อยากไปพักผ่อน สัมผัสอากาศเย็นๆสบายๆใกล้กรุงเทพจัง ใกล้ๆ เขาใหญ่ ปากช่องอะไรงี้ ตังค์ไม่ค่อยมี ไปไกลก็แพง ที่สำคัญที่สุดคือ รถส่วนตัวก็ไม่มีอีก อยากไป จะนั่งรถไฟไปได้มั้ย? ลองหาข้อมูลดู เอ้า! นั่งรถไฟไปได้นี่หว่า มหากาพย์ต่อรถก็ได้เกิดขึ้นอีกแล้ว อีรุงตุงนังไปอีก เนี่องจากนั่งรถเมล์หวานเย็นไปแล้วลุงลืมจอด ขับเลยที่พักไปอีกจนลุงขับรถปิคอัพกลับมาส่งอีกรอบ

สนุก ที่พักน่ารัก ชอบมาก มีน้องหมาตัวโตๆ อ้วนๆ เต็มไปหมด

เริ่มต้นเดินทางด้วยรถไฟ เรามาที่สถานีรถไฟกรุงเทพแต่เช้าเพื่อต้องการขึ้นรถไฟรอบเช้า 06.40 น. ขบวน 135 แต่เราสาย เลทไปนิดเดียว ไม่ถึง 5 นาที รถไฟออกไปแล้ว ตาลีตาเหลือกมาแทบตาย ตกรถไฟซะงั้น 5555

เลยต้องรอขบวนต่อไป เป็นรถด่วนขบวน 71 ออกเวลา 10.05-13.25 น. หลับรอเลย แต่แต้มบุญน้อยเหลือเกิน เจอรถไฟเลทไปอีก 30 นาที ค่าตั๋วรถไฟรอบนี้ 186 บาท

กว่าจะถึงบ่ายแก่ๆแน่นอน สิ่งที่กลัวคือ กลัวไม่ทันรถวังหมี นั่งไปที่พัก รอบสุดท้ายก็บ่ายสาม แต่มีเปอร์เซ็นว่าจะทันอยู่

รถไฟถึงไฟสถานีปากช่องก็บ่ายสองนิดๆแล้ว ตาลีตาเหลือกไปเดินหาคิวรถวังหมี หาไม่เจอ สรุปมันไกล ต้องเดินไปคิวรถที่ตลาดแขกนู่น เลยเดินย้อนกลับมาที่คิวรถมอเตอร์ไซค์ที่สถานีรถไฟปากช่อง ตอนแรกไม่เห็นพี่วินด้วย นั่งไปไกลพอสมควร ค่ารถ 30 บาท เกือบไม่ทันรถเมล์หวานเย็นรอบสุดท้าย

ค่ารถเมล์ 45 บาท

วิ่งไปสักพัก เราก็ดู google map ไปด้วย บอกยายคนเก็บเงินไปด้วยว่าถ้าถึงที่พักให้บอก แต่ยายดันลืมเราคนเดียว ทั้งคันก็ลืมเราคนเดียวเนี่ย 5555

จนนั่งไปถึงคิวรถเลย เลยมา 2-3 กม. ลุงคนขับเลยขับรถกระบะมาส่งเราที่ไร่อีกรอบ นั่งรถ ต่อรถกันเป็นว่าเล่นเลย แต่คุยกับลุงบนรถไปด้วยก็สนุกดี เพราะมีเด็กน้อยหลานๆของลุงนั่งมาด้วย

ค่าที่พัก บ้านไร่ตับเต่าฟาร์มสเตย์ 600 บาท รวมอาหารเช้า จะซื้ออาหารจากในเมืองมากินเองก็ได้เป็นอาหารเย็น แต่แนะนำว่าทานอาหารเย็นของที่นี่ด้วยดีกว่า เพิ่มอีก 200 บาท อาหารอร่อยมาก ได้เยอะมาก

ที่ชอบมากของที่นี่เพราะมีน้องหมาตัวโต บรรยากาศเป็นกันเองเหมือนอยู่บ้าน เจ้าของที่พักใจดีมากค่ะ

