเก่า เท่ๆดิบๆ



และเรากลับไปยังร้าน "Torry's Ice Cream Boutique" ยังไม่ละความพยายาม แต่พอไปถึงปรากฎว่าเลยคิวไปแล้วจ้าาา แต่ยังโชคดีแต้มบุญยังเหลืออยู่ พนักงานจำได้เลยให้คิวต่อไปเลย น่ารักกกกก

https://www.facebook.com/torrysicecream/

Torry's เป็นร้านไอศกรีมที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของภูเก็ต ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ 100% มีการนำไอศกรีมมาผนึกกำลังคู่กับขนมพื้นเมืองประจำจังหวัดภูเก็ต จึงทำให้ร้านนี้เป็นร้านของหวานที่มีกลิ่นอายความเป็นภูเก็ตอย่างแท้จริง



และมาถึงความภาคภูมิใจของร้านนี้ ตู้โชว์ช้อนตักไอศครีมพระราชทาน


แค่การตกแต่งร้านก็กินขาดแล้ว มีการนำของไทยๆตกแต่งให้เข้ากับตึกเก่าสไตล์ชิโนโปรตุเกต ซึ่งเป็นการผสมผสานอย่างลงตัว อาหารทุกอย่างจะถูกจัดใส่จานลายครามหรือถ้วยทองเหลือง

เมนูแรกที่เราขอนำเสนอคือ Phuket treasure เป็นขนมพื้นเมืองภูเก็ตชนิดต่างๆ เสริฟคู่กับไอศกรีมฮันนี่แกรห์ม

เมนูที่ 2 คือ โอ-เอ๋ว (O-Aew) เป็นเหมือนวุ้นใส นิ่มๆหวานๆ มีถั่วแดง เสริฟคู่กับไอศกรีมโอเอ๋วซอเบท์

เมนูที่ 3 บี-โก-หมอย (ฺBi-co-moi) ใช่ค่ะ เค้าเรียกกันแบบนี้จริงๆ เจ้าบีโกหมอย ก็คือข้าวเหนียวดำราดน้ำกะทินั่นเอง เสริฟคู่กับไอศกรีมกะทิอัญชัน

เมนูที่ 4 เมนูสุดท้ายคือ Ruammit ice cream & Lodchong เป็นลอดช่อง เสริฟคู่กับไอศกรีมรวมมิตร


และนอกจากที่นี่ยังโดดเด่นเรื่องไอศกรีมแล้ว เค้ายังขึ้นชื่อเรื่องชาอีกนะคะคุ๊นนน จะเป็นชาของแบรนด์

- MALOU Tea Atelier -

ส่วนชาที่เราเลือกมาลิ้มลองกันในวันนี้คือ ชากุหลาบ หอมมากกก ไม่มีส่วนผสมของคาเฟอีนแต่อย่างใด

หลังจากที่ทานเสร็จ ขอชื่นชมความพยายามที่จะมาที่นี่ของพวกเราจริงๆ เมื่อก้าวเข้ามาในร้านทุกอย่างล้วนดีไปหมด ทั้งบริการ และอาหาร ต่อให้คนเยอะวุ่นวายมากแค่ไหนทุกคนก็ยังต้อนรับเป็นอย่างดี คุณพี่ทอรี่เจ้า ของร้านก็เช่นกัน ลงมือทำและเสิร์ฟด้วยตัวเอง มาถึงตรงนี้ก็เข้าใจได้เลยว่าทำไมที่นี่ถึงดัง ใครๆก็อยากมาที่นี่ เพราะที่นี่เค้าบอกเล่าความเป็นไทยและเอกลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตผ่านทางอาหารได้อย่างน่าประทับใจ



วันที่ 4 -----> วันสุดท้าย ณ ภูเก็ต

วันนี้ขอปิดท้ายอาหารเช้าที่ภูเก็ตดด้วยเมนูติ่มซำอีกเช่นกัน วันนี้เราจะไปกินที่ร้าน

