หลังจากเขียน Part 1 เสร็จไปก็เพิ่งจะมีเวลาว่างมาเขียน Part 2 ต่อครับ Part นี้สนุกและเข้มข้นกว่า มีทั้งเจอเพื่อนใหม่อาหารการกินที่ดีขึ้น เที่ยวเมืองสวยๆ ของ ลาสเวกัส และ บอสตัน จะช้าอยู่ใยเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

Part 1 >>> https://th.readme.me/p/1830 เป็นช่วง 7 วันแรกของทริปครับ

Part 2 ผมจะพาไปเที่ยวลาสเวกัส ไปดูการประกวด Miss Universe 2015 ที่เป็นที่กล่าวขานที่สุด ในการประกวด Miss Universe เลยก็ว่าได้ มันส์มากกกกกกกกกกก / หลังจากนั้นก็จะข้ามฝากกลับไปเที่ยวที่บอสตัน เมืองแห่งการศึกษา ผู้คนน่ารัก / แล้วกลับไปเที่ยวนิวยอ์กอีกครับ รอบนี้พาไปทานอาหารอร่อยๆ ทั้งอาหารฝรั่ง และอาหารจีน

วันที่ 8 (19/12/15)

เช้านี้ที่ JFK เราจะบินไปลาสเวกัสด้วยสายการบิน Delta Ariline ครับ เราจองไฟล์เช้าเลย เพื่อนที่จะได้ถึงไม่เย็นมาก จะได้เดินเที่ยวก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ออกมาจากที่พักมาถึงสนามบินเวลาแแปดโมงครับแนะนำให้ใช้ Uber นะครับจะถูกกว่า Yellow Taxi และจะแม่นเส้นทางมากกว่า ถึงสนามบินตามเวลาที่กำหนด ตอนนี้ไม่อยากลงจากรถเลยอากาศด้านนอนรถแบบหนาวมากกกกกกก ลงไปรอเอากระเป๋าแล้วถึงกับยืนเฉยๆ ไม่ได้ต้องกระโดดตลอดเวลา ลองไปดูหนังฝรั่งสิครับ เวลาหนาวมากๆ คุยกันจะมีควันออกมาจากปาก และจะกระโดดโหยงๆ ตลอดเวลา เป็นการวอมร่ายกายให้อบอุ่น เรามาเช็คอินเตรียมขึ้นเครื่อง สายการบินภายในประเทศของเมกาส่วนใหญ่ จะให้เอากระเป๋าขึ้นไปด้วย 1 ใบน้ำหนักไม่เกิน 7 kgs. ถ้าใบสองจะต้องเสียเพิ่มใบใล $25 ครับแพงเอาเรื่องเลยที่เดียว การบินครั้งนี้ใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมงครับ บินออกจากนิวยอร์ก 9 โมงเช้าไปถึงเวลาลาสเวกัส เที่ยงกว่าๆ อ่าาา งงละสิ ไหนว่า 6 ชั่วโมงทำไมไปถึงเที่ยง คือว่าแบบนี้ นิวยอร์กกับเวกัส อยู่คนละฝั่งของเมกากับ Time Zone เปลี่ยน เวลาที่นิวยอร์เดินไวกว่าเวกัส 3 ชั่วโมงครับ ต้องไปปรับตัวเรื่องเวลาอีกละ ขึ้นเครื่องแล้วครับหลับยาวเลยคราวนี้เพราะตื่นมาตั้งแต่เช้า .....


วิวด้านล่างครับ ก่อนเครื่องลงสวยมั้ยหล่ะ จะเห็นเป็นภูเขา และบางที่จะมีหิมะปกคลุมแล้ว

เรามาถึงท่าอากาศยานนานาชาติแมคคาร์แรน (McCarran International Airport) ห่างจากตัวเมืองลาสเวกัสไปทางใต้ประมาณ 8 กิโลเมตร (5 ไมล์)

Las Vegas ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองของคนบาป Sin City เป็นที่ตั้งของอบายมุขทุกประเภทมากมายในเมืองนี้ โดย Las Vegas เป็นเมืองที่ตั้งอยู่กลางทะเลทราย อยู่ในรัฐ Nevada จะชื่อเสียงในเรื่องการพนัน แหล่ง Shopping และร้านอาหารในปัจจุบัน โดย Las Vegas มีการทำให้การพนันเป็นสิ่งถูกกฏหมาย ความเจริญจึงมีเข้ามาเรื่อยๆ แต่ก่อนคนที่จะมาเวกัสส่วนใหญ่จะมาเล่นการพนัน แต่หลังๆ มานี้ จะมีนักท่องเที่ยวเยอะขึ้น เพื่อมาดูแสงสี ความอลังการของสิ่งก่อสร้าง โรงแรมที่ใหญ่โตมีเป็นพันๆ ห้อง หรือธรรมชาติที่ถูกสรรสร้างโดยการเวลาอย่าง Grand Canyon (ปล.ที่ลาสเวกัสขายเหล้าทั้งวันทั้งคืนนะครับ ถือดื่มตามท้องถนนได้สบาย ไม่ต้องกลัวโดนจับ แต่อย่าเมาไปละลานใคร ไม่งั้นโดนหิ้วจากพี่ตำรวจแน่ๆ แต่ที่นิวยอร์กกลับตรงกันข้าม เครื่องดื่มมึนเมาคุณไม่สามารถถือได้ถ้าไม่มีถุงห่อหุ้ม ห้ามดื่มในที่สาธารณะโดยเด็ดขาด ถ้าฝ่าฝืนแล้วโดนจับยาวเลยนะครับทีนีโดนปรับบายเลยนะครับ)


