มีทริปเก่าๆที่ยังไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เรื่องการเที่ยวภูเขาหน้าฝน และการได้นั่งดูทะเลหมอกเต็มๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน วันนี้ Facebook เด้งมาเตือนความจำ เลยอยากมาเขียนข้อมูลเก็บไว้เผื่อจะได้ไปอีก และเผื่อใครกำลังหาที่ท่องเที่ยว ไปช่วงนี้ปลายต้นหนาวแหละหมอกเน้นๆ "เขาค้อ - ภูทับเบิก "
สรุปการเดินทาง
เดินทาง 3 วัน 2 คืน
นอนเข้าค้อ และภูทับเบิก กางเต๊นท์ทั้งคู่
เดินทางด้วยรถยนต์ตลอดทาง
รวมค่าใช้จ่าย 2,300 ต่อคน
ผู้ร่วมเดินทาง 2 คนถ้วน
อันนี้เรื่องปี 2017 ครับ
แผนเที่ยว
Day 1 - เดินทางกทม - เข้าค้อ โปรษณีย์[ กางเต๊นท์ ] - เที่ยวชมวิว - นอนเต๊นท์ - ฝนตกไม่ได้นอนเต๊นท์ นอนในรถแทน ซะงั้น
Day 2 - เก็บเต๊นท์ - ทุ่งกังหันลม - วัดผาซ่อนแก้ว - Pino Latte - ภูทับเบิก ไร่ริมผา[ กางเต๊นท์ ]
Day3 - ทะเลหมอก - เก็บเต๊นท์ - ขับรถกลับยาวๆ
อันนี้แผนที่ พอดีเพิ่งกดมา เส้นทางตอนนี้เค้าปิดทางที่ผมเคยไป ใครไปก็วางแผนดีๆครับ เข้าใจว่าปี 2019 จะเสร็จ จะได้ไม่ต้องอ้อมขึ้นภุทับเบิก
อัพเดทราคา 2017.09.09
ไปรษณีย์เขาค้อ == เช่าเต๊นท์ 300B พื้นที่กางเต๊นท์ 50B/คน ชาร์ตแบตเตอรี่ 10B/Hr
วัดผาซ่อนแก้ว === ค่าจอดรถ 30B/คัน
ภูทับเบิก ไร่ริมผา = พื้นที่กางเต๊นท์ 80B/คน เช่าเต๊นท์ 500B/ ครบชุด 800B หมูกะทะ 400/ 500 B
ออกเดินทางแต่เช้าเลยครับใช้เส้นทางหลักถนนใหญ่ๆ เส้นทางจากกทมมาเพชรบูรณ์มาง่ายมาก แต่ว่าถนนตรงอย่างเดียวเลย บางทีมันก็สบายจนง่วง ขับรถอย่างต่ำ 4 Hr เพื่อมาเที่ยวที่นี้ ดังนั้นรอบนี้เลยจะเที่ยวหลายวันหน่อย เอาให้คุ้มกันไปเลย ภาพด้านบนนี้คืออะไรไม่รู้เห็นแต่ไกลเลยแวะเข้าไปดู ตอนนี้น่าจะสร้างเสร็จแล้วมั่ง
![](/f/20317/5bb4d6dbfc6f1e759da85627.jpg)
อันนี้คือจุดชมวิวใกล้ไปรษณีย์เขาค้อ เห็นภาพใสๆอย่างนี้บอกเลยร้อนมาก ฮ่าๆ
ทางขึ้นมาเขามาก็มีชันบ้าง แต่ที่เจ๋งคือ ฝนตก ตกแบบอยู่ใกล้อ่ะ แปปๆก็หยุดตก เท่าที่เข้าใจคือเมฆมันอยู่ใกล้เราอะครับ มันเลยมาไวไปไว และแนะนำว่าก่อนจะขึ้นมาบนเข้าค้อเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนครับ เพราะด้านบนไม่เห็นปั๊มใกล้ๆ ที่พูดนี้คือขับไปหามาเองกับตัวครับ ฮ่าๆ ต้องขับไปตีนภูอ่ะถึงจะมี พูดถึงเรื่องการขับรถด้วยนิดหนึ่ง ส่วนใหญ่น่าจะขับรถ Auto กันอย่าลืมใช้เกียร์ต่ำสลับกับใช้เบรคก็น่าจะดีนะ กระจายถาระให้รถยนต์ แต่แถวนี้ไม่ได้ชันเท่าภูทับเบิก
