ไปสัมผัสหนาวแรกที่ "เชียงใหม่" ยิ่งไปบ่อยก็ยิ่งหลงรัก

กลับมาเที่ยว "เชียงใหม่" อีกครั้งในปีนี้ เพราะหลงรักธรรมชาติและผู้คน ที่นี่ มากี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อแต่ยิ่งหลงรักในเสน่ห์เชียงใหม่เพิ่มขึ้น ต่อจากแพร่-ลำปาง ก็มาลงรถที่เชียงใหม่ กลับมาที่นี่รู้สึกไม่เหงาแล้ว เพราะมาเที่ยวทุกปีเริ่มเพื่อนใหม่บ้าง ครั้งนี้อยากจะไปสัมผัสการเดิน "กิ่วแม่ปาน" สักครั้ง ไปคนเดียวเนอะก็ต้องอาศัยติดรถ ก็ได้มีนัดพี่ที่หมู่บ้านแม่กลางหลวงกันในวันที่ 17 พ.ย. ช่วงค่ำๆ เรามาถึงเชียงใหม่วันที่ 16 พ.ย. ก่อนจะไปฝั่งดอยอินทนนท์ ก็เลยไปพักและเที่ยวฝั่งสะเมิงก่อน

นั่งรถจากลำปาง - เชียงใหม่ ก็มาถึงแล้วสถานีขนส่งเชียงใหม่ อาเขต 2 ถึงประมาณ 10.30

หลังนั้นรถที่ได้ติดต่อเช่าเหมาพร้อมคนขับก็มารับ เพราะเป็นทริปเร่งรัดเลยต้องเดินทางแบบนี้ รถที่ติดต่อไว้ก็เป็นของพี่ที่เรียกใช้กันประจำเวลามาเที่ยวเชียงใหม่ ถ้าไม่ได้เช่ารถขับกันเอง
เที่ยวเชียงใหม่มากับเรา Tel.083-3229227 ใช้บริการกับพี่ต่าย ใจดี ราคาเป็นกันเอง

" โลหะปราสาท พระธาตุศรีเมืองปง "

ทุกวันของการมาเที่ยวทริปนี้ เราจะเริ่มต้นด้วยการไหว้พระทำบุญ วันที่นี้ก็เช่นกันมาถึงเชียงใหม่จะมุ่งหน้าไปสะเมิงก็แวะ ไหว้พระบรมสารีริกธาตุ ณ โลหะปราสาท พระธาตุศรีเมืองปง เชียงใหม่ ถ้าใครผ่านมาทางหางดงก็จะเห็นเจดีย์สีขาวบนยอดดอยบ้านปง นั้นก็คือ โลหะปราสาททิพยวิมาน ขาวเด่นบนยอดเขา เป็นโลหะปราสาททรงล้านนา โดยครอบพระธาตุศรีเมืองปงอันเป็นปูชนียสถานที่เก่าแก่ของชุมชนไว้ภายใน โดยตัวอาคารดังกล่าว มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปทรงปราสาทศิลปะในแบบของล้านา สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ การครองราชย์ครบ 60 ปี ของในหลวง รัชกาลที่ 9 และเพื่อเป็นมรดกในการสักการะบูชา ตั้งอยู่บนยอดเขาด้านหลังวัด

โลหะปราสาท พระธาตุศรีเมืองปง จะถือว่าเป็นหลังที่ 4 ของโลกเลยก็ว่าได้

การเดินทาง วัดบ้านปง (อรัญญวาส) ตั้งอยู่ตำบลบ้านปง หางดง เพราะตั้งอยู่บนยอดเขาสูงทางด้านทิศตะวันตกของวัดทางขึ้นจึงชันบ้างช่วงและแคบเล็กน้อย องค์พระธาตุยังไม่เสร็จ

BrandNew Field Good

“ต้องมาเห็นด้วยตา สัมผัสด้วยใจ” กับ Brandnew Field Good Cafe' เก๋ๆ บรรยากาศกลางทุ่งนา ทางเดินเข้าร้านเป็นสะพานไม้ไผ่ในชื่อ (สะพานฮอมฮัก) ที่ขนานไปกับท้องนามุมถ่ายรูปเยอะมาก บรรยากาศดีมากชิลสุดหน้าหนาวยิ่งฟิน ร้านสวย มุมถ่ายรูปเยอะ อาหารอร่อย ปีนี้ได้มาสัมผัสจริงๆแล้ว เพราะปีที่แล้วมาเชียงใหม่ตอนนั้นยังไม่เปิด มาในช่วงวันธรรมดา มันก็จะดูโล่งๆลูกค้าก็ไม่แน่นจนเกินไป