ความเจริญของเวกัส แหล่งช๊อปปิ้ง โรงแรมหรูๆ ใหญ่โต จะอยู่ที่ถนนสาย Strip เท่านั้น นอกนั้นจะเป็นบ้านปกติที่สร้างบนทะเลทราย มันอาจดูแปลกๆแต่เค้าสร้างถนนสายนี้เพื่อความบันเทิงจริงๆ ผมนั่งแท๊กซี่ที่สนามบินมาถึงโรงแรม จะมาพักกันที่ Paris Las Vegas Hotel & Casino ซึ่งอยู่บนถนน Strip เลยครับไปไหนมาสะดวกมาก


เห็นมั้ยหละ มีหอไอเฟลด้วย สมเป็น Paris จริงๆ (โรงแรมในเวกัสจะมี Casino อยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรมเกือบทั้งนั้นไม่ต้องตกใจ จะเห็นคนเล่นเยอะมากกกกกก ถ้าใครอยากลองเสี่ยงดวงดู เชิญตามสบายนะครับ ขอให้โชคดี อิอิ)

Hotel Lobby ครับ


โรงแรมที่นี่ห้องพักไม่ต่ำกว่าพันครับ แต่สภาพห้องจะดูเก่าๆ เพราะอาจคนมาพักเยอะเลยทำให้ห้องดูโทรมๆ จัดการงัดเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า อาบน้ำ แต่งตัวใหม่ เดี๋ยวผมจะพาไป Dinner ครับ

เราจองไว้ที่ห้องอาหาร Elffel Tower Restaurant ครับ มาที่เวกัสผมชวนรุ่นพี่จาก New York มาด้วยครับ จะได้มีเพื่อนเที่ยวบ้างจะได้ไม่เหงา

เดี๋ยวมาต่อนะครับElffel Tower Restaurant เป็นห้องอาหารฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ตรงส่วนกลางของหอไอเฟล ชื่อเสียงไม่ต้องพูดถึงดังมากในเวกัสต้องจองแต่เนิ่นๆ ไม่งั้นไม่ได้แอ้ม เราได้นั่งวิวดีติดกระจก และจะมองเห็นน้ำพุเต้นระบำจากโรงแรมฝั่งตรงข้าม อีกหนึ่งไฮไลท์ของเวกัสที่โรงแรม Bellagio Hotel & Casino เรามาเริ่มเมนูแรกกันเลยดีกว่าครับ ปล.จำชื่ออาหารไม่ได้เลย ดูรูปเอาแล้วกันเนอะ


เริ่มจากแรกเลย ซุปเย็น อร่อยมากก

จานที่สองเราสั่งเป็นคล้ายๆ สลัดกุ้ง อร่อยล้ำมากกกกกกกกกกก

จานนี้ของผมเอง สเต๊กเนื้อ ฟินมากกก ละลายในปากเชียวนะคุณผู้ชมๆๆๆๆๆๆ

จานนี้ของพี่หนึ่ง สเต๊กปลา เนื้อปลาหวาน หนังกรอบมากกกก

ทานคาวแล้วต้องทานหวานด้วยนะครับ ถึงจะครบ "ซูเฟร่ ช๊อกโกแลต" ใครที่ชอบ Dark Chocolate จะปริ่มมาก


วิวจากที่โต๊ะจะเห็นโรงแรม Planet Hollywood

ตอนนี้หนังท้องตึงละ หนังตาเริ่มหย่อน มองนาฬิกาเพิ่งจะ 2 ทุ่ม ทำไมง่วงไวจัง อ๋อลืมไปตอนนี้เวลาที่นิวยอร์กจะเที่ยงคืนละ งั้นขอตัวไปพักก่อนนะครับ พรุ่งนี้แต่เช้าเรามีภาระกิจเพื่อชาติ เราจะไปเชียร์น้องแนท Miss Universe Thailand ในการประกวด Miss Universe ปีนี้ (ตอนแรกลาสเวกัส ไม่มีอยู่ในแพลนเที่ยวครั้งนี้ แต่ช่วงเดือนตุลาคมเค้าประกาศว่าจะมีการจัดประกวด Miss Universe ที่นี้ผมเลยเปลี่ยนแพลนเที่ยวใหม่เกือบหมด อิอิ ไหนๆ ก็มาเมกาทั้งทีขอมาทำหน้าที่คนไทย เชียร์คนไทยในเวทีนี้บ้าง เคยแต่ดูถ่ายทอดสดทางทีวีมาหลายปี ปีนี้มีโอกาสแล้วขอสักครั้งเถอะ ดูสนองดูเองมากครั้งนี้ อยากรู้ว่ามันจะตื่นเต้นต่างกันมากมั้ย )


วันที่ 9 (20/12/15)

พวกเราตื่นเช้าครับวันนี้ มีนัดกับคนไทยอีกหนึ่งกลุ่มใหญ่ เพื่อจะเข้าไปดูการประกวด Miss Universe แต่เป็นรอบลองไฟนะครับ รอบจริงจะเริ่ม 4 โมงเย็นของเวกัส ( 1 ทุ่มเวลาที่นิวยอร์ก หรือเป็นเวลา 7 โมงเช้าของวันที่ 21/12/15 ของไทย งงมั้ยครับ ) รอบนี้คนมาดูไม่เยอะมากครับ เพราะทุกอย่างจะถูกจำลองบรรยากาศให้เหมือนจริง ที่พวกเราอยากดู อิอิ

