บ้ า น ป่ า บ ง เ ปี ย ง " หุ บ เ ข า แ ห่ ง ส า ย ฝ น "

หุบเขา - สายฝน - ไอหมอก - นาขั้นบันได

การท่องเที่ยวของเราเป็นเชิง " Road Trip " เพราะตลอดเส้นทางจะได้เจอกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากมายที่สวยงามและมิตรภาพการเดินทาง เราไม่ได้มองแค่ปลายทางที่เราจะเดินทางไป เพราะตลอดเส้นทางที่ไปนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวและชุมชนของแต่ละพื้นที่นั้นเป็นกันเองมาก และที่ขาดไม่ได้คืออาหารพื้นเมืองที่ชวนให้เราเลี้ยวเข้าไปหาได้ตลอดเส้นทาง

เราจึงเลือกหน้าฝนเป็นช่วงที่เหมาะแก่การเดินทางไปท่องเที่ยวตามหุบเขาหรือท่องเที่ยวตามธรรมชาติ อากาศหน้าฝนค่อนข้างเย็นสบาย มีไอหมอกหลังจากฝนตก เราจึงเลือกไปที่แห่งหนึ่งที่ค่อนข้างเดินทางยากลำบากพอสมควรในช่วงหน้าฝน แต่เราก็ตั้งใจจะไปที่แห่งนี้ที่เราเองเรียกกันว่า หุบเขาแห่งสายฝน ที่มีทั้ง หุบเขา สายฝน ไอหมอก และจุดเด่นของที่แห่งนี้คือนาขั้นบันได บ้านป่าบงเปียง นั้นเอง ช่วงเดือนกรกฎาคมที่บ้านป่าบงเปียงเป็นช่วงที่พึ่งดำนาเสร็จ เวลามองในทุ่งนาจะเห็นเงาของท้องฟ้าสะท้อนลงมาในนาข้าวจะสวยไปอีกแบบหนึ่ง สำหรับใครที่มาในช่วงหน้าฝน

ขั้นตอนแรกเราคือการกำหนดช่วงปลายเดือนกรกฎาคมเป็นช่วงหน้าฝนพอดีและเป็นช่วงหยุดยาวด้วยพอดีของปี61 บ้านป่าบงเปียงมีที่พักหลายแห่งแต่ละแห่งวิวทิวทัศน์จะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ใครชอบแบบไหน เรียกได้ว่าทุกที่พักสวยทุกที่และเป็นกันเองทุกที่ สามารถเดินไปถ่ายรูปกันได้เพราะผืนนาเชื่อมกันทุกผืนใครมีแรงมากกว่าก็จะได้ไปเก็บบรรยากาศได้มากกว่ากัน ส่วนชาวบ้านที่บ้านป่าบงเปียงน่ารัก เป็นกันเอง คอยแนะนำกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนหุบเขาแห่งนี้ได้อย่างกับเราเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นเลย

ตลอดเส้นทางการเดินทางจากนนทบุรีมีฝนโปรยปรายตลอดเส้นทาง ยิ่งเข้าสู่ภาคเหนือจะมีทั้งฝนที่โปรยปรายและอากาศที่ค่อนข้างเย็น หลังจากฝนตกเส้นทางสู่ภาคเหนือจะมองไปเห็นแต่หุบเขาและไอหมอกเต็มไปหมด

เราเริ่มต้นจากอำเภอจอมทองก่อนที่จะไปบ้านป่าบงเปียงกัน เส้นทางช่วงหน้าฝนเราแนะนำให้ไปทางดอยอินทนนท์ผ่านแม่กลางหลวงแล้วไปทางที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม - โรงเรียนบ้านทุ่งยาว - บ้านป่าบงเปียง หลังจากนั้นทางค่อนข้างเล็กและแคบสวนทางลำบาก มีทั้งทางเรียบและทางขรุขระมีโคลนปะปนกันไป ยิ่งหน้าฝนทางจะค่อนข้างมีน้ำขังทำให้การเดินทางยากลำบากมากขึ้น เส้นสีแดงคือเส้นทางที่ไปบ้านป่าบงเปียงเหมือนกัน แต่หน้าฝนทางนั้นจะค่อนข้างลำบาก ขนาดรถ4X4ยังขึ้นลำบาก ส่วนมากหน้าฝนทางนั้นส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านที่ใช้เส้นทางนั้น

