ขึ้น 15ค่ำ เดือน12 พระจันทร์เต็มดวงวันลอยกระทง ในปี 2018นี้เราได้มีโอกาสไปลอยกระทงที่เชียงใหม่ สำหรับเทศกลางลอยกระทงที่เชียงใหม่จะจัดขึ้น 2วัน ในวันลอยกระทงตามปฏิทิน และหลังวันลอยกระทง 1วัน


ลอยกระทงสาย วัดฟ้าฮ่าม ที่นี่มีผู้คนมาลอยกระทงจำนวนมากทั้งนักท่องเที่ยว และคนท้องถิ่น ทางวัดมีกระทงขาย ทั้งกระทงใหญ่ ที่เป็นกระทงทำจากต้นกล้วย และใบตองตกแต่งด้วยดอกไม้ ปักด้วยธูปเทียน และกระทงเล็ก หรือที่เรียกกันว่ากระทงสาย ทำด้วยกาบกล้วย ปักด้วยหลอดที่ภายในหล่อไว้ด้วยเป็นเทียนไข


หากแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า จะเห็นจุดแสงไฟสีเหลืองทองจำนวนมาก นั่นคือ 'โคมลอย' ที่ผู้คนต่างปล่อยขึ้นฟ้าเพื่ออธิฐานขอพร แต่หากก้มลงมามองบนผืนน้ำ ก็จะเห็นกระทงลอยตามกันเป็นสายไหลไปตามสายน้ำให้ความรู้สึกเพลินตา


กระทงเล็ก บ้างใช้กาบกล้วย บ้างใช้กะลา บ้างใช้ใบตองโดยภายในใส่เทียนก้อน วัสดุที่ใช้ทำขึ้นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสะดวก


หลังจากลอยกระทงเสร็จแล้ว ไปเดินเล่นชมโคมไฟที่ วัดอินทขิล สะดือเมือง ที่วัดนี้มีพระอุโบสถเป็นสีทองอร่าม บริเวณด้านข้างจัดแสดงโคมไฟมากมายหลากหลายสีสัน และนมัสการหลวงพ่อขาวที่มีอายุกว่า 700ปี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปแบบล้านนา ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถทรงล้านนาเช่นกัน


หลังจากนั้นเราไปถวายเทียนที่ วัดพันเตา โดยจะมีเทียนที่ถูกหล่อไว้ในภาชนะดินเผา ให้เราได้ร่วมทำบุญและเขียนชื่อติดลงบนเทียน ตั้งจิตอธิษฐาน และนำไปวางไว้ตามจุดที่ทางวัดจัดไว้ให้


สำหรับที่พักในครั้งนี้ เราได้ไปพักที่เกสเฮ้าส์ Safe house court ซึ่งได้เซิดหาข้อมูลแล้วเจอว่าที่นี่อยู่ใกล้กับถนนคนเดินท่าแพที่จะมีในวันอาทิตย์ อีกทั้งราคาไม่แพง เจ้าของก็ใจดี ห้องสะอาด และเดินทางสะดวก อ้อ.. ที่นี่เขามีบริการซักผ้าด้วยนะคะ สะดวกมากๆสำหรับเราที่เวลาเที่ยวจะเอาเสื้อผ้าไปไม่เยอะ ก็ให้เขาซักให้โดยมีค่าบริการเล็กน้อย ถ้าไปเที่ยวเชียงใหม่ แล้วอยากพักแบบราคาไม่แพง เราแนะนำที่นี่เลย



ในวันอาทิตย์ตอนเย็น ออกไปเดินเล่นที่บริเวณลาน ประตูท่าแพ ตรงนี้มีจัดแสดงโคมไฟเป็นจุดๆ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกมาเดินเที่ยวมากมาย ไปเดินถ่ายรูปเล่นกับไฟส้มๆบริเวณกำแพง แล้วเดินต่อไปยังถนนคนเดินท่าแพ


ถนนคนเดินคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสัก 80% แต่เดินได้สบายๆ ไม่เบียดเสียดแออัด เนื่องจากถนนค่อนข้างกว้างอยู่พอสมควร

มีสินค้าต่างๆวางขายหลากหลาย ตั้งแต่เสื้อผ้าพื้นเมือง ภาพวาด เป่าแก้ว ไปจนถึงสินค้าหัตถกรรม และอาหารการกิน


เดินไปทางท้ายๆ เจอน้องฮัสกี้ตัวอ้วนๆมานั่งรอถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว น้องน่ารักและเชื่องมาก แต่เราไปถึงดึกน้องกำลังขึ้นมอเตอร์ไซด์กลับบ้านพอดี จึงได้ถ่ายรูปกับน้องมารูปเดียว และแอบถ่ายน้องตอนกำลังขึ้นรถกลับบ้าน


เชียงใหม่ เป็นเมืองที่มีมนต์สเน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นผู้คน โบราณสถาน สถานที่ต่างๆ บางคนอาจจะมองว่าเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่วุ่นวายไม่แพ้กรุงเทพฯ แต่ในความเป็นจริงๆแล้วถ้าลองมาเที่ยวสัมผัสดู เมืองเชียงใหม่ก็ไม่ได้วุ่นวายน่าปวดหัวเหมือนอย่างกรุงเทพฯเลย

OPW's Story

 วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 20.07 น.

ความคิดเห็น