พวกเราใส่เสื้อยืดลาย ตุ๊กๆ ไทยแลนด์ครับ ออกแบบโดย พี่ส้มโอ คนที่ชนะการประกวดการออกแบบชุดประจำชาติครับ เสื้อน่ารักมากกกกก / ผมใส่หมวกสีแดงครับ มีพี่หนึ่ง พี่จากนิวยอร์กมาด้วย แล้วเพื่อนใหม่ของเราเบียร์ บินตรงมาจากไทย เพื่อมาเชียร์เหมือนกับพวกเรา

ข้างหลังผม จะเป็นอาท เพื่อนใหม่ บินมาจากฟอลิด้าครับ และหลังสุดมาดามเค ผู้คร่ำหวอดในวงการนางงาม นางไปดูมาหลายที่แล้ว / ผมเริ่มแนะนำเพื่อนใหม่ที่เจอระหว่างทริป บางทีการมาต่างประเทศแล้วมาเจอคนไทยน่ารักๆ แบบนี้ นี่คือกำไรในการเดินทางนะครับ


ตอนซ้อมครับ เวทีปีนี้เรียบๆ แต่ดูเท่จริง


หลังจากดูเสร็จ ออกมาก็เที่ยงพอดีครับ เรามาทานข้าวกันที่ Panda Express ดูชื่อก็น่าจะรู้นะครับว่ามาจากไหนเป็นร้านอาหารข้าวแกงแบบบ้านเราอ่ะครับ แต่ดูดีหน่อยอาหารส่วนใหญ่จะเป็นอาหารออกแนวจีนๆ แต่อร่อยครับ ราคาไม่แพง ให้เยอะมากกกกกกก หลังจากอิ่มแล้วพวกเราก็แยกย้ายไปแต่งตัวครับ เพราะ 4 โมงเย็นเราจะต้องเข้าฮอล ไปดูรอบจริงแล้วตื่นเต้นสุดๆ ฟิ้วไปแต่งตัวดีกว่า

เวลานี้ก็มาถึง...........

แต่งตัวเสร็จแล้วครับ ไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว ทั้งสูท ทั้งเดรท เครื่องประดับไม่มีพร่อง คนเยอะมากๆ ครับ มาจากทั่วโลกเพื่อนมาเชียร์นางงามประเทศตัวเอง พวกเราคนไทยนั่งรวมกันในโซนนี้ 40 คนได้ ถึงเป็นกลุ่มไม่ใหญ่มากก แต่เสียงดังมากกก เวลาพิธีกรขอเสียงกองเชียร์จากไทยแลนด์ พวกเราเปล่งเสียงแบบสุดๆ พร้อมโบกธงชาติไทยที่เตรียมกันมาด้วย งานนี้เราจะไม่ยอมใคร ผู้คนกำลังหลั่งไหลเข้ามาในฮอลเพราะใกล้เวลาถ่ายทอดสดเต็มทีแล้วครับ นาทีนี้พวกเราหวังให้น้องแนท เข้ารอบลึกที่สุด เพราะจะได้เชียร์สนุกๆ (ถ้าใครติดตามการประกวดปีนี้จะรู้ว่าน้องแนท นางงามของเราเด่นมากๆ มีส่วนร่วมแทบทุกกิจกรรมของกองประกวด เด่นมากๆ ตอนนี้กองเชียร์ไม่เผื่อใจเลย คิดไว้ว่ายังไงก็เข้ารอบ หูยยยย ตื่นเต้น ใจเต้นระรัว มือเย็นไปหมด ผมคิดว่าคนไทยที่เชียร์ทางบ้านก็มีความรู้สึกเหมือนๆ กันใช่มั้ยหล่ะ) ถึงเวลาประกวดแล้วครับ พิธีกรของงานเชิญสาวงามทั้ง 80 ประเทศขึ้นมาบนเวที

สตีฟ ฮาร์วีย์ พิธีกรการประกวดค่ำคืนนี้ครับ

ในฮอลเสียงดังกึกก้องมากกก ทุกคนเอ่ยชื่อประเทศของตัว เองและโบกธงชาติ ไทยแลนด์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พวเราถึงคนไม่เยอะมาก แต่เสียงดังมากกกกกกกก ทางพิธีกรเริ่มประกาศคนเข้ารอบ 15 คนครับ คนแรกผ่านไป ทุกคนยังยังสนุกอยู่ พวกเรายังตะโกนไทยแลนด์ๆ เมื่อเวลาพิธีกรถามว่าประเทศอะไรที่จะเข้าไปคนต่อไป พวกเราเริ่มเงียบลงตอนคนที่ 10 แล้วหันมาคุยกันน้องแนทจะเข้ามั้ยหว่า 11 ก็แล้ว 12 ก็ยังไม่มีเรา 13 แล้วก็แบบจิตตกไปหดมละ หันมาให้กำลังใจกันเอง พอ 14 นอยมากๆ น้ำตาจะไหล หันมาบอกกันเองว่าปีหน้าเอาใหม่ แต่เสียใจมากๆ ถ้าน้องไม่เข้า เพราะน้องสวยเด่นมาก พอพิธีกรพูดว่าจะมีแค่อีก 1 สาวงานที่จะเข้าไปเป็นคนสุดท้าย พวกเราก้มหน้าแบบหมดหวัง พอสิ้นเสียงพอธีกรประกาศคนสุดท้ายคือ Miss Thailand โหยยยยยยยยยยย ไม่ต้องพูดอะไรเลยน้ำตาไหลก็ทั้งนั้น กระโดดโลดเต้น กรีดร้อง ประหนึ่งได้มงแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะเข้ารอบ แค่นี้กำลังใจพวกเราก็มาเต็มแล้ว ดีใจมากกกก กระโดดกอดกันแทบทุกคน ไม่ได้ดูบนเวทีครับมัวแต่ดีใจ

