พัทยา หยุด 2 วัน ชวนกันเที่ยวชิลๆ

สวัสดีวันหยุดสุดสัปดาห์ ได้เวลาออกเที่ยว ทริปนี้เน้นชิลที่ทะเลใกล้กรุงเทพฯอย่าง “พัทยา” เป็นเส้นทางที่ไปง่าย ใช้เวลาไม่มาก แต่ชิลมาก!!! ที่เที่ยวในพัทยานั้นมีมากซะจนไปครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังคงอยากวนไปอยู่อย่างนั้น สำหรับครั้งนี้เน้นแบบสบายกายสบายใจ วิวสวย โรแมนติก แพลนหลักๆตามนี้เลยค่ะ

- D at Sea Hotel

- The Glass House

- ตลาดน้ำ 4 ภาค


การเดินทางจากกรุงเทพฯสู่พัทยา ระยะทางเพียง 150 กิโลเมตร โดยประมาณ สามารถเดินทางได้ด้วย รถทัวร์ รถตู้ รถแท็กซี่ และรถยนต์ส่วนตัว ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

ส่วนทริปนี้ของเรา เลือกใช้บริการรถเช่ารายวันของ Avis ค่ะ เพื่อความสะดวกสบายแบบไร้กังวลเรื่องการหาต่อรถในการเดินทาง ถ้าหากอยู่ใน กทม. สามารถเลือกรับรถได้ 3 จุดด้วยกัน คือ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และออฟฟิศ ถ.สาทร ซอย 1 (Bangkok Downtown) ส่วนเราสะดวกนั่งรถเมล์เข้าสนามบินดอนเมืองที่สุด ก็นัดรับรถที่นั่นเลยค่ะ เค้าน์เตอร์ Avis จะอยู่ที่อาคาร 2 ชั้น 1 บริเวณฝั่งผู้โดยสารขาเข้า ภายในประเทศ แนะนำให้ทำการจองผ่านเว็บไซต์ www.avisthailand.com หรือจองผ่าน Call Center 02-251-1131-2, 02-255-5300-4 มาก่อน เพื่อความรวดเร็วนะคะ


หลังจากเช็คใบขับขี่ เช็ครถ เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาออกเดินทาง โดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 ขาไป 100 บาท ขากลับ 110 บาท ง่ายๆตรงไปเดี๋ยวเดียวก็ถึง


มาถึงพัทยาบ่ายๆ เข้ามาเช็คอินที่ D at Sea ก่อนเลย ที่นี่เป็นอาคาร 4 หลัง รีโนเวทมาจากคอนโด สภาพใหม่ สไตล์การตกแต่งดูดีเรียบง่ายตามแบบอย่างคอนโด


ส่วนใหญ่จะเป็นห้องสตูดิโอ ที่แบ่งเป็นสัดส่วน โซนห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องน้ำ เรียกว่ามานอนพักผ่อนกันได้อย่างสบายสุดๆไปเลย ที่สำคัญอยู่ใกล้ทะเลด้วย เดินออกมา 100-200 เมตร ข้ามถนนไปก็ลงเล่นชายหาดและน้ำทะเลหาดจอมเทียนได้แล้ว


อาคารที่เราเข้าพักนี้ บริเวณด้านบนมีทั้งฟิตเนสและสระว่ายน้ำ วิวทะเลแบบนี้ มองเห็นชายหาดและท้องทะเลได้อย่างกว้างไกล แม้ช่วงกลางวันจะมีแดดร้อนแต่มีลมพัดมาอยู่ตลอดเวลา นับว่าเป็นทำเลที่วิวแจ่มไม่น้อย สามารถว่ายน้ำไปแล้วก็หยุดพักชมวิวทะเลไปได้ทั้งวัน



