เวลาเดินช้า ที่ ป่าปงเปียง

ไปนอนโฮมสเตย์ริมทุ่งนาขึ้นบันได ที่ ป่าปงเปียง กันครับ

มาที่นี่เหมือนได้หยุดเวลา มาใช้ชีวิตช้าๆ แบบชิลๆ

แค่ได้นั่งนิ่งๆ มองวิวทุ่งนาเขียวๆ แค่นี้ก็ฟินละครับ

สำหรับหลายคนคงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ปักหมุดไว้ในใจว่าสักครั้งนึงในชีวิตต้องไปให้ได้ อดิเองบอกเลยว่าที่ปักหมุดไว้มีเยอะมากๆ แต่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติอย่างอดิ ที่เที่ยวลำดับต้นๆคงจะหนีไม่พ้นการได้ไปเห็นวิวสวยๆของนาขึ้นบันไดในช่วงที่ทุ่งข้าวสีเขียวๆ ทริปนี้เราเลยจองที่พักเพื่อจะนอนชิลๆริมทุ่งนากันซะหน่อยและที่เราจะเดินทางไปเที่ยวครั้งนี้ นั่นก็คือ ป่าปงเปียง นั่นเอง

บ้านป่าปงเปียง อยู่ใน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านของชาวเขาปกากะญอ ชาวบ้านที่นี่ได้ใช้พื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ทำกินกันมาหลายรุ่นนี้มีทั้งปลูกพืชผัก ข้าวโพด และข้าว ด้วยพื้นที่เป็นที่ลาดเชิงเขาการเพาะปลูกจึงต้องทำให้การเพาะปลูกเป็นแบบขั้นบันได จึงเป็นที่มาของการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่มาชมความสวยงามนาขั้นบันไดที่ บ้านป่าปงเปียง ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นนาจั้นบันไดสวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

การเดินทางทริปนี้เราไม่ได้ขับรถกันนะครับ เราเลือกเดือนทางกันโดยรถสาธารณะ โดยใครจะนั่งเครื่องมาลงที่เชียงใหม่หรือจะนั่งรถบัสมาลงที่อาเขตก็ได้ อดิเลือกการเดินทางขามาโดยรถบัสของนครชัยแอร์ จะได้ไม่กินเวลาทำงาน เลิกงานเสร็จแล้วก็มาขึ้นรถเที่ยว 20.20 น. เดินทางถึงเชียงใหม่ประมาณ 6 โมงเช้า เราลงที่อาเขต หาที่พักแบบเดย์ยูสเพื่ออาบน้ำล้างหน้ากันซะหน่อย ที่พักรอบๆอาเขตมีให้เลือกหลายราคาตั้งแต่ 150-600 บาท เราเลือกที่ บ้านคุณแม่ ดูแล้วเพิ่งจะรีโนเวททาสีใหม่ ในราคา 300 บาท

หลังจากอาบน้ำเสร็จเราเลยเดินไปหาเรียกรถสองแถวแดงให้ไปส่งที่ บขส.ช้างเผือก เพื่อจะไปต่อรถสองแถวเหลือง ไปที่อ.จอมทองกัน

ตอนแรกตั้งใจจะไปขึ้น บขส.ช้างเผือก แต่ลุงขับสองแถว แก่เห็นของเราเยอะ เลยบอกว่าไปรถเมล์ไหมจะได้นั่งสะดวก เราเลยเปลี่ยนใจไปนั่งรถเมล์กันดีกว่า

รถที่เราจะไปขึ้นจอดอยู่แถวๆประตูเชียงใหม่ สายเชียงใหม่-ฮอด ออกทุกๆ 40 นาที เราขึ้นรถประมาณ 07.40 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.