ไทยแลนด์ทีม ช่วงพักเบรคครับ

ตอนนี้นางงามเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำครับ รูปนี้นางงามที่ไม่เข้ารอบออกมาเต้นก่อน

รอบชุดว่ายน้ำน้องแนทเดินเป็นคนสุดท้ายครับ เดินดีมากๆ ใจมาแล้วยังไงก็หวังว่าเข้ารอบ 10 คนแน่ๆ พอเสร็จก็มายืนเรียงกัน 15 สาวงาม สาวไทยเราโดนประกาศมาในลำดับต้นๆ เย้ๆๆๆๆๆ น้อยแนททำได้ เราเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายแล้วในรอบ 28 ปี กองเชียร์ตอนนี้กระโดนเป็นจิงโจ้เลยทีเดียว กรีดร้องประหนึ่งโดนน้ำมนต์ ดีใจสุด ตอนนี้ทุกคนเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดราตรีครับ 10 สาวงามสุดท้าย

ชุดสวยทุกคน แต่แนทสวยสุดครับ เรามาลุ้นกันอีกรอบ ว่าสาวไทยจะเข้า 5 คนสุดท้ายมั้ย ผ่านไปแล้ว สี่คน ไม่มีไทย คนที่ 5 ขอเป็นสาวไทยเถอะ พอประกาศมาเป็น USA พวกเราก็เฮ้ออออออ คอตก แต่ไม่ได้เสียใจขนาดนั้น เราดีใจมากๆ ที่น้องเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย แล้วยังพ่วงตำแหน่งชุดประจำชาติยอดเยี่ยมอีก แค่นี้ก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว

ยินดีกับ พี่ส้มโอ หิรัญกฤษฏิ์ ภัทรบริบูรณ์กุล ผู้ออกแบบ Tuk Tuk Thailand

แต่ไฮไลท์ของการประกวดยังไม่เสร็จเราเชียร์มาจนถึง 2 คนสุดท้ายครับ นางงามจากโคลัมเบีย ยืนจับมือกับ นางงามจากฟิลิปปินส์ ตอนนี้ทุกคนในฮอลก็ลุ้นใครจะเป็น Miss Universe คนต่อไป ลุ้นระทึกมากๆ กองเชียร์ทั้งสองประเทศต่างตะโกนเชียร์คนของตัวเอง พอสตีป ประกาศ Miss Universe ได้แก่ โคลัมเบีย พวกเราก็ดีใจด้วยนางสวยจริงๆ ตอนนี้นางงามปีที่แล้วก็เดินออกมามอบมงกุฏ ช่ออกไม้ แก่มิสโคลัมเบีย เธอยืนโบกมือด้วยความดีใจ ส่วนมิสฟิลิปปินส์ก็เดินไปอยู่ด้านข้างเวที แฟนนางงามของฟิลิปปินส์เริ่มเดือนออกจากฮอล ชั่วขณะนึง 2-3 นาที พิธีกรเดินออกมาพร้อมกับพูดว่าขออภัยในการประกาศ เพราะประกาศผิด อ้าวซอยละ แล้วเปลี่ยนเป็นประกาศมิสฟิลิปปินส์ได้เป็น Miss Universe จะทำไงดีหละทีนี้ นี่แกล้งใช่มั้ย ไม่ใช่ครับประกาศผิดจริงๆ ทุกคนดูมึนงงไปหมด มันเกิดอะไรขึ้น นี่ไม่ใช้เรื่องเล่นๆนะครับ ตอนนี้มีการมองมงกุฏ ใหม่แก่อีกคน ความโกลาหนกำลังตามมาครับ กองเชียร์ฟิลิปปินส์วิ่งกลับเข้ามาในฮอล ทุกคนดูงง แต่ก็กรีดร้องด้วยความดีใจ แต่ !!! กองเชียร์อีกฝั่งเหมือนโดนทำร้ายทางใจอย่างมากก หลอกให้ดีใจ สุดท้ายแบบช้ำอ่ะ เริ่มโวยวาย โห่ร้อง พร้อมทั้งปาน้ำแข็ง ด้วยความไม่พอใจในประกาศแบบนี้ บรรยากาศมาคุมากๆ ครับ พวกเราอยู่ดูสักพักแล้วก็พอกันออกมา เพราะกลัวโดนลูกหลงไปด้วย การประกาศผิดครั้งนี้ไม่มีใครรู้ความจริง ว่ามันประกาศผิดจริงๆ หรือเล่นเกมส์อะไรกันอยู่ ผมสงสารทั้งสองคนนะครับ โคลัมเบียเหมือนเดินเรียกมาตบกลางสี่แยก มิสฟิลิปปินส์นางก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่ตอนนี้เหมือนนางเป็นคนกระชากมงกุฏจากมิสโคลัมเบียมา ก็ขอเอาใจช่วยทั้งสองคนให้ผ่านเรื่องนี้มาได้ไวๆ คนที่จะรู้ความจริงก็มีแต่พิธีกร และกอง MU ครับ


3 คนสุดท้าย มิสฟิลิปปินส์ มิสโคลัมเบีย มิสยูเอสเอ

นางงามต่างไปแสดงความเสียใจกับมิสโคลัมเบีย ส่วนมิสฟิลิปปินส์ยืนอยู่กับเจ้าหน้าที่กอง MU อีกด้านของเวที

