สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนครับ ครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวครั้งแรกของเราสองคน ❤ ก่อนที่จะมาเกาะหลีเป๊ะได้มันยากลำบากซะเหลือเกิน คือ เราตกลงกันไม่ได้ว่าจะไปเที่ยวไหนดี วางแผนวันที่ไปแล้ว แต่ยังไม่มีจุดหมาย ! ห้ะ !! จะไปเที่ยวสัปดาห์หน้าแล้ว ยังตกลงกันไม่ได้ซักที คิดจะไปเที่ยวมาเป็นดือนแล้ว สรุปที่ไปยังไม่ได้เลย เดี๋ยวเกาะห้อง กระบี่ (แฟนเราอยากไปมาก) เดี๋ยวหมู่เกาะสุรินทร์(เราอยากไปเอง)เราก็อยากตามใจแฟน แต่เราไม่อยากไป 5555 ดูเรื่องมากนะ แฟนเราก็ไม่ไปหมู่เกาะสุรินทร์เพราะไม่อยากนอนเตนท์

สุดท้ายเราก็นั่งดูรีวิวกันไปเรื่อย ๆ เจอรีวิวของหลีเป๊ะปั่นหัวไปเรื่อย ๆ เห้ยมันโอเคหว่ะ เอ้าตกลงไปหลีเป๊ะกัน

มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้


***รูปใต้น้ำปะการังเยอะมาก***

***รูปใต้น้ำถ่ายด้วย Gopro Hero 4 Silver นะครับ***

กระทู้นี้เป็นการรีวิวครั้งแรกของเรานะครับ อาจจะไม่ละเอียดเท่าไหร่ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย


เริ่มต้นการเดินทางครับ เราจะจองเครื่องบินมันคงไม่ทัน จองใกล้ ๆ แพงเหลือเกิน (เราอยู่ต่างจังหวัดด้วยสิ) เรียนม.ขอนแก่น เราเรียนศิลปกรรม แฟนเราเรียนสถาปัต แหม๋ เข้ากันดี 5555

เราก็ตกลงกันไปรถไฟ ลำบากนิดหน่อยก็เอา เราจึงไปจองตั๋วรถไฟ กรุงเทพฯ - หาดใหญ่ ขบวนที่ 35 บัตเตอร์เวอร์ธ

ค่าเสียหายไปทั้งเตียงบนและเตียงล่าง 1800 บาท (ก่อนหน้านี้นั่งรถทัวร์เข้ามานะกรุงเทพนะครับ)



เอาเป็นว่าตัดภาพมาที่หัวลำโพงเลยแล้วกัน



กล้องนี่พี่ที่รู้จักให้ยืมมาครับ เราได้กล้องก่อนมาเที่ยว 1 วัน ไม่เคยถ่ายกล้องโปรด้วย หาอ่านใน Google ก็ตอนนั่งรถมากรุงเทพนี่แหละครับแต่เราคิดว่าอย่างน้อยๆ ท่ายืนมันต้องได้ ท่าจับนี่ต้องโปร เท่ไว้ก่อนนนนนน 55555

***ขออภัยถ้ารูปไม่สวยนะครับ มือใหม่ ใหม่สุด ๆ เลยครับ ครั้งแรกเลยกับกล้องโปร ติชมด้วยนะครับ***

หลังจากซื้อตัวเสร็จ เหลือเวลาอีก ประมาณชั่วโมงครึ่งก่อนรถไฟจะออก เราเลยเดินไปหาของกินแถวหัวลำโพง

ไปเจอร้านอาหารตามสั่งแถวนั้น ก็เลยแวะกิน หน้าตาอาหารก็เป็นแบบนี้แหละ เราสั่งกระเพราไก่ไข่ดาว แฟนเราสั่งข้าวไข่เจียว

