เส้นทางเดินป่า"เขาเย็น" 1805 เมตร เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินเป็นปีแรก

มีรายละเอียดการจองและการเดินทางในเพจ"อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า"

พวกเราเดินทาง 5-7 กพ

พี่จนท.บอกว่าอุณหภูมิเลขหลักเดียวก็ยังย่ามใจ เพราะช่วงนั้นในเมืองร้อนมาก ..เลยโดนลมหนาวโจมตีไปเต็มๆ

ภาพรวมคร่าวๆ

- นั่งรถจากบขส.ไปที่ทำการ ประมาณ 40 นาที

- นั่งรถจากที่ทำการ ไปจุดเริ่มเดิน ระยะทางแค่ 34 km แต่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ระวังเมารถ

- แวะรับลูกหาบที่หมู่บ้านโละโคะ ผ่านหมู่บ้านป่าหมากที่มีการเพาะปลูกเยอะแยะมากมาย มีสตรอเบอรี่ออแกนิค(สามารถสั่งไว้รับตอนขากลับได้) ฟักแม้ว(มะระม้ง)(ได้ฟรีมามัดนึงเพราะขอซื้อแล้วไม่ขาย) ผ่านหมู่บ้านป่าคา เป็นหมู่บ้านใหญ่ มี 7-11 ประจำหมู่บ้าน ราคาย่อมเยา (ซื้อแมสก์ที่นี่เพราะพี่จนท.บอกว่าขาลงจะฝุ่นเยอะ)

- จุดเริ่มเดินคือหน่วยย่อย... มีห้องน้ำให้เข้า

- วันแรก แค้มป์ดาวบนดิน เดินช่วงแรกๆชิวๆ เดินข้ามลำธารสองครั้ง หลังจากนั้นจะเป็นทางชันสุดๆ ไม่ถึงสามชั่วโมงก็ถึงแค้มป์

วิว180องศา เห็นพระอาทิตย์ขึ้น มีแหล่งน้ำใช้ ใครใคร่อาบก็อาบ เดินไม่ถึงห้านาที มีส้วมหลุม1ห้องหนาวพอประมาณ 10 องศา ลมไม่ค่อยแรง

- วันสอง ตื่นสายๆแบบชิวๆ เก็บเต็นท์แบบไม่รีบเร่งเพราะวันนี้เดินนิดเดียว ช่วงแรกๆจะชันหน่อยแต่ก็จะสลับขึ้นบ้างลงบ้าง

ไฮไลท์อยู่ที่กลุ่มเฟิร์นเขียวๆระหว่างทาง แต่ช่วงนี้เริ่มแล้ง เริ่มไม่เขียวแล้วล่ะ เดินไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงแค้มป์เขาเย็น

กางเต็นท์บนสันเขา มีวิวพระอาทิตย์ตก

- มีส้วมหลุมแบบเปิดโล่งด้านหน้าให้รับลมชมวิวเพลินๆ สำรวจตาน้ำที่อยู่ไกลลงไปในหุบข้างล่าง อาบน้ำเสร็จเดินขึ้นมาก็ได้เหงื่อพอดี

- พระอาทิตย์ตก เห็นได้จากบริเวณแค้มป์ หรือจะเดินเขานิดหน่อยขึ้นไปชมบนยอดด้านทิศหนือหรือใต้ก็ได้

ถ้าฟ้าใสๆก็จะมองไกลเห็นเทือกเขาสูงของพม่า

- อากาศหนาวมาก แค่ 4 องศา ลมแรงสุดๆ ต้องตื่นมาผิงไฟ

- เตรียมข้าวเที่ยงไปกินที่แค้มป์แรก ใช้เวลาทั้งหมด 4 ชั่วโมง(ช้าหน่อยเพราะเพื่อนเจ็บ) 10.00-14.00

เดินทางไปที่ทำการ-อาบน้ำ-เข้าเมือง ก็ได้เวลามื้อเย็นพอดี

- ไม่มีทาก แต่มีคุ่นทั้งสองแค้มป์

บรีฟทำความเข้าใจเส้นทางเดินป่าก่อนนิดนึง (ดูเหมือนไม่ได้ตั้งจฟัง แต่คือยังไม่ถึงเวลาบรีฟจริงไง 555)