โซนที่นั่งก็มีทั้งในห้องแอร์และโซนด้านนอกริมทุ่งนาแบบนั่งรับลมธรรมชาติชิลล์ๆกันไป

ภายในร้าน

ที่นี่จะไม่มีพนักงานมารับออเดอร์นะ จะมีใบรายการและบอกวิธีสั่งอาหารที่โต๊ะ แล้วนำไปที่เคาเตอร์ออเดอร์พร้อมจ่ายเงิน ก็รอจะมีพนักงานมาเสริฟ์ที่โต๊ะ ไปครั้งนี้รออาหารไม่นานเลยนะ

- มาแล้วผัดไทลั่นทุ่ง -

- กุ้งผัดน้ำพริกเผา -

บริเวณโซนด้านนอก

การเดินทางเข้ามาที่ร้าน จากแยกต้นเกวี๋ยนเข้ามา 8 กม.ขับผ่าน อบต บ้านปงที่อยู่ตรงซ้ายมือ ถึงหัวโค้งให้ชิดข้าย ขับตรงเข้าซอยข้างโรงเรียนบ้านปง ที่มีป้ายวัด อรัญญาวาสมาเลย เข้าไปจอดรถหน้าวัดบ้านปงอรัญญาวาส แล้วเดินผ่านสะพานฮอมฮัก ผ่านกลางนา ไปยังร้านได้เลย

ทุ่งดอกเก๊กฮวย ไร่นายพล

เก๊กฮวยหอมๆ ขาวปนเหลืองน่ารักมากๆ ตัดกับภูเขาสีเขียว และท้องฟ้าสีฟ้า ของดีแบบนี้ 1 ปีมีครั้งเดียว แต่ไปช่วงปลายของฤดูแล้วดอกใกล้จะเก็บหมดแล้วแต่ก็ยังสวยอยู่นะ ยังมาทันด้วย

การเดินทาง

ไร่นายพล ทุ่งดอกเก๊กฮวย หมู่บ้านอมลอง อยู่ตำบลแม่สาบ อ. สะเมิง จ. เชียงใหม่

ปั้นดินรีสอร์ทแอนด์อาร์ต (Pundin Resort & Art)

มาพักกับที่ปั้นดินเป็นครั้งที่สอง มาแอบอิงกายกับธรรมชาติสุดๆ อินดี้โคตรๆ เลือกจะพักที่นี้เพราะเงียบจริงๆ เป็นกันเองพี่อาร์มก็ยังดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี รอต้อนรับลูกค้าที่ล็อบบี้หน้าบ้าน บอกเลยใครมาพักที่นี่ "ชีวิตอย่าไปติดหรู เพราะถ้าติดหรูก็จะนอนที่นี่ไม่ได้"

ห้องพักก็จะเป็นสไลต์เป็นหลังเล็กๆทรงสีเหลี่ยมด้วยไม้พาเลท ให้เข้ากับธรรมชาติ เชิงดอยที่เต็มไปด้วยต้นไม้รายล้อม จะเป็นห้องน้ำในตัวห้องพักมีเครื่องทำน้ำอุ่น ในห้องก็จะที่อุปกรณ์ครบ ทีวี แต่ไม่มีแอร์นะจ๊ะมีแต่พัดลม

พอตกค่ำเราก็มารวมวงก่อกองไฟ พิงแก้อากาศหนาวที่นี่ยิ่งดึกยิ่งหนาวนะ ลูกค้าสามารถสั่งพวกปิ้งย่างได้ล่วงหน้า ลูกค้าแต่ละห้องก็ออกมาล้อมวงกันมันก็ดีนะ ทำให้เราได้รู้จักเพื่อนใหม่กัน จึงทำให้เราได้มีรถติดลงไปในเมืองด้วยกับเพื่อนใหม่ที่คุยกันแล้วถูกใจกัน พี่อาร์มก็จะคอยเล่นกีตาร์ ร้องเพลง ขับกล่อมให้กับลูกค้า พอได้เวลาเข้านอนก็แยกย้ายกันเข้าห้อง เดี่ยวพรุ่งนี้เช้าพี่อาร์มจะพาไปชมทะเลหมอกกันแต่เช้า