ถึงแล้วไปรษณีย์เขาค้อ เข้ามาก็งงๆใครคือเจ้าหน้าที่นะ ก็ถามไปเรื่อยๆครับ จนกว่าจะเจอ ถ้าเราเอาเต๊นท์ไปเองเค้าก็จะให้เราไปกางเลย แล้วค่อยมาจ่ายตังทีหลัง ราคาก็ไม่แพงครับ 50 บาทต่อคน มีเต๊นท์มันดีอย่างนี้นี่เอง เต็นท์สีฟ้าๆที่อยู่หลังเดี่ยวนี้ของผมเอง ซึ่งเป็นเต๊นท์ที่ไปยืมพี่ที่ทำงานมา แทบจะไม่มีใครมากางใกล้ๆเลย แต่จะอยู่เต๊นท์ได้ไหมตอนนี้ บอกเลยไม่ได้ครับ เพราะฟ้าใสขนาดนี้ ความร้อนระดับกระทะทองแดงครับ เลยต้องออกไปเที่ยวเล่นก่อน
เขาพระตำหนัก - แวะมาถ่ายรูปเล่นก็พอฆ่าเวลาได้บ้างแต่ก็ไม่ได้สำรวจอะไรมากมายครับ ตามภาพเลย
พอไม่มีที่ไปก็กลับกินข้าวที่จุดกางเต๊นท์ครับ ดูพระอาทิตย์ตกชิวๆ พอมืดลงอากาศก็ดีขึ้นๆ
มืดแล้วก็นอนครับ แต่มันไม่จบครับผม ไปอ้เราก็คิดว่าจะได้นอนแล้วตื่นทะเลหมอกชิวๆ แต่ที่ไหนได้ประมาณตี 3 ฝนตกก็ดันตกซะนี่ และบทสนทนาภายในเต๊นท์คือ
P : พี่ฝนตกหนักเลย เอาไงดีพี่ ?
G : นอนได้อยู่มั้ง ( ละก็นอนต่อ - 10 นาที ต่อมา น้ำกระเด็นเข้าเต๊นท์อย่างหนัก )
PG : ไปเหอะ ไม่ไหวแล้วววว
ละแบบตกแรงชิบหาย เต๊นท์ที่เอามา เอาไม่อยู่กันฝนไม่ได้ สมอเต๊นท์ถอนเกือบทุกตัวมารู้ทีหลังว่าพี่แกลืมเอาผ้าใบคลุ่มอีกชั้นมาให้ ฮ่าๆ สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตกันไป สุดท้ายพากันวิ่งมานอนในรถ ระหว่างทาง เต๊นท์หลังอื่นๆก็มารวมกันใต้บ้านพักกันหมด แต่ฝนมาไม่นานก็ไปครับ
พอฝนหยุดตกหมอกก็มาแทนที่ ไฟถนนก็จะสว่างวาปแบบนี้แหละครับ สวยดี แต่ก็นอนในรถต่อ ก่ะว่ารอดูหมอกแน่นๆแต่เช้า
หมอกจางๆ แต่อากาศก็สดชื่นดีครับ ก็ไม่ได้เล็งไว้ว่าจะต้องเป็นยังไงก็ไม่ได้ผิดหวังอะไรมากมาย แต่ปัญหาคือหิวข้าวมาก ด้านหน้ามีหมูปิ้ง ไปกินอย่างไว้เลยครับ อยู่ไม่นานก็เก็บเต๊นท์แล้วไปต่อครับผม
ทุ่งกังหันลม วิวดีมากครับ แต่เหมือนมาไม่ถึง เพราะไม่ได้ไปนั่งชิงช้า
ถ่ายภาพที่ทุ่งกังหันไม่นานครับไปต่อที่วัผาซ่อนแก้วกันเลย ไม่ไกลมากขับรถแปปเดียว
หิวอย่างแรงครับ ต้องมากินข้าวก่อน ร้านนี้อยู่หลังวัด วิวนี้สุดยอดครับ ลองกินดู ราคาอาหารกลางๆ
ที่จอดรถที่นี้มีพอประมาณ จะเป็นที่จอกรถก่อนเข้าวัด เพราะเข้าไปต่ออาจจะไม่ค่อยมีที่จอดรถเท่าไหร่ ก็ลองไปกันดูครับ แต่ที่นี้คือวัดนะครับ การแต่งตัวก็จะต้องเหมาะสมด้วยนะครับ ที่สำคัญถอดรองเท้าก่อนเข้าด้วย เข้าวัดนานมากไม่ไ้ดครับ ไปต่อกันเลย พิโนล่าเต้ แต่ก่อนไปบอกเลยวิวที่จอดรถเด็ดมาก
![](/f/20317/5bb4f0599118b479b1cb466f.jpg)
