เชียงดาว ทำไมคนไปเยอะ รีวิวก็เยอะ อ่านรีวิวจนกระตุกต่อมความอยากไป จึงเกิดทริปนี้ขึ้นมา ชวนเพื่อนแล้ว แต่เพื่อนไม่ว่าง ไปคนเดียวก็ได้ ชิลๆอะแก ทริปนี้เดินทาง 11-12 ก.ค. 61
เชียงดาวหน้าฝน ไปคนเดียวได้สบายมาก อ่านรีวิวแล้วรู้สึกชอบวิวดอยหลวงเชียงดาว ต้องได้ไปเห็นกับตาดิวะ เอ้อ.. ช่วงก่อนไป 1 เดือนมีโปรหางแดงออกพอดี เลยรีบจองทันที จองไฟล์ทเช้าสุด ไปถึง สนบ.เชียงใหม่ 06.20 น. เวลากำลังดีเลยแหละ
การเดินทาง
จากตัวเมืองเชียงใหม่ ไป อ.เชียงดาว ขึ้นรถที่ขนส่งช้างเผือก รถประจำทางสาย เชียงใหม่ - ท่าตอน (คันสีส้มนะ) ค่ารถ ไป-กลับ 80 บาท บอกกระเป๋ารถเมล์ว่าลงโลตัสเชียงดาว
จากตัว อ.เชียงดาว ไปที่พัก ใช้บริการรถลุงหนาน แนะนำว่าควรไปถึงเชียงดาวก่อนเที่ยง ไม่งั้นต้องเหมารถขึ้นไป 500-600 บาท (แพงมาก)
ป้าผ่อง เบอร์โทร 093-1311361
ที่พัก
โทรจองล่วงหน้า 1 เดือน พักที่ "บ้านดอยหมอก โฮมสเตย์" ราคาคนละ 600/คืน รวมอาหาร 2 มื้อ
เบอร์โทร 098-7529512
DAY 1
ถึงสนามบินดอนเมือง ตี 4 ซื้อของกินในเซเว่นแล้วมานั่งรอในเกท มันเช้ามาก เช้าเกินไป คนยังน้อยอยู่เลย นึกว่าสนามบินร้าง 5555+
ได้เวลาขึ้นเครื่องบินกันแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่บินไฟล์ทเช้าสุด
05.10 น. เครื่องบิน take off ฟ้ายังมืดอยู่เลย
อยู่บนเครื่องหลับตลอด ตื่นมาอีกทีหันไปนอกหน้าต่าง โอ้โห หมอกสวยจัง เลยรีบหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย
วิวทุ่งนามองจากหน้าต่างบนเครื่องบิน สวยจังเลยเนอะ
06.20 น. ถึงสนามบินเชียงใหม่
เคยอ่านรีวิวมาว่าอย่าโบกรถแดงในสนามบินเพราะแพงมาก ให้เดินไปโบกรถแดงหน้าสนามบิน เราเลยลองเดินไปโบกรถแดง เจอคุณลุงใจดีคิดค่ารถ 40 บาท เรานี่รีบขึ้นรถเลย
พอมาถึงขนส่งช้างเผือก ไปซื้อตั๋วบอกว่าไป อ.เชียงดาว หน้าตาตั๋วจะประมาณนี้ ราคา 40 บาท
นี่คือรถที่เราต้องนั่งไป อ.เชียงดาว รถสีส้มสังเกตุไม่ยากเลย
เราได้ตั๋วรอบ 07.00 น. ระหว่างรอรถออกก็ขึ้นมาเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ เราชอบนั่งหลัง ก็เลยได้ภาพมุมนี้มา (อย่าลืมบอกกระเป๋ารถนะว่าลงโลตัสเชียงดาว ให้พี่เค้าช่วยบอกเราอีกที)
นั่งรถมาสักพัก ใช้เวลาประมาณ 01.30 น. ก็ถึง อ.เชียงดาว
ด้วยความโชคดีเจอคุณลุงขับรถรับ-ส่ง นทท.นั่งอยู่หน้าร้านขายของชำพอดี เราเลยติดรถลุงแกขึ้นไปหมู่บ้านนาเลาใหม่ แถมแกยังบอกให้ไปหาข้าวกินได้ตามสบาย