ตอนเรากำลังกินแฟนเราไปเข้าห้องน้ำ แฟนเราบอกว่าห้องน้ำสกปรกมาก จานที่กินเสร็จแล้วทั้งหนูทั้งแมลงสาบวิ่งเต็มแล้วแฟนเราบอกตอนเรากินเสร็จแล้ว แต่แฟนเราไม่กินต่อเลย เราก็คิดว่าซวยไปแล้วกัน


พอกินเสร็จเราก็กลับมาที่หัวลำโพงถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยเหลือเวลาเยอะก่อนขึ้นรถไฟ เราก็หัดใช้กล้องลองถ่ายไปเรื่อย


และแล้วก็ขึ้นรถไฟเอาของไปวางไว้เตรียมพร้อมออกเดินทาง บรรยากาศบนรถไฟช่างน่านอนมาก แอร์เย็นเหลือเกิน




ก๋วยเตี๋ยวนครปฐม - ราชบุรี นึกว่าทำร้านเดียวกัน เหมือนกัน เราก็ดันซื้อทั้งสองที่นะ อร่อยเหมือนกัน


ตัดภาพมาอีกที ถึงสถานีรถไฟหาดใหญ่แล้ว ถึงประมาณ 7 โมงเช้าได้ เราก็โอ้เอ้ เดินเล่นซื้อของกินแถวนั้น

จากนั้นต่อรถ ไปคิวรถตู้ตลาดเกษตร นั่งไปด้วยรถโดยสารคันเล็ก ๆ

จากนั้น เราก็ซื้อตั๋วรถตู้ หาดใหญ่ - ท่าเรือปากบารา เดินทางราว ๆ 2 ชั่วโมง เรานั่งหน้าข้างคนขับ ทางโค้ง หวาดเสียวเหลือเกิน แต่ว่าคนขับรถเราขับปลอดภัยมากเลยนะ ถ้าไปไม่ได้ไม่ทันจะไม่เสี่ยงเลย

และแล้วเราก็มาถึงท่าเรือปากบารา เราจองตํ๋วเรือ ไปกลับของหลีเป๊ะเฟอร์รี่ โอเคมากเลยนะครับไปกลับคนละ 900

มาถึงท่าเรือรีบมากเลยครับ ด้วยความที่ไม่เคยมากลัวจะไม่ทันรอบเรือ ตกเรือ เลยไม่ได้ซื้อของอะไรจากท่าเรือเลย

เราเสียดายไม่ได้ถ่ายรูปตรงแลนมาร์คของท่าเรือปากบาราเลย

เสียค่าธรรมเนียมแล้วเราก็มายืนรอตรงท่าเรือ กลัวหลงมากเลยตอนนั้น แต่ตอนไปเอาบัตรขึ้นเรือของหลีเป๊ะเฟอร์รี่

เขาให้เราติดสติกเกอร์ พอเรามีสติกเกอร์เขาก็เรียกเราขึ้นเรือ สบายใจละ

นั่งเรือสักพัก เราก็มาถึงที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ขึ้นเกาะไปเสียค่าธรรมเนียมตามสเต็ป

เขาบอกว่าให้เก็บไว้ดีดีเผื่อมีเจ้าหน้าที่เรียกตรวจจะได้ไม่เสียเงินซื้อใหม่อีก

เราลงไปไม่นานคนเรือบอกว่าให้รีบไปเพราะว่าเดี๋ยวน้ำขึ้นจะลงไปเกาะไข่ไม่ได้

และแล้วหลังจากการเดินทางเอาทรหดของเรา ก็มาถึงจุดสิ้นสุดสักที เห็นทะเลที่นี่แล้วหายเหนื่อยเลย

พอมาถึงสปีดโบ๊ทก็ส่งเราที่โป๊ะ แล้วเราก็นั่งเรือหางยาวต่อเข้าฝั่ง เสียค่าเสียหายคนละ 50 บาท

คือแบบว่าน้ำใสมากกกกกกก

พอถึงหาดพัทยาเราก็ขึ้นแท็กซี่เสียค่าเสียหายไปคนละ 50 บาท ไปส่งที่พัก เบย์วิว ซันเซ็ท