![](/f/20317/5bb4f0579118b479b1cb466e.jpg)
![](/f/20317/5bb4f0579118b479b1cb466d.jpg)
![](/f/20317/5bb4f0879118b479b1cb4675.jpg)
![](/f/20317/5bb4f0859118b479b1cb4674.jpg)
![](/f/20317/5bb4f084e3f2161fe2b9f063.jpg)
มาที่นี้ไม่ค่อยชอบครับ เพราะด้วยความโง่ของผม ขับรถชนที่กันตก พังเลย สังเวยการเดินทางด้วยสเกิตหน้าไปเรียบร้อย พูดถึงร้านกาแฟ การเดินทางมาต้องขับรถทะลุวันเข้ามาเลย แล้วขับขึ้นทางชันเล็กๆ ระวังกันด้วยเด้อ ราคากาแฟค่อยข้างสูง ใครชอบวิวดีๆร้านสวยจัดมาครับ
![](/f/20317/5bb4f177e3f2161fe2b9f067.jpg)
อันนี้คือที่จอดพักรถระหว่างทางขึ้นภูทับเบิก ชันมากและเลี้ยวเยอะมาก โชคดีที่ขับมาฝนไม่ตก
ถึงแล้วครับไร่ริมผา ทางขึ้นมานิดเดียว และการหาไร่นี้ก็ยากครับ เพราะ GPS ชี้ไปไม่สุด การจะเข้าไปไร่ริมผา ต้องเลี้ยวซ้ายที่ร้านอาหารด้านบนสุด แล้วขับตรงลงไป ก่อนจะสุดท้ายเลี้ยวขวา จะเป็นที่จอดรถของไร จริงๆแล้วมีอีกที่ข้างๆกัน แต่เป็นคนละเจ้า สูตรมากางเต๊นท์เหมือนกันที่อื่นๆ คือกางก่อนแล้วเค้าจะมาเก็บตังทีหลัง ภาพด้านบนคือเต๊นท์เราเวอชั่นอัเกรดแล้ว โดยมีความช่วยเหลือจากพี่เต๊นท์ข้างๆ ที่มาจากสระบุรีครับ ของคุณมากๆครับ ขอบน้ำใจคนที่มาเที่ยวด้วยกันที่สุดละ
เห็นรุ่งไหม ?
![](/f/20317/5bb4f23b9118b479b1cb4680.jpg)
ริมผาไหมล่ะ
อีกอย่างที่นี้มีบ้านพักด้วนนะครับ น่าจะราคา 2500 + อยากกินหมูกระทะก็สามารถเดินไปสั่งซื้อมาได้เอามาเสริมถึงที่เลย ไปสั่งแค้าเค้าจะให้เราไปรอที่เต๊นท์เลย พวกราคาอาหารที่นี้ราคาสูงกว่าปกตินะครับ เตรียมไปเองก็จะดีมาก เตรียมตัวที่จะเจอฝนอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายไม่มีฝนจ้า นอนหลับสบายทั้งคืน แล้วเจอหมอกเต็มๆกันพรุ่งนี้
การมาเที่ยวตามภูเขาแล้วหวังจะได้เจอหมอกหนาๆแบบนี้ทุกครั้งก็คงเป็นไปได้ยากนะครับ เพราะหมอกที่เป็นลักษณะแบบนี้ก็ขึ้นอยูดวงด้วยว่าอากาศลมจะเหมาะสมจนได้เจอหมอกแบบนี้ไหม และเท่าที่ผมไปสัมผัสมาปัจจัยหลักๆจะมีอยู่ไม่กี่ข้อ คือฝนควรจะตก และหยุดก่อนจะถึงช่วงเช้า ลมต้องไม่แรง เพราะถึงหมอกมาหนาแค่ไหน ลมมันกรรโชคหมอกก็หายหมด หวังว่าจะดวงดีได้เจอหมอกกันทุกคนนะครับ
ฝากเพจจ้า https://www.facebook.com/Gtrip9/
ติดตามรีวิวอื่น อัลบัมภาพ ตามลิ้งเลย
หวังว่าจะชอบนะครับ
GIFT9 เลขเก้าไม่ออกเสียง
วันพฤหัสที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 00.21 น.