ตื่นมาเช้านี้ที่สะเมิงอากาศดี้ดี นี้ประมาณ 06.00 โมงเช้า เปิดประตูห้องออกมาก็เจอหมอก มาโอบกอดกันถึงหน้าห้องพัก นี้ขนาดยังไปไม่ถึงบนดอยนะหมอกยังขนาดนี้เลย คือแบบตื่นเต้นเบาๆ พี่อาร์มก็จะคอยเรียกถามลูกค้าว่าจะมีห้องไหนไปบ้างจะได้ไปพร้อมๆกัน

ทะเลหมอกพระธาตุดอยนก

เราเริ่มออกจากที่พักประมาณ 06.30 พระธาตุดอยนกห่างจากที่พักประมาณ 1.9 กม. ไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว เมื่อมาถึงก็ร้องหู้ววววว สวยจังเลยปีนี้ได้เก็บทะเลหมอกอีกที่แล้วที่สวยครบเครื่อง ดูวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกของสะเมิงที่สวยมากค่ะ

ชมทะเลหมอกสีขาวปกคลุมทั่วบริเวณจุดชมวิววัดพระธาตุดอยนก

เป็นสถานที่ชมทะเลหมอกที่สวยงามไม่แพ้ที่ใด ที่สำคัญคือคนน้อย สงบ ทางขึ้นเป็นดินแดง ชันและแคบ โปรดขับอย่างระมัดระวัง

หลังชมทะเลหมอกโดยรอบแล้ว ก็มาสักการะพระธาตุดอยนก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนในพื้นที่เคารพนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคล

เมื่อชมความสวยงามของทะเลหมอกกันเรียบร้อย กลับมาที่พักก็อาบน้ำเก็บกระเป๋า แล้วไปรับประทานมื้อเช้าที่ทางพี่อาร์มได้เตรียมไว้ จะเป็น"ข้าวต้มหมู" กับน้ำเก๊กฮวยร้อนหอมๆ

การเดินทาง ที่พักอยู่เชิงดอยนก "สะเมิง" ห่างจากตัวเมืองสะเมิงประมาณ 7 กม.อยู่บนถนนทางไปตำบลยั้งเมิน-สะเมิง จะสังเกตุเห็นว่ามีบ้านพักหลังเล็กๆ เรียงรายกันอยู่ทางด้านขวามือ

ปั้นดิน รีสอร์ท แอนด์ อาร์ท
ตำบล สะเมิงใต้ อำเภอ สะเมิง เชียงใหม่
Tel. 0988067198
Facebook : Pundin Resort & Art

ฎีกา - แฟ สะเมิง

ฎีกาแฟสะเมิงเชียงใหม่ ร้านกาแฟ ใน สะเมิงใต้

เช้านี้ยังไม่ได้กาแฟเลย เช็คเอ้าออกจากที่พักขับรถมาในตลาดสะเมิง พี่อาร์มก็อาสามาที่ร้านกาแฟเปิดใหม่ ซึ่งตอนนี้เปิดแค่วันเสาร์-อาทิตย์ ร้านก็จะอยู่หน้าบ้าน สีขาว

เป็นร้านเล็กๆ ธุรกิจในครอบครัวแน่ๆ

มาแล้วลาเต้ร้อน รสชาติหอม เข้มข้น

เปิด-ปิด ช่วงนี้ แค่วันเสาร์-อาทิตย์ 7:00–18:00

"สวนกุหลาบหลวง" (Royal Rose Garden) โครงการหลวงห้วยผักไผ่ (ศูนย์ฯทุ่งเริง)

โครงการนี้อยู่บนเส้นทาง หางดง-สะเมิง เป็นโครงการในสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ มีการปลูกต้นกุหลาบนานาชนิด นานาพันธุ์ และนานาสี เป็นแปลงขนาดใหญ่ สวยงามอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีดอกกล้วยไม้สวยๆให้ชมเย็นตาเย็นใจ ยังมีมุมสงบ จิบ ชา กาแฟ ขนมเค้กรสชาตินานาชาติให้ลองชิม เพื่อผ่อนคลายยามเดินชมจนเมื่อย

การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปตามทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-ฮอด ผ่านอำเภอหางดง กิโลเมตรที่ 10 ถึงทางแยกเลี้ยวขวาไปสะเมิง ทางหลวงหมายเลข 1269 จากแยกนี้ไปอีก 18 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางขวามือทางเข้าหย่อมบ้านห้วยผักไผ่ ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ เพียงแค่ 50 นาทีสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์สวนกุหลาบห้วยผักไผ่ 099-1351118

“บ้านข้างวัด”

“บ้านข้างวัด” เป็นชุมชนเล็กๆ ที่รวมตัวกันของเหล่าอาร์ทติสทั้งด้านการวาด ปั้น ปลูก เลี้ยงสัตว์ ฯลฯ ที่นี่เน้นงานทำมือ ออกมาขายกันหน้าร้านหรือเหมือนหน้าบ้าน สินค้าที่ขายที่นี่ทำโดยเจ้าของร้าน เน้นความเป็นเอกลักษณ์ของสินค้า ในโครงการนี้ก็มีร้านอาหาร ร้านชากาแฟ มีกิจกรรมอะไรให้เวิร์คช๊อป มีร้านขายของที่ระลึกเล็กน้อยๆ

ลานกลางแจ้งใจกลางของที่นี่ เป็นเสมือนเวทีทำกิจกรรมต่างๆ

ร้านขายเสื้อผ้า ก็แต่ละร้านออกแบบโดยมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

บรรยากาศอบอุ่น เดินสนุก ถ่ายภาพสนุกมากๆ ส่วนใหญ่ที่เห็นมักจะเป็นชาวต่างชาติ

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 11.00-18.00 น. ทุกวัน (หยุดวันจันทร์วันเดียว)ที่ตั้ง บ้านข้างวัด ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่GPS : 18.776158, 98.948487

No. 39 café เชียงใหม่

ออกจากบ้านข้างวัดก็มาแวะที่ "No. 39 café เชียงใหม่" มาในช่วงนี้ก็จะเห็นแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ก็ยังพอมีที่นั่ง ร้านกาแฟและเบเกอรี่ ร้านทำที่นั่งเป็นโซนๆ หลายแบบ หลายแนว ทั้งแบบนั่ง indoor นั่ง outdoor ริมบ่อน้ำ มีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย ลูกค้าก็ค่อนข้างเยอะ

บรรยากาศเยี่ยม ร่มรื่น กว้างขวาง มีมุมถ่ายรูปสวยๆหลายมุม

การออเดอร์ที่นี่ เข้าไปอาคารหลักสั่งเครื่องดื่มขนมพร้อมจ่ายเงิน รอรับเครื่องดื่ม

No. 39 คาเฟ่ เชียงใหม่ ซอยวัดอุโมงค์ (ใกล้บ้านข้างวัด)
เปิดให้บริการทุกวัน 10:30-21:00 น.โทร 06 2349 5165
เฟสบุค www.facebook.com/no39chiangmai

ได้เวลาบอกลาน้องๆ ที่ได้พาเราติดรถแถมยังแวะร้านกาแฟต่างๆ เพื่อฆ่าเวลารอพี่ที่จะมารับไปหมู่บ้านแม่กลางหลวงซึ่งได้นัดไว้ตอนค่ำๆ ที่ "เซ็นทรัลพลาซา แอร์พอร์ต" พี่เขามาจากเชียงรายก็จะได้แวะรับสะดวก ระหว่างรอก็ได้เดินเล่น พอถึงเวลาพี่เขาก็มารับแล้ว มาซะเกือบสองทุ่มเลย เรานี้ใจหายเหมือนกันนึกว่าจะโดนทิ้งอีก เมื่อขึ้นรถจากในเมืองไปหมู่บ้าน แม่กลางหลวง ดอยอินทนนท์ ก็ต้องแวะหาอะไรทานกันก่อนเพราะไปถึงนุ้นคงไม่มีอะไรแล้ว เลยได้แวะร้านอาหารแถวจอมทอง ได้ลองเมนู "ผัดเผ็ดหมูป่า" ครั้งแรกก็อร่อยดีนะ

