สวัสดีค่ะ... การเขียนครั้งแรกขอเริ่มต้นด้วยประเทศตุรกีที่เพิ่งไปมาล่าสุดนี้นะคะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ตุรกี... ดินแดนสองบุคลิก
ทำไมเราถึงเรียกแบบนี้ เพราะตุรกีเป็นประเทศที่มีพื้นที่อยู่ทั้งโซนเอเชียและยุโรป หรือที่เราเรียกกันว่า ยูเรเชีย นั่นเอง ประเทศนี้ช่วงหน้าร้อนก็ร้อนมาก แต่พอหน้าหนาวก็หนาวสุดขั้ว ประวัติศาสตร์ของตุรกีก็ยาวนานอย่าบอกใครเลยหละ สมัยก่อนดินแดนแห่งนี้คืออาณาจักรโรมันตะวันออก กรุงอิสตันบูลคือกรุงคอนสแตนตินโนเปิลนั่นเอง
มาทำความรู้จักประเทศนี้กันเล็กๆ น้อยๆ ก่อนดีกว่า
- คนไทยสามารถมาเที่ยวที่ตุรกีได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และอยู่ได้นานถึง 30 วัน
- คนตุรกีส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
- ผู้หญิงที่ตุรกีส่วนมากก็จะโพกผ้าที่ศรีษะ ถ้าคุณเป็นผู้ชายที่ไปเที่ยวตุรกี... อย่าไปโดนตัวหรือใกล้เค้าเชียวหละ
- ที่นี่อากาศโดยทั่วไป มี 4 ฤดู แต่ด้วยพื้นที่ของประเทศที่ใหญ่พอสมควร แต่ละภาคจึงมีอากาศต่างกันในแต่ละฤดู (เช็คสภาพอากาศของแต่ละเมืองให้ดีก่อนไปนะคะ)
- ค่าครองชีพที่นี่ถูกมากกกกค่ะ
มาเริ่มกันเลยดีกว่า เราได้เดินทางไปช่วงเดือนกรกฎาคม 2561 ซึ่งปีนี้ร้อนม๊ากกกกกกกกกกก....
รอบนี้เราไปกันทั้งหมด 4 จุดใหญ่ๆ ค่ะ
แผนการเดินทาง
Day 1 : Istanbul - Blue Mosque / Sultanahamt Complex / Grand Bazaar /
Nusr-et Restaurant
Day 2 : Istanbul - Hagia Sophia / Topkapi Palace / Yerebatan Sarnici / Seven Hills Restaurant / Archaeology Museum / Bosphorus Tour / Galata Bridge
Day 3 : Istanbul - Chora Church / Dolmabache Palace / Galata Tower
Day 4 : Cappadocia - Open Air Museum / ATV
Day 5 : Cappadocia - Hot Air Balloon / Green Tour
Day 6 : Cappadocia - Shooting at Hotel Terrace with Balloons / Chilling day, Walk around Cappadocia
Day 7 : Pamukkale - Cotton Castle / Hierapolis
Day 8 : Selcuk - House of Virgin Mary / Ephesus
Day 9 : Izmir - Alacati / Cesme
Day 10 : Istanbul - Shopping Day / Taksim Square
Day 11 : Istanbul - Shopping Day
วันแรกเราไปถึงตุรกีก็บ่ายละ เพราะกว่าจะออกจาก ตม. มาได้เป็นชั่วโมงจ้า เพราะคนมาเที่ยวเยอะม๊ากกก ออกมาได้ปุ๊ปเราก็ขึ้นใต้ดิน ละต่อ Tram มุ่งหน้าไปยังโซนที่พักทันที (พักแถวย่าน Sultanahmet)
ก่อนที่จะใช้บริการรถสาธารณะของบ้านเค้าต้องซื้อนี่ก่อนเลย IstanbulKart เป็นบัตรที่ใช้บริการรถใต้ดิน + Tram ได้ บัตรจะมีส่วนลดในการเดินทางด้วยนะ (บัตรนึงใช้ได้สูงสุดถึง 5 คน แต่ถ้าใช้ด้วยกันบัตรจะลดราคาให้แค่คนแรกค่ะ) เราซื้อบัตรนี้ที่ Yellow Machine ที่สถานีได้เลย
หน้าตาบัตร Istanbulkart + Yellow Machine
สถานที่แรกที่ไปกันคือ... Blue Mosque (มัสยิดสีน้ำเงิน) สถานที่นี้ต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยเด้อออ ผู้ชายห้ามใส่กางเกงขาสั้น ส่วนผู้หญิงก็ห้ามใส่กระโปรงสั้น กางเกงขาสั้น เสื้อไม่มีแขนเด็ดขาด และยังต้องเอาผ้าโพกหัวด้วยน้า ถ้าเราไม่มี ทางมัสยิดเค้ามีจุดให้เรายืมจ้า อ้อพอถึงหน้าประตูด้านหน้าเราต้องถอดรองเท้าด้วยนะ แต่ไม่ต้องกลัวว่ารองเท้าจะหาย เพราะเค้าจะแจกถุงให้เราใส่รองเท้าหิ้วไปด้านในได้ ใครที่เท้าเหม็นระวังโดนยี้ให้ดี 55555....
