เลยยจ๋าแนนมาแล้วววว อยากจะตะโกนดังๆไปเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ในช่วงปลายฝนต้นหนาว เมื่อทุกคนขึ้นเหนือไปสัมผัสอุ่นไอหมอก กลิ่นไอฝนที่เหนือ เราก็ขอแหวกอารมณ์ลงไปเยือนถิ่นอีสานตอนบน “เลย” ครั้งนี้เกิดจากความตั้งใจที่จะไปดูหมอกที่เขาค้อ5555+ แต่เอาน่าขับไปอีกนิดไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ที่เชียงคาน จุดมุ่งหมายที่มาโดยไม่ได้คาดหมาย และก็เกิดเป็นรีวิวเล็กๆนี้ค่ะ
“เชียงคาน ครั้งหนึ่งมาถึง...เลย”
เผาหัวจากด้านบนมาแล้วว่าทริปนี้เกิดจากความไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อมาเยื่อนถึงถิ่น”เลย”ไม่แปลกใจเลยที่คนจะหลงใหลเสน่ห์ของที่นี้ อากาศที่กำลังดี ผู้คนที่ยิ้มแย้ม เลย-เชียงคาน มักจะเป็นอีกตัวเลือกที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ว่าที่นี่ เป็นเมืองสโลว์ไลฟ์ที่ใช้ชีวิต 2วัน 1คืน ไม่เบื่อเลยย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขับรถมุ่งสู่เชียงคาน ออกจากกรุงเทพฯดึกๆ มาถึงที่เชียงคานก็เช้าพอดี สิ่งแรกที่เรามาก็คงจะหนีไม่พ้นไหว้พระขอพรตามธรรมเนียมไทย เราวิ่งรถตรงไปไหว้พระที่วัดท่าแขก วัดท่าแขกเป็นวัดเก่าแก่มีอายุราวๆ300ปี ถือได้ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงคานเลยค่ะ ตั้งอยู่ริมเเม่น้ำโขง ห่างจากอำเภอเชียงคานเพียงเเค่ 2 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ขอพร ก่อนจะไปกันต่อที่เเก่งคุดคู้เพราะเป็นเส้นทางเดียวกัน
จากที่บอกว่าวัดท่าแขกเป็นวัดเก่าที่อยู่ติดแม่น้ำโขง จะมีจุดให้ถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระทึก! (ระลึก)ค่ะ มองไปไกลตาโน้นน จะเห็นหมอกอยู่ไกลๆตา ลมพัดเย็นสบายริมโขง วันที่เราเที่ยวเป็นวันธรรมดา แต่ก็มีนักท่องเที่ยวมาไม่ขาดสาย กำลังดีเลยค่ะไม่ต้องแย่งกันถ่ายรูป
ขับรถออกมาอีกไม่นานจากวัดก็จะเจอกับแก่งคุดคู้ ลำน้ำโขงที่ทอดยาวเป็นเส้นกั้นระหว่างสองฝั่ง ไทย-ลาว และในช่วงที่น้ำลดจะเห็นเกาะแก่งน้อยใหญ่ต่างๆโผ่พ้นน้ำขึ้นมา เดือนที่เรามาเพิ่งจะหมดฝนไป แต่ก็ยังมีแก่งเล็กๆโผ่ขึ้นให้เห็นเป็นสันมองเห็นอยู่ไกลๆ ตั้งตระหง่านเป็นฉากหน้าของภูเขาที่ยังมีหมอกคลุมสวยไปอีกแบบน๊า ที่นี่ยังมีล่องเรือหางยาวชมนกชมไม้สองฝั่งไทย-ลาว 50บาทต่อคน ล่องเรือ 30 นาที ถือว่าคุ้มกับบรรยากาศแบบนี้เลยย
นอกจากจะมีแก่งน้อย แก่งใหญ่ให้ล่องเรือชมวิวแล้ว ยังมีร้านค้าอีกมากมาย ทั้งของกินและของฝาก จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ของฝากขึ้นชื่อ “มะพร้าวแก้ว” แสนอร่อย มันอร่อยเด็ดอย่างที่บอกต่อๆกันเลยค่ะ เนื้อหนานุ่ม เคี่ยวกับน้ำตาล เคี้ยวกำลังเพลิน
เดิน! เที่ยว! กินพุงแตก! ก็ได้เวลาเช็คอิน วันนี้เราเลือกพักที่ ” ภู่ เชียงคาน” โรงแรมติดริมโขงเห็นวิว 180 องศา แถมยังมีระเบียงยื่นออกไปด้านหลังห้อง คิดว่าคืนนี้จะนั้งชิวหลังห้องนี่แหละนะ^^ ราคาห้องพักติดริมโขง1,500 บาท ที่เชียงคาน มีที่พักเยอะมากกกกก ราคาในย่านถนนคนเดินจะสูงกว่าข้างนอกซึ่งไม่ไกลกันมากนัก ในย่านแถวๆตลาดคนเดิน 800-2800 บาท หากไม่ซีเรียสเรื่องที่พักและวิว แนะนำเป็นโซนที่ไม่ติดกับถนนคนเดิน ราคาจะถูกลงกว่าเยอะเลยค่ะ 500-700 บาท