ทางกอง MU เอาผลการประกวดมาโชว์ ว่าตาสตีป ประกาศผิดจริงๆ นะ

พวกเราหนีความชุลมุนข้างในฮอลมา เพื่อออกมาทานข้าวข้างนอก เฮ้ยยยย เกิดอะไรขึ้นข้างนอกโรงแรมที่ประกวดตำรวจเต็มไปหมด ปิดถนนทุกเลน ระเบิดป่ะวะ เราเลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเกิดไรขึ้น นางไม่ยอมบอกอะไร บอกแค่ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดี ฉันพูดไม่ได้ เอิ่มมมม ตอนนะอาการมโนเริ่มเกิดขึ้นมาละ มันเกิดไรขึ้นว่ะ วางระเบิดป่าว คือจับไปปนกับเรื่องผลการตัดสินนางงาม ด้วยการกลัวตายจึงรีบเดินเข้าไปในโรงแรมก่อน แล้วไปรวมตัวกับคนไทยที่เหลือเพื่อไปทานข้าวด้วยกัน พอมาถึงร้านอาหารมานั่งดูข่าวถึงได้รู้ว่าไม่ใช่ระเบิด แต่เป็นอุบัติเหตุรถชนคนกลายคน เฮ้ออ โล่งอก ปล.พวกเราก็พึมพำด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำไมไม่บอกฟร่ะว่ารถชนคน มาบอกว่าฉันบอกไม่ได้มันเป็นเรื่องที่แย่มาก ต่อมมโนก็ทำงานไปยันระเบิดละ


ตอนนี้แท๊กซี่คิวยาวมากหิวก็หิว เราเลยต้องไปต่อรองราคาลีมูซีนหรูมา คันยาวมากนั่งได้ 10 กว่าคน เรามานั่งทานอาหารไทยกันครับ อาหารอร่อย บรรยากาศดี พร้อมกับเม้ามอยเรื่องที่เกิดขึ้นในฮอลอย่างสนุกสนาน จบจากทานอาหารทุกคนก็แยกย้ายกันกลับที่พักครับ คืนนี้คุ้มมากๆ ได้ดูนางงามที่สนุกมากๆ แห่งปี ดีใจกับไทยแลนด์ที่โดดเด่นมากๆ ดีใจที่ได้เจอเพื่อนๆใหม่ มิตรภาพใหม่ๆ ที่เงินก็หาซื้อไม่ได้ ทุกคนน่ารักมากๆ


วันที่ 10 (21/12/15)

เช้านี้ตื่นสายหน่อยครับ เรามีโปรแกรมพาทัวร์เวกัสกันครับ จะพาดูโรงแรมต่างๆ ที่อยู่บนถนน Strip ครับ เราออกมาพร้อมกับ Check Out เลยทีเดียว และฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมครับ เราจะกลับนิวยอร์กไฟล์ 5 ทุ่มครับ เรามาเริ่มเดินเล่นกันเลยอากาศที่เวกัสเย็นดีครับ 5 องศาเห็นจะได้

เริ่มต้นที่โรงแรมที่เราพักเลยครับ เราเดินไปเรื่อยๆ

โรงแรม Caesars Palace Hotel ครับ ด้านนอกจะมีพระพรหมด้วยนะครับ พวกเราไม่ลืมที่จะมาไหว้ขอพรครับ เฮงๆๆ ทั้งปี ขอให้ได้กลับมาเที่ยวเมกาอีก อิอิ ด้านในโรงแรมจะมีร้านขายของครับ แบรนด์หรูๆ ทั้งนั้น บรรยากาศจะแต่งเป็นแบบกรีกโรมัน สวยดีครับ

เราเดินไปหลายๆ โรงแรมครับเก็บรูปมาไม่หมด แต่ละโรงแรมใหญ่โตจริงๆ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สุดยอดมากๆ ครับ


บ่ายนี้เรามีนัดทานข้าวกันอีกครับ โดยมีเชฟบอย เชฟทำงานที่ Planet Hollywood พาพวกเรามาเลี้ยงครับ ขอบคุณครับ

ระหว่างทางเราเจอโบส์เล็กๆ น่ารักมากๆ เพื่อนบอกว่ามีหนังเรื่องอะไรมาถ่ายหว่า ผมจำไม่ได้ ใครรู้มาเม้นบอกด้วยนะครับ

ถ้าไม่มาถึงป้ายนี้ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง Las Vegas เราเดินมาครับแบบว่าขาหมดแรงตอนแรกนึกว่าใกล้ๆ สรุปเดินหลายกิโลเลยขาแข็งไปหมด หนาวมากด้วยครับ

ถึงเวลาที่ต้องบอกลาลาสเวกัสแล้วครับ Bye Bye See you next time......


วันที่ 11 (22/12/15)