ช่วงเย็นมีดินเนอร์ร้านริมทะเล ที่ The Glass House บอกได้คำเดียวว่า สวยอลังมาก ร้านอาหาร&คาเฟ่ ติดทะเล ร้านสวยเว่อวังอลังการมาก วิวก็ดี ดูโรแมนติกมากๆ สามารถถ่ายรูปออกมาสวยๆได้ทุกมุมของร้าน ทุกมุมทุกจุดจริงๆ


บางวันที่มีฝน ทางร้านจะเปิดให้บริการเป็นปกติ เพียงแต่อาจจะไม่ได้เซ็ตที่นั่งบริเวณลานด้านอกที่ไม่มีหลังคา สามารถเช็คก่อนเข้าไปได้วันต่อวันเลยค่ะ เพราะด้านนอกชิลและวิวแจ่มไม่แพ้กันเลย


และนั่งชมวิวทะเลไปได้อย่างเพลิดเพลิน ทราบมาว่า มองออกไปไกลๆจะเห็นไฟสีเขียวๆ นั่นคือเรือไดหมึกนั่นเองค่ะ ถ้าหากวันไหนมองเห็นไฟจากเรือไดหมึกให้สบายใจได้ว่าค่ำนั้นจะไม่มีฝน เพราะชาวบ้านที่ออกทะเลมักจะดูลมดูฝนได้อย่างค่อนข้างแม่นยำ ^^


อาหารก็มีหลากหลาย ทั้งของคาว ของหวาน ของทานเล่น ยกตัวอย่างเมนู


เมี่ยงปลาเผา ใช้ปลากะพง ตัวใหญ่กำลังดี เสิร์ฟมาพร้อมกับผักสด และน้ำจิ้มรสเด็ด เหมาะสำหรับทาน 2-4 คนนะคะ พอทานหลายๆอย่างแล้ว ทานแค่ 2 คนก็ทานไม่หมด ทั้งๆที่อร่อยมาก


ห่อหมกทะเล ห่อหมกรสชาติถึงเครื่อง กุ้ง หอย ปู ปลา อัดแน่นมาในผลมะพร้าวอ่อนทั้งลูกแบบนี้เลย


ข้าวอบสับปะรด ข้าวผัดรสชาติกลมกล่อม ที่ใส่กุ้ง และปลาหมึก เนื้อเด้งๆ โรยด้วยเมล็ดมะม่วงหิมพานต์


ต้มยำกุ้งน้ำข้น กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่กำลังดี น้ำต้มยำถึงเครื่อง เข้มข้น จัดจ้านดีมาก


คริสปี้โรตี แป้งโรตีบางกรอบโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งเบาๆ จิ้มกับดิปนมหอมๆหวานน้อย อร่อยมากจานนี้


วอเตอร์เมล่อนดรีม


ออเรนจ์คาเยน


ไม่เพียงแต่มุมต่างๆของร้านที่ตกแต่งจัดวางเอาไว้อย่างงดงาม ให้สามารถถ่ายรูปกันได้ทั่วทั้งร้านเท่านั้น บรรยากาศรอบนอกก็ดีเว่อวังไม่น้อย โดยเฉพาะช่วงเย็นๆค่ำๆ เมื่อเกิดไฟดวงสีส้มนับจำนวนไม่ถ้วนแล้วความโรแมนติกเพิ่มขึ้นมาอีกหลายสิบเท่าแบบบรรยายไม่ถูกจริงๆ เพราะบรรยายแบบไหนก็ไม่สามารถทำให้รับรู้ถึงความสวยงามและโรแมนตกได้เท่ากับการมาสัมผัสด้วยตัวเอง


The Glass House

ที่อยู่ : 5/22 หมู่ที่ 2 ซอยนาจอมเทียน 10 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ ชลบุรี 20250