ขากลับก็กลับทางเดิม โบกรถเมล์หวานเย็น ดันเจอลุงป้าคันเดิม ค่ารถ 45 บาท นั่งวิน 20 บาท (คราวนี้ทำไม 20 ล่ะ) มาที่สถานีรถไฟ นั่งรถไฟกลับ 86 บาทจ้า แทบไม่ได้ซื้ออะไรเลย อยู่ไร่ อยู่ฟาร์ม ไม่ต้องออกไปซื้ออะไร กินอิ่ม นอนอุ่น

อยากไปพักผ่อนใกล้กรุงเทพ อากาศดีๆ แบบนั่งรถไฟเล่นกินลมชมวิว ลองนั่งรถไฟไปปากช่องดูได้นะคะ

อันนี้เป็นเวลารถเมล์ปากช่อง-วังหมีนะคะ

เวลารถออก 10.00 , 11.30 , 13.00 , 15.30 ,17.00

เวลารถออกจากวังหมี 06.00 , 07.00 , 07.30 , 11.40 , 15.00

เวลาการเดินรถยังไงถามคนขับให้แน่ใจอีกทีนึงนะคะ เพราะรถวิ่งประมาณ 3 คันเองลุงบอก

ภาพที่พักมีเยอะกว่านี้นะคะ เราลงไว้ในอัลบั้มบ้านไร่ตับเต่าฟาร์มสเตย์ไว้ค่ะ

อันนี้เป็นรายละเอียดจากฟาร์มสเตย์นะคะ

รายละเอียดอื่น โปรโมชั่น กิจกรรม รีวิวจากท่านอื่น ติดตามที่เพจ บ้านไร่ตับเต่า ฟาร์มสเตย์ ได้เลยค่ะ

*****รายละเอียดจากที่พักนะคะ******

** ที่พักพร้อมอาหารเช้าราคา 600 บาท ต่อท่าน ต่อคืน (ยกเว้นบ้านฟ้าฝากฝน)

** บ้านฟ้าฝากฝน ราคา 1,800 บาท ต่อ 2 ท่าน ต่อคืน พร้อมอาหารเช้า

* อาหารเย็น อาหารกลางวัน ราคาท่านละ 200 บาทต่อมื้อ * ค่าบริการเช่าเต็นท์ที่ไร่ ราคาท่านละ 350 บาทต่อท่านพร้อมอาหารเช้า * ค่าบริการสถานที่กางเต็นท์ (ลูกค้านำเต็นท์มาเอง) ราคาท่านละ 250 บาทพร้อมอาหารเช้า * ค่าบริการเช่าเตาย่างพร้อมอุปกรณ์ 250 บาทต่อวัน ** ค่าบริการเช่าห้องครัว ราคา 450 บาทต่อวัน

** เรามีบริการน้ำแข็ง น้ำดื่มฟรีตลอดค่ะ

** เช็คอินหลัง 14.00 น. เช็คเอาท์ก่อน 12.00 น.

การเดินทางโดยรถส่วนตัว

จากสระบุรี เมื่อถึง อ.ปากช่อง ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนธนรัตน์ ทางไปเขาใหญ่ และเลี้ยวซ้ายก่อนถึงทางเข้า อช.เขาใหญ่ ไปทาง อ.วังน้ำเขียว ประมาณ 26 กม. สังเกตุทางซ้ายมือจะมีป้าย บ้านไร่ตับเต่าโชว์อยู่

การเดินทางโดยรถประจำทางสาธารณะ

หากท่านอยากจะกินลม ชมวิว แบบหวานเย็น การเดินทางมาบ้านไร่ตับเต่า ฟาร์มสเตย์ของเรา ด้วยรถประจำทางสาธารณะสาย ปากช่อง - วังหมี น่าจะเหมาะที่สุดค่ะ ท่านจะได้นั่งรถประจำทางสายหวานเย็นของจริง ๆ ด้วยรถบัสเล็ก สีส้ม คนขับอาร์ต ๆ แต่งตัวออกแนวนักเลงบ้านไร่ อิอิ ไม่ว่าท่านจะเดินทางมาจากไหน ให้มาลงที่ตลาดปากช่องนะคะ แล้วสามารถต่อรถบัสหวานเย็นสาย ปากช่อง - วังหมี ได้ที่ตลาดแขก (ถามคนปากช่องดูจ๊ะ ทุกคนรู้จัก) ราคาค่ารถคนละ 45 บาท บอกคนขับว่า...ลงบ้านไร่ตับเต่า โป่งตาลอง ลุงคนขับรถรู้จักบ้านไร่ฯ เป็นอย่างดี และบริการจอดหน้าไร่กันเลยจ๊ะ

