อส.26 เมืองแห่งขุนเขา โอบล้อมวัฒนธรรม ที่นี่คีรีวงกต จ.อุดรธานี

HIGHLIGHTS

● ล่องแก่งด้วยรถอิแต๊ก เปลี่ยนภาพของการนั่งอิแต๊กชมสวน มาเป็นการท่องเที่ยวที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว

● หมู่บ้านที่โอบล้อมด้วยภูเขา ขนานกับลำธาร ที่หล่อเลี้ยงหมู่บ้านนี้ให้ดูอบอุ่น และน่าสัมพัส ความเขียวขจีของท้องนา เสียงนก เสียงลม กระทบกับตัวเรา ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่พักผ่อนที่ครบรสชาติแบบไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

● เด็ดสุดก็เมนูไก่ย่าง หมดเป็นเล้า อาหารที่เป็นบุฟเฟต์ เติมได้ไม่อั้น เสริฟแทบไม่ทันกะเพราะกันเล้ย

ตารางโปรแกรมของที่หมู่บ้านคีรีวงกต จ.อุดรธานี พักผ่อนง่ายๆ ใช้เวลาแค่ 2 วัน 1 คืน

DAY 1

10:30น. เริ่มต้นกันที่ "ศูนย์รับนักท่องเที่ยวบ้านคีรีวงกต" จะมีรถอิแต๊กจอดรอพาพวกเราเข้าไปเที่ยวในชุมชน จุดหมายปลายทางของการเดินทางในวันนี้คือ ไปทานข้าวบุฟเฟต์ที่ "น้ำตกห้วยช้างพลาย" ซึ่งระหว่างทางเราจะได้สัมพัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน มีไร่นา มีสวน บรรยากาศของภูเขา และเจ้าหมาที่เหมือนเราแวะไปรับนางทีละตัว ทีละบ้าน นางก็จะวิ่งตามมาเรื่อยๆ จนถึงน้ำตก ฮ่าๆ

[ก่อนมาฝนตก ดินแดงก็จะประมาณนี้แหละค่ะ] 55555

นิก็เป็นอีก 1 ไฮไลท์ ที่เรียกว่าล่องแก่ง ลุยห้วยน้ำฮวย คุณพี่ผู้ใหญ่บ้านได้กล่าวไว้ว่า หากมาตอนน้ำขึ้นมิสามารถพามาล่องแก่งได้เด้ออิพ่ออิแม่

12:00น. ถึง "น้ำตกช้างพลาย" จุดนี้เราจะสามารถเล่นน้ำได้ ระหว่างรอคุณลุง คุณป้า เตรียมอาหารให้พวกเราก็เดินไปเที่ยวน้ำตกที่อยู่ใกล้กับจุดพักทานข้าวได้ แต่เห็นว่ามีปลาที่นักท่องเที่ยวสามารถเรียกแล้วพวกนางก็จะพากันว่ายมาหา มาเล่นด้วย แต่เรายังไม่ได้เห็น เพราะว่าไม่ได้เดินไปดู อิอิ

เมนูอาหารบุฟเฟต์ตอนเที่ยง มื้อแรกของเราที่ได้ทานที่นี่ เมนูอาหารแต่ละอย่างมองดูแล้วก็จะดูธ๊รรมด๊าธรรมดา แต่พอได้ฟังคุณพี่ผู้ใหญ่สรรเสริญอาหารแต่ละอย่างให้ฟัง ทำเอาพวกเราสามคนถึงกับทานเรียบไม่เหลือสักอย่าง โดยเฉพาะไก่ย่าง รีวิวนี้ก็จะถือโอกาสพรรณา สาธยายเมนูอาหารเหล่านี้ต่อจากคุณพี่ผู้ใหญ่นะคะ

