หลงรักเลย…ภูอีเลิศ น้ำตกแก่งช้าง
ขอบรรยายภาพนี้ก่อนนะ….ภาพนี้ผมกำลังเดินไปยืนบน ผาหัวช้าง จุดถ่ายภาพสุดเสียว เบื้องล่างเป็น น้ำตกแก่งช้าง ต้นกำเนิดแม่น้ำเหือง เส้นแบ่งกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับสปป.ลาว เพราะฉะนั้นเบื้องหน้าผมคือสปป.ลาว นี่คือแหล่งท่องเที่ยวใหม่สายธรรมชาติ อลังการงานน้ำตกและผาหิน…เรื่องราวก่อนมาถึงตรงนี้ไปติดตามกันเนอะ…
ติดตามชมอีกหนึ่งช่องทางความเพลิดเพลิน…https://youtu.be/2P-IANjhBeY
ก็ต้องไปเริ่มกันตั้งแต่ต้นอีกครั้ง การเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดเลยครั้งนี้ เกิดจากการได้เข้าร่วมกับทาง อพท จัดทำสามเส้นทางท่องเที่ยว เส้นทางท่องเที่ยววิถีชีวิต อัตลักษณ์ถิ่นเลย เส้นทางท่องเที่ยวมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติและภูผา และเส้นทางท่องเที่ยวสีเขียว ไม้ดอกเมืองหนาว ภูอีเลิศกับน้ำตกแก่งช้าง เป็นหนึ่งในหลายสถานที่ของ เส้นทางท่องเที่ยวสีเขียว ไม้ดอกเมืองหนาว เอางี้ ไปอ่านตามนี้ รับรองรู้เรื่อง https://th.readme.me/p/20416 ถ้าใครขี้เกียจอ่าน ก็ไม่เป็นไร ตามมาๆ เดี๋ยวก็รู้เรื่อง…อธิบายอีกนิดเดียวและกัน คือ ภูอีเลิศกับน้ำตกแก่งช้าง ถือเป็นภาคแยกของ เส้นทางท่องเที่ยวสีเขียว ไม้ดอกเมืองหนาว พอดีกว่าเดี๋ยวจะงง ป่ะไปเที่ยวกันได้แล้ว….
อำเภอด่านซ้าย…เสียงนาฬิกาปลุกดังตอนตี 4 เช้าไปมั้ย ไม่มั้งเค้าไม่เรียกเช้าแล้วล่ะ เค้าน่าจะเรียกว่า เช้าเช้าาาา ทำไมต้องตี 4 เพราะเรามีนัดรถอีแต๊กขึ้นภูอีเลิศตอนตี 5 งัวเงียงัวเงีย อาบน้ำต่างหน้า ล้างตาแปรงฟัน แบบเบลอเบาๆ กระโดดขึ้นรถตู้ มุ่งหน้าสู่ ร.ร.พระแก้วอาสาวิทยา ต.ปากหมัน อ.ด่านซ้าย ย้อนไปนิด ทำไมต้องไปกันเช้าขนาดนี้ เพราะว่า ตั้งใจจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมทะเลหมอกยามเช้าที่ภูอีเลศ นั่นเอง…
ตรงตามเวลาเป๊ะ จาก ร.ร.พระแก้วอาสาวิทยา คือมันมืดอยู่อ่ะ เราก็ไม่เห็นนะโรงเรียนเห็นแต่ด่านตรวจรักษาความปลอดภัย ช่างมันเหอะ รถอีแต๊กมารอพร้อมบริการ เราต้องนั่งรถอีแต๊กขึ้นไปบนเขาประมาณ 45 นาที เอา…เริ่ม แต๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คือ เส้นทางขึ้นเขา รถไปช้าๆ อืมมมม…เพลิดเพลินไปกับความมืดมิด อากาศเย็นๆไม่ถึงกับหนาวสั่น ตอนแรกก็หนุกหนานดี แต่ไปสักพัก…เออ อีกไกลมั้ยครับลุง