เราก็เช็คอินแล้วเอาของไปเก็บที่ห้องพัก เราโอนเงินมัดจำมาก่อนแล้วก็จ่ายค่าเสียหายที่เหลือ



พอถึงห้องพักแล้วหายเหนื่อยเลย วิวสวยมาก นอนมองทะเลได้ทั้งวัน ห้องน้ำเป็นกระจกมองเห็นทะเลเหมือนกัน

เราก็ซื้อของกินจากวอร์คกิ้งสตรีทมาไว้นิดหน่อย พอเรานั่งพักสักแปปก็เดินลงไปเล่นหาดหน้าที่พักกัน

หาดหน้าทีพักเราว่าโอเคมาก เงียบสงบ เป็นส่วนตัว สามารถ snorkeling หน้าหาดได้อีกด้วย


เย็น ๆ เราได้ไปเดินเล่นแถววอร์คกิ้งสตรีทหาของกินด้วย หาทริปดำน้ำวันต่อไป ไปได้ของไทยบีช

เราก็กลับมาตกลงกันจะไปรอบนอกหรือรอบใน ใจเราอยากไปรอบนอก แต่เขาบอกว่าคลื่นแรง ถ้าว่ายน้ำไม่แข็งอย่าดีกว่า

อันตราย เราก็ว่ายไม่แข็ง แฟนเราก็เหมือนกัน แต่อยากไป สุดท้ายเราก็โทรไปบอกเค้า ไปรอบนอก

จองพร้อมอาหารเที่ยง แล้วเช่าสน๊อคด้วย ค่าเสียหาย ค่าทริปรอบนอก 2000 สน๊อค 100 อาหาร 200 (เหมาลำ)

ว่าง ๆ อยู่ในที่พักก็ถ่ายรูปเล่น ❤

ตัดภาพมาอีกที ตอนเช้าแล้วกัน เขานัดเวลา 9.00 เราตื่นนอนเสร็จ อาบน้ำเตรียมของทำภารกิจส่วนตัว เดินเท้าออกมาหาดพัทยา ระหว่างรอคนอื่นเค้าก็มารอเหมือนกัน ส่วนมากมีแต่ฝรั่งคนไทยน้อยมาก เท่าที่เราสังเกตุได้ประมาณ ไม่ถึง 10 คน ในตอนที่รอขึ้นเรือของทัวร์เราตอนเช้า


ประมาณ 8.30 มารอเรียกขึ้นเรือ เราได้เรือคนแรก ๆ เลย กัปตันเรือเราชื่อ พี่เอ็ก

และแล้วเราก็ออกเดินทาง มุ่งหน้าสู่เกาะหินซ้อนเป็นเกาะแรก

เกาะหินซ้อน

และแล้วเราก็ลงดำน้ำบริเวณเกาะหินซ้อนเป็นที่แรก ไม่แน่ใจว่าเป็นเกาะไผ่รึป่าวจำไม่ค่อยได้ครับ

กัปตันเรือเราลงไปลากห่วงยางให้แฟนเราเกาะ แล้วพาไปดู จุดต่าง ๆ

ปะการังที่นี่สวยและสมบูรณ์มาก เราเคยไปเกาะพีพีกับเพื่อนครั้งนึง ให้เราดำดูอะไรก็ไม่รู้ ตอนนั้นก็ว่าตื่นเต้นแล้วนะ

หลังจากขึ้นมาดำน้ำบริเวณแรก ก็ไปดำน้ำจุดต่อไป ลืมชื่อหมดแล้วครับ ขออภัยด้วย

กัปตันเรือบอกแถวนี้ปลาดาวเยอะ ดูปลาดาวกันดีกว่าไม่ค่อยมีคนด้วย

หลังจากดำน้ำจุดที่แล้วเสร็จ เราก็ไปชมเกาะรอกลอย ที่นี่น้ำใสมาก ๆ กัปตันบอกมีจุดชมวิวข้างบนด้วย