พนักงานมาเก็บค่าโดยสารคนละ 34 บาท

แอบถ่ายเด็กน้อยที่นั่งรถมาด้วยกันซะหน่อย


รถพาเรามาจอดที่ท่ารถที่จะไปแม่แจ่ม ที่เรารีบมากะจะมาให้ทันรถ คิว 1 รอบ 09.30 น. มาทันนะครับ แต่รถออกไปแล้ว เพราะวินที่นี่ถ้าคนเต็มปุ๊ปรถออกเลย ทีนี้เลยต้องรอรอบ 11.30 น. เวลาเหลือเยอะเลยแวะไปไหว้พระกันที่วัดพระธาตุศรีจอมทองกันหน่อยดีกว่า

ได้มีโอกาสมาไหว้พระธาตุศรีจอมทองพระธาตุประจำปีเกิดของปีชวด เป็นปีเกิดของอดิพอดีเลยครับ เสร็จแล้วเราเลยรีบกลับไปจับจองที่ที่รถสองแถวกัน

มาถึงก็ถ่ายรูปเล่นกัน พอออกเดินทางคนแน่นเลยได้ยืนขึ้นดอยสมใจเลยทีนี้ แต่อากาศดีครับ ยืนรับลมเย็นสบายเลย ก่อนรถออกเราโทรหาพี่วิชัย เจ้าของที่พักที่เราจองไว้ ให้ออกมารับเราเข้าไปที่หมู่บ้าน โดยให้เราลงที่ทางเข้าน้ำตกแม่ปาน

รถขับมาเรื่อยๆมุ่งหน้าทางเดียวกับทางขึ้นดอยดินทนนท์ เลยด่านมาเล็กน้อยรถเลี้ยวซ้ายขับต่อไปทางไป อ.แม่แจ่ม สองข้างทางร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ มีหมอกจางๆเป็นระยะๆ

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม. รถก็มาจอดส่งเราที่ทางเข้าน้ำตกแม่ปาน

รถจากแม่แจ่ม ที่จะไปจอมทองผ่านมาพอดี เดี๋ยวพรุ้งนี้เราต้องมาดักขึ้นรถกลับกันตรงนี้ละครับ

รถของพี่วิชัย เจ้าของบ้านมาฉิโพ ที่เราจองไว้มารอรับเราอยู่ที่ปากทาง ไปต่อกันเลยครับ

ช่วงที่เราไปมีฝนตก ทางเลยจะค่อนข้างลื่นสักหน่อย เส้นทางเข้าหมู่บ้าน เป็นทางดินช่วงที่เราไปมีฝนตกทางเลยค่อนข้างขับลำบากซะหน่อย แต่มากับเจ้าถิ่นอย่างพี่วิชัยหายห่วง พี่เขาขับเข้าออกประจำรู้ล่องทางเป็นอย่างดี ใครเอารถมาเองต้องเป็นรถยกสูงนะครับ และดูล่องทางขับให้ดีๆไม่งั้นอาจติดหล่มได้


มาถึงแล้วครับที่พักของเราบ้านมาฉิโพ ที่เราจองไว้ ที่นี่มีสัญญาณโทรศัพท์ แต่ไม่มีไฟฟ้านะครับ มีไฟจากเครื่องชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์แต่ไม่มาก ใครมาเตรียมพาวเวอร์แบงค์มาให้พร้อมด้วยนะครับ



มาฉิโพ แปลว่า ลูกชาวนา บ้านมาฉิโพ มีเพียงแค่หลังเดียว สร้างอยู่บนเนินสูงมองเห็นวิวทุ่งกับภูเขาวยมากๆ สำหรับใครที่จองกับพี่วิชัยแล้วอาจจะได้นอนหลังอื่นแต่ก็วิวดีไม่แพ้กันครับ


