#ทริปสิงหาคม ๒๕๖๑ แม่สะเรียง เวียงงาม

#การเดินทาง

@กทม.- เชียงใหม่ - กทม.

ขาไปเสาร์ที่ ๑๘ ไฟลท์แรกสุดของบางกอกแอร์เวย์

ขากลับอาทิตย์ที่ ๑๙ไฟลท์ดึกสุดของแอร์เอเชีย

ทำไมไม่จองสายการบินเดียวไปกลับ? ก็เพราะเวลามันไม่ได้อย่างที่เราสะดวกค่ะ

แบบนี้แหละสะดวกสุด

@เชียงใหม่ - แม่สะเรียง - เชียงใหม่

เราใช้บริการรถเช่าของ asap เราเลือกโฟรวิว ก็ได้ฟอร์จูนเนอร์มา ราคา ๕,๗๐๐ สำหรับสองวัน

#ที่กิน

- ปาท่องโก๋โกเหน่ง เชียงใหม่

- ร้านบ้านไม้แดง แม่สะเรียง

- ราดหน้า 18 ร้าน แม่สะเรียง

- ร้านลุ่มเวียง แม่สะเรียง

- ร้านโอ้กะจู๋ เชียงใหม่

#ที่พัก

เดอะริเวอร์เฮ้าส์แม่สะเรียง

#จุดท่องเที่ยว

- โครงการหลวงแม่โถ อ.ฮอด เชียงใหม่

- พระธาตุจอมแจ้ง พระธาตุจอมมอญ พระธาตุจอมกิตติ พระธาตุจอมทอง

และ ตัวเมืองแม่สะเรียง


เอาหละ ตามมาเลยค่ะ

ตัดฉับมาถึงเชียงใหม่เรียบร้อย iัรถเสร็จก็ไปหาอะไรกิน

ก่อนนี้จะหาอาหารเช้ากินแถว มช.ค่ะ พอดีครั้งดีเห็นรีวิวร้านโกเหน่งแว่บ ๆ จากที่ไหนสักแห่ง

ปาท่องโก๋น่ารักดี ต้องไปจัดสักหน่อย


ร้านอยู่ที่กาดหลวงเลยค่ะ เราไปจอดรถที่ไปรษณีย์แล้วเดินข้ามถนนมา

เข้าซอยไปนิดนึงก็ถึงหละ ถ้าหาร้านไม่เจอก็ถามพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นเลยค่ะ

คนเหนือใจดี น่ารัก ถามอะไรก็เต็มใจให้ข้อมูล


นี่ค่ะร้าน

ไดโนเสาร์กับมังกร จัดมาอย่างละตัว น่ารักกกก

แต่ชอบไดโนเสาร์มากกว่าแฮะ

ก็มีโจ๊กมีอะไรขายเป็นอาหารเช้าค่ะ

สนนราคาก็ตามนี้

ปาท่องโก๋ก็รสชาติปกติทั่วไปแหละค่ะ ตอนร้อน ๆ อร่อย กรอบนอกนุ่มใน

ยกให้ในเรื่องไอเดีย น่ารักน่ากิน



#######################################

อิ่มแล้วก็เดินทางกันเลย

ไปตามเส้นทางหลวง ๑๐๘ เชียงใหม่ ฮอด แม่สะเรียง ยาวไป ๆ

เส้นนี้ผ่านสวนสนบ่อแก้ว และ ออบหลวง ใครมีเวลาก็แวะเลยค่ะ

เราเคยมาหลายรอบหละ แวะทุกรอบ คราวนี้ไม่แวะดีกว่าเนอะ

เราจะไปแวะโครงการหลวงแม่โถกัน ก็ขับยาวมาจนถึงแยกบ้านกองลอย

เลี้ยวขวาก่อนข้ามสะพาน เข้าไปก็ยาวเลย มีป้ายโครงการหลวงเป็นระยะ

ไม่ต้องกลัวหลง มีถนนหลักเส้นเดียวเลย ถนนดีลาดยางทั้งเส้นรถอะไรก็ขึ้นได้หมด



ระหว่างทางมีความสวยงามเป็นระยะ


และมีความหวาดเสียวอยู่หน่อย ๆ อย่าหลับในนะ ไม่งั้นได้พุ่งไปเก็บผักแน่


ระยะทางจากแยกกองลอยเข้ามาจนถึงโครงการหลวงก็ราว ๆ ๑๖ กิโล (ถ้าจำไม่ผิด)