มากันที่เมนูแรก ขอเสนอ ข้าวเหนียวนึ่งใบเตยหอม ที่เค้าว่าทานกันได้ถึง 6 คนก็พากันจุกตายแล้ว แต่เรา 3 คนเองค่ะ ที่สามารถฟาดเข้าท้องของพวกเราอย่างไม่คิดถึงความจุกของท้องใดๆ จนคุณพี่ผู้ใหญ่ได้มากล่าวใส่พวกเราว่า "แบบนี้มันเลี้ยงไม่ไหวแล้ววววว"
ไก่ย่าง สูตรเฉพาะของที่นี่ เพราะทานแล้วเพื่อนเราคนนึงบอกว่านิมันไก่ทอดดดด น้ำมันไม่ต้อง ย่างอย่างเดียวก็ได้อารมณ์ถึงความกรอบ รวมๆกับความนุ่ม พวกเราขอเบิ้ล 2 จานจ้าาาาา
ส้มตำปูดอง ความปูดองนี้นั้นนนนนนน เราไม่ได้กินจ้าาา
แกงส้มมัจฉาใส่นางตานี นางตานีที่ว่าก็คือ หยวกกล้วยตานี ผลิตภัณฑ์โอทอปของหมู่บ้าน ที่ว่าโอทอปก็เพราะเค้าปลูกกันเอง แล้วนำมาประกอบอาหารประยุกต์ใส่กระบอกไม้ไผ่ ไอเดียดี รสชาติก็ดียยยยย์
ปลากระชังแม่น้ำโขงนี้นั้น ความเค็มที่ซึมเข้าไปถึงเหนือ ทานกับข้าวเหนียว แซ่บอย่าบอกใครเล้ย
และน้ำจิ้มมะขามเปียก สูตรเฉพาะ คุณพี่เค้าว่างี้ ทานกับอะไรก็แซ่บหลายยยยยย

สำหรับเมนูอันนี้ให้ 8/10 ตอนนี้ก็ยังแยกไม่ออกว่าหิวหรืออร่อย ที่แน่ๆ ฟาดหมดทุกอย่าง!!!

18:30น. ช่วงเย็นๆ ก่อนทานอาหารจะมีกิจกรรมผูกข้อมือ

หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "รับขวัญบายศรี"

พิธีกรรมสั้นๆ แต่อบอุ่นเว่อร์!!

DAY 2

ไฮไลท์ของวันที่ 2 คือการขึ้นมาดูทะเลหมอกบนจุดชมวิว "ทะเลหมอกคีรีวงกต"

เราจะมองเห็นหมู่บ้านชุมชนจากมุมสูงนี้ และนี่คือคำตอบของหมู่บ้านที่ว่า "อ้อมกอดแห่งขุนเขา"

ก่อนจะขึ้นมาเจอวิวแบบนี้เราต้องทำการผ่านเข้าสวนยางของชาวบ้านที่นี่แบบนี้!!

กาแฟยามเช้า อย่าได้หิ้วขึ้นรถอิแต๊กมาด้วยเชียว ร่างกายอาจจะเต็มไปด้วยกลิ่นกาแฟ ไม่ก็โอวันติน...

จากสีหน้าของนางความฟินเบอร์ 10 เจ้าค่าาา ★★★★★★★★★★

ระหว่างทางขึ้นไปชมหมอกของหมู่บ้าน ทุลักทุเลขนาดไหนก็ดูเอาจากอิแต๊กคันหน้าเนอะ ^^

จบทริปแล้วนะ ขอลากลับบ้านก่อน แล้วจะบอกว่านอกจากที่นี่จะสวย อบอุ่น และปวดตูดมากมากแล้วนั้น วิวสองข้างทางขาไปและขากลับก็สวยงามไม่แพ้กัน ไม่เชื่อก็ไปดูที่ไอจีเราได้ ลงรูปเยอะเดี๋ยวเค้าจะบล็อกเราแล้ววววว ^^ ::: Fahfariy :::

ภาพโพลาลอยด์นี้ก็จะแทนคำขอบคุณ คุณพี่ที่พาเราไปดูนู้นดูนี่ด้วยรถอิแต๊ก ตลอด 2 วัน ให้จอดคุณพี่ก็จอด ขึ้นรถช้ากว่าชาวบ้านคุณพี่ก็รอ เลยถ่ายให้ 1 ใบ คุณพี่ก็ยิ้มมีความสุข พร้อมโชว์เพื่อนๆว่า เมิงอะมีไหม โอ๊ยยย น่ารักเบอร์แรงง