ความจริงหมู่บ้านโละโคะจะเป็นแค่ทางผ่าน แวะรับลูกหาบที่ปากทาง แต่มีการประสานงานผิดพลาด

ก็เลยได้เข้ามารอลูกหาบทั้งสาม ในหมู่บ้าน

ทั้งสามหมู่บ้าน คือโละโคะ ป่าหมาก ป่าคา อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีทั้งพื้นที่อาศัยและพื้นที่ทำกิน

แต่ยังไม่ต้องอพยพไปไหน เพราะเป็นเขตผ่อนปรนตามมติครม. 30 มิย 2541 ทำให้ผู้บุกรุกอุทยานก่อนปี 2541 ยังสามารถอยู่ในพื้นที่ได้

กระเด้งกระดอนบนรถมา 2 ชั่วโมงกว่า พร้อมชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางซึ่งเป็นพื้นที่เกษตร ทั้งไร่สตรอเบอรี่ออแกนิคที่ส่งโครงการหลวง

สวนฟักแม้ว(มะระม้ง) ที่เป็นขั้นบันไดประหนึ่งไร่ชาอู่หลง แปลงดอกหอมที่บานสะพรั่งไม่แพ้ทุ่งปอเทือง

เราก็ได้เวลาเดินแล้วล่ะ

The West forest of Thailand

I'm still sick but I choose to be herย

Start step stand

The nature makes my head clear

จะต้องข้ามลำธาร สองครั้ง

จากนั้นก็จะเป็นทางชันเกือบล้วนๆ

เดินชิวๆ ถ่ายรูปไปพักไป ไม่ถึงสามชั่วโมงก็มาถึงแค้มป์แรก พี่จนทให้ชื่อว่า แค้มป์ดาวบนดิน

เพราะจากตรงนี้มองลงไปพื้นที่หมู่บ้าน(หรือเมือง?) จะเห็นแสงไฟตอนกลางคืน แต่...เราไม่เจออะ

แหล่งน้ำใกล้ๆที่พัก เห็นเล็กๆงี้ไหลแรงเหมือนกันนะ

ยอดแหลมๆนูนๆนั่น ยอด 1900 สำรวจแล้ว แต่ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดิน

เดือนกุมภานี้ช่วงหัวค่ำจะยังไม่มีทางช้างเผือก จะโผล่ก็ช่วงตีห้าโน่น(แต่เราก็หาได้ตื่นไม่ - -")

Cold starry night

Get warm by the fire

Laying on the ground

Stare at the stars and listen to the wild sounds

เช้านี้เบาๆที่สิบองศา หมอกจางๆ แต่เมฆจะหนาไปไหน

ยังดีที่โผล่มาให้ชื่นใจนิดนึง

นอกจากก้อนมอสอ้วนๆแล้ว ก็จะมีกล้วยไม้สีขาวนี้ที่เกาะตามต้นไม้ที่นี่

แค้มป์นี้เด่นที่หญ้าคา แค้มป์สองเด่นที่กอเฟิน

ชิวมาพอแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินเปลี่ยนที่นอนกับที่ทำกับข้าว 555

ลุงหาบอายุ 62 (ทหารเก่า ถุงนอนไม่ต้อง ผ้าขาวม้าผืนเดียวก็ห่มอุ่น)

รกดี ต้นไม้ใส่เสื้อ

ชมวิวไปเรื่อยๆ วันนี้ไม่รีบ

เดินๆไปก็เริ่มแบ่งก๊กแบ่งเหล่า 555

เรามาถึงก่อนก็ขอไปสำรวจลำห้วยน้อยๆนิดนึง

นอกจากจะแบกเต็นท์ห้แล้ว ลุงยังแบกน้ำจากตรงนี้ขึ้นไปให้พวกเราด้วย (คือไกลและชันมาก)

ว่างจัด ของหวานสารพัดเมนูจึงถือกำเนิดขึ้นมาตามแต่ใครจะครีเอท แต่ปรุงเสร็จแล้วก็ต้องช่วยกันกิน 5555