ถึงกับนอนรอ…
ออกเดินทางแล้ว…
บรรยากาศการนั่งรถอีแต๊กฝ่าความมืดในป่า…
เมื่อฟ้าเริ่มสว่างเห็นแสงรำไร ปลุกความสดชื่นในตัวคุณ ก็พอเห็นป่าเห็นต้นไม้ ต้นไม้เยอะมาก ป่าแน่นดีจัง เห็นวิวเห็นบรรยากาศรอบๆ ดีขึ้นมานิดนึง ในระหว่างที่กำลังจะเพลิดเพลิน รถติดล่ม…แต่ไม่นานนะ ลุงพลขับจัดการทำเส้นทางใหม่เรียบร้อย ไปต่อ ประมาณเกือบชั่วโมงก็เข้าสู่ลานจอดรถอีแต๊ก ตรงนี้มีทุ่งดอกปอเทืองดอกไม้สีเหลือง กว้างไกลสวยงามมากๆ ใครจะเข้าไปถ่ายรูปต้องเดินระวังหน่อยนะ…
รถติดล่ม เราก็ถ่ายรูปกันไปเนอะ…
เสร็จแล้วก็ไปกันต่อ…
เริ่มมีแสงรำไร…
ทุ่งดอกไม้สีเหลือง งามจ๊ะ…
จากลานจอดรถเดินต่อไปอีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว แกรนแคนยอน เมืองไทย ภูอีเลิศ จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และเส้นสายหมอกที่จะไหลไปตามร่องเขา คือ วันนี้อาจจะโชคไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หมอกไม่เยอะมาก แต่ด้วยสภาพ บรรยากาศที่ได้เห็นกับตาตัวเองต้องบอกว่า สวยมาก สวยแบบสวยสุดๆไปเลย ถ้าหมอกเยอะๆ คิดภาพออกเลยอ่ะ ว่ามันจะสวยขนาดไหน เส้นสายหมอกที่ไหลไปตามร่องเขา สีขาวโพลน ตัดกับแสงตะวันยามเช้า คือต้องมีไปแก้ตัวอีกรอบแน่นอน…
เบื้องหลังจุดชมวิว ภูอีเลิศ…
ทะเลหมอกไม่มาตามนัดหมาย แต่เห็นแค่นี้ก็สุดแล้ว ไว้มาแก้ตัวใหม่…
จากจุดชมวิวจุดแรก เดินมาอีกนิดก็จะมีจุดชมวิวอีกจุดนึง ตรงนี้จะมีป้ายบอก แกรนด์แคนยอนภูอีเลิศ วิวที่นี้จะเปิดกว้างมาก มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนกันไป เห็นไปถึงฝั่ง สปป.ลาว ตรงนี้มีทีเด็ดที่ หินวัดใจ เป็นก้อนหินที่วางอยู่บนหน้าผาที่ลาดเอียง คือใครจะขึ้นไปนั่งหรือไปยืนก็มีเสียวอ่ะ ใจพี่ต้องได้…
ย้ายเหลี่ยมมาท้าทายความเสียว มาอีกหนึ่งจุดชมวิว…
มีให้เสียวกันหลายเหลี่ยมเลยทีเดียว…
หินวัดใจ…ค่อนข้างอันตราย ถ้าใครจะไปถ่ายภาพ ใจต้องได้นิดนึงเนอะ…
เรานั่งจัดข้าวเหนียวหมู ห่อละไม่น่าจะเกิน 30 บาทกับวิวมูลค่าหลายร้อยล้าน อากาศเย็นสบายแดดอ่อนๆอุ่นๆ ศัพท์วัยรุ่นต้องบอกว่า ฟินเฟร่ออออออ มีความเพลิดเพลินเจริญอาหาร ก็ได้เวลาอันสมควร ต้องลาจากกันแล้ว ต้องมาแก้ตัวคราวหน้า ขอแบบหมอกแน่นๆเลย…
ข้าวเหนียวหมู สุดฟินนนนน…
วิวร้อยล้าน…
ลงแล้วนะ……พี่หมาตามขึ้นภูมาด้วย