ด้านหน้ามีระเบียงให้นั่งเล่นด้วย


ใครอยากรับลมสามารถนอนตรงนี้ได้เลยมีมุ้งกางให้เรียบร้อย

ด้านในห้องตกแต่งอย่างเรียบง่าน มีหน้าต่างให้นั่งมองวิวจากห้องด้วย



วิวสวยๆจากบ้านมาฉิโพมองไปเจอสีเขียวๆแบบนี้สดชื่นสุดๆ



ไปเดินเล่นชมบรรยากาศรอบๆกันดีกว่า บ้านแต่ละหลังก็จะมีระเบียงหน้าบ้านให้นอนเล่น




เดินลัดเลาะเล่นไปตามทุ่งนา บรรยากาศรอบตัวมีแต่สีเขียวๆ สดชื่นมากๆ ระหว่างเดินมีฝนตกเล็กน้อย อากาศเลยไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่



กลับมานั่งเล่นที่หน้าบ้านสักพักหมอกขาวๆลอยมาเต็มทุ่งนาเลย


แค่นั่งเล่นมองวิวหน้าบ้านก็ชิลสุดๆละครับ


จากวิวด้านหน้าที่่เป็นภูเขาถูกหมอกมาดบังจนฉากหลังเป็นสีขาว บรรยากาศก็สวยไปอีกแบบ



พระอาทิตย์เริ่มลาลับขอบฟ้า เราตั้งใจรอชมพระอาทิตย์แต่วันนี้เมฆและหมอกเยอะเลยทำให้อดเห็นพระอาทิตย์ตกเลย



ปิ่นโตอาหารเย็นมาส่งถึงหน้าบ้านพัก



ตกเย็นฟ้าเริ่มมืดลง เราจุดเทียนไขที่ทางที่พักเตรียมไว้ให้ ที่พักเอาปิ่นโตอาหารเย็นมาส่ง เตรียมตัวทานข้าวเย็นกันครั อาหารเป็นอาหารแบบง่ายๆ แต่รสชาติอร่อยใช้ได้เลยครับ มีผัดฝักแม้ว, น้ำพริกปลาทู, แคปหมู,ฟักทองต้ม, ยำปลากระป๋อง, ไข่เจียว


ก่อนนอนพี่วิชัย มาเล่นดนตรีปกาเกอะญอ โดยใช้เครื่องดนตรี "เตหน่า" เป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งของชาวปกาเกอะญอ รูปร่างและลักษณะคล้ายพิณ ฐานทำด้วยขอนไม้นำหนักเบา เจาะเป็นโพรง คันมีลักษณะโค้งงอ ระหว่างฐานและคันจะขึงสาย ถึงแม้เราจะฟังภาษาไม่ออก แต่บอกได้เลยว่าเพราะมากๆ ดนตรีคือภาษาสากล อย่างที่เขาว่าจริงๆ หลังจากนั้นเราเข้านอนถึงจะไม่มีพัดลมแต่อากาศเย็นสบายมาก



ตื่นเช้ามามีฝนตกเล็กน้อย เรานั่งมองวิวจากหน้าต่างห้อง เช้าที่พักเอาน้ำร้อนและกาแฟมาให้ ชงกาแฟดื่มยามเช้ากันดีกว่า



มีรุ้งกินน้ำสวยๆมาให้ดูด้ว




มื้อเช้ามาส่งถึงหน้าห้องเลย นั่งทานอาหารพร้อมวิวหมอกจา อาหารเช้าเป็นข้าวต้มหมู พร้อมกับข้าวเป็นผัดผักกาดขาว, กุนเชียง, ไข่ต้ม



หมอกเริ่มมาอีกแล้วครับ


บรรยากาศสวยๆของกระท่อมกลางนา


ป่าปงเปียง เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่อดิอยากให้เพื่้อนๆลองหาโอกาสมาเที่ยวกันนะครั บรรยากาศธรรมชาติสุดมาแล้วเหมือนได้หลุดจากความวุ่นวาย ได้มาหยุดเวลาใช้ชีวิตให้ช้าลง แล้วอย่าลืมหาโอกาสตามอดิมาชิลกันที่ ป่าปงเปียง กันนะครับ