การเดินทางโดยการเช่ารถมอเตอร์ไซค์

การเดินทางรูปแบบนี้ ชาวต่างชาติที่มาพักบ้านไร่ฯของเรานิยมกันมากจ๊ะ หลังจากที่นั่งรถจากที่ใดก็แล้วแต่ มาลงยังตลาดปากช่อง ทางสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์จากร้านที่ขายมอเตอร์ไซค์ในตัวปากช่องได้เกือบทุกร้านเลยค่ะ อัตราค่าเช่าคือ 300 บาทต่อวัน (ไม่รวมน้ำมัน) แล้วท่านก็จะสามารถขับรถชิลๆ ท่องเที่ยวสไตล์ต่างชาติได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร อยากแวะจุดใดก็ได้ตามใจ ถนนที่ทอดตัวยาวขนานกับเทือกเขาใหญ่ อากาศดี ๆ ลมเย็น ๆ การเดินทางแบบนี้วิเศษอย่าบอกใครเลย


เริ่มมาเริ่มเดินทางกันดีกว่าค่ะ


อุตส่าห์มาถึงแต่เช้ายังตกรถไฟอีกนะ กะจะขึ้นรอบ 06.40 น. แต่ได้ขึ้นรอบ 10.05 น.


ถ่ายรูปเล่นจนไม่รู้จะถ่ายอะไรแล้ว


รอแล้วรออีกก็ไม่มา สรุปเลท 30 นาทีจ้า


รอไปสิ ชานชาลาที่ 10 กรุงเทพ-อุบลราชธานี


เราไม่ได้ไปอุบลนะ แต่ที่ที่เราจะไปเป็นทางผ่าน นั่งรถอุบลไปได้ค่ะ เราจะลงกันที่สถานีรถไฟปากช่อง


คนก็เริ่มทยอยขึ้นรถกัน จับจองที่นั่งกันให้เรียบร้อย


วิวข้างทางช่วงสายๆ ก็เริ่มร้อนแล้วจ้า


ผ่านแต่ละสถานีไปเรื่อยๆ ก็ยื่นหน้าไปถ่ายรูปแต่ละสถานี สนุกดี เราชอบดูเจ้าหน้าที่ตอนโบกธงมากเลยอะ


ตู้รถไฟเก่าๆก็ถูกพ่นด้วยกราฟฟิกสวยๆกันไป จำไม่ได้ละ เป็นทางผ่านสถานีอะไรน้าาาาาา


เด็กน้อยดูท่าทางจะชอบรถไฟและวิวข้างทางเอามากๆนะ


ตอนนั้นทุ่งนายังเขียวอยู่เลย ยังไม่ถึงฤดูเก็บเกี่ยว นั่งรถไฟเที่ยวนี่ได้ดูทุ่งนาเยอะมากเลยนะ


บางคนก็เคลิ้มหลับไป เราก็ด้วย หลับยาว อดนอนเพื่อจะมาขึ้นรถไฟ แต่ดันตกรถ



อีสานเขียวที่แท้ทรูจ้า


ผ่านแต่ละสถานีไปเรื่อยๆ ก็เก็บป้ายสถานีกันไป


ถึงแล้วจ้า สถานีรถไฟปากช่อง แทบไม่มีคนลงเลย เรามาเที่ยววันธรรมดาด้วยแหละ


มุมสวนในฝัน มุมพักผ่อนหย่อนใจของน้องหมาหน้าสถานีรถไฟปากช่อง


ตอนแรกเดินไปถามคนแถวนี้ว่าจะไปตลาดแขกยังไง จะไปคิวรถวังหมีที่นั่น เพราะคิวรถนี้ผ่านที่พักเราพอดี จนคนแถวนั้นบอกให้เดินย้อนมาขึ้นวิวมอเตอร์ไซค์ที่สถานีรถไฟดีกว่า


