สวัสดีจ้า ทริปนี้พาไปเที่ยวหัวหิน ถิ่นมีหอยนะ แต่เราไม่ได้ไปดูหอย เราไปดูอะไรบ้าง ตามมาอ่านเล้ยย

หัวหินเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอีกที่หนึ่งที่สามารถไปเที่ยวได้แม้จะมีวันหยุดเพียงไม่กี่วัน เป็นสถานที่เที่ยวที่ใกล้กรุงเทพ มีทะเล มีห้าง มีที่เที่ยวบนบกอีกมากมาย เรียกได้ว่ามาทีเที่ยวได้ทุกแบบ


การเดินทาง

เราใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางนะ เจออะไรระหว่างทางแวะได้เสมอ แต่กว่าจะขับออกจากกรุงเทพ ฝ่ารถติด ก็เอาเรื่องอยู่นะ

ที่แรกที่เราจะเที่ยวก็คือ Camel Republic สวนสนุกและสวนสัตว์สไตล์ Morocco

ตั้งอยู่ที่ ชะอำ ก่อนทางเลี้ยวเข้าหัวหินนั่นเอง มีค่าเข้าคนละ 120 บาท

วันและเวลา เปิด-ปิด ตามนี้ จ - ศ 10.00 น.- 18.00 น และ ส - อา - วันนักขัตฤกษ์ 09.00 น. - 18.30 น.

มาดูกันว่ามีน้องๆตัวไหนรอเราอยู่บ้าง

เดินเหนื่อยๆ แวะพักหาอาหารทานรองท้องหน่อย เป็นเมนูแพนเค้ก คู่กับไส้กรอกและเบคอน

ก่อนออกจาก Camel Republic มีร้านขายของฝากด้วยนะ ชอบชิ้นไหน สอยมาเลยจร้า

เสร็จแล้วเราเดินทางต่อเข้าที่พัก โดยเราเลือกพักที่ B2 Huahin Premier resort ที่นี่เป็น Budget Hotel อีกสาขานึงของ B2 ที่น่าอยู่มาก ด้วยรูปทรงของตัวตึกที่ดูหรูหรา การตกแต่งภายในดูเรียบๆ เน้นโทนสีขาว ทำให้ทั้งภายนอก และภายในอาหารดูสะอาดมาก

มาต่อกันที่ห้องพักกันบ้าง ห้องพักก็เน้นโทนสีขาว ดูโล่ง โปร่ง สะอาด ชอบมาก พื้นที่กว้างขวาง เตียงนอนแสนสบาย ไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป ห้องน้ำก็มีการแยกโซนแห้งโซนเปียกได้อย่างดี ดีขนาดนี้ราคาหลักร้อยเท่านั้นเอง

เวลาเช็คอิน หลัง 14.00 น.

เวลาเช็คเอ้าท์ ก่อน 12.00 น.

ตอนเช็คอินต้องจ่ายค่ามัดจำคีย์การ์ด 300 บาทด้วยนะตัวเอง

แต่ติดเรื่องทำเลของโรงแรมนิดหน่อย ที่ตั้งอยู่ในซอย เหมาะกับคนมีรถส่วนตัวมากกว่าค่ะ

เริ่มต้นวันใหม่ วันนี้ขอพาไปที่ Vana Nava Huahin สวนน้ำสุดสนุก ที่เราอยากมาลองมากๆ ต้องบอกก่อนว่าเราซื้อบัตรสวนน้ำจากงานไทยเที่ยวไทย ใบละ 900 บาทเท่านั้นเอง ได้เล่นทุกเครื่องเล่น ได้ใช้ล๊อคเกอร์ ได้ผ้าเช็ดตัว ได้ทานอาหารบุฟเฟต์มื้อกลางวัน ตั้งแต่เวลา 11.30 – 16.30 น. คุ้มมากๆ ได้ใช้ทุกอย่างเต็มที่

วันและเวลา เปิด-ปิด ตามนี้ จ - อา 10.00 น. - 18.00 น.

มาพูดถึงรื่องเครื่องเล่นกันบ้างโดยส่วนตัวเครื่องเล่นที่นี่มีความหวาดเสียวระดับนึง แต่ก็มีบางอย่างที่แอดไม่กล้าเหมือนกัน อิอิ ขอจัดอันดับความหวาดเสียวโดยเรียงจากมากไปน้อยตามนี้นะ (วัดจากความคิดของแอดเท่านั้น)

ฟรีฟอลล์

อันนี้ไม่กล้าเล่นเลย เพราะมันสูง และต้องปล่อยตัวให้ไหลดิ่งลงมาตามราง

อควาลูป

เครื่องเล่นนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนเราล่วงลงไปในท่อ ด้วยความเร็ว แรง

อะบิส

รางเขียว เล่นกันครั้งละ 6 คน พาดิ่งสู่อุโมงยักษ์ ด้วยความเสียว

มาสเตอร์บลาสเตอร์

รางสีเหลือง ที่ปล่อยให้ร่วงหล่นลงมาด้วยความเสียวเป็นช่วงๆ

ซุปเปอร์โบวล์

รางสีแดงที่ให้เราได้ประสบการณ์การดิ่งลงจากที่สูง ทั้งการหันหน้า และหันหลัง ลงสู่พื้นล่าง