ก่อนจะขึ้นไปบ้านป่าบงเปียงแวะร้านของชำแถวอำเภอจอมทองกันก่อน ซึ่งหน้าร้านมีคุณลุง 2 คน อัธยาศัยดีเป็นกันเองมากเป็นชาวบ้านแถวนั้นคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างแดน เตรียมเสบียงเสร็จเราก็เริ่มเดินทางกันเลย

ทางก่อนขึ้นดอยอินทนนท์ เป็นเส้นทางเดินรถประจำทาง

เราขึ้นมาทางดอยอินทนนท์ระหว่างทางจะผ่าน ตลาดม้ง ซึ่งเป็นตลาดที่ขายทั้งผักผลไม้ของชาวม้ง ราคาค่อนข้างถูกเพราะเป็นสวนของชาวม้งเองเลย และยังมีชากาแฟโบราณรสชาติแบบชาวม้ง...อร่อยดีใครผ่านทางนั้นแวะไปชิมกันได้

บรรยากาศตลาดชาวม้ง

ดอยอินทนนท์ ชาวต่างชาตินิยมมาท่องเที่ยวกันค่อนข้างเยอะ ธรรมชาติบ้านเราสวยไม่แพ้ต่างประเทศเลย

เส้นทางดอยอินทนนท์

ระหว่างทางก่อนขึ้นไปทางบ้านป่าบงเปียง แวะสอบถามเส้นทางกับชาวบ้านท้องถิ่น ไม่มีป้ายบอกทาง

ระหว่างทางเส้นทางค่อนข้างขรุขระ การเดินทางควรเป็นรถกระบะหรือรถ4X4 รถเก่งไม่แนะนำอาจขูดและติดหล่มได้

เส้นทางค่อนข้างขรุขระและมีน้ำขังจากฝนตก รถเรารถติดหล่มไปแล้ว ยังดีที่เราใช้รถ 4X4 ขึ้นไป

เส้นทางก่อนจะถึงบ้านป่าบงเปียง จะมีนาขั้นบันไดเขียวขจี ตลอดเส้นทางเลย

และแล้วเราก็มาถึงบ้านป่าบงเปียง บรรยากาศโอโซนธรรมชาติ และพี่เจ้าของบ้านดาวบ้านดอยก็รีบแนะนำบ้านที่เราจองเข้าพัก จะเป็นบ้านที่อยู่กลางนาขั้นบันไดเลย และให้คำแนะนำเกี่ยวกับบ้านป่าบงเปียงแห่งนี้ ที่นาขั้นบันไดนี้จะได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดเพราะเอาไว้หล่อเลี้ยงนาขั้นบันไดทุกผืน น้ำที่ไหลมาเป็นน้ำที่มาจากน้ำตกแม่ปาน

เรามาถึงที่บ้านป่าบงเปียงค่อนข้างเย็น สักพักก็ค่ำ จะได้ยินเสียงกบเสียงเขียดและเสียงจิ้งหลีดร้องตลอดทั้งคืน อาหารที่บ้านพักก็เป็นอาหารที่เรียบง่ายแบบชาวบ้านๆ ซึ่งเราก็ต้องจุดเทียนและส่องไฟฉายทานข้าวกัน ที่บ้านป่าบงเปียงยามค่ำคืนจะไม่มีไฟฟ้า ไม่มีพัดลม มีแค่กระท่อมหลังน้อยๆกับผ้าห่มและหมอนมาให้ แต่บรรยากาศที่นี้จะค่อนข้างเย็นสบาย ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมกันเลย

หลังจากทานข้าวเสร็จเราก็อาบน้ำรีบเข้านอน เพื่อตื่นเช้ามาดูหุบเขาแห่งสายฝน ที่มีทั้ง หุบเขา สายฝน ไอหมอก และนาขั้นบันไดที่เขียวขจี

บ้านดาวบ้านดอย มีอาหารเช้าและอาหารเย็นให้ทาน อาหารก็จะเป็นอาหารที่เรียบๆง่ายๆ แบบชาวบ้าน อร่อยดี ทานข้าวไปพร้อมกับไอหมอกและหุบเขาสลับสับซ้อนที่เขียวขจี