เวลาที่เราจะสามารถเข้าไปใน Blue Mosque ได้ค่ะ
ด้านนอกของ Blue Mosque จ้า
ภายใน Blue Mosque ค่ะ ผู้หญิงต้องโพกผ้าที่หัวแบบนี้ด้วยน๊าา..
ถ้าใครไ่ม่ได้เตรียมไปทางมัสยิดมีให้ยืมจ้า
หลังจากชมความงามด้านในมัสยิดแล้ว เราก็มุ่งหน้าเดินไปจุดต่อไปทันที จุดต่อมาคือเสาในตำนาน 3 ต้น จุดนี้เค้าเรียกว่า Sultanahmet Complex ซึ่งเมื่อสมัยโรมันจุดนี้จะใช้เป็นสนามแข่งม้าของชาวโรมันค่ะ
ปัจจุบันตรงนี้จะมีทั้งหมด 3 เสาด้วยกัน
1. Constantine Obelisk เป็นเสาสี่เหลี่ยมยอดแหลม
2. เดินถัดมาจะเป็นเสา Bronze Serpentine Column เป็นเสางู
3. เสาสุดท้าย Column of Constantine
ถามว่าเสาทั้งหมดนี่อินไม๊... ตอบเลยว่าไม่ค่ะ 5555555
เสางูค่ะ.... 5555555
เวลาวันนี้ก็ใกล้จะหมดละ เลยต้องรีบไปเดินเล่นที่ตลาด Grand Bazaar ที่นี่เค้าปิด 1 ทุ่มนะ (ตลาดปิดวันอาทิตย์ด้วยค่ะ) เราก้รีบมุ่งหน้าไปกันทันที ภายในตลาดก็มีของขายมากมาย แต่ละร้านก็คล้ายๆ กันหมดแหละ เป็นของขึ้นชื่อของตุรกีไม่ว่าจะเป็น Turkish Delight, ชา, จาน ชาม, โคมไฟ, พรม ต่างๆ นาๆ ซึ่งขอบอกเลยว่า พวกจาน ชาม โคมไฟ ของบ้านเค้าสวยมากก อยากหิ้วกลับบ้านมากแต่กลัวแตก
ด้านหน้าตลาดค่ะ
ด้านในตลาด จะประดับด้วยธงตุรกีมากมาย
เดินเล่นเสร็จก็ไปหาข้าวเย็นทานกันค่ะ มาถึงตลาด Grand Bazaar แล้วก็ต้องร้านนี้เลย Nusr-et เพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ตลาดนี้ มาเยือนถิ่นของ Saltbae ทั้งทีถ้าไม่ได้มาทานก็ไม่ใช่เราแล้วหละ เดินไปถึงหน้าร้านก็มีหุ่นขี้ผึ้งของ Saltbae ตั้งอยู่ก่อนเลยค่ะ ระหว่างที่เดินเข้าร้านไปแทบช๊อค แทบสลบไปเลยค่ะเพราะเราเจอ Salt Bae ตัวเป็นๆ อะไรจะโชคดีขนาดนี้!!!! รีบสิคะ รีบไปขอถ่ายรูป เค้าดังมากจริงๆ เพราะคนที่มาทานที่ร้านพอเจอเค้าถึงกับอุทานว่า OMG OMG OMG!!!! แล้วก็ช็อคไปตามๆ กัน ที่สำคัญนางไม่ได้ขายแต่อาหารจ้า นางขายเสื้อด้วย ก็เซ็นลายเซ็นบนเสื้อวนกันไปสิคะ
