ถ้าเรามีเวลาไม่มากการเที่ยว one day trip ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
เหตุเกิดจากอยากไหว้พระเเละทานผัดไทยอร่อยๆ อยุธยาก็ไปบ่อยเเล้ว
อ่างทองจึงเป็นจุดหมายปลายทางเเบบเช้าเย็นกลับของเราในทริปนี้ค่ะ
จริงๆเเล้วอ่างทองไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร(ขับรถ 1.30 ชม.)
เลยอยุธยาขึ้นมานิดเดียวก็ถึงเเล้วค่ะ
ก่อนที่จะเริ่มเที่ยว ขอเเวะฝากท้องตอนเช้าที่ "Brighter Day's Cafe & Bistro" กันก่อน
ร้านอยู่บนถนนเส้น 309 ทางไปอำเภอเมืองอ่างทอง มุ่งหน้าไปอำเภอป่าโมก ร้านเปิด 08.00-20.00น.
ตกเเต่งสวยงาม โปร่ง นั่งสบาย
สั่ง Espresso Ice Cube เราเป็นคนทานกาแฟไม่เข้มมาก เลยถูกใจเมนูนี้
ไม่เเน่ใจว่าแก้วนี้ชื่อ Lavender Milk รึเปล่านะคะจำชื่อไม่ได้ TT
เห็นสีหวานๆเเบบนี้ เเต่รสชาติไม่หวานมากค่ะ
Nutella Brioches ช็อกโกเเลตที่ราดมาเข้มข้นดี ทานกับถั่วเฮลเซลนัทเเละขนมปังเข้ากันมากๆ
เมื่อเข้ามาด้านในโบสถ์ที่ห้องเเรกจะพบหลวงพ่อแก่นประดิษฐานอยู่
รากต้นโพธิ์ที่ชอนไชผ่านผนังดูเเล้วสวยไปอีกเเบบ
เมื่อเข้ามาอีกห้องจะเห็นว่ามี พระพุทธรูป 3 องค์ ได้แก่ หลวงพ่อวันดี ,หลวงพ่อสุข เเละหลวงพ่อศรี
จากวัดสังกระต่าย เรามาต่อกันที่วัดม่วง เป็นวัดดังอีกวัดหนึ่งของจังหวัดอ่างทอง
ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงบูรณะหลวงพ่อใหญ่ จึงห้ามขึ้นไปค่ะ
บริเวณวัดมีการเเสดงหุ่นปั้นสะท้อนกฎแห่งกรรม
ตอนมีชีวิตอยู่ทำอะไรไป เมื่อหมดลมหายใจต้องชดใช้เช่นนั้น
ก่อนกลับเราเเวะปิดทองลูกนิมิต เเละเข้าไปทำบุญที่วิหารแก้วค่ะ
ไม่ไกลจากวัดม่วง ขับรถมาประมาณ 10 นาที เรามาถึงวัดเขียน เวลาใช้ google map นำทางมา ให้พิมพ์ว่า "Wat Khian" นะคะ ไม่งั้นจะหาไม่เจอ
ที่นี่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นฝีมือสกุลช่างวิเศษชัยชาญในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
ภาพยังคมชัด สีสันสดใส และค่อนข้างสมบูรณ์ โดยลักษณะเด่น คือการใช้สีครามเข้ม ที่ช่างสามารถออกเส้นและสีงดงามตัดกันอย่างดี รวมทั้งสีเขียวอ่อนหรือเขียวตังแช สกัดจากสนิมซึ่งเป็นเทคนิคที่พัฒนาขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง
ขอบคุณข้อมูลจาก ตามรอยศึกชิงราชบัลลังก์ วัด - วังราชวงศ์บ้านพลูหลวง โดยปรวรรณ วงษ์รวยดี
จิตรกรรมฝาผนังแสดงเรื่องทศชาติชาดก พระสุธน และรูปเขียนช้างมงคล 10 ตระกูล
ในภาพเป็นพระอุโบสถหลังเดิม ซึ่งตอนนี้ถูกหลังใหม่สร้างครอบเอาไว้
จิตรกรรมฝาผนังที่วัดเขียนถือว่าเป็น unseen อีกเเห่งหนึ่งในอ่างทอง ถ้ามีเวลาอยากให้ลองเเวะมาชมกันนะคะ