จะถึงหมู่บ้านก่อน


ถัดจากหมู่บ้าน ๒-๓ กิโลก็เป็นที่ทำการโครงการหลวง


อดีตของที่นี่ส่วนใหญ่เป็นการทำไร่ฝิ่นและไร่เลื่อนลอย

เผาป่าไปเรื่อย ๆ จนกลายสภาพเป็นป่าเสือมโทรม


**พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ

ได้ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าที่ผ่านมา พื้นที่ป่าบนที่สูงถูกทำลายไปมาก

จึงทรงมีพระราชดำริเรื่อง งานส่งเสริมและการพัฒนาต้นน้ำ ด้านการดำรงชีวิตให้แก่ชาวเขาตามสภาพความเป็นอยู่ในพื้นที่

และทรงจัดตั้งโครงการหลวงพัฒนาต้นน้ำหน่วยที่ 6 ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2518 เพื่อเน้นการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ

ลดการทำลายต้นน้ำ มีการจ้างงาน ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้น้ำและระบบการไหลเวียนของน้ำ

ในเวลาเดียวกันต้องคำนึงถึงปัญหาทางเศรษฐกิจในชุมชนของชาวเขา

มีการให้ความรู้ สอนการปลูกพืชผักเมืองหนาวแทนฝิ่น สอนการชลประทาน และอื่น ๆ

ต่อมาเปลี่ยนชื่อจากโครงการหลวงพัฒนาต้นน้ำมาเป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถเมื่อปี 2539

#ข้อมูลจาก

http://royalprojectthailand.com/maetho


ปัจจุบันบ้านแม่โถเป็นภูเขาผัก ผักสารพัดผัก และนาขั้นบันไดเป็นระยะ ๆ

ชาวบ้านแม่โถปลูกผักส่งโครงการหลวง ที่บ้านแม่โถ อลังการงานผักมาก



ในส่วนของสำนักงานโครงการหลวงฯเท่าที่สอบถามมาคร่าว ๆ นะคะ

ที่มีพัก สามารถติดต่อที่สำนักงานโดยตรง

อาจไม่สะดวกสบายนัก เหมาะสำหรับคนลุย ๆ หน่อยเนอะ



จากถนนใหญ่มายังที่ทำการ ไม่มีอะไรยาก รถอะไรก็ขึ้นได้หมดอย่างที่บอก

แต่นอกจากบริเวณที่ทำการแล้ว ยังมีจุดชมวิวดอย ๓๖๐ องศา ซึ่งต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ให้พาไปนะคะ

รถทั่ว ๆ ไปคงไปไม่ได้ รวมถึงการลงไปชมแปลงผักของชาวบ้านตามจุดต่าง ๆ ด้วย

ซึ่งเราไม่ได้ไปค่ะ วันนั้นฝนตกแทบตลอดเวลา หนักบ้างเบาบ้าง เราจึงได้แค่ถ่ายรูปรอบ ๆ ที่ทำการ

และเดินเล่นกินลมชมวิวไปตามริมถนนค่ะ แค่นั้นก็ฟินสุดหละ



รูปก็จะเยอะสักหน่อยเนอะ เราชอบถ่ายรูปนี่นะ ถ่ายมาแล้วก็เลือกไม่ได้ ชอบหมด



ไปต่อ จุดหมายเราอยู่ที่แม่สะเรียง

# แม่สะเรียง

มาถึงก็เย็นหละ จริง ๆ เพราะฝนตกตลอดทาง ดินสไลด์เป็นระยะอีกต่างหาก

ก็เข้าที่พักกันก่อนเลย


เราพักที่นี่ เดอะริเวอร์เฮ้าส์

ห้องพักราคา ๙๐๐ บาทรวมอาหารเช้าและจักรยานปั่นฟรี
(ราคานี้คือช่วง Low season นะคะ ถ้าช่วงฤดูท่องเที่ยวก็ ๑,๒๐๐ - ๑,๕๐๐ ค่ะ)