เวลานี้ทุกคนต่างแยกย้ายกลับไปทางเดินของตัวเอง หลังจากดูประกวดจบได้ความรู้สึกปริ่มใจกลับไปถ้วนหน้า แต่ทริปของผมยังไม่จบตอนนี้ผมมาถึงนิวยอร์กแล้วหลังจากนั่งเครื่องมาจากลาสเวกัส แบบเหนื่อยสุดหลับตั้งแต่ขึ้นเครื่อง ลงเคร่ื่องแล้วต่อ Subway เพื่อขึ้นรถบัสไปบอสตันต่อครับ ผมมาขึ้นรถที่เดิมครับ Port Authority Bus Terminal (625 8th Avenue, New York, NY 10018) มาลงสถานี 42 st. ครับ พอมาถึงก็เดินทางตามป้ายเข้าไปเลยครับ ผมใช้รถบัสของ GreyHound เจ้าเดิม https://www.greyhound.com ราคาทั้งวันไม่เท่ากันนะครับ อยู่ที่ช่วงเวลา รถจะออกทุกชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงได้ ราจะจองในเว็บก็ได้ หรือ ไปซื้อเค้าเตอร์ก็ได้ครับ (ราคาประมาณ $40) จองล่วงหน้าราคาถูกกว่ากันนะครับ ลองดู นั่งกันไปชิวๆ บนรถมี Wifi, ปลั๊กสำหรับชาร์ตไฟ เส้นทางระหว่างนิวยอร์ก ไป บอสตัน ร่มรื่นมากๆ ต้นไม้เยอะ วันนี้ฝนพรำตลอดทาง 4 ชั่วโมงกับการนั่งรถบัส ร่างแทบแหลกเพราะเหมือนเดินทางติดต่อกัน 10 ชั่วโมงเลย รถจะไปจอดที่ South Station ไม่ไกลจากย่าน China Town Boston พอลงรถปุ๊บ โชคดีครับผมมีรุ่นพี่มาเรียนที่นี่ นางอาสามารับแล้วจัดวางทริปให้แล้ว เราเดินจากท่ารถไปโรงแรมครับ เดินวนไปมา 1 รอบใหญ่ สรุปนางพามาผิดทาง ให้ได้อย่างนี้ซิ มันยอดมากกก ในที่สุดเราก็มาถึงโรงแรมครับ วันนี้นอนหรูขึ้นมาอีกครับ โดยใช้เรทพนักงานเหมือนเดิม 555++ สุดคุ้ม เราจะนอนกันที่ Doubletree by Hilton Downtown Boston

การเป็นพนักงานโรงแรม มันคุ้มแบบนี้นี่เอง อิอิ

ห้องนอนที่ชั้น 6 น่านอนมั้นครับ

เครื่องทำกาแฟครับ อยากได้เอาไปไว้ที่บ้านจัง

ห้องน้ำในโทนสีขาว สะอาดตา


หลังจากเอาทุกอย่างวางลง ผมขอตัวอาบน้ำก่อนนะครับ ตอนนี้ตัวเน่ามากกไม่ได้อาบน้ำมาทั้งวัน ดีนะได้ล้างหน้าแปรงฟันก่อนขึ้นรถมาแล้ว เดี๋ยวพี่ออย (รุ่นพี่ผม) จะพาไปเดินเล่นในเมือง ดูวิวยามเย็น แล้วพาไปทานชาบูที่เลื่องชื่อของบัสตัน อิอิ เปรมมมมมม

Lobby ของโรงแรม


เราเดินท่ามกลางฝนปรอยๆ ครับ ( คนที่นี่เวลาตื่นเช้ามาสิ่งแรกที่ทำการอาบน้ำแต่งตัวคือเช็คสภาพอากาศก่อนเสมอ เพราะจะได้แต่งตัวถูก ) ดีนะเรามีร่มคนละคัน เดินดูเมืองไปเรื่อยๆ ครับ ที่นี่ดูสะอาดตาดี ผู้คนแต่งตัวดีคับ ชอบเลย อิอิ

พร้อมเที่ยวแล้ววววววว


เป็นไงครับ บอสตันในวันฝนพรำ เดินเที่ยวแล้วอารมณ์เหมือนถ่ายมิวสิคเลย เดินตากฝน สวยตอนที่เดินตากฝน หุๆๆ


เดินมาได้สักพักท้องเริ่มร้องแล้วครับ เราจะพามาทานชาบูเจ้าเด็ดเจ้าดังที่นี่ ถ้ามาห้ามพลาดนะครับ

ชื่อร้าน " Shabu-Zen " ย่านไชน่าทาวร์ หาไม่อยากครับ ร้านใหญ่โต ตั้งอยู่หัวมุมถนน เด็กเสริร์ฟหน้าตาดีมาก ฟิน 2 เด้ง

อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ สมคำร่ำลือจริงๆ ครับ น้ำซุปมีให้เลือกหลายแบบตามความพอใจ อาหารสด ราคาพอใช้ได้เลยครับ มื้อนี้พี่ออยเป็นเจ้าภาพ (เวลาจ่ายเงินค่าอาหาร หรือบริการ อย่าลืมจ่าย Tips ให้ด้วยนะครับ คนที่อเมกาถือมากเรื่องนี้บางร้านจะคำนวณมาให้เลย ควรให้เท่าไหร่ 20% 18% 15% เค้าจะเขียนกำกับไว้ ถ้าเราไม่ให้ทางเด็กเสิร์ฟบางร้านจะเรียกร้องเลยครับ เค้าจะถามเลยว่าฉันบริการไม่ดีตรงไหน บลาๆ ก่อนไปไหนต้องศึกษาเรื่องแบบนี้ให้ดีครับ จะได้ไม่โดนเค้าวาได้ )


วันที่ 12 (23/12/15)

เช้านี้อากาศดีครับ เราตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อนที่จะได้มีเวลาเที่ยวได้เยอะ ก่อนไปเที่ยวขอเดิมพลังกันก่อนจะได้มีเแรงเดินทั้งวันครับ

ที่แรกเลยครับ Boston Garden

เจ้าถิ่นครับ เราจะเห็นกระรอกในทุกสวนสาธารณะครับ ไม่กลัวคนเลย ยืนให้เราถ่ายรูปเท่ๆ

จากลานกิจกรรม ตอนนี้เปลี่ยนมาทำลานสเก็ตแล้วครับ ช่วงเราไปยังไม่หนาวมาก แต่ที่นี่ก็สามารถเนรมิตรลานน้ำแข็งขึ้นมาได้

มาต่อกันครับ เราเดินออกมาจากสวนครับ เปลี่ยนจากชมสวนมาชมตึกกันดีกว่า

เรามาเมื่อที่ขึ้นชื่อว่ามีมหาลัยดังๆ แล้ว เราจะไม่ไปเยือนเดี๋ยวเค้าจะว่าเรามาไม่ถึง