"เก็ตโฮ่ ติ่มซำ (Ket-Ho Dimsum Phuket)"

https://www.facebook.com/kethodimsum/

ไปถึงคนค่อนข้างเยอะ ต้องรอคิวกันอยู่สักพัก ร้านนี้ติ่มซำจะมีให้เราเลือกน้อยว่าร้านแรก แต่ความอร่อยไม่ต่างกัน น้ำจิ้มร้านนี้จะเผ็ดมากกว่าร้านแรกขึ้นมาอีกหน่อย

หลังจากหนังท้องตึง เราก็มุ่งหน้าสู่ "หาดไม้ขาว" เพื่อจะไปถ่ายรูปกับเครื่องบิน ไปทางวัดไม้ขาว เจอสามแยก 7-11 ให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยที่ 6 จะมีจุดบริเวณรถรับส่งไปยังหาดกับที่จอดรถ เพียงแค่คนละ 20 บาท

วันที่ไปคลื่นค่อนข้างแรง ฟ้าปิดแต่ไม่มีฝน อากาศไม่แจ่มใส และช่วงมรสุมจะไม่มีเครื่องบินลงฝั่งหาดไม้ขาว เพราะฉะนั้นเราจะได้รูปแต่เครื่องบินขึ้นนะคะ มันก็จะเซงหน่อยๆ

รอไปพักสักกำลังจะกลับ ฟ้าเริ่มเปิด เริ่มมีความหวัง แต่ก็สมหวังได้แค่นี้แหละคะ เพราะมันเปิดแค่นี้จริงๆ

ถ้าใครจะมาถ่ายรูปเครื่องบินลงแนะนำให้มาช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน รับรองจะได้ไม่ผิดคิวแบบพวกเรา เราแอบสืบมาจากเจ้าถิ่นแล้ว ครั้งหน้าเราจะไม่พลาดแน่นอน

หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็นั่งรถชมวิวไปเรื่อยๆ และแวะทานอาหารที่ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวไง สาขาภูเก็ต"

https://www.facebook.com/ก๋วยเตี๋ยวไง-สาขา-ภูเก็ต

เป็นหนึ่งร้านที่เราปักหมุดไว้แล้ว ก๋วยเตี๋ยวของที่นี่เป็นซีฟู้ดชามยักษ์แบบจัดเต็ม เต็มจริงๆค่ะ เน้นไปหมดเลย เค้าจะมีให้เราเลือกหลายขนาด ตามจำนวนคนที่มา แต่วันนี้เรากินแบบจานใหญ่ที่สุด สำหรับ 5-6 คน

แค่เห็นก็ร้องว้าวแล้ววว น่ากินมากกก เหมือนยกทะเลมาไว้ในจาน แบบจานขาวที่เราสั่งมา สามารถเติมน้ำกับเส้นได้ไม่อั้น น้ำต้มยำคือดีมากกก เปรี้ยวเผ็ดกำลังดี เวลาทานกับซีฟู้ดแบบสดใหม่มันเป็นอะไรที่ดีมากจริงๆ

ฟินแบบสุดๆ กินกันจนไม่เหลือแม้แต่น้ำ เจ้าของร้านถึงกับยิ้มกริ่ม

ใครที่มาภูเก็ตแล้วคิดไม่ออกว่าจะทานอะไรดี ที่นี่คือหนึ่งที่ที่เราอยากจะแนะนำให้มาลองชิม หลังจากทาของคาวเสร็จแล้ว เราก็ต้องตบท้ายด้วยของหวาน ร้านต่อไปของเราคือ "Cafe' Kantary"

https://www.facebook.com/cafekantary

ร้านคาเฟ่ๆน่ารักๆย่านศรีพันวา มีโซนที่นั่งให้เลือกทั้งแบบ Indoor และแบบ Outdoor ก็ตกแต่งร่มรื่น ไม่ร้อน ในส่วนของเมนูของหวานก็มีให้เลือกมากมาย