เวลาทำการ : 11:00 - 0:00

โทรศัพท์ : 038-255-922

เฟซบุ๊ก : TheGlassHousePattaya



ตื่นเช้าๆขึ้นมาที่สระว่ายน้ำ ควรสอบถามฟร้อนท์อีกทีนะคะว่าแต่ละตึกที่พักนั้นสามารถไปยังสระว่ายน้ำที่ชั้นไหนได้บ้าง ส่วนตึกที่เราพักนั้น สระว่ายน้ำวิวดีมาก มองห็นทะเลชายหาดจอมเทียนได้ในมุมกว้างไกลมาก ถ้าขึ้นมาช่วงเย็นจะมาสามารรถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้จากตรงนี้เลยด้วย ส่วนห้องข้างๆจะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่แล้วเข้าไปใช้บริการได้เลย

หรือจะมานั่งเล่น ชมวิวมุมสูงเพลินๆบริเวณนี้ก็ปลอดโร่งโล่งสบายดีเหมือนกันะ


จากนั้นลงไปทานอาหารเช้ากันค่ะ ห้องอาหารจะอยู่ตึกด้านหลังฟร้อนท์ บริเวณชั้น 1 เลย ห้องอาหารค่อนข้างกว้างมีที่นั่งรองรับเยอะมาก ไลน์อาหารเป็นบุฟเฟ่ต์ที่มีให้เลือกทานค่อนข้างหลากหลาย ส่วนรสชาตินั้นพอใช้ได้ค่ะ


D at Sea

ที่อยู่ : หมู่ที่ 1 73-74 ตำบล นาจอมเทียน อำเภอ สัตหีบ ชลบุรี 20250

โทรศัพท์ : 038-233-242

เว็บไซต์ : http://www.d-atsea.com

เฟซบุ๊ก : D-atsea-hotel



เช็คเอ๊าท์เกือบเที่ยง แล้วฝนก็เริ่มตกลงมา แต่ตั้งใจไว้ว่าจะไปตลาดน้ำ 4 ภาค นาทีนั้นจึงไม่กลัวฝนเลย โชคดีที่ไม่ได้ตกหนักมาก ไปค่ะ!! จากโรงแรมออกมาทางซอยนาจอมเทียน 4 และข้ามถนนไปฝั่งซอยนาจอมเทียน 1 แล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปบนถนนเลียบทางรถไฟ แป๊บเดียวก็ถึงทางเข้าตลาดน้ำ 4 ภาคแล้ว


เดินเข้าทางไหนจำทิศทางหรือจุดสังเกตบริเวณที่เข้ามาไว้ให้ดีๆนะคะ ถ้าจะให้ดีก็ถ่ายรูปเอาไว้ว่าเข้ามาจากทางนี้ๆนะ เพราะอาจจะหลงทิศได้ เนื่องจากด้านในนั้นมีร้านรวงให้เดินชมเดินช็อปเยอะมาก ข้าสะพานไปเกาะนู้นเกาะนี้ แบ่งเป็นโซนของแต่ละภาคเอาไว้ให้เดินกันง่ายๆ แต่อาจจะดูงงๆสักหน่อยสำหรับคนที่ไม่เคยมา


มาเดินวันฝนปรอยแบบนี้ก็ชิลดี เย็นดี ได้บรรยากาศดีไปอีกแบบ


อีกสิ่งที่ดูเหมือนว่าควรมานั่งกิน คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือ เห็นมีเรือขายอยู่หลายจุดมาก ที่นั่งจะเป็นการนั่งกับพื้นซึ่งมีเสื่อปูรองนั่ง มีแคร่ไม้ไผ่เป็นโต๊ะ สบายๆแบบพื้นบ้าน


และยังมีทั้งของกินของใช้ ให้เดินดูเดินกินเดินช็อปกันอีกมากมาย


ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา

ที่อยู่ : 451/304 หมู่ที่ 12 ถนน สุขุมวิทพัทยา ตำบล หนองบรือ อำเภอ บางละมุง ชลบุรี 20150

เวลาทำการ : 09.00 – 20.00 น.

โทรศัพท์ : 088-444-7777

GowithAmp

 วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.25 น.

ความคิดเห็น