ตลาดจะเปิดไม่ให้รถผ่านได้ตั้งแต่ 16.00 น. เป็นตันไป คนเริ่มค่อยๆมาเดินชิว มาถ่ายรูปเก๋ๆ มาหาของกินอร่อยๆกันแล้วค่ะ ตอนนี้บรรยากาศดีมากกกกกก มาเชียงคานยังไงให้ถ่ายรูปเก๋แบบว่าอินกะเชียงคานอย่างแท้ทรู ผ้าซิ่น พร็อพง่ายๆ แค่นี้ก็อินแว้ววว
เริ่มแว้ววเริ่มคึกคัก และ ครึกครื้น ของกินเยอะมาก หลงใหลในบรรยากาศนี้จริงๆค่ะ
พอตกดึกก็ยิ่งน่านั่งชิวจิบเบียร์ๆเย็นๆกับร้านนั่งชิวที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว เราเลือกที่จะมาวันธรรมดาเพราะคนจะได้ไม่เยอะ และมีพื้นที่พอจะโพสท่าเก๋ๆ ณ เชียงคานมาอวดเพื่อนๆ วันธรรมดาน่าเที่ยวจริงๆค่ะ
ที่บอกว่าวันธรรมดาน่าเที่ยว มันเป็นแบบนี้ตามรูปจริงๆค่ะ คนไม่มาก ไม่ต้องเดินเบียดกัน มีมุมให้ถ่ายรูป ช๊อปของฝาก เดินเล่นดื่มด่ำบรรยากาศ หลงไปกับเสน่ห์เชียงคาน
ส่วนโรงแรมที่พักเยอะแยะมากมายให้เลือก หากสนใจแบบติดชิดถนนคนเดิน หลังห้องเห็นวิวแม่น้ำโขง แนะนำต้องจองล่วงหน้าเพราะเดินผ่านบางที่ ก็ติดป้านหน้าบ้านเต็มแล้วนี่ขนาดวันธรรมดานะคะ
สตรีทฟู้ดทั้งซอยยยยอร่อยๆทั้งนั้น ของขึ้นชื่ออย่างข้าวจี่ กุ้งเสียบ ปูจี่ ห้ามพลาดพูดเลย!!! เดี๋ยวคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง ไม่ถ่ายรูปลงก็ไม่ได้เดี๋ยว่าเรามาไม่ถึง ^^
ฟ้องด้วยภาพ นี้คือ "ภูทอก"จุดชมทะเลหมอกที่ใครๆก็ตั้งหน้าตั้งตาขึ้นมาดูหมอกตอนเข้า หมอกแน่นๆหนาๆ แต่ด้วยอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดฝนจ๋าก็ดันเทลงมา เลยตัดสินใจลงมาแบบงงๆ แต่เอาน่า "ถ้าไม่ควาดหวัง ก็จะไม่ผิดหวัง" คำนี้มันใช้ได้จริงๆค่ะ รักษาแผลได้ในช่วงเวลาสั้นๆ TT
รุ่งอรุณแห่งความสุขก็มาถึง และนี่ก็คือรางวัลของคนตื่นเช้า อากาศดีสุดๆไม่หนาวไปไม่ร้อนไป เห็นหมอกไกลๆที่ฝั่งลาว
ลืมตามองนาฬิกาเป็นเวลา 6.00น. นิดๆ รีบลุกเอาตัวเองออกจากที่นอนเช้านี้ต้องรีบตื่นมาใส่บาตรข้าวเหนียว ไม่ขี้เกียจแบบทริปอื่นๆที่ขอนอนตื่นสายๆ คิดอย่างเดียวว่านี่แหละคือการพักผ่อนอย่างแท้จริง จะเห็นคนปูเสื่อนั้งรอพระตามหน้าบ้าน หน้าโรงแรมของตัวเอง ที่โรงแรมจะเตรียมของใส่บาตรให้เรียบร้อย ชุดละ100 บาท อิ่มบุญกลับกรุงเทพฯหน้าบานเลยยยยยย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มีคนบอกเราเสมอว่า
"การเดินทางของความสุข มันสนุกตั้งแต่ออกเดินทาง ไม่ใช่ความงามของจุดมุ่งหมาย"
สำหรับทริปนี้ที่ได้มาเลยแบบไม่ได้คาดหวังว่าจะเจออะไรบ้าง ทำหัวโล่งๆ ตัวเบาๆและมีความสุข สนุกกับการเดินทางไปถึงเชียงคาน เมืองเล็กๆแต่ความสุขใหญ่มาก อะไรที่เราไม่ได้ความหวัง มักไม่ผิดหวังเสมอ เชียงคานสอนให้เรารู้ว่า การเปิดใจและอย่าไปรู้มันเลยว่าข้างหน้าต้องเจออะไรบ้าง มันตื่นเต้น และมีความสุขทุกครั้งที่จับพวงมาลัยพาตัวเองออกไปเที่ยว...........สวัสดี
RattiNAN
วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 21.11 น.