เห็นราคาถูกยังงี้ ห้องดีมากค่ะ ห้องกว้างขวาง วิวงาม

เครื่องอำนวยความสะดวกครบ ยกเว้นตู้เย็น


เดอะริเวอร์เฮ้าส์มีทั้งโซนตึกและอาคารไม้

อธิบายเพิ่มเติมนิดนึง ตัวอาคารไม้เนี่ย ชื่อว่า Riverhouse Hotel (The Teak House)
ส่วนตัวตึก ชื่อ Reverhouse Resort
ใครชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้นเลยค่ะ ตามสะดวกของแต่ละคนเนาะ

อันนี้ค่ะโซนตึก
แต่เราไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปบริเวณด้านในนะคะ แต่เท่าที่เคยเห็นจากในเพจก็สวยมากอยู่

โซนตึกใหม่กว่า ความสะดวกสบายอาจมีมากกว่า (ราคาประมาณเดียวกัน)

แต่เราเลือกพักอาคารไม้ เราว่ามันได้อารมณ์แม่สะเรียงมากกว่า

อาคารไม้เก่าสีแดงเป็นไม้สักทั้งหลัง มีสามชั้น เราพักชั้นสอง น่าจะวิวแจ่มสุด

ข้อเสียของอาคารไม้คือ ไม่เก็บเสียงเน้อ ใครคุยไรกัน เดินไปเดินมาก็ได้ยินถึงกัน

แต่มันเวิร์คมากสำหรับเรา มันดูขลังดี

ห้องพักประมาณนี้

ห้องน้ำ

ระเบียง และมองจากระเบียงลงไป นั่นคือแม่น้ำยวม

อาคารตึกมีสระว่ายน้ำริมแม่น้ำยวมด้วย แต่เราไม่ได้เข้าไปดูนะคะฝนลงปรอย ๆ เลยขี้เกียจ

แม้จะพักอาคารไม้ก็ไปใช้สระอาคารตึกได้ สองอาคารจะอยู่ห่างกันราว ๕๐ เมตร


เข้าห้องพักก็อาบน้ำอาบท่า นอนเล่นแป๊บนึงออกไปหาอะไรกิน ดูรีวิวมาก็เห็นว่า ร้านบ้านไม้แดงน่าจะโอเคสุด

เป็นร้านอาหารเจ้าของเดียวกับที่พักเราค่ะ เดินไปไม่เกินร้อยเมตร

สั่งอาหารไม่ทานไม่เยอะ เพราะตะกี้ตอนเดินออกมาผ่านร้านราดหน้า

กลิ่นหอมฟุ้ง เกิดอยากกินราดหน้าขึ้นมาด้วย เลยเผื่อท้องไว้สักหน่อย


อาหารที่บ้านไม้แดงก็โอเค รสชาติดีถึงดีมาก แต่รอนานพอสมควรกว่าอาหารจะออกแต่ละจาน

ขนาดว่าวันนั้น ตอนนั้นมีเราเป็นลูกค้าโต๊ะเดียว ไม่สิ สองโต๊ะ อีกโต๊ะมีชาวต่างชาตินั่งทานอยู่คนเดียว