นั่งคุยกันจนเพลิน แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการเดินทางกว่าจะมาถึงที่พักก็ดึกเลย ระหว่างทางขับรถขึ้นมาไม่ต้องเปิดแอร์กันเลย อากาศเย็นสบายมาก ดาวก็เต็มฟ้า พี่จัดการเรื่องที่พักให้ก่อนมาช่วงเสาร์-อาทิตย์ ก็จะเต็มจนมาได้ที่ "บ้านพักแม่กลางหลวงวิว" ในราคาคืนละ 600 บาท

นี้เปิดบรรยากาศหน้าห้องพัก เปิดประตูก็เจอบรรยากาศสุดฟินไปเลย อากาศหนาวแล้วคืนนี้

เช้านี้ตื่นตั้งแต่ตี 05.00 เพราะจะมีรถของคนในหมู่บ้านจะพาไปชมพระอาทิตย์ขึ้น และเดินกิ่วแม่ปาน

กิ่วแม่ปาน

ยามเช้าที่อากาศหนาว 19 องศา ถูกใจเราเป็นที่สุดเลย เพราะกลางวันตอนอยู่ในเมืองเชียงใหม่ร้อนมากเลย

"ซาลาเปา ฮ่องเต้ ร้อนๆกับอากาศหนาว"

พี่สมบรูณ์ที่พามา เขาก็คือไกด์ท้องถิ่นที่พาเดินกิ่วแม่ปาน ก็บอกให้เราหาอะไรกินรองท้องก่อน และบอกให้เตรียมน้ำดื่มติดตัวขวดเล็กสักหนึ่งขวดนะ

จากนั้นก็ถึงเวลาที่รอคอยแล้วที่จะเริ่มเดินป่ากัน และเรายังได้เพื่อนใหม่รวมเดินกลุ่มนี้อีกสี่คน "
กิ่ว"คือเล็กหรือคอดที่เราเดินอยู่ตอนนี้กว้างแค่สองเมตรทั้งสองข้างเป็นหน้าผา"
แม่ปาน" เป็นชื่อหมู่บ้านข้างล่างรวมกันเป็น "กิ่วแม่ปาน" ครับคำบอกเล่าของคุณพี่ไกด์นำทาง :)

ระหว่างทางจะมีแผ่นป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับผื่นป่ากิ่วแม่ปานทั้งหมด 21 จุด

กิ่วแม่ปาน จุดชมวิวอีกแห่งบนดอยอินทนนท์ ก่อนจะถึงยอดดอย เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติมีความยาวประมาณ3กิโลเมตร 1 กิโเมตรแรกเป็นการเดินเข้าป่า อีก 2 กิโลเมตร มีทั้งขึ้นเนินและลงเนิน และพื้นราบผ่านป่า ตามทิวเขาบอกเลยสวยมากๆๆๆๆๆ วันนั้นอากาศกำลังเย็นสบายมาก ใช้เวลาในการเดิน 1.5 -3 ชั่วโมง

น้ำตกลานเสด็จ 💦 น้ำตกเล็กๆที่มีความสวยงามและยังที่เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่สำคัญในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เป็นน้ำตกที่สามารถพบได้จากช่วงแรกของการเดินทางเข้าสู่เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

พันธุ์พืชที่จะพบเห็นในระหว่างเดินทาง ก็จะเดินผ่านผืนป่าดิบเขา ผ่านบรรยากาศร่มครึ้ม ผ่านผืนป่าที่ชุ่มชื่นมากกกก ในป่าเต็มไปด้วยมอสสีเขียวขึ้นคลุมโคนต้นไม้และบริเวณริมห้วยเต็มไปหมด.....ที่นี้ธรรมชาติสมบูรณ์มาก

ก็เดินมาโผล่ที่ ทุ่งหญ้าโล่งกว้างของ สันกิ่วแม่ปานซึ่งมีแสงแดดจ้า อากาศจะอุ่นๆ กว่าเดินในป่าดิบเขา

อากาศร่มรื่น สดชื่น ที่จุดชมวิวสวยสมคำร่ำลือ ทางเดินมองไกลๆเหมือนเดินบน เดินไปถ่ายรูปไป