และนี่ ข้าวขาหมูป้าเพ็ญ อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ ราคาจานละ 40 บาทเอง
ได้เวลาขึ้นดอยกันละจ้า คุณลุงใจดีให้นั่งหน้าด้วยล่ะ ด้วยความที่เป็นรถชาวบ้าน แกก็แวะซื้อของก่อนขึ้นดอย หลายร้านอยู่นะ นี่ถ่ายรูปนี้ตอนลุงหนานลงไปซื้ออาหารปลา 55555
นั่งรถขึ้นดอยใช้เวลาไม่น่าเกิน 40 นาที ก็มาถึงที่พักแล้ว เราพักที่ "บ้านดอยหมอก โฮมสเตย์"
ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย มาคนเดียวแล้วใครถ่ายรูปให้ ก็วานน้องที่ดูแลโฮมสเตย์นี่แหละถ่ายให้ รูปจะเอียงๆนิดนึง 5555555
และนี่คือบ้านพักที่เราต้องนอนคืนนี้ เดินลงไปนิดนึง บ้านอยู่หลังทางขวานู่น
ถึงแล้วจ้า... บ้านพักของเรา ข้างบ้าน หน้าบ้าน วิวสวยหมด สวยจนมองไม่เบื่อ
เตียงของเราคืนนี้ น่านอนชะมัดเลยอะ ที่บ้านดอยหมอก โฮมสเตย์ จริงๆ แล้วบ้านหลังนึงนอนได้ 3 คน แต่เรามาคนเดียวก็จะกว้างๆหน่อย เหงานิดหน่อย 55555
บ้านทุกหลังมีห้องน้ำในตัว ช่วงที่เรามาเหมือนเพิ่งปรับปรุงเสร็จ ห้องน้ำใหม่เอี่ยม สะอาด ให้อยู่หลายๆวันก็อยู่ได้สบายๆ
เนื่องจากมาถึงที่พัก 10.00 น. กว่า เวลาเหลือบานเบอะ เลยมานั่งเล่นที่ร้านกาแฟ บ้านระเบียงดาว วิวสวยมากจริงๆ นี่สินะวิวหลักล้าน
สั่งชาเขียวมากิน เอออร่อยดีอะ
บ้านระเบียงดาว ที่พักยอดฮิตของนักเดินทาง นั่งเล่นถ่ายรูปอยู่ได้ยินเสียงโทรศัพท์เข้าตลอด พร้อมกับประโยคที่ว่า เต็มค่ะ อ๋อที่พักเต็มแล้วค่ะ เห้ยย..มีแต่สายเข้าจะจองที่พักอะ ที่นี่เค้ายอดฮิตจริงๆ
วิวยอดดอยหลวงเชียงดาว สวยจนไม่อยากละสายตา
บ่ายโมงกว่าๆ ไม่มีอะไรทำ สัญญาณมือถือก็หายากเย็น นอนเล่นก็ได้วะ ตัดภาพมาอีกทีรู้สึกตัวตอนสี่โมงเย็น พระเจ้า! หลับแบบไม่รู้ตัว แอร์ไม่มี พัดลมไม่มี ได้ลมจากธรรมชาตินี่แหละ พัดเย็นสบายจนหลับไปหลาย ชม.
ออกมาเดินเล่นถ่ายรูป เดินมาจนถึงร้านกาแฟของ บ้านฮัก เฮือนสุข เลยเข้าไปนั่งเล่นซะหน่อย
ที่นี่ไม่ได้ขายแค่แกาแฟนะ มีอาหารตามสั่งด้วย
สั่งชาเขียวมากินซะหน่อย แก้วที่ 2 ของวัน
ชาเขียวที่นี่รสชาติคล้ายกันหมดเลย แก้วละ 50 บาท อร่อยดีนะ
วิวดอยหลวงเชียงดาว จากร้านกาแฟ บ้านฮัก เฮือนสุข ดี๊ดีอะ ทุกที่ของหมู่บ้านนาเลาใหม่ สามารถมองเห็นวิวสวยๆ ได้หมด
ดอกไม้ริมทาง ถ่ายตอนเดินกลับที่พัก
โฮมสเตย์ตรงข้าม บ้านฮัก เฮือนสุข
วิวดอยหลวงเชียงดาว จากอีกมุม
เดินกลับมาถึงที่พักเจอน้องภู ได้เล่นกับน้องแป๊ปนึง น้องซนมากวิ่งเล่นทั่วเลย ตามจับไม่ทัน 5555+
ผมน่ารักไหมครับ . . .