ยังคิด ร้านใหญ่โตถ้าลูกค้าเต็มร้านจะทำไงเนี่ย แอบห่วง

ส่วนเรานั้นไม่ซีเรียสเพราะความที่บรรยากาศร้านดีก็นั่งได้เรื่อย ๆ สบาย ๆ

แนะนำเมนูปลานะ ปลาที่นี่เขาสด เนื้อหวานอร่อย





แล้วก็มากินราดหน้าต่อ นี่ร้านนี้

มันใช่! นี่แหละราดหน้าแบบที่เราชอบ มันจะมีกลิ่นซีอิ้วดำ กลิ่นกระทะไหม้

เราชอบราดหน้าที่มีกลิ่นแบบนี้ นี่ถ้าใส่เต้าเจี้ยวด้วยจะดีงามสยามประเทศเข้าไปอีก

แต่บางคนอาจไม่ชอบเต๊าเจี้ยวมั้งนะ

อิ่มจริง ๆ หละทีนี้ ก็มืดค่ำพอดีกลับห้องไปนอน

บรรยากาศที่พักยามค่ำคืน ฟินนะ



ฮัลโหลวววว แม่สะเรียงยามเช้า วิวจากระเบียงห้อง ดีงามจริง ๆ

ออกไปปั่นจักรยานสักหน่อยดีกว่า

ตอนเช้าตรู่นี่รอใส่บาตรหน้าที่พักได้เลยนะคะ แต่ต้องเตรียมอาหารเอง

ละแวกนี้ไม่เห็นขายอาหารใส่บาตรแบบสถานที่ท่องเที่ยวอื่นเลยแฮะ

แต่เราชอบวิถีแบบนี้นะ มันจริง มันใช่ มันไม่ได้จัดฉาก


อาหารใส่บาตรน่าจะไปซื้อที่ตลาดเช้าค่ะ แต่เราไม่ได้ไป มัวแต่ปั่นจักรยานหลงทาง

เลยไม่ได้ใส่บาตร ไม่เป็นไร ยังไงเราก็ตั้งใจมาเที่ยวที่นี่อีกแหละในอนาคต



เราว่าแม่สะเรียงสวยแบบเบา ๆ ไม่รุงรัง ไม่ปลอม ยังไม่มีสิ่งผิดปกติวิสัยเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด



แม่สะเรียงเป็นเมืองไม่ใช่ป่า เป็นเมืองที่ภูเขาห้อมล้อม มีแม่น้ำยวมไหลผ่าน

แม่สะเรียงเป็นอย่างที่มันเป็น ในตัวเมืองมีผับ บาร์เยอะแยะตามประสาเมือง

ปั่นจักรยานออกซอยนอกเมืองไปหน่อยก็เป็นทุ่งนา แม่น้ำ

วิถีทำการเกษตรแบบบ้าน ๆ ทั่วไป ปลูกข้าว หาปลา ทอผ้า


ไม่ได้มีออแกร์นิกฟง ออร์แกนิกฟาร์มเพื่อการท่องเที่ยวอะไรทั้งนั้น (ณ ตอนนี้นะคะ ต่อไปนั้นเราไม่อาจรู้ได้)


เราชอบแบบนี้ แบบวิถีปกติของมัน

ที่พัก ร้านรวงต่าง ๆ ล้วนอยู่บนถนนเส้นเดียวกัน ริมแม่น้ำแทบทั้งหมด

เช้า ๆ อากาศดีมากมาย ปั่นจักรยานชมเมืองชิว ๆ

ที่พักส่วนใหญ่มีจักรยานให้ปั่นฟรี



ถนนซอกเล็กซอกน้อย ปั่นไปปั่นมาก็ไปโผล่ทุ่งนารอบ ๆ ตัวเมือง

หน้าฝนกำลังงามได้ที่เลย


กลับไปทานอาหารเช้ากันเถอะ ฝนเริ่มลงเม็ดนิดหน่อยแล้ว

อาหารเช้ามีให้เลือกเป็นข้าวต้มหรือ ABF อย่างใดอย่างนึง

กาแฟ เครื่องดื่ม ครัวซอง ขนมปัง น้ำผลไม้เติมได้ตามต้องการ ก็พออิ่มค่ะ

เตรียมเก็บของ เช็คเอาท์กันเลย จะได้ไปพระธาตุ ๔ จอมกันต่อ

มาต่อกันที่วัดพระธาตุ ๔ จอม



#พระธาตุสี่จอม

เป็นชื่อเรียกรวมวัดคู่บ้านคู่เมืองของแม่สะเรียง ซึ่งมี ๔ วัด ตั้งอยู่บนภูเขาทั้ง ๔ ทิศของแม่สะเรียง