การเดินกิ่วแม่ปาน บอกเลยไม่ฟิตคิดดีๆ ก่อนนะ เพราะจะเหมือนเราเป็นคนไม่ค่อยออกกำลังกายเลย มันก็จะมีบางช่วงที่เป็นทางชันบันไดแต่ละชั้นก็สูงกว่าปกติ ยกขานี้ก็แบบมีจังหวะหน่อย พี่ๆในกลุ่มเดินก็เชียร์กัน ลุ้นกันตลอดทาง ถาม "ว่าไหวไหม" น้อง เหนื่อยก็หยุดพัก ก็ค่อยๆเดินต่อ

มาถึงแล้วมุมมหาชนที่ใครๆก้ต้องมาถ่ายกัน กับ landmark กิ่วแม่ปาน

ไม่ว่าจะเดี่ยวหรือคู่ จุดตรงนี้มันต้องมีกันทุกคน

ทะเลหมอกเป็นก้อนเฆมเลยที่เราเห็นลอยกันบนฟ้า นี้มันบนยอดดอยสูง ทะเลหมอกออกมาไหลมาโอบกอดกับภูเขาภาพของจริงสวยยิ่งกว่าในรูปถ่ายนะ อยากขึ้นมองภาพแบบนี้นานๆ

เห็นไกลๆกันคือผู้คนที่มีจุดหมายเดียวกัน กับการมาที่นี่ "กิ่วแม่ปาน" เดินกับไหล่สันดอยบนดอยอินทนนท์

ตอนนี้ถึงเวลาเดินกลับแล้ว ระหว่างทางเดินกลับก่อนจะเข้าป่าดิบชื้น ก็จะเป็นช่วงสันเขา พี่สมบรูณ์ก็เรบอกว่านี้ๆ "หินคู่รัก" ตรงกลางหินจะมีก้อนหินรูปหัวใจนะ จุดเด่นของกิ่วแม่ปาน นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว หินสองแท่งนี้ ยังเป็นจุดขายของที่นี่ด้วย เราเรียกหินสองแท่งนี้ว่า ผาแง่มน้อย

นี่คือจุดที่ 12 เราเรียกจุดนี้ว่า กิ่วแม่ปาน ป่าสองมุมบนสันเขา
ความว่า กิ่วแม่ปานเป็นสันบนเขา ส่วนที่แคบที่สุด ลาดเขาสองด้านต่างก่อน ด้านนอกถูกแสงแดดร้อนตลอดทั้งวัน ปะทะลมแรงจนตัดยอดไม้ให้เตี้ยลง ฤดูแล้ง ไฟป่าจากไร่ชาวบ้านลามขึ้นมาเผา ทำให้ป่าต้องซ่อมตัวเองตลอดเวลา จึงมีแต่ไม้บุกเบิกขนาดเล็ก เมื่อฝนตกมาด้านนอก น้ำไหลแรงชะหน้าดินลงถมห้วยให้ตื้นเขิน ผิดกับด้านในป่าชุ่มชื้นด้วยพันธุ์ไม้ดั้งเดิม น้ำฝนปะทะใบไม้ไหลตามลำต้น แล้วซึมลงดินไหลลงลำห้วย

ทางเดินกลับ ก็สวยมาก

เห็นต้นกุหลาบพันปีกันไหมมาช่วงนี้ยังไม่ค่อยเบ่งบาน บานแค่บ้างต้น

ดอกตูมของกุหลาบพันปี

ดอกกุหลาบพันปี (คำแดง)

ฉันนึกขอบคุณตัวเอง ที่ตัดสินใจเดินขึ้นมาด้วย เพราะภาพที่เห็นเบื้องหน้านี้ ขอบอกว่า คุ้มค่ามากกว่าเรี่ยวแรงที่เสียไปตอนเดินขึ้นมาหลายเท่าตัว และเมื่อมองลงไปด้านล่างจากจุดนี้ จะมองเห็นตัวอำเภอแม่แจ่ม

มาถึงจุดก่อนจะเดินกลับเข้าป่าดิบชื้นทางออกในการเดินกิ่วแม่ปานครั้งนี้ ก็จะเป็นจุดที่มองเห็น พระธาตุ นภเมทนีดล - นภพลภูมิสิริ อยู่ไกลๆ

ก่อนจะถึงทางออกก็จะเป็นป่าเหมือนตอนเข้ามา

กิ่วแม่ปาน
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตรง กม.ที่ 42 ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์
อ.จอมทอง จ. เชียงใหม่