ส่วนตัวเป็นคนชอบกิน Chocolate มาก ก็เลยเลือกเมนู Chocolate Fudge Brownie เค้าทำออกมาได้อร่อยมากค่ะ บราวนี่ชอคโกแลตร้อนๆเข้มข้นไม่หวานมาก ทานคู่กับไอศกรีมวนิลา ฟินนนน~

ส่วนเครื่องดื่มสั่งน้ำโกโก้ปั่น และไอศกรีมชอคโกแลตเพิ่มอีกหนึ่งถ้วย เข้มข้นกำลังดีเลยค่ะ ไม่หวาน ไม่ขมมากจนเกินไป ทุกอย่างกำลังดี โดยส่วนตัวชอบมาก

หลังจากทานเสร็จ ก็กลับบ้านเพื่อเตรียมตัวเก็บของกลับ และแล้วก็ถึงเวลาที่เราไม่ได้รอคอย TT^TT


สำหรับทริปนี้ สนุกมาก ขอบคุณผู้ร่วมทริปและผู้อุปการะคุณทุกท่าน ที่ทำให้เราได้ไปเที่ยวในสถานที่สวยๆ ได้ทานอาหารอร่อยๆทุกมื้อเลย (อยากกระซิบบอกว่าร้านอาหารอร่อยๆมีอีกเยอะมากกก นี่แค่น้ำจิ้มเท่านั้น) แล้วเราจะมาพบกันใหม่นะภูเก็ต ขอกลับไปปั่นเงินก่อนนะจ๊ะ บ๊ะบ๊ายยยยยย~~


- ปล. -

โดยส่วนตัวเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ชอบเที่ยวคนนึง ไปที่ไหนก็ได้จะใกล้หรือไกลถ้ามีเวลา มีเงินก็ไปหมด เพราะเวลาออกไปเที่ยวแต่ละที่เราได้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกัน เวลาออกไปเที่ยวมันเป็นเหมือนการที่เราได้พาร่างกายไปพักผ่อน ได้ทำได้อยู่กับสิ่งที่เราชอบ มันรู้สึกสนุก ตื่นเต้นในทุกๆวัน เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าพรุ่งนี้เราจะเจออะไร มันจะเป็นแบบที่เราวาดฝันไว้รึป่าว ถึงบางครั้งมันจะเหนื่อยกายไปบ้างแต่มันโครตจะมีความสุขทางใจเลย และอีกอย่างเวลาเราได้ออกไปเที่ยวแล้วเจอสถานที่ที่สวยๆ เจ๋งๆ มันทำให้เรารู้สึกรัก และอยากเก็บมันไว้ให้อยู่แบบนี้ไปตลอด "อย่างที่ไปเกาะไม้ท่อนในครั้งนี้ ที่นี่อาจจะไม่ใช่ทะเลที่สวยที่สุดในโลก แต่ลองไปเถอะคะ แล้วคุณจะรู้ว่ามันก็ทำให้เรามีความสุขตลอดเวลาที่อยู่กับมัน หรือแม้แต่นั่งดูรูปที่เราถ่ายไว้แทนภาพความทรงจำ มันก็ยังคงสร้างรอยยิ้ม และทำให้เรามีความสุขอยู่จนถึงทุกวันนี้"

สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่เข้ามารับฟังประสบการณ์การท่องเที่ยวผ่านตัวอักษรของเรานะคะ หวังว่าไดอารี่เล่มนี้จะทำให้คุณมีความสุข สนุก และพอจะเป็นguidelineสำหรับทริปของคุณได้ไม่มากก็น้อย และขอน้อบรับทุกคำติชมนะคะ แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้าจ้าาาา


Travelis'nice

IG : nicepyp.nice


Travelis'nice

 วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 23.01 น.

ความคิดเห็น