พอชมวิวจากเกาะรอกลอยเสร็จ เราไปแวะพักรับประทานอาหารเที่ยงที่อ่าวลิง ลิงเยอะมาก แย่งผลไม้นักท่องเดียวด้วย



เรามาดูหน้าตาอาหารเที่ยงที่เค้าจัดมาให้เราดีกว่า

ค่อนข้างจะโอเคครับ ให้พอดีอิ่ม และรสชาติใช้ได้


กัปตันบอกหลังจากกินข้าวเสร็จให้เวลาพักผ่อนที่นี่ จะไปตอนไหนให้บอกแล้วกัน เราก็เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย

พอคนเริ่มมาเยอะขึ้นเราถึงออกเดินทางไปจุดดำน้ำต่อไป


จุดดำน้ำต่อไปอยู่หน้าอ่าวลิง กระแสน้ำตรงนี้ค่อนข้างจะแรงนิดนึง

แต่ส่วนมากตรงนี้เราจะถ่ายรูปและวีดีโอมากกว่า ไม่ค่อยได้ดำน้ำเท่าไหร่

หลังจากที่เราถ่ายรูปเล่นเสร็จกัปตันบอกมุ่งหน้าสู่เกาะผึ้ง แต่วันนี้เราจะไม่ได้ไปร่องน้ำจาบังนะ


แกชี้กระแสน้ำให้ดูบอกแรงกว่าตรงนี้หลายเท่า(เรือขับผ่านพอดี) เราก็บอกไม่เป็นไร ไม่ไปก็ได้ อันตรายเราด้วย

แกบอกว่าถ้าจะมาให้มาแรม 8 ค่ำน้ำจะนิ่ง ดำง่าย ถ้าไปตอนนี้ไปก็ไม่เห็นอะไร


และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นที่เกาะผึ้งนี่แหละ เราก็ไม่ใส่ชูชีพโดดลงไปเหมือนเดิม

เขาจะมีเชือกกับทุ่น ให้เกาะ เลาะไปตูตามแนวปะการัง ตอนนั้นเองกระแสน้ำแรงมาก กางเกงเราหลุด

เราก้มไปใส่ทันทีโดยที่ลืมว่าเราสน๊อคอยู่ น้ำเข้าท่อสิครับ สำลัก แล้วก็สำลัก !! ดื่มน้ำทะเลเข้าไปเต็ม ๆ

กัปตันเรือตะโกนมาถามว่า ไหวไหม ? ผมอยากตอบว่า ไม่ไหวแล้วครับ แต่ลมมันหมด พูดไม่ได้

หายใจน้ำก็เข้า คือตอนนั้นเราตกใจมาก มองไปทางไหนเค้าก็มองเราหมด แต่เราก็ยังไม่หายใจนะ

เรากลั้นใจอีกนิดว่ายไปหากัปตันที่กำลังมารับเรา เขาพาเราขึ้นเรือ คนแถวไทยแถว ๆ เกาะผึ้งวันนั้นไม่ต้องตกใจนะครับ

เราลงไปดำน้ำนิดหน่อย 5555 หลังจากนั้นกัปตันบอกเราที่คนจมน้ำเพราะสำลักน้ำนี่แหละ ไม่ต้องลงแล้ว เอากล้องมา เดี๋ยวลงไปถ่ายให้


และนี่ คือหน้าตาของเกาะผึ้งอันโหดร้าย (แต่มันไม่แย่อย่างที่คิดนะครับ เราซ่าไม่ใส่ชูชีพเอง)

แต่ว่าใต้น้ำที่นี่ สวยงามตามจากกระแสน้ำอันรุนแรงบนบกมากเลยครับ เราได้ดูอยู่ไม่นานก็จมน้ำขึ้นเรือ นี่กัปตันถ่ายมาครับ

แกลงไปถ่ายตามฝูงปลานี่ตั้งนาน แกบอกไม่เคยเห็นมันมาที่เกาะผึ้งเลย ถ้าเราจำไม่ผิด น่าจะชื่อ ปลามง