ที่ต่อมา เปลี่ยนจากวัดมาชมโบราณสถาน "พระตำหนักคำหยาด"
จากพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาปรากฎว่า เมื่อ พ.ศ.2303 เจ้าฟ้าอุทุมพรเสด็จมาผนวช เเละพระองค์ได้มาประทับที่พระตำหนักคำหยาดเเห่งนี้
สามารถเดินลอดซุ้มประตูเข้ามาด้านในตัวพระตำหนักได้ค่ะ
เเนะนำให้มาช่วงเช้าหรือเย็นจะร่มรื่นเดินสบายกว่าค่ะ
เที่ยงเเล้วท้องเริ่มร้อง เรามาทานผัดไทยโบราณเเสนอร่อยที่ร้านผัดไทยเเม่เล็กกันค่ะ
ร้านอยู่หน้าวัดจุฬามณี ถนนโพธิ์ทอง-องครักษ์ ฝั่งคลองวัดไทร อ.โพธิ์ทอง
ผัดไทยที่นี่ไม่ใส่เนื้อสัตว์ เส้นเหนียวนุ่มผัดกับไข่เป็ด ทานเเล้วต้องร้อง งู้ยยยยยยย อร่อยสมใจอยากค่ะ
ร้านเปิดทุกวัน 08.00-14.30 น.
![](/f/21466/5bf65dc3ddb7945efedd5feb.jpg)
อิ่มเเล้วออกเดินทางต่อค่ะ ถึงเเล้ววัดขุนอินทประมูล (ขับรถ 15 นาทีจากผัดไทยป้าเล็ก)
เราตั้งใจมาสักการะพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่
วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยค่ะ พระพักตร์ยิ้มของพระพุทธไสยาสน์ ดูเเล้วเย็นใจมากๆ
มีความเชื่อว่าถ้าได้สัมผัสที่ฝ่าพระบาท ท่านจะประทานพรให้อายุยืนยาวค่ะ
ก่อนจะจบทริปเที่ยวอ่างทอง เรามาปิดท้ายกันที่ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ อยู่ติดกับวัดท่าสุทธาวาส
ศูนย์นี้เป็นโครงการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้น เพื่อชาวบ้านจะได้มีรายได้เข้าชุมชนค่ะ
ตุ๊กตาชาววังทำจากดินเหนียว คนปั้นหยิบเอาความเป็นอยู่ วัฒนธรรมไทยมาสะท้อนผ่านตุ๊กตาชาววัง
สามารถชมเเละเลือกซื้อไปเป็นของที่ระลึก หรือเป็นของฝากก็ได้เช่นกันค่ะ
แพคเกจจิ้งน่ารักดี
นอกจากตุ๊กตาชาววังเเล้ว ด้านบนมีพิพิธภัณฑ์ให้เยี่ยมชม
ในพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมนี้ แสดงนิทรรศการในหลวงรัชกาลที่9 เเละรัชกาลที่10 พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์
เที่ยวจนอิ่มอกอิ่มใจได้เวลากลับกรุงเทพฯเเล้วค่ะ
รีวิวนี้อาจจะยาวไปสักหน่อย เเต่เราอยากให้ทุกคนเห็นว่าในเมืองไทยยังมีสถานที่เที่ยวเเละของดีๆอีกมากมาย อย่างในจังหวัดอ่างทองก็มีสถานที่เที่ยวunseen มีอาหาร ขนมอร่อยๆ รอให้ทุกคนมาเยือน
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นไอเดีย one day trip ให้หลายๆคนได้นะคะ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ:)
Go with Sweet Toddy Palm
วันพฤหัสที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 16.15 น.