ผู้ก่อตั้งมหาลัยฮาร์วเวิร์ด ลองสังเกตุที่รองเท้าดูนะครับ ข้างซ้ายจะเป็นสีทอง เพราะว่าเวลาใครมาก็จะจับที่รองเท้าข้างนี้และขอให้ได้มาเรียนที่นี่ (แต่เค้าเม้าส์มาว่า ตอนดึกๆ นักศึกษาจะมาฉี่ใส่รองเท้า แกล้งคนที่มาจับรองเท้า 5555 ไม่รู้ว่าเรื่องจริงมั้ย แต่ผมไปครั้งนี้ไม่ได้จับครับ กลัวมือเปื้อนฉี่ )

ช่วงนี้มหาลัยปิดครับ นึกศึกษากลับบ้านหมด เฮ้อออ แย่จุง


เราเดินออกมาด้านนอก เพราะหิวครับ เราเจอร้านอาหารญี่ปุ่น เห็นคนรอเยอะดีเลยปักหมุดที่ร้านนี้

สลัดผัก อันนี้ไม่ผ่านผักขมไปครับ ขนาดผมชอบทานผักต้องขอบายอ่ะ

ไก่ทอดคาราเกะ หน้าตาดำๆไหม้ๆ อร่อยดีครับ

ทาโกะยากิ อันนี้เฉยๆ

ข้าวหน้าปลาแซลมอน อันนี้ดีงามมากกกกกก ให้ห้าดาว

ชามนี้ก็ห้าดาวครับ น้ำซุปเข้มข้น หอมมากๆ อร่อย อิ่มแล้ววววครับ เราไปเดินย่อยต่อ

ผมเดินมาเรื่อยๆ เลาะมาแถวมหาลัยครับ จะติดวิวแม่น้ำ เดินมาอีกนิดจะเจอ ป้ายแยก King Bhumibol ปริ่มใจมากๆ ครับ ยืนมองแล้วยิ้มอยู่พักนึง จริงๆ แยกนี้ก็ไม่ต่างจากแยกอื่นๆ ในละแวกนี้แต่แค่เราเห็นป้ายนี้เราก็รู้สึกว่าแยกนี้พิเศษกว่าแยกอื่นๆ แล้วครับ อากาศเริ่มเย็นแล้วเพราะ 5 โมง แล้วหมดเวลาของวันนี้ พรุ่งนี้เช้าเตรียมตัวกลับไปลุยนิวยอร์กต่ออีก 3 วันที่เหลือ


วันที่ 13 (24/12/15)

เดินทางมาถึงนิวยอร์กก็เย็นวันนี้เป็นวัน Christmas Eve. ครับ คืนนี้เราพักแถว Wall Street ดูดีงามมากๆ ผมนอนที่ Hampton Inn Manhattan / Downtown / Finance

ตอนแรกคิดว่าย่านนี้คงต้องพลุกพล่านตลอดวันแน่เลย พอมาถึงกลับตรงกันข้ามเลยครับ ไม่มีคนเลยช่วงเย็นมีแต่ยาม เดาว่าพอถึงเวลาเลิกงานทุกคนกลับบ้านเลย แถวนี้มีแต่โรงแรม ไม่มีพวกคอนโดครับ เซ็งเลย เปลี่นเสื้อผ้าก่อนนะครับ เด่ยวจะพาไปเดินเล่นไทม์สแควร์ คนคงเยอะน่าดู

มาถึงแล้วครับ เหมือนกับในหนังเลย คนเยอะครับ หนาวด้วย

แต่งตัวแน่นเชียว

อาหารค่ำของผมวันนี้ ทานไม่หมดครับ ห่อกลับอย่างเดียว ผมเห็นแทบทุกโต๊ะห่อกลับทั้งนั้น ใช่สิครับจานเย็นแบบนี้ ใครจะทานหมด

น้ำหวานแก้กระหาย ดื่มไปครึ่งแก้วหน้าตึงเลย ถึงกับเดินเซ ที่นี่จัดหนักจริงๆ


วันที่ 14 (25/12/15)


Merry X'mas ครับทุกคน วันนี้วันสุดท้ายสำหรับทรปนี้แล้วครับ พรุ่งนี้ต้องบินกลับแล้ว วันนี้ต้องไปถ่ายรูปตามจุดสำคัญให้ได้เยอะที่สุดเพราะไม่รู้จะมีโอกาศที่ได้มาอีกเมื่อไหร่ เพื่อไม่ให้เสียเวลาผมตื่นแต่เช้า ทานอาหารเช้าเสร็จก็ 8 โมงเห็นจะได้ลุยเลยละกันครับวันนี้ วันนี้เป็นวันคริสมาร์สครับ ร้านค้า ออฟฟิตที่เป็นของฝรั่งปิดเกือบหมดนะครับ สถานที่สำคัญก็ปิด แม้กระทั้งเทพีเสรีภาพก็ปิดแค่วันนี้วันเดียว เลิศปะหล่ะ ฝรั่งให้ความสำคัญกับันนี้มากๆ วันนี้เลยทำให้ออฟฟิตที่ตั้งอยู่บนถนน Wall Street ปิดหมดเราจะเห็นผู้คนที่เดินไปมาย่านนี้คือนักท่องเที่ยวทั้งนั้น วันนี้อากาศไม่เย็นมาก เรามาเริ่มจุดแรกเลยครับ เดินออกมาจากโรงแรมแป๊บเดียวเจอเจ้าตัวนี้เลย Charging Bull เจ้าวัวกระทิงสัญลักษณ์ของ Wall Street คนเล่นหุ้นเชื่อกันว่าถ้ามาจับพวงสวรรค์ของเจ้าตัวนี้วันนั้นจะเฮงๆ เขียวทั้งหน้ากระดาน เสียดายผมไม่ได้จับอะสิ คนเยอะมากกกก ทัวร์จีนลง จบกัน