เห็นบอกว่าชาวเลย์ชอบจับไปกิน อร่อยมาก แต่ที่นี่ห้ามจับ

และแล้วก็มาถึงจุดสำคัญ พลาดร่องน้ำจาบังแต่ต้องได้เห็นปะการังเจ็ดสีบ้างแหละ มาหลีเป๊ะทั้งที

มันสวยจริง ๆ ทั้งปะการังอ่อน กัลปังหา ปลาทะเลสวยงามหลายชนิด เกินคำบรรยาย ต้องไปเองแหละ

เรานั่งรออยู่บนเรือสักพักก็ออกเดินทางต่อ ไปเกาะหินงาม

เกาะหินงาม

ถ่ายรูปไม่ค่อยเยอะนะครับ แดดเริ่มร้อนแล้ว ที่ผ่านเราไม่ได้ทาครีมกันแดดเลย ลืมซื้อมาจากฝั่ง

ดูราคาบนเกาะแล้วแพงซะเหลือเกิน เลยคิดแค่วันเดียวเท่านั้นแหละ สุดท้ายกลับไปดำ 555555

และแล้วการดำน้ำของเราก็จบลง มุ่งหน้ากลับสู่เกาะ โดยผ่านร่องน้ำจาบังซึ่งไม่ได้ลง เพราะ กัปตันแกห่วงเรา

แกก็บอกว่า แกอะไม่รีบ เหมามาแล้ว กลับตอนไหนก็ได้ แต่เราก็เลือกที่จะกลับครับ ประมาณสี่โมงเย็น ตรงเวลาเป๊ะ

และแล้ว เราก็มาถึงฝั่งกันอย่างปลอดภัยเราก็กลับไปอาบน้ำแล้วหัวค่ำก็ออกมาหาดพัทยา เดินวอร์คกิ้งสตรีท

ส่วนมากตอนอยู่วอร์คกิ้งสตรีทเราจะไม่ได้ถ่ายรูปจะถ่ายวีดีโอมากกว่า กำลังตัดต่ออยู่ 5555

อาหารที่เรากินก็เป็นของทั่วไปไม่ได้เข้าร้าน ส่วนมากจจะเซเว่น เราสองคนติดน้ำโค๊กมากเลย หมดไปเยอะมากกับค่าโค๊ก

แล้วเราก็กลับเข้าที่พัก เราไม่ค่อยได้ถ่ายรีวิวที่พักเลย แต่ค่อนค้างโอเค พนักงานบริการดี เป็นกันเอง ปลอดภัย สะอาด

ก่อนไปเราอ่านรีวิวที่พักนี้โอเควิวสวย แต่ยุงเยอะ เราไม่เจอเลย สงสัยจะปิดห้องตลอดด้วยแหละ

และแล้วเช้าวันต่อมาเราก็เช็คเอาท์และเดินทางกลับ พนักงานก็เรียกแท็กซี่มารับประมาณเที่ยงครึ่ง เพราะเรากลับบ่ายครึ่ง

พอเราไปถึงเรือหางยาวขึ้นไปเรียบร้อย ขึ้นโป๊ะเรียบร้อย เอาใบเสร็จไปแลกบัตรคิวเท่านั้นแหละ น้องค่ะ ! หลีเป๊ะเฟอร์รี่ ขึ้นโป๊ะเล็กค่ะ

โป๊ะเล็ก!! ตอนเรามา เราไม่ได้สังเกตุว่ามีโป๊ะเล็ก ขนาดเรือที่เราจองเขาเขียนระบุมาให้แล้วนะ ถ้ากดสปอยดูแรก ๆ จะเห็น

วงเล็บ โป๊ะเล็กมาให้ ไอ้เราก็ดันเซ่อซ่าไปผิดอีก เอาไงหล่ะทีนี้ เวลาก็บ่ายโมงนิด ๆ ละ จะให้ว่ายน้ำข้ามไปคงไม่รอด 5555