พอได้โต๊ะแล้ว ก็ลงมือสั่งอาหารกันสิคะ รออะไร... สิ่งที่เราทานไปวันนี้คือ
1. New York Steak House
2. Nusr-et Burger
3. Rocket Salad และ Lokum (อันนี้เป็นเนื้อแร่บางๆ อร่อยดีค่ะ) อันนี้เค้าจัดแบ่งให้ในจานแต่ละคน
ยังค่ะ ยังไม่พอ เราฮอตจนขนาด Salt Bae มาขอเซลฟี่ร่วมเฟรมด้วยค่ะ
(เปล่าเลย.. คุณนั่นแหละไปเล้าหรื้อเค้าอยู่ได้ 555555)
จริงๆ ร้านนี้มีขนมหวานที่เค้าแนะนำด้วยค่ะ ชื่อเมนูว่า Baklava with ice cream แต่เนื่องจากพุงจะแตกแล้วไปต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ ถ้าใครมีโอกาสไปลองสั่งมาชิมแล้วบอกเราด้วยนะคะว่ารสชาติเป็นยังไง ส่วนอาหารมื้อนี้เราให้ 10 10 10 10 10 ไปเลยค่ะ คือที่สุดแล้วอิ่มตา อิ่มใจ อิ่มท้องมาก หลังจากอิ่มท้องเดินย่อยกันซักหน่อย...
เดินกลับไปดูวิว Blue Mosque และ Hagia Sophia ยามค่ำคืนกัน จุดนี้ตอนกลางคืนจะเปิดไฟ น้ำพุ สวยมากกค่ะ
Hagia Sophia ด้านนอกยามค่ำคืนค่ะ
Blue Mosque ด้านนอกยามค่ำคืน
ตอนกลางคืน.. ตามทางรถรางเค้าจะมีเปิดไฟด้วยนะ สวยงามมากค่ะ
ระหว่างทางเดินกลับที่พัก.. มีคุณลุงที่เป็นคนขัดรองเท้าเดินโฉบตัดหน้าเราไปพร้อมอุปกรณ์ขัดรองเท้าของนาง ซ้ากพ้ากกก นางทำแปรงขัดรองเท้าตก ด้วยความเป็นคนดีของเรา ก็บอกให้แฟนเก็บให้เค้าหน่อย (ใช้คนอื่น เพราะตัวเองไม่กล้าเก็บ5555) แฟนก็ยึกยักค่ะ สุดท้ายก็เรียกคนนั้นให้หยุดแล้วเก็บให้เค้า เค้าก็ขอบคุณเรามากๆๆๆ ที่เก็บอุปกรณ์ทำมาหากินให้เค้า เค้าก็เลยจะขัดรองเท้าให้แฟนเราเป็นการตอบแทน แฟนเราก็มัวแต่ยืนคุยกับเค้าละบอกว่าไม่เป็นไรๆๆ ไม่เดินออกมาซักที ก็เลยบอกแฟนว่าไปเหอะอย่าเลยเดี๋ยวรองเท้าพัง คุณลุงคนนั้นก็ทำหน้าเซงๆ ระหว่างเดินก็ยังคิดดีอีกพูดกับแฟนว่าพวกเราดูไม่ใจร้ายใช่ป่าว ไปปฏิเสธน้ำใจเค้า 55555 (ไม่รู้ซะแล้ววววว เดี๋ยวจะเล่าต่อให้ฟังใน Day 2 ค่ะ)
ติดตามเพจของเราได้ที่ : Aood Around
Aood Around
วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 16.42 น.