ค่าวิน 30 บาท มีส่งถึงรถเลย ส่งทันรถเมล์หวานเย็นรอบ บ่ายสามครึ่งพอดี นี่ไม่รู้ว่ารอบห้าโมงจะมีอีกหรือเปล่า ตามตารางที่เจ้าของฟาร์มบอกว่ามี แต่ไม่ชัวร์เลย กลัวจะถึงที่พักมืดกว่านี้ ได้ขึ้นรอบนี้ก็ดีใจแล้ว


ได้ขึ้นรถสักที ฝนก็เหมือนจะตกแล้วด้วย


คนยังไม่ค่อยเยอะนะ แต่คิดว่าน่าจะขึ้นกลางทางอีกเยอะตามประสารถเมล์ท้องถิ่น


ชมวิวทางไปเขาใหญ่เขียวๆ บนรถเมล์พัดลมที่ไม่ต้องเปิดพัดลมเลยก็ได้


อากาศดี๊ดีมากเวอร์ ข้างทางเขียวไปหมดพ่อคุณแม่คุณเอ๊ย



กระจกก็จะมัวๆหน่อยจากสภาพร


ป้าคนเก็บเงินเดินมาเก็บ 45 บาท ระยะทางไกลมากเลยนะ น่าจะเป็นสิบกิโล คิดแค่ 45 บาทเอง ถึงหน้าที่พักด้วย


ชมวิวข้างทางไปเรื่อยๆ ผ่านที่พักเยอะมาก เขาใหญ่ ปากช่อง ที่พักเยอะมาก


บอกว่าป้าถึงแล้วบอกด้วยนะ แต่ป้าลืมซะงั้น บอกว่าขับมาลงคิวรถก่อน เดี๋ยวให้ลุงขับรถไปส่ง สรุปเหลืออยู่คนเดียวเลยจ้า หมดกัน ประสบการณ์ การนั่งรถสาธารณะมาเขาใหญ่ครั้งแรกของหนู ลงรถเจออิด่างเห่าอีก ลุงบอก เฮ้ย! ด่าง หยุด 55555 ด่างเห่าเพราะเราหน้าแปลก สักพักก็หยุด


ขับเลยมาตั้ง 2-3 กม. ลุงเลยขับรถปิคอัพมาส่งเราถึงหน้าที่พักเลย พร้อมกับเด็กน้อยอีก 2 คน หลานลุงที่ลุงบอกว่าจะพาหลานมาส่งอยู่แล้ว นี่คือสรุปเราติดรถเขามาหรือเปล่าวะ 5555


ถึงแล้วที่พักเรา น้ำตาจะไหล ถ้าเราสังเกตก็บอกให้ลงทันอยู่ เรามัวแต่ดูวิวอีกฝั่งนึง google map ก็ไม่ชัวร์ด้วย



เข้าไปถึงเจอเด็กน้อยก่อนคนแรกเลย ต้อนรับอย่างดี สงสัยเป็นลูกคนงานแถวนี้หรือเปล่าไม่แน่ใจ น้องบอกให้เราเดินตามน้องมาเลย



ไม่ใช่แค่เด็กน้อย เพราะมีทั้งน้องหมาอ้วนๆที่คอยออกมาต้อนรับด้วย ตัวนี้ชื่อวอดก้า หมาตัวเมียตัวเดียวในทีม เป็นคุณแม่ลูกดก สนรู้ ขี้อ้อน มนุษย์ตามเรามานะ เราจะพาไปที่พักเอง น่าร๊ากกกกกกก


อยากจับน้องหมาทุกตัวมาฟัด น่ารัก ขี้เล่น แสนรู้เหลือเกิน


วิ่งเข้ามาจู่โจมเราสุดๆ กลิ้งเกลือกกับสนามหญ้าเลย เราชอบมาก ไม่เหงาแล้ว


มาคนเดียวก็ไม่เหงา น้องหมาเดินมาส่ง เดินมาเล่นด้วยถึงหน้าที่พักเลย


ห้องพัก 600 บาท รวมอาหารเช้า แต่เราเอาอาหารเย็นด้วย เป็น 800 บาทจ้า เนี่ยทั้งห้องนอนอยู่คนเดียว แขกไม่เยอะ เราเลือกห้อง เลือกบ้านได้เลย