และมองลงมาเห็นแม่สะเรียงทุกทิศ

ทั้งสี่วัดมีพระธาตุประดิษฐานไว้ในองค์เจดีย์เป็นศูนย์รวมใจ

เชื่อกันว่าพระธาตุทั้งสี่ทิศจะปกปักรักษาคุ้มครองชาวแม่สะเรียงให้สุขสงบร่มเย็น


พระธาตุสี่จอม ได้แก่

๑. พระธาตุจอมแจ้ง

๒.พระธาตุจอมมอญ

๓.พระธาตุจอมกิตติ

๔.พระธาตุจอมทอง


เริ่มที่พระธาตุจอมแจ้งก่อน

#พระธาตุจอมแจ้ง

ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่สะเรียง ตรงทางเข้าเมืองอำเภอแม่สะเรียง

ใกล้กับ พิพิธภัณฑ์แม่สะเรียง คือจะเข้าเมืองแม่สะเรียงต้องผ่านวัดพระธาตุจอมแจ้ง

ขึ้นไปกราบกันเถิด เพื่อความสิริมงคลแก่ชีวิต

แนะนำว่า ให้ไปตอนเช้า ๆ ขณะทำวัตรเช้า

พระที่นี่สวดมนต์น่าฟังมาก บทสวดไม่ใช่แค่ภาษาบาลีอย่างเดียว

แต่จะตามด้วยคำแปลพร้อมสรรพ คำแปลเป็นภาษาไทยเหนือไพเราะ ฟังเพลินมาก ๆ

ฟังแล้วแอบยิ้ม น่ารัก

จอดรถแล้วเดินขึ้นบันไดไปนิดหน่อยเองค่ะ ไม่กี่ขั้น

พระธาตุอยู่ด้านหลังพระอุโบสถ

วิวรอบ ๆ เมื่อมองไป


ซูมไปจากพระธาตุจอมแจ้ง ที่เห็นนั้นคือ พระธาตุจอมกิตติ


มาต่อกันที่ #พระธาตุจอมมอญ

ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของแม่สะเรียง ห่างจากในเมืองประมาณ ๓ กิโล

ตั้งกูเกิลแมปเลย แล้วไปตามนั้น

ชอบที่นี่เป็นพิเศษ เพราะทางขึ้นสวยงามมาก บันไดกี่ร้อยขั้นไม่รู้ แต่ไม่เหนื่อยเลย

เพราะแวะถ่ายรูปแทบจะทุกขั้นบันได

ความที่ต้นไม้เยอะ มีความครึ้มความชื้นสูง

บันไดเต็มไปด้วยมอส เฟิร์น สิ่งมีชีวิตจิ๋ว ๆ เต็มไปหมด


เรามีไกด์นำทางด้วย เป็นหมาน้อยตัวหนึ่ง นางเห็นเราเดินขึ้นกันสองคน นางรีบวิ่งมาหา

แล้วนำหน้าขึ้นบันได เราหยุดถ่ายรูป นางหยุดรอ พอส่งเราขึ้นจนถึง นางก็วิ่งลงไปข้างล่างเลย

บนพระธาตุมีจุดชมวิว สวยมาก เห็นเมืองแม่สะเรียงชัดแจ่ม

อากาศดีมากมาย และไร้ผู้คน เงียบสนิท

ขึ้นมาเร็ว ๆ สิมนุษย์ อ้อยอิ่งอยู่นั่นแหละ!