ขากลับได้อารมณ์กว่าขาไปเยอะเลย ได้เห็นเส้นทางเห็นวิวสองข้างทาง เป็นป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้ใหญ่ ป่าไผ่ มีครบ มีแวะถ่ายภาพตรง หินพานจันผา หินขนาดใหญ่อยู่ไม่ไกล ก่อนถึงภูอีเลิศ ขามาไม่เห็นมันมืด…
ขากลับสว่างแล้วเก็บบรรยากาศกันหน่อย…
แวะถ่ายรูปที่ หินพานจันผา…
กลับมาที่ด่านด้านล่าง ก็ไปกันต่อ จุดหมายต่อไปไม่ไกลมาก แต่ต้องเปลี่ยนรถเป็น กะบะขับเคลื่อน 4 ล้อ เราจะไปชม จุดท่องเที่ยวใหม่สุดๆ น้ำตกแก่งช้าง เดินทางจากบ้านปากหมัน ไม่ถึง 15 นาที ออกเดินอีก 5 นาที ก็ถึงแล้ว
น้ำตกแก่งช้าง ต้นกำเนิดแม่น้ำเหือง กั้นพรมแดนไทย-ลาว จากจุดชมวิวจะเห็นสายน้ำสีแดงโคลนไหลกระแทกโขดหิน จากมุมสูง น้ำค่อนข้างแรง สอบถามได้ความว่า ถ้าจะเดินไปเล่นน้ำก็พอได้นะ ต้องเดินลงไปประมาณ 500 เมตร แต่ดูแล้ววันนี้ไม่ควร
จุดชมวิว น้ำตกแก่งช้าง ใครไม่ไหว ก็นอนชมวิวได้อยู่นะ…
จากจุดชมน้ำตก มองไปด้านขวาจะเห็น ผาหัวช้าง ใครจะไปยืนถ่ายรูปหรือยืนชมวิวน้ำตกตรงนี้ต้องบอกว่า อันตรายมากมาก ใจพี่ต้องเกิน 150 ไม่กลัวความสูง ไม่ประมาท ไม่เล่นพิเรนทร์เด็ดขาด มันสูงและเสียว แต่พอไปยืนแล้วมันสวย ถ้าไม่กลัวก็ถือว่าโคตรคุ้ม ลองไปยืนดู แล้วพี่จะรู้สึกดีอ่ะ…
ผาหัวช้าง ตรงนี้คือสุดๆไปเลย…
ได้ไปยืนแล้วได้อารมณ์จริงๆนะ…
จบ…ต้องบอกเลยว่า ภูอีเลิศ น้ำตกแก่งช้าง เป็นธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่มาได้ยังไงยาวนานขนาดนี้ ความสวยงาม ยิ่งใหญ่ อลังการ ไม่น้อยหน้าหลายดอยหลายภูในจังหวัดเลย หรือในประเทศไทยก็ว่าได้ การเดินทางก็ไม่ยาก ใครจะไปกางเต็นท์นอนด้านบนก็มีจุดกางเต็นท์ให้เรียบร้อย ติดต่อสอบถามได้ที่ 061 053 1561
วันนี้ ที่นี่ ได้เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกแล้ว คิดว่าดังตึงตังแน่ๆ แต่สิ่งที่มาพร้อมกับชื่อเสียงอันเลื่องลือระบือไกล คือผู้คนมากมายที่จะมาเยือน ก็หวังว่า ธรรมชาติที่เคยซ่อนตัวอยู่นาน คงยังอยู่อย่างยั่งยืน อย่าไปเหยียบย่ำกันเยอะ ไปแค่ชื่นชม เก็บความทรงจำดีๆกลับมา แล้วเก็บธรรมชาติไว้อย่างเดิม เผื่อไว้ให้คนอื่นเค้าได้ชื่นชมกันบ้างเนอะ…
ภูอีเลิศ น้ำตกแก่งช้าง เป็นส่วนหนึ่งใน เส้นทางท่องเที่ยวสีเขียว ไม้ดอกเมืองหนาว ไว้รอติดตามเรื่องราวเต็มๆ ของเส้นทางสายนี้อีกครั้ง เร็วๆนี้นะ…
คน ฟ้า ป่า น้ำ
วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 13.01 น.