เราเลือกห้องตะวันแยง คุณจุ๋มเจ้าของแนะนำ เพราะตอนเช้าๆ ตะวันจะแยงเข้ามาพอดี แสงแดดอ่อนๆจะปลุกเราในตอนเช้า


นอนอาบแดดก็สบายสุดๆ


ห้องน้ำกว้างขวาง แยกโซนอาบน้ำ กับห้องส้วม ตกแต่งอาร์ตๆดี เราชอบ


มาคนเดียว ใช้ห้องน้ำคนเดียว อาบน้ำไม่ปิดประตู 55555


บริเวณระเบียงหน้าห้องเรา


ปั้นช็อตสักหน่อย


ห้องพักไม่พอลานกางเต็นท์ก็มีเพียบนาจา


หลับไปเลยก็ได้นะมุมนี้ แต่กลางคืนระวังยุงเข้า ปิดประตูด้วย


นี่ไงวอดก้า น่าร๊ากกกกก หน้าตานี่ลั้ลลาตลอดเวลา สดชื่น ได้เล่นกับแขกที่มาเล่นด้วย งือ คิดถึงน้อง จะหาเวลาไปเที่ยวอีก


หมู่บ้านกระต่ายก็มีนะจ๊ะ


ต่ายน้อยก็เยอะมาก วิ่งกันดุ๊กดิ๊ก ดุ๊กดิ๊ก อยากพุ่งเข้าไปอุ้ม แต่อย่าเลย ปล่อยน้องวิ่งเล่นนะ อย่าแตะน้อง แต่จะมีอาหารเตรียมไว้ให้ ถ้าอยากให้น้องต่ายกินนะ


บรรยากาศช่วงค่ำถึงกลางคืน ความจริงกินข้าวที่ห้องก็ได้ แต่มากินตรงนี้ได้ฟังเพลงเพราะๆด้วย


นั่งกินอยู่คนเดียวเลย 55555 ไปช่วงวันธรรมดา ไม่มีแขก ความจริงมีแต่มีอีกห้องนึง เจอกันในตอนเช้า ทานอาหารเช้า


นี่ชื่ออ้วน ก็ซุกซนขี้เล่นเหลือเกิน มาเกาะขอของกินเราตอนกินข้าวด้วย โดนเจ้าของดุเลย กฎที่นี่คืออย่าเอาอาหารให้น้องหมากินนะ เขามีอาหารอยู่แล้ว กลัวน้องหมาจะติดไปขอแขกคนอื่นไปด้วย กลัวเจอคนไม่ชอบหมาจะแย่



ที่นั่งมีเพียบ ไม่ต้องกลัวไม่มีที่นั่ง



ตอนสิ้นปีก็จะมีปาร์ตี้กันทั้งไร่ มีดนตรีมาเล่นสดให้ลูกค้าดูฟรีด้วย เป็นอภินันทนาการจากเจ้าของที่นี่ค่ะ


บรรยากาศดี ฝนไม่ตกด้วย


ไม่ใช่แอลกอฮอล์นะจ๊ะ น้ำเปล่าจ้า ใส่ขวดมาซะดูเป็นคนขี้เมาเล


เยอะมาก กินคนเดียวเกือบหมด ปกติกินหมดทุกอย่างนะ แม้แต่ผักประดับยังกินหมดเลย แต่นี่เยอะมากจริงๆ กินไม่หมดซะงั้น


