..ชั่วโมงต้องมนต์ กับแพมนต์รักษ์ สังขละบุรี

สวัสดีทุกๆท่านนะครับ

พอดีมีโอกาสได้รับเกียรติให้ไปพักที่ แพมนต์รักษ์ สังขละบุรี มาครับ ขออนุญาตินำเสนอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับท่านที่จะไปพักสังขละบุรีนะครับ

แบบ คลิป ครับ

ฝากเพจของพวกเราหน่อยนะครับ ชื่อ " เป็นทางกาญจน์ " อัพเดทเรื่องราวเกี่ยวกับจังหวัดกาญจนบุรี อย่างเดียวครับ

https://www.facebook.com/Pentangkan

แผนที่ ผมตัดมาแค่เฉพาะที่สังขละนะครับ

ถ้าขับรถมาเอง ก็มาทางสะพานปูนครับ ขับไปเรื่อยๆ ถึงสามแยกเลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อยๆจนถึง ซอยสะพานไม้

เลี้ยวซ้ายเข้าไปจนเกือบถึงสะพานไม้ จากนั่นเลี้ยวซ้ายซอยสุดท้าย ท่านจะมองเห็นศาลา ก็จอดรถบริเวณนั่นได้เลยครับ

ถ้านั่งรถสาธารณะมา อาจจะนั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างมาลงที่สะพานไม้ฝั่งไทย จากนั่นเดินข้ามสะพานไม้มาจนสุดสะพาน เลี้ยวขวาเดินไปจนสุดซอยครับ

ถึงตรงนั่นพี่ที่ดูแลแพ ก็จะนำเราเดินไปที่แพล่ะครับ

ระยะทางจากที่จอดรถเดินไปถึงแพประมาณร้อยเมตรได้ครับ ขึ้นอยู่กับระดับน้ำ พวกเราไปกันช่วงหน้าร้อน น้ำลดเยอะเดินไกลหน่อย

ถ้าเป็นฤดูน้ำหลาก ระยะทางน่าจะสั้นลง

แพมนต์รักษ์ สังขละบุรี ตั้งอยู่ฝั่งมอญนะครับ ซึ่งแตกต่างจากแพส่วนใหญ่ที่มักจะอยู่ฝั่งไทย ใครเคยไปสังขละ น่าจะพอนึกออกเนอะ

ตัวแพทำจากไม้ไผ่ครับ มุงจาก คือให้อารมณ์ ชาวเรือ ชาวแพแท้ๆ

แพส่วนใหญ่ที่สังขละจะมี 2 แบบ คือแบบที่ผูกไว้กับตลิ่ง และแบบที่ลากออกไปผูกกลางน้ำ

ซึ่งแพมนต์รักษ์ สังขละบุรี สามารถให้บริการได้ทั้งสองแบบ

มาดูตัวแพกันมั่งนะครับ โครงสร้างปลอดภัยแข็งแรงครับ

สัตว์เลี้ยงก็เข้าพักได้ด้วย

ข้อดีของการผูกแพไว้กับตลิ่งคือ ไฟฟ้ามีใช้ปกติ ไปไหนมาไหนง่าย เดินชมสะพานมอญแล้วเดินมาขึ้นแพก็สะดวก