บูมเมอร์แรงโก้

รางน้ำเงิน สไลด์ลงด้วยความชิล ก่อนจะพาเราดิ่งสู่พื้นล่าง

อินเนอร์ทูป

รางสีส้ม ที่พาคุณและคู่หูสไลด์ห่วงยางไหลลงสู่พื้นล่าง อย่างมีความหวาดเสียวเล็กน้อย

แรทเลอร์

รางสีเขียว ที่พาคุณสไลด์ลงมาด้วยความชิล แต่มีบางส่วนให้เสียวเล็กๆอีกแหนะ

นอกจากนี้ยังมีโซนให้เล่นชิลๆ เช่น

เรนฟอร์เทรส

ที่รวมสไลด์เดอร์มาไว้ในเครื่องเล่นเดียว เหมาะกับเด็กๆ ทั้งยังมีถังน้ำขนาดยักษ์ที่เมื่อถึงเวลา จะต้องไปยืนรอถังน้ำยักษ์สาดน้ำลงมา ฟินได้อีก

สระอินฟินิตี้

ที่ให้เราได้เล่นน้ำ พร้อมกับดื่มเครื่องดื่มจากบาร์ที่อยู่ติดสระเลย

โคโคนัทบีช

ทะเลจำลอง พื้นเหมือนทรายทะเล อีกทั้งยังมีคลื่นเหมือนน้ำทะเลอีกด้วย ได้บรรยากาศเล่นน้ำทะเลอีกแบบ โดยคลื่นจะมาเป็นบางช่วงเวลานะจ๊ะ

เลซี่ริเวอร์

สายน้ำแห่งความขี้เกียจ ที่ให้เราได้ร่องลอยไปตามสายน้ำ ชมบรรยากาศของสวนน้ำ ได้รอบๆ

วานา วันเดอร์แลนด์

เป็นโซนสำหรับเด็กที่อยากแย่งเด็กเล่นจัง มีเครื่องเล่นหลากหลายแบบทั้ง พ่นน้ำ เทน้ำ ฟินๆเปียกปอนกันไป

เซิร์ฟโซน

เป็นการเล่นโต้คลื่นจำลอง บอกเลยว่าทรงตัวยากเหมือนกันนะ

เครื่องเล่นมากมายจริงๆ มาที่นี่เล่นได้ทั้งวัน สนุกทั้งวัน หิวก็ไปทานบุฟเฟต์ได้

หมดเวลาไป 1 วันกับสวนน้ำแห่งนี้ มันสนุกมากจริงๆ อยากให้ทุกคนมาลอง

เช้าวันที่ 3 วันสุดท้ายของทริปนี้ ขอเที่ยวสถานที่ระหว่างทางกลับไปกรุงเทพละกัน นั่นก็คือ Santorini Park แต่เราไม่ได้มาเล่นสวนน้ำหรอกนะ เรามาหา มิฟฟี่ตะหากล่ะ เพราะที่นี่เขามี Miffy's Garden สวนน้อยน่ารัก ไงล่ะ

ก่อนอื่นเลย ต้องจ่ายค่าเข้า คนละ 50 บาทนะ

เดินชมเมือง Santorini ที่มีการออกแบบมาจากเกาะ Santorini ประเทศกรีซ ที่จะเน้นไปที่สีขาวตัดกับสีต่างๆ พร้อมกันนี้ยังมีประติมากรรม ป๊อปอาร์ทและโมเดิร์นอาร์ท ให้เห็นอยู่เรื่อยๆ เดินถ่ายรูปเล่นไปได้เรื่อยๆเลยล่ะ

เอาล่ะ เดินจนเหนื่อยล่ะ ไปหลบร้อนที่มิฟฟี่คาเฟ่ตกันดีกว่า

ที่มิฟฟี่คาเฟ่มีการตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยของเล็กๆน่ารักๆ พร้อมกันนี้ยังมีของหวานทั้งเครื่องดื่มและขนมตามสไตล์ของคาเฟ่ต์เนอะ

นั่งห้องแอร์เย็นๆ สั่งบิงซูมะม่วง หวานฉ่ำ ทานกับอิตาเลี่ยนโซดามะนาว ตามด้วยโอลีโอ้บด พร้อมช็อคโกแลตรูปแครอท

พักจนหายเหนื่อย ไปลุยถ่ายรูปกันต่อที่ Miffy's Garden ซึ่งมี มิฟฟี่ในหลากหลายอิริยาบถ

ตรงทางออกของ Miffy's Garden จะมีร้านขายของที่ระลึกน่ารักๆ ของมิฟฟี่ด้วยนะ ซื้อติดไม้ติดมือ เพื่อความสดใสได้อีก

จบกันไปแล้วกับทริปหัวหินของเรา ถึงจะเที่ยวไม่มาก แต่เน้นสนุก สบาย เน้นพักผ่อน ตามสไตล์ของเราเอง

ติดตามพวกเราได้ที่ : แล้วแต่ตัว

รีวิวอื่นๆ: คลิก

Laewtaetaw

 วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 19.20 น.

ความคิดเห็น