ถึงแล้วววว

ไม่มีคนเลยค่ะ เงียบสนิท อากาศดีมาก

วิวทิวทัศน์โดยรอบชวนหายใจสดชื่นเสียจริง


แล้วก็มาต่อที่ #พระธาตุจอมกิตติ

ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของแม่สะเรียง ห่างจากในเมืองประมาณ ๓ กิโล

ตั้งกูเกิลแมปเช่นเคย กูเกิลแมปนี่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

แน่นอน มองลงไปเห็นแม่สะเรียงเวียงงามเช่นเคย

ที่นี่ขับรถขึ้นไปจอดด้านบนได้เลย เดินอีกไม่กี่สิบเมตรก็ถึงพระธาตุหละ


เงียบ นิ่งสนิท มีแค่เราและใครอีกสองคนกับน้องหมาหนึ่งตัวมาสวดมนต์

จอดรถแล้วเดินไปตามทางนี้

จากพระธาตุจอมกิตติ มองไปอีกทิศ เห็นพระใหญ่ที่วัดพระธาตุจอมทองอยู่ลิบ ๆ

เดี๋ยวเราจะไปที่นั่น



เหลืออีกหนึ่งจอม เริ่มหิวแล้ว แวะหาอะไรกินก่อนดีกว่า

ร้านนี้ค่ะ อ่านเจอรีวิวเขาว่าอาหารอร่อย และวิวดี จัดไปค่ะ

ร้านลุ่มเวียง ร้านอาหารและเครื่องดื่มเล็ก ๆ ในแม่สะเรียง




วิวงามจริงตามที่เขาว่า (เขาไหนหว่า?) ร้านน่ารัก นั่งเพลิน ๆ ชมวิวฟิน ๆ ฟังเพลงเพราะ ๆ



อาหารรสชาติดีถึงดีมาก ราคาไม่แพง สเต๊กจานละเจ็ดสิบแปดสิบ

แต่เครื่องดื่มอย่าคาดหวังมากนะ


ร้านอยู่ใกล้วัดแสนทอง จอดรถในวัดได้เลย จริง ๆ ปั่นจักรยานไปก็ได้

แม่สะเรียงเป็นเมืองเล็กและเงียบ เหมาะแก่การปั่นจักรยาน

ที่พักส่วนใหญ่มีจักรยานให้ปั่นฟรี

ถ้าหาร้านไม่เจอก็ตั้งกูเกิลแมปเลย ก็ไปตามนั้น


อิ่มแล้วก็ไปต่อ

มาถึงจอมที่สี่ค่ะ #พระธาตุจอมทอง

ตั้งอยู่ในทิศตะวันตกของเมือง ตามกูเกิลแมปเหมือนเดิม


พระธาตุอยู่หลังอุโบสถ จอดรถแล้วถึงเลย

แต่ถ้าจะขึ้นไปกราบ หลวงพ่อโต “พระพุทธมณี มิ่งมงคล” ก็เดินขึ้นบันไดไปอีกหน่อย จุดชมเมืองจะอยู่บนนี้แหละค่ะ

เป็นอันครบทั้ง ๔ จอม ๔ ทิศ

ถ้าใครไปเที่ยวแม่สะเรียง แนะนำไปกราบให้ครบทั้ง ๔ จอมนะคะ

ทุกที่สวยงาม เงียบ สงบ


เอาหละ ได้เวลากลับแล้ว ฝนเริ่มปรอยเม็ดอีกแล้ว เราก็วิ่งยาวเข้าเชียงใหม่ค่ะ

ถึงเชียงใหม่ก็เย็น ๆ แต่ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงไฟลท์กลับ

กินสิคะรออะไร โอ้กะจู๋ค่ะ สาขานิ่ม ซิตี้เดลี่

เราชอบเพราะจานมันใหญ่ยักษ์ ผักสดกรอบและอร่อย

แต่คนก็เยอะละเกิ๊น รอคิวกว่าจะได้โต๊ะ แต่ไม่เป็นไรเราไม่รีบ



ฟิน ๆ กันไปจานใหญ่จนเหนื่อยจะกิน แต่เราก็กินหมดทุกทีแหละ

จบรีวิวตรงนี้เลยแล้วกันนะคะ รีวิวของดิฉันจบที่เรื่องกินเสมอ


Paramee Na Prasri

 วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 18.06 น.

ความคิดเห็น