พี่ ๆ คนแนะนำรีสอร์ทแถวนั้นเลยไปคุยให้เรานั่งเรือหางยาวที่เค้ามาส่งรอบต่อไป ให้ไปส่งเราที่โป๊ะเล็ก ไม่เสียตังด้วย

ได้นั่งเรือหางยาวกลับสองคนอีก อะไรจะดีแบบนี้ และแล้วเราก็ขึ้นโป๊ะเล็ก รอเรือมารับกลับ ขากลับไม่มีรูปนะครับ หลับยาวววววววววว

ยาววววววมากครับ ยาวจนถึงงงกรุงเทพเลยยยยยยย

สรุป

โดยรวมแล้วการท่องเที่ยวครั้งนี้น่าประทับใจมากครับ ทะเลสวย ปะการังสวย ราคาก็โอเคถ้าบริหารเงินดีดี ไม่เกิน 6-7 พันก็เที่ยวได้แล้วครับ

ถ้าใครไปขอแนะนำลองไปพักที่ Bayview Sunset นะครับ อยู่ไกลจากหาดพัทยามากเพราะคนละฝั่ง การเดินทางมาวอร์คกิ้งสตรีทต้องเรียกแท็กซี่แต่ว่าเราเดินตลอดทุกครั้งที่ไปกลับ ยกเว้นตอนมาถึงเกาะครั้งแรกและตอนกลับ เพราะว่าของหนักครับ เราเอามาหลายอย่าง โน๊ตบุ๊คก็เอามา 5555 ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าเราจะไปอีกครับ แต่ว่า ปิดเทอมพฤษภานี้เราว่าจะไปเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ สิมิลัน ไม่ก็ทางฝั่งพม่า กำลังคิดอยู่เพราะอยากจะจองเครื่องบินล่วงหน้าไว้ก่อน การเดินทางเราจะได้สะดวกสบายกว่านี้

สุดท้ายนี้ยังไงก็อยากจะชวนเพื่อน ๆ ให้ไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะกันเยอะ ๆ นะครับ ไม่แพงอย่างที่คิด อีกอย่างปะการังสมบูรณ์มาก

ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้แนะนำดูรีวิว ดูรูปเยอะ ๆ ครับ ให้มันปั่นสมองไป ไม่นานจะเกิดกิเลส เราเป็นมาแล้ว 5555

และก็ขอขอบคุณที่มานั่งอ่านกระทู้เราจนจบ เป็นการเขียนครั้งแรกของเรา ถ้ามันผิดพลาดยังไงขออภัยไว้ด้วยนะครับ

ครั้งหน้าถ้าเราไปเที่ยวจะเขียนรีวิวลงอีกครับ รอติดตามด้วยนะครับ

ค่าใช้จ่าย

ราคาที่พิมพ์บอกคือรวมสองคนนะครับ

- ค่าเรือไปกลับ 1800

- ค่ารถไฟไปกลับกรุงเทพ - หาดใหญ่ 3600

- ค่ารถตู้ทั้งไปทั้งกลับ 600

- ค่าต่อโป๊ะ 2 รอบ 200

- แท็กซี่ในเกาะ รับ - ส่ง 200

- ค่าเหมาเรือรอบนอก สน๊อก ข้าวกลางวัน 2300

- ค่าที่พัก Bayview Sunset บังกะโล 2 คืน 2000 **

- ค่ากินค่าใช้ของเรารวมกันประมาณ 2-3000



รวมค่าเสียหายทั้งหมดประมาณ 14000 หารกันก็ตกเฉลี่ย คนละประมาณ 7000 ได้ครับ

ถ้าไปจอยทริปดำน้ำน่าจะถูกกว่านี้ แต่เราอยากเป็นส่วนตัว

**ที่พักเราได้ราคาถูกมากวิวสวย คุ้มราคาสภาพห้องโอเค

ความคิดเห็น