It's a chilling day

Killer, the game we play

We have afternoon tea and dessert

This camp, happiness alert!ผืนป่าตะวันตกที่เชื่อมต่อกับอุ้มผาง ถ้าหมอกน้อยกว่านี้ ฟ้าเปิดกว่านี้ ก็จะมองเห็นเทือกเขาสูงของพม่าเป็นแนวยาว

พระอาทิตย์ตก จะรอที่หน้าเต็นท์เลยก็ได้ หรือจะขึ้นไปยอดด้านทิศเหนือก็ได้ แต่เราไปยอดทิศใต้เพราะเมื่อกี๊ไปเดินเล่นบนยอดทิศเหนือมาแล้ว อิอิ

หนามรกมาก ไม่ค่อยมีวิวแบบเปิดๆ เฟิร์นสูงอลังได้อีก

หนาวเกินไป งดถ่ายดาวคืนนึง

เช้านี้ เทอร์โมมิเตอร์บอก 4 องศา ทนหนาวในใเต็นท์ไม่ไหว ต้องออกมาผิงไฟข้างนอก

(ถามว่ารูปกับคำบรรยายเข้ากันมั้ย 555)

ไม่สามารถรอพระอาทิตย์ได้ ก็เดินทั้งเสื้อกันหนาวนี่แหละ

แป๊บๆก็ถึงแค้มป์แรก ยังไม่ทันเที่ยงแต่ก็กินข้าวเที่ยงได้ละ เพราะเป็นจุดที่สะดวกสุด

เดินเพลินๆ ถ่ายรูปชิวๆ

It's always better when we're together

It's always better when we support each other

Whatever will be

You always mean to meใกล้ถึงแล้ววววว

มาถึงจุดเริ่มเดินที่หน่วยย่อย เกือบๆบ่ายสอง ก็ได้เวลากระเด้งกระดอนกลับสู่เมือง

แวะรับสตรอเบอรี่ออแกนิคที่สั่งไว้สิบโล (ว่าจะกินก๋วยเตี๋ยวในหมู่บ้าน ร้านก็ปิดพอดี 555)

แวะส่งลุงหาบที่บ้านโละโคะ

แวะอาบน้ำที่ที่ทำการอุทยาน บรรยากาศดีได้อีก

ค่าใช้จ่าย 16 คน

- รถทัวร์ไปกลับ กทม-กำแพงเพชร 249x2 = 498.-

- ค่าเดินป่าอุทยาน (กรุ๊ปละ 10k 16คนคิดเป็นสองกรุ๊ป) 2x10k /16 = 1250.-

- ลูกหาบ สามคน สามวัน 3x3x500 4500/16 = 281.-

- เหมารถจนท. สองคัน บขส.กำแพงเพชร-อช 2x2000 /16 = 250.-

- เหมารถสองแถวไปกินข้าวเย็นวันกลับ ไปกลับ 2x200 /16 = 25.-

- อาหาร 9 มื้อ 9092/16 = 569.-

- อื่นๆ (taxiขนของ, ฝากของ, แก๊สกระป๋อง,..) 832/16 = 52.-

รวม คนละ 2925 บาท

ขอบคุณ .. เขาเย็นแห่งคลองวังเจ้า หนึ่งนผืนป่าตะวันตก ช่างเย็นเข้ากระดูกสมชื่อจริงๆ

แหล่งน้ำแม้เพียงน้อยนิด แต่ใสสะอาดและเย็นฉ่ำ

ห้องส้วมที่เปิดรับลมชมวิวขุนเขาด้านนึงเต็มๆ มันฟินนน~

ลุงหาบ ทหารเก่า ถึกมาก

พี่บุญ พี่ปี พี่เจ ที่คอยช่วยเหลือและถามไถ่ ไม่ว่าจะเรื่องหุงหาหรือความอบอุ่น แบ่งปันประสบการณ์การพิทักษ์ป่า (มันหนักจริงๆ)

เดอะแก๊ง ที่เดินด้วยกัน แต่ทริปนี้หวานเป็นพิเศษ สารพัดเมนูเพื่อเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด 555 ...เดินด้วยกันนานๆนะ

แล้วเจอกัน .. เขาลูกต่อไป

next station is..