เวลาไม่มีเงินเที่ยวต่างจังหวัดแล้วเราไปเที่ยวที่ไหน
"ไปพิพิธภัณฑ์" ได้ความรู้แถมได้ดูของมีค่าเก่าเก็บที่หาได้ยากด้วย ใครว่าพิพิธภัณฑ์น่าเบื่อ เดี๋ยวนี้มีพิพิธภัณฑ์หลายที่ที่น่าสนใจตั้งมากมาย แถมประเทศไทยเรานี่ติดอันดับต้นๆที่มีพิพิธภัณฑ์มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลย
วันนี้พาไปดูพิพิธภัณฑ์น่ารักและแฝงไปด้วยความรู้มากมายที่ซ่อนตัวอยู่ภายในวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร
![](https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23172852_523054758048340_5708694422012005149_n.jpg?_nc_cat=107&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.fna&oh=18d056f041743357961ab1dd08e26fd1&oe=5CAEA631)
เพิ่งรู้ว่าในวัดมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจขนาดนี้ สงสัยมานานว่าทำไมคนจีนมาที่นี่เยอะจัง อยากให้มานะ อยากให้มา หลังจากมาแล้ว อาจเปลี่ยนความความคิดของเราบางอย่างเกี่ยวกับคนจีน และวัฒนธรรมของเขาได้มากเลยทีเดียว เพราะที่นี่คือศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราชเลยแหละ เล่าประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของไทยและจีนได้ดี ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบที่ดูแล้วไม่น่าเบื่อ โดยเฉพาะการจำลองเมืองเล็กๆเป็นตึก รถ และตัวคนเล็กเต็มไปหมด เด็กๆมานี่กรี๊ด ขนาดเรายังชอบ
ความรู้หลายอย่างที่ได้เรียนรู้ใหม่ว่า ทำไมวัฒนธรรมคนจีนเขาเป็นแบบนี้นะ แล้วมีความเกี่ยวข้องกับไทยยังไง
บางทีมาแล้ว ต้องเปลี่ยนความคิดอะไรหลายๆอย่างจริงๆ
ประชากรเยอะก็จริง แต่เขามีวัฒนธรรมที่น่ารัก และที่นี่อธิบายได้ดีเกี่ยวกับบางอย่างที่เราอาจสงสัยมานาน
สวรรค์ชั้นเจ็ดเป็นยังไง ทำไมต้องสวรรค์ชั้นเจ็ด???? มาหาคำตอบได้ที่นี่ค่ะ
เรือสำเภานี่ทำซะเหมือนเลย ไฟตกเป็นระยะๆ แหงนดูจอข้างบนฟ้าก็เปลี่ยนสีทั้งกลางวัน กลางคืน เหมือนอยู่บนเรือจริงๆอะ แต่แอบหลอนนิดนึงตอนเข้าไปคนเดียว หุ่นก็ตัวเท่าคนจริงๆอยู่ตามทางเดิน ตกใจหมด เราชอบมุมค้นหาข้อมูลด้วย โห ไม่ต้องมี google เลย นี่คลิกๆหาของดีของเด็ดได้ทั้งเยาวราชเลย ชอบมาก ชอบมากๆ
ปล. ไม่อยากให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน สถานที่ต่างๆ เลย copy ข้อมูลจริงของพิพิธภัณฑ์มาเลยนะคะ เวลาไปดูของจำลองก็จะได้อ่านอันนี้แหละ
ขอบคุณข้อมูลจากทางพิพิธภัณฑ์ด้วยค่ะ
โรงเรียนจีน
![](https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23131785_523054894714993_1589744389712814696_n.jpg?_nc_cat=105&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.fna&oh=6a3161e5df937965ba53450863fd47fa&oe=5CA074CA)
เมื่อชาวจีนจำนวนมากสามารถก่อร่างสร้างตัวและสร้างครอบครัวในเมืองไทย จึงมีความตั้งใจลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่ ทำให้มีโรงเรียนจีนเกิดขึ้นเพื่อสอนภาษาและวัมในธรรมจีนให้กับลูกหลาน โรงเรียนจีนแห่งแรกในเมืองไทยตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2451 โดยใช้หลักสูตรของประเทศจีน หลักจากนั้นชาใวจีนแต่ละกลุ่มภาษาก็ตั้งโรงเรียนขึ้นหลายแห่งซึ่งใช้ภาษาจีนในการเรียนการสอน
![](https://scontent.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23172430_523055324714950_3702578433008825413_n.jpg?_nc_cat=102&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.fna&oh=58d4977c2579ed4389b4dfce2da2e26c&oe=5C9FF1B4)
จนกระทั่ง พ.ศ. 2464 รัฐบาลไทยได้ออกพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน และพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ ส่งผลให้รงเรียนจีนต้องเปลี่ยนมาสอนภาษาไทยเป็นหลัก ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกหลานจีนค่อยๆ กลายเป็นคนไทยได้อย่างกลมกลืน
โรงเรียนเผยอิงเป็นโรงเรียนจีนชั้นนