แลยอยักษ์ แลบัวแดง กลางเลน้อย "พัทลุง"

สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงแบบใกล้ชิดด้วยการล่องเรือชมวิถีชีวิตในยามเช้าของชาวพัทลุง

การเดินทาง : เดินทางไปและกลับโดยรถไฟ ขาไป ขบวนที่ 45 ออกจากหัวลำโพง 15.10 ถึงพัทลุง 05.46 โดยประมาณ ส่วนขากลับ ขบวนที่ 170 ออกจากพัทลุง 16.23 ถึงหัวลำโพง 09.00 โดยประมาณ

ที่พัก : ลุงสนั่น โฮมสเตย์ บ้านปากประ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง การมาพักที่โฮมสเตย์ ทำให้ได้ซึมซับวิถีชีวิตของชาวประมงได้จริงๆ

ที่พัก หน้าตาก็จะประมาณนี้ แมวแกเยอะมาก น่ารัก ขี้เล่นดีครับ

มาถึงที่พักก็บ่ายแก่ๆแล้ว พักอาบน้ำ อาบท่า แล้วก็ให้พี่ที่รู้จักกับลุงสนั่นพาไปเที่ยวชมทะเลน้อยครับ

จากนั้นมีฝนตกลงมาปรอยๆ พอให้เย็นชุ่มฉ่ำขึ้นมาบ้าง จากนั้นพี่เขาก็พาไปถ่ายพระอาทิตย์ตกที่สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ครับ

ฟ้ามืด พี่เขาก็พากลับที่พักครับ กับข้าวนั้นใครถนัดทำอาหาร สามารถทำกินเองได้เลย หรือไม่ก็ลุงสนั่นจะทำเตรียมไว้ให้ครับ บรรยากาศเหมือนกลับบ้านต่างจังหวัดไปเยี่ยมญาติพี่น้องเลยครับ จากนั้นก็อาบน้ำ และรีบเข้านอนครับ เพราะลุงสนั่นแกนัดตี 5 เพื่อที่จะไปล่องเรือชมยอยักษ์กลางทะเลและชมวิถีชีวิตในยามเช้าของคนที่นี่ครับ

เช้าวันต่อมา ประมาณตี 5 กว่าๆ ก็ลงเรือแล้วครับ

จุดแรก ลุงแกจะพามาที่ต้นลำพูครับ สามารถเดินลุยน้ำไปถ่ายรูปได้ เพราะน้ำไม่ลึกมาก ระดับหัวเข่าเท่านั้นครับ

จากต้นลำพู ก็จะไปจอดกลางทะเล เพื่อถ่ายรูปยอยักษ์แบบใกล้ชิดครับ ถ่ายรูปจนกว่าจะพอใจเราได้เลย

นี่ครับ โฉมหน้าลุงสนั่น อิอิ

พอถ่ายรูปยอยักษ์จนหนำใจแล้ว แกก็จะพาไปกินข้าวเช้าครับ ที่เกาะๆหนึ่งกลางทะเล อาหารมื้อเช้าที่แกเตรียมมาคือ ข้าวคลุกขมิ้นครับ อร่อยมาก

หลังจากกินข้าวเช้ากันเสร็จแล้ว แกก็จะพาไปทะเลน้อยละครับ ที่ที่มีดอกบัวขึ้นเต็มทะเล ลุงสนั่นแกบอกว่าดอกบัวนั้นสามารถมาเที่ยวชมได้ทั้งปีครับ

ระหว่างไปชมดอกบัว ก็ถ่ายรูปวิวกันเพลินเลยครับ

มีควายน้ำด้วยนะ แต่ควายไม่ยอมลงมาเล่นน้ำ เลยทำได้แค่มองดูจากระยะไกล

เอาล่ะครับ มาถึงแล้ว ทะเลน้อย ชมดอกบัว รับชมได้เลยครับ

สามารถเก็บดอกบัวได้นะครับ นำสายบัวมาทำเป็นอาหารได้ อร่อยครับ

จากนั้น ก็กลับเข้าที่พักในช่วงสายๆครับ กินข้าว (หากไม่อิ่ม) อาบน้ำ แล้วนอนพักผ่อนก็ได้ครับ แต่ผมให้พี่เขาขับรถสองแถวไม้ พาไปเที่ยว นาโปแก ตลาดไผ่ และสวนพฤกษศาสตร์ครับผม จากนั้นก็กลับมาถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินที่สะพานข้ามคลองปากประ

ข้ามมาตอนเย็นเลยแล้วกัน ณ สะพานข้ามคลองปากประ

จากนั้นกลับเข้าที่พักครับ เป็นคืนสุดท้ายที่จะได้นอนที่นี่แล้ว TT

ตัดมาตอนเช้าเลยครับ ที่สะพานข้ามคลองปากประเหมือนเดิม มาถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นครับ

สายแล้ว ก็เข้าที่พักครับ อาบน้ำ จัดกระเป๋า และเช็คเอ้าท์ ไปที่สถานีรถไฟครับ ระหว่างรอรถไฟ ก็เหมาสามล้อหลังสถานีรถไฟให้พาเที่ยว ศาลหลักเมือง วัดคูหาสวรรค์ และวัดถ้ำมาลัยเทพนิมิตรครับ

นอกจากสามที่ที่กล่าวมาแล้ว หากท่านใดคิดว่าตัวเองยังแข็งแรงอยู่ ผมขอแนะนำ ขึ้นเขาอกทะลุครับ เดินขึ้นบันได 1,066 ขั้น แล้วยังมีเชือกให้ปีนไปถึงจุดสูงสุดอีกด้วยครับ

ผมขอจบการรีวิวไว้เพียงเท่านี้ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมนะครับ ^^

สามารถพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือเยี่ยมชมเพจผมได้ตามลิ้งค์ด้านล่างเลยครับ

www.facebook.com/Aekiizz555 (โทรม - Travel)