กลับออกมาจากป่าประมาณ 09.00 รถนักท่องเที่ยวก็เริ่มมาจอดกันเต็มเลย ดูเหมือนแดดจะแรงนะ แต่อากาศบนนี้เย็นสบายมากเลย

กลับมายังหมู่บ้าน "แม่กลางหลวง" ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางขึ้นดอยอินนนท์ จะกลับมาที่พัก แต่ก่อนจะเข้าที่พักต้องไปหากาแฟสดอร่อยๆดื่มกันก่อนในเช้าๆอากาศแบบนี้

มาหมู่บ้านนี้ต้องมาที่ "กาแฟสมศักดิ์ โถ่บิเบ" ซึ่งร้านจะอยู่ในสุดทางขึ้นไปบนเนินของหมู่บ้าน ก็จะมาเจอศาลาเป็นเพิงในรูปแบบดั้งเดิมที่นี่ เหมือนเป็นจุดนัดเจอหรือแวะพักกัน จะมี "กาต้มน้ำร้อน" แบบดั้งเดิมที่ดำสนิทมากๆเหมือนจะผ่านกาลเวลามานานจริงๆ และการชงกาแฟสดที่นี่ยังใช้ถุงผ้าชงกาแฟสด ที่บดกับเครื่องแบบชาวบ้าน " บดสดๆ ชงสดๆ " ใครชอบเข้มๆก็จะถูกใจเลย แต่ก็มีน้ำตาลทรายไว้ให้เติมความหวานสำหรับคนไม่ดื่มเข้มๆ

พี่สมบรูณ์ ไกด์ที่พาเราเที่ยว กลับมาก็จะมาชงกาแฟต่อที่นี่

ได้แวะซื้อ อะโวคาโด ของชาวบ้านมากินคู่กับกาแฟดำในเช้านี้

กาแฟของพี่สมศักดิ์แวะมาดื่มกันได้นะ ในราคา 0 บาท มาฝั่งนี้แล้วต้องแวะจิบกาแฟของที่นี่นะ และที่ร้านก็ยังมีกาแฟที่แพ็คในถุงไว้จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว สามารถอุดหนุนกันได้เลย

กลับมายังห้องพักเพื่ออาบน้ำ เก็บกระเป๋า สำหรับวันนี้ก็ต้องลงไปในเมืองแล้วเพื่อจะต่อรถไฟกลับดอนเมือง

บรรยากาศหน้าห้องพักของ "บ้านแม่กลางหลวงวิว" ในโซนห้องแถวชั้นล่างของร้านอาหาร

จะเป็นร้านอาหารของ "บ้านพักแม่กลางหลวงวิว" มื้อเที่ยงก็ต้องแวะฝากท้องที่นี่ก่อนจะกลับ

คนเดียวเลยกินง่ายๆ กับเมนู "ซูกินี่ผัดไข่" กับข้าวสวยหนึ่งจาน เป็นการกิน ซูกินี่ผัดไข่ ครั้งแรกเลย ก็อร่อยดีนะยิ่งวิวแบบนี้แล้วด้วยบวกความอร่อยเข้าไปอีก

การเดินทางกลับเข้าไปยังในเมืองสำหรับคนไม่ได้พารถไป ก็ต้องนั่งรถสองแถวมาลงที่จอมทองและต่อไปรถสองแถวไปในเมืองต่อ ครั้งนี้เจอคนใจดีอีกแล้วก็พี่ๆที่เดินกิ่วแม่ปานในกลุ่มเดียวกัน คุยกันไปคุยกันมาก็ได้ติดรถลงมาในเมืองด้วย พี่ๆทั้งคู่มาส่งถึงที่ด้วย "ขอบคุณนะค่ะ" มิตรภาพจากเพื่อนใหม่ในการเดินทางครั้งนี้

ถึงเวลาที่ต้องบอกลา "เชียงใหม่" ในการเดินทางครั้งนี้แล้ว ที่มาเมื่อไหร่ก็รู้สึกหลงรักขึ้นกับเมืองนี้ การเดินทางกลับครั้งนี้อยากนั่งรถไฟกลับอีกเพราะไม่เร่งรีบแล้ว เที่ยวมาหลายสถานที่แล้วนั่งรถไฟเร็ว เชียงใหม่ ปลายทางที่สถานีดอนเมือง ลงรถไฟก็ต้องต่อด้วยบินกลับที่สนามบินดอนเมือง