ดึกๆจะออกไปซื้อของก็ทำได้ง่าย

พื้นที่ใช้สอยบนแพ มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ

มีส่วนทำครัวด้านหลังแพ

พามาดูห้องน้ำหน่อยนะครับ

สะอาด สะดวก สบายมากครับ

สาวๆที่ไปด้วย บอกว่า เยี่ยม

ต่อด้วยห้องนอนครับ กว้างขวางพอสมควร นอน 2 ท่าน สบายๆ

จะมีชุดเครื่องนอน พัดลม เก็บอยู่ในนั่น

พามาดูออฟชั่นอื่นกันมั่งนะครับ

ปล็กไฟ มีให้นะครับ ในกรณีที่เราไม่ได้ลากแพออกไป ซึ่งพ่วงมาจากไฟบ้าน

เตาถ่านและเครื่องปั่นไฟ

เตาถ่าน สำหรับประกอบอาหารบนแพ ปิ้ง ย่าง ต้ม นึ่ง ได้หมด

ส่วนเครื่องปั่นไฟ จะได้ใช้งานตอนที่แพอยู่กลางน้ำครับ

ช้อน ส้อม จาน ชาม แก้วน้ำ กระติกน้ำแข็ง มีให้ครบครับ

หมูกระทะ มีบริการครับ สำหรับดินเนอร์บนแพ แต่ต้องสั่งแยกต่างหาก มีบริการส่งฟรี บอกพี่ที่ดูแลแพได้เลย ล่วงหน้าได้ยิ่งดี

รวมทั้งมีเรือไว้พายเล่นด้วย ลำสีฟ้านะครับ พายไปชมสะพานไม้ยามเย็น การจราจรทางน้ำฝั่งมอญ เรือจะน้อย เรือส่วนใหญ่จะอยู่ที่สะพานลูกบวบเพื่อพานักท่องเที่ยวไปชมโบสถ์จมน้ำ คือถ้าเรือผ่านไปผ่านมาเยอะ มันจะเป็นคลื่น ทำให้เรือเราโคลงไป โคลงมา

แต่เรือเราอยู่ฝั่งมอญ พายได้สบายๆ

พวกเราลองพายเล่นกันครับ พบปัญหาเดียวคือการควบคุมไม่ได้ดั่งใจ พายวนไปวนมา เนื่องจากขาดทักษะการพายเรือ ฮ่าา

มาดูบรรยากาศบนแพกันมั่งนะครับ

ด้านซ้ายของแพ จะเป็นหมู่บ้านมอญ ช่วงเย็นๆก็ได้พบเห็นวิถึชีวิตชาวมอญ

ด้านขวา เป็นสะพานไม้ หน้าร้อนน้ำลดเยอะ เราสามารถเดินเล่นไปถึงใต้สะพานไม้

ด้านหลัง เป็นจุดชมวิว พระอาทิตย์จะตกด้านนี้ นั่งมองแสงสุดท้าย เพลินๆยามเย็น

บรรยากาศบนฝั่ง ช่วงๆเย็นครับ

ภาพบรรยากาศสุดท้ายก่อนที่ พี่วิทย์ พี่คนดูแลแพ จะลากแพออกไปกลางน้ำ

ซึ่งคืนนั่นพวกเรานอนกันกลางน้ำ

คำแนะนำควรเตรียมเสบียงไปให้ครบ ข้าว ปลา อาหาร น้ำดื่ม ถ้าไปถึงกลางน้ำแล้วจะกลับเข้าฝั่ง ต้องอาศัยเรือรับส่งอย่างเดียวครับ

แต่ถ้าเสบียงหมดจริงๆ แจ้งพี่วิทย์ให้แกมารับได้นะครับ

ใช้เวลาลากแพประมาณ 10 นาที พี่วิทย์ก็จะผูกแพไว้กับตอไม้

ลากมาไม่ไกลมากครับ มองเห็นฝั่งอยู่ใกล้ๆ

ความประทับใจสำหรับ แพมนต์รักษ์ สังขละบุรี

นอกจากที่ตัวแพจะให้อารมณ์ชาวเรือ ชาวแพแท้ๆ การใช้ชีวิตบนแพก็ใกล้เคียงกับชาวบ้านที่นี้

