“ หมอมี ” เป็นชื่อที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันมานานมากๆแล้ว

ถ้าจะพูดถึง ยาอุทัย .. ก็แหงล่ะสิพอจะนึกออกกันบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะคะ

ยาอุทัยหมอมี คนรุ่นก่อนๆ เค้าจะนิยมนำมาหยดลงในน้ำดื่ม แต่รุ่นหลังๆมานี่

จะเน้นไปทางความสวยความงามซะมากกว่า น้อยครัวเรือนมาก ที่จะยังใช้ ยาอุทัย หยดลงในน้ำดื่ม

ร้านอาหาร “ บ้านหมอมี ” ถือกำเนิดขึ้นจากการนำบ้านเก่าแก่กว่า 120 ปี ของตระกูลเกษมสุวรรณ

มาดัดแปลงเป็นร้านอาหาร และร้านกาแฟโบราณ อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เล็กๆ

อยู่ด้านในของบ้านอีกด้วย นอกจากที่จะเป็นร้านอาหารแล้ว

ก็ยังมีมุมต่างๆที่ยังคงความเก่าให้เราได้ชมกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เรือแคนู , หลุมหลบภัย เป็นต้น


“ เรือแคนู ” ในอดีตทางทิศเหนือของบ้านจะติดกับคลองแสนแสบ มีท่าน้ำ บันไดไม้ทอดลงไปในคลอง

เพื่อให้ผู้คนได้ใช้ประโยชน์จากน้ำ และสัญจรโดยเรือ เป็นการเดินทางที่สะดวกของคนในยุคนั้น

พอถึงหน้าน้ำหลากปลาชุม สมาชิกในบ้านยังเคยได้จับปลา เด็กๆก็หัดว่ายน้ำในคลอง

ซึ่งจะได้เห็นเรือพ่อค้าแม่ค้าพายมาจอดขายของบริเวณนี้ โดยเฉพาะในวันเทศกาลต่างๆ

สมาชิกในครอบครัวก็จะพายเรือล่องไปในคลองแสนแสบด้วยเรือแคนูชื่อ “ สุวรรณเวศม ”ของบ้านหมอมี

ในสมัยนั้นน้อยคนนักที่จะมีเรือชนิดนี้ เมื่อผู้คนสองฝั่งคลองเห็นก็จะทราบทันทีว่ามาจากบ้านไหน

“ หลุมหลบภัย ” ในช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการขุดหลุมขนาดใหญ่เอาไว้ตรงสนามหน้าบ้าน

เพื่อใช้เป็นหลุมหลบภัย เป็นหลุมที่ขุดลึกลงไปในพื้นดินและมีการเทปูนซีเมนต์รองหลุมขึ้นมาจนถึงพื้น

เพื่อเสริมความแข็งแรง มีขนาดกว้างพอให้คนลงไปได้ 8 – 10 คน

และอีกหลุมหนึ่งได้ทำเป็นหลุมซีเมนต์ทรงน้ำเต้า คือปากหลุมจะแคบและก้นหลุมจะกว้าง

ฝังอยู่ในดินเช่นเดียวกัน ภายในจะมีช่องเพื่อสำรองน้ำดื่มกรณีที่ต้องหลบอยู่นาน หลุมนี้จะสามารถจุคน

ได้ 4 – 5 คน เนื่องจากปากหลุมเล็ก ทำให้ต้องลงไปทีละคน และต้องนั่งเบียดกันเล็กน้อย


ส่วนนี้จะเป็นทางเข้าด้านหน้าของบ้าน

ตรงเข้ามาจะเจอกับร้านกาแฟ มีมุมสำหรับนั่งดื่มน้ำกันเบาๆได้เลย


ด้านหลังร้านกาแฟจะเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ


ส่วนโซนร้านอาหาร จะเข้าทางห้องซ้ายมือ

ห้องอาหารจะมีค่อนข้างหลากหลาย ทั้งแบบเรือนกระจก แบบส่วนตัว และแบบห้องประชุม

ระหว่างที่รออาหาร เมนูเครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “ หมอมี ไทย คูลลิ่ง ”

รสชาติก็คล้ายๆ สตรอเบอร์รี่โซดา แต่หยดน้ำยาอุทัยหมอมีลงไปด้วย .. ดื่มเข้าไปก็จะรู้สึกสดชื่นมากขึ้น

สำหรับเมนูอาหารในวันนี้ จะเน้นไปทางเมนูแนะนำ ที่ใครมาก็จะต้องทาน นั่นก็คือ “ แกงรัญจวน ”

เป็นอาหารชาววัง มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีส่วนผสมหลักคือน้ำพริกกะปิ กลิ่นหอมน่าทาน

รสชาติจัดจ้าน และที่สำคัญคือเนื้อนุ่มละมุนมากๆ

เมนูถัดมาจะเป็น

“ ปลากะพงทอดตะไคร้ ”

“ ตำมะยม ”

“ ไก่ย่าง ”

“ แซลมอนแซ่บ ”

“ มะม่วงหาวมะนาวโห่ว ”

“ ลูกตาลลอยแก้ว ”

และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการมาทานอาหาร

นั่นก็คือ มุมถ่ายรูปคือดีมาก ! บอกเลยว่า มาที่เดียวครบจบแน่นอน

สำหรับการเดินทาง

เพื่อความสะดวก สามารถเดินทางโดย BTS ลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ และเดินมาที่ ซอย เกษมสันต์ 3 หรือใครจะขับรถมาเอง ทางร้านก็มีที่จอด

ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 21.00 น. เบอร์โทรศัพท์ +66 (0) 2 216 3888

BaanMohmeeCuisine

ความคิดเห็น