ได้เวลากินมื้อเย็น เห็นในภาพว่าสวยแล้ว วิวของจริงสวยกว่าเยอะ นั่งกินข้าวท่ามกลางอากาศดีๆ บวกกับวิวยอดดอยหลวงเชียงดาว นี่สินะที่เรียกว่า "ความสุข"
กับข้าวมี 3 อย่าง ไข่เจียว ต้มจืด และผัดผัก ข้าวอีก 1 โถ มาคนเดียวกินไม่หมด เสียดายมาก
ระหว่างนั่งกินข้าวมีเจ้าดำนี่แหละเป็นเพื่อน นางน่ารัก นั่งเฝ้าเฉยๆไม่เข้ามาก่อกวนด้วยนะ แสดงว่าเจ้าของเลี้ยงดีตั้งแต่เล็กๆ 5555+
นั่งกินข้าวคนเดียวเหงาๆ หันไปเจอเพื่อนบ้าน แต่พี่ ผญ. เค้ามากับแฟนสองคน จะชวนคุยก็ไม่กล้า เลยได้แต่ส่งสายตาแล้วยิ้มให้กัน
วันนี้เป็นวันที่นั่งกินข้าวนานสุดอะ นั่งกินไป ถ่ายรูปไป จนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน
รู้สึกอิจฉาคนที่นี่ ได้เจอวิวสวยๆแบบนี้ทุกวัน
หมดเวลาสำหรับวันแรก ต้องเข้าบ้านพักแล้วอะ
21.00 น. อาบน้ำเข้านอน อากาศเย็นมากจนไม่อยากแตะน้ำ แต่ก็ต้องแข็งใจอาบ
DAY 2
เช้าวันใหม่กับอากาศ 18 องศา นี่มันเดือนกรกฎาคมนะเว้ย ถ้ามาเดือน พ.ย. ธ.ค. อากาศคงเลขตัวเดียว
เช้านี้ตื่นสาย ตื่นตั้ง 06.30 น. ที่คิดไว้เมื่อคืนพังหมด จะตื่นมาถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น 55555
อาหารเช้ามาส่งถึงหน้าบ้าน ข้าวต้มร้อนๆ โอวัลติน 1 แก้ว ฟินดีจัง
หมอกสีขาวตัดกับภูเขาสีเขียวในตอนเช้า สวยจัง
อยากเก็บหมอกใส่เป๋ากลับ กทม.
โอย..สวยจังเลย
ท้องฟ้าตอนเช้านี่มันสดใสจริงๆ
และหลังจากกินข้าวเช้า รีบอาบน้ำแต่งตัว เพราะเราจะลงดอยกับป้าผ่อง นัดไว้ 08.00 น. แต่เพิ่ง 07.50 น. ป้าผ่องเดินมาตามแล้วอะ
ต้องกลับจริงๆแล้วใช่ไหม คืนเดียวสำหรับเราน้อยเกินไป รอบหน้าต้องมานอนสัก 2 คืน
ไปก่อนนะ ดอยหลวงเชียงดาว
ต้องไปจริงๆแล้วนะ ไว้จะกลับมาอีกแน่นอน
ระหว่างทางลงเขา วิวสวยจัง
ใกล้ถึงข้างล่าง ฟ้าดูครึ้มๆเหมือนฝนจะตก และนี่แหละคือเสน่ห์ของการมาเที่ยวหน้าฝน
ป้าผ่องมาส่งเราที่ขนส่ง อ.เชียงดาว ค่ารถ 60 บาท จากนั้นเราก็รอรถเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ สายเดียวกันกับขามาเลย คันสีส้ม เชียงใหม่-ท่าตอน ใช้เวลาประมาณ 01.30 น. ถึงตัวเมืองเชียงใหม่
นี่คือการมาเที่ยวคนเดียวครั้งแรกในชีวิต และในอนาคตจะตามมาอีกหลายๆที่ ฝากติดตามด้วยค่า
ไว้เจอกันรีวิวถัดไป บ๊ายบาย..
ฝากติดตามเพจด้วย facebook.com/jarchinmaitravel
Jarchinmaitravel
วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 19.25 น.