พี่วิชัยพาเรามาส่งที่ร้านค้าเลยทางเข้าน้ำตกแม่ปานมาเล็กน้อย ปกติขากลับต้อง รอรถที่มาจากแม่แจ่ม แล้วขึ้นไปลงที่จอมทอง แล้วต่อรถสองแถวกลับเชียงใหม่

วันที่เราไปมีงานวิ่งขึ้นดอยอินทนนท์มีปอดถนน รถเลยมาช้า ออกมารอรถตั้งแต่ 9.00 น. รอจน 10.00 น. รถก็ยังไม่มีวี่แววมา เราต้องขึ้นไปเที่ยวเชียงดาวต่อเลยกลัวจะเสียเวลา เลยตัดสินใจโบกรถกะบะของชาวบ้านที่ขับผ่าน เจอพี่รถกะบะสีแดงใจดีจอดรับเราตอนแรกจะขอไปลงแค่จอมทอง แต่พี่เขาเข้าเชียงใหม่พอดีเลยมาส่งเราแถวๆหางดง ต้องขอบคุณพี่รถกะบะสีแดงคันนั้นมากเลยครับ พี่เขาขับได้ทันใจวัยรุ่นสุดเรามาถึงเชียงใหม่เกือบบ่ายโมง จากนั้นเราต่อรถไปที่บขส.ช้างเผือก เพื่อไปที่เชียงดาวกันต่อ เพื่อนๆรอติดตามตอนต่อไปของอดิด้วยนะครับ ขอจบทริป ป่าปงเปียง ไว้เพียงเท่านี้ละครับ


บรรยากาศของป่าปงเปียง

การเดินทาง

ทริปนี้เราเดินทางโดยรถสาธารณะ

-ขึ้นรถประจำทางจากเชียงใหม่ สายเชียงใหม่-ฮอด ไปลงที่ อ.จอมทอง

-ถึงจอมทองให้ขึ้นรถสองแถวสายจอมทอง-แม่แจ่ม ไปลงที่ทางเข้าน้ำตกแม่ปาน

-ขึ้นรถจากที่พักที่เราโทรนัดรถจะมาจอดรอปากทางเข้าไปส่งที่ในบ้านพัก

ช่วงเวลาท่องเที่ยว

-ช่วง มิ.ย : เป็นช่วงลงข้าว ทดน้ำเข้านา

-ช่วง กค.-ก.ย : เป็นช่วงที่นาข้าวจะมีสีเขียวขจี

-ช่วง ต.ค : ช่วงนี้นาข้าวเริ่มออกรวง มีสีเขียวปนเหลือง

-ช่วง พ.ย : นาข้าวจะเหลืองเต็มที่ เริ่มต้นฤดูการเก็บเกี่ยว

ที่พัก

บ้านมาฉิโพ ป่าปงเปียง
ค่าที่พัก 500 บาท/คน (รวมอาหารเช้า-เย็น)
ค่ารถรับ-ส่ง เข้าป่าปงเปียง 700 บาท/คัน
โทร : 081-020-1691 (พี่วิชัย)

ที่บ้านป่าปงเปียง สัญญาณโทรศัพท์อาจจะขาดๆหายๆบ้าง ใครจะจองที่พักต้องขยันโทรนิดนึงนะครับ เพราะพี่วิชัยแกรับจองเองคนเดียว แถมยังต้องมาขับรถรับ-ส่งลูกค้าเข้าหมู่บ้านด้วยครับ

ช่วงนี้นาข้าวกำลังเขียวใครอยากเจอบรรยากาศฟินๆแบบนี้ อย่ารอช้ารีบชวนแฟน ชวนเดอะแก๊งค์ แล้วตามอดิมาฟินกับวิวทุ่งนาขั้นบันไดสวยๆ ที่ ป่าปงเปียงนะครับ


#chillwithadi #อดิพาชิล
#ป่าปงเปียง #บ้านมาฉิโพ
#เที่ยวเชียงใหม่ #เชียงใหมา

ความคิดเห็น