ตึกต่างๆ สวยมากดูยิ่งใหญ่สมกับเป็นย่านการเงินจริงๆ

ทางลงไป Subway ครับจะเป็นแบบนี้ ใครที่ลากกระเป๋าใหญ่ๆมาเที่ยว แล้วใช้บริการเจ้านี่ลำบากมากครับ เพราะไม่มีแต่บรรไดเลื่อนลากขึ้นลงอย่างเดียว ทำเอาผมกล้ามโตเลยเหมือนออกกำลังกาย

เราเดินมาตามทางเรื่อยๆ จุดต่อไปผมจะไป World Trade Center 9/11 Memorial เราจะเดินตามตึกสูงๆ นี่ไปเลยตึกนี่ถูกสร้างมาแทนที่ตึกแฝดของเก่าที่โดนก่อการร้ายไป ตึกนี่สร้างมาแค่ตึกเดียวครับชื่อ One World Trade Center ด้านบนสุดจะเป็นชุดชมวิวของนิวยอร์ก ผมไม่ได้จองขึ้นไปดู เพราะเช็คอากาศแล้ว เพลียเลย หมอกลงแน่นมากๆ

บ่อน้ำครับ เค้าไม่ได้สร้างตึกขึ้นมาใหม่ แต่ทำบ่อน้ำนี้ขึ้นแทน เพื่อเป็นสิ่งที่จะทำไห้ระลึกถึงผู้คนมากมายที่จากไป บรรยากาศที่นี่หรอครับ ผู้คนดูเงียบสงบเคารพสถานที่ บางคนเอาดอกไม่มาวางให้กับคนรักที่จากไป บ่อน้ำนี้มี 2 บ่ออยู่ติดๆกัน

จุดต่อไปผมมีนัดกับสาวสวยที่นี่ จะเป็นใครไปไม่ได้ต้องเป็นพี่หนึ่งเท่านั้น ผมเดินอย่างเดียวครับวันนี้ นัดของเราเราจะไปเดินเล่น China Town แล้วหาข้าวกลางทานที่นั่น ร้านฝรั่งปิดหมด ร้านคนจีนเปิดทุกร้านครับคนเยอะทุกร้าน มาดูกันซิว่าวันนี้เราทานอะไร

กุ้งทอดครีมสลัด

ซุป

อันนี้ก็อร่อย จำชื่อไม่ได้ อิอิ

ผมยกจานนี้เป็นพระเอกของวันนี้เลย เป็ดปักกิ่ง สุดยอดมากกกก ที่นี่จะต่างจากบ้านเราเค้าทางร้านจะมาแล่ให้ที่โต๊ะ เค้าไม่ทานแต่หนัง เค้าแล่ให้ติดเนื้อทานกับแป้งเหมือนหมั่นโถอุ่นๆ เป็ดเนื้อนุ่ม หนังกรอบๆ ฟินมากๆ


พอทานเสร็จก็จะไปถ่ายรูปที่ Brooklyn Bridge ครับ เรานั่ง Subway มาลงที่สถานี Brooklyn Bridge เลยครับ คนเยอะมากๆ เห็นรถไอติมเลยขอลองสักนิดแก้หนาว

วันนี้คนเยอะมากๆครับ เราเลยเปลี่ยนแผน นั่ง Subway ข้ามาอีกฝั่งเพื่อจะมาถ่ายรูปให้เห็นวิวของเกาะ Manhattan

ถ่ายเสร็จเราย้อนกลับมาในตัว Manhattan ไหนก็วันศริสมาส เราก็ต้องมาถ่ายกับต้นนี้ Rockefeller Center Christmas Tree เจ้าต้นนี้ใครๆก็อยากมาถ่ายด้วยครับ เป็นพระเอกเลย

หมดไปอีกวันแล้วนะครับ พรุ่งนี้ก็จะกลับแล้ว ขอกลับไปเก็บเสื้อผ้าแพ๊คกระเป๋าก่อนนะครับ



วันที่ 15 (26/12/15)

เป็นวันที่ต้องกล่าวคำลาสักที หมดเวลาสนุกแล้วครับ JFK วันนี้คนไม่เยอะครับ เรารีบมาเนิ่นๆ ขอบคุณพี่หนึ่งที่มาส่งนะครับ พร้อมกับของขวัญวันคริสมาส

วันที่ 16 (28/12/15)


นั่งเครื่องข้ามวันมาเลยที่เดียว แบบหมดพลังมากๆ ผมหลับตลอดทาง ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาในทริปนี้นะครับ สนุกมากๆ ได้ทั้งประสบการณ์ ได้ทั้งเพื่อนใหม่ มันเป็นแค่การเริ่มต้นของความกล้าที่ไปเที่ยวคนเดียว ผมคิดไว้แล้วหลังจากทริปนี้ว่าจะไปเที่ยวคนเดียวแบบนี้เรื่อยๆ ชักจะติดใจแล้วสิ แลลองไปกันดูนะครับแล้วจะติดใจ ขอบคุณทุกท่านเข้ามาอ่านจนถึงบรรทัดนี้ ถ้าผมไปไหนอีกผมจะมาแชร์เรื่องราวดีๆ เกร็ดเล็กๆสำหรับเที่ยว แบบนี้อีกครับ ขอบคุณครับ



Life is a journey by Nhong_Lip

ความคิดเห็น