อาบน้ำก็อาบแบบคนมอญ ตักน้ำจวงอาบกันแบบชาวบ้านเลย

ฉากด้านหลังเป็นสะพานมอญ มองกันเต็มๆตา ไม่ต้องมีแพโน่น แพนี้มาบัง

สาวๆก็สามารถอาบน้ำได้อย่างสะดวก แต่เครื่องอาบน้ำต้องเตรียมไปเอง

เล่นน้ำยามค่ำคืน ด้านข้างไม่มีแพใดๆเลย เงียบสงบมาก

เสมือนหนึ่งว่ามีสระว่ายน้ำส่วนตัว ขนาดใหญ่ โอบด้วยสะพานไม้ สะพานแห่งศรัทธา

เสื้อชูชีพมีให้ปลอดภัยไร้กังวล

ที่นอนยามค่ำคืนกลางน้ำ พวกเราเลือกที่จะนอนด้านนอก อากาศเย็นสบายมากครับ ขนาดไปตอนหน้าร้อน

ที่หลับที่นอน สะอาด นอนสบาย มีพัดลมให้ด้วยนะ

เมื่อเราอยู่กลางน้ำ ไฟฟ้าก็จะมาจากเครื่องปั่นไฟ ทางแพมีให้บริการครับ

พวกเราเปิดไฟ ชาร์ตแบทโทรศัพท์ เปิดพัดลม ชาร์ตแบทกล้อง ไม่มีอาการไฟตกแต่อย่างใด

ดินเนอร์ยามค่ำคืน ได้พี่วิทย์มาดูแลอีกแล้วครับ ตั้งแต่มารับพวกเรากลับเข้าฝั่งเพื่อไปซื้ออาหารในตัวเมืองสังขละ

รวมทั้งแกยังมาช่วยจุดไฟ ติดถ่าน ย่างหมูให้พวกเรากิน

ก็เลยชวนแกกินด้วยกันเลย สายลมเย็นพัดพา บวกกับหมูกระทะร้อนๆ อิ่มท้อง อิ่มใจมาก

ช่วงดึกได้ยินเสียงเพลง ดังมาจากทางแพฝั่งไทย สอบถามพี่วิทย์ได้ความว่า มีบางแพร้องคาราโอเกะกัน

ได้แต่ถอนหายใจไม่อยากให้สังขละเมืองที่เงียบสงบกลายไปเป็นแบบนั่นเลย

ยามเช้าบนแพกลางน้ำ อีกหนึ่งความประทับใจครับ กับที่พักราคามิตรภาพ แต่วิวหลักล้านแบบนี้

หยิบปฎิทินมาเลือกวัน แล้วเก็บกระเป๋าเถอะครับ

สองใบนี้ถ่ายบนแพ กางขาตั้งกล้องลากไปได้ 4 วิ

น้ำนิ่งมาก ช่วงเช้าอากาศดีมาก มีหมอกลอยเหนือน้ำ เพิ่มบรรยากาศให้มันสุดยอดกว่าเดิมอีกเยอะครับ

หลังจากนั่นพี่วิทย์ ก็พาเราลงเรือพายไปชมวิวสะพานไม้ยามเช้าครับ

แสงยามเช้าสาดกระทบแผ่นน้ำ ที่มีไอหมอกลอยระเรี่ย เป็นนาทีที่สวยงามมาก

หันกลับมาเป็นแพพักของเรานั่นเอง ไม่ว่าจะทางฝั่งสะพานไม้ หรือสะพานปูน

สวยงามมากๆทั้งสองฝั่ง

ขอจบรีวิวไว้เท่านี้ล่ะกันนะครับ

สรุป แพมนต์รักษ์สังขละบุรี เป็นแพพักที่ให้อารมณ์วิถึคนมอญแท้ๆ ได้ใช้ชีวิตแบบชาวมอญ

ตั้งอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบ มองเห็นสะพานไม้ได้แบบเต็มๆตา

พี่วิทย์ พี่คนดูแลแพ บริการดีมาก คอยช่วยเหลือทุกอย่าง ประทับใจมากครับ

ราคามิตรภาพ แต่วิวหลักล้าน จองเลยครับ

สามารถติดต่อได้ที่นี้นะครับ https://www.facebook.com/pages/%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5/861963627160520

โฮมสเตย์ก็มีให้บริการนะครับ