ตกแต่งด้วยของเก่าเก็บสมัยคุณปู่คุณย่า ดูคลาสสิกดี


มีมุมถ่ายรูปเยอะแยะเต็มไปหมด


บริเวณหน้าห้องพักเราตอนกลางคืน ก็เป็นลานกางเต็นท์ด้วย กว้างขวางมาก


เวลาไม่มีเต็นท์กาง น้องหมาก็จะมาวิ่งเล่น นอนเล่น สบายใจเลย


ที่พักแต่ละหลังก็วาดกันเอง ตกแต่งกันเอง


ให้ความรู้สึกเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน


มีมุมชิงช้าให้เด็กๆด้วยนะ


มุมของตกแต่งน่าถ่ายรูปเต็มไปหมด


แดดยามเช้า ถ่ายรูปรอก่อนทานอาหารเช้า





เมมเกือบเต็มกล้อง ถ่ายรูปไปเยอะ เพราะมุมถ่ายรูปเยอะเต็มไปหมด


บริเวณลานกางเต็นท์จ้า


ตอบโจทย์ลูกค้าทุกเพศ และทุกวัยที่มาพักผ่อน


มีป้ายบอกหลายจุด ไม่ต้องกลัวหลง


ตอนเย็นยังไม่มีตอนเช้ามีอาหารกระต่ายมาแล้ว ให้แขกซื้ออาหาร 20 บาท หย่อนกล่องได้ แล้วเอาให้น้อมงกระต่ายกินเป็นเรื่องเป็นราว


น่ารัก อ้วนท้วน ทุกตัวเลย


จะบอกว่าข้าวต้มเห็ดอร่อยมากเวอร์ กินแล้วกินอีก จนจุก


ความจริงต้องกินเยอะกว่านี้ แต่จุกจากมื้อเย็นด้วย ให้เยอะมาก


สลัดอร่อย ผักสด ปลอดสารพิษ อยากรู้ว่าเขาปลูกยังไงมาดูกันเลย ปลูกเอง ทำเอง กินเอง


ผักที่เรากินมีประโยชน์ยังไงบ้างก็มีป้ายบอกให้ด้วยนะจ๊ะ


อยากเด็ดกินตอนนี้เลย


เป็นผักปลอดสารพิษทั้งหมดนะ


ผักต้นน้อยๆ โตมาก็เป็นอาหารของเรา แหะๆ


เลี้ยงแบบไฮโดรโปนิกส์


อิ่มกับอาหารเช้า ถ่ายรูปเสร็จ เดินเล่นพักผ่อน ได้เวลากลับ ออกไปโบกรถ 11.45 น. ตอนแรกคุณจุ๋มเจ้าของจะเข้าเมืองพอดี จะไปส่งด้วย แต่รถเมล์มาถึงก่อนเราเลยนั่งรถเมล์กลับ ขึ้นรถแป๊บเดียว ฝนก็ตก



ไปถึงคิวรถวังหมีปุ๊บ นั่งวินไปสถานีรถไฟอีก 20 บาท ตอนมา 30 บาท แฮะ ราคาไม่เท่ากัน
กลับมาสถานีรถไฟก็ซื้อตั๋วเลย กลับขบวน 136 ราคา 86 บาท ชั้นสาม ตามระเบียบ


ระหว่างรอรถไฟก็ถ่ายรูปตามสถานีรถไฟไปเรื่อยเปื่อย ชอบรูปนี้จัง


รถไฟมาแล้วววววว กลับกรุงเทพแล้วน้าาาาา


พักผ่อนกับฟาร์มสีเขียว แล้วมาเจอวิวเขียวๆตอนกลับอีก สบายใจ สบายตาจริงๆเลย ทริปสีเขียว


หลับค่ะ มาก็หลับ กลับก็หลับ ลมพัดสบายเหนียง เหนียงกระพือ


นั่งรถไฟเที่ยวมันก็ได้เห็นวิวสวยๆแบบนี้แหละ ยานพาหนะอย่างอื่นก็ทำไม่ได


ถ่ายรูปตามสถานีต่างๆไปเรื่อยๆ


นกไอติมภาชีทั้งขามา ขากลับ ล้องห้ายยยยย ลุงไม่หันมาเลย


อันนี้เราไปมาได้หลายเดือนแล้ว ก่อนไอติมภาชีจะมีข่าวว่ายกเลิกการขายแบบนี้แล้ว นี่ยังคงเป็นภาพที่หลงเหลืออยู่ตอนนั้น (พอดีรีวิวบังคับใส่วันที่เลยใส่ของเดือนนี้ไป ตอนเราไป เราไปเดือนไหนเราก็จำไม่ได้เหมือนกัน)



Boe_Stories

 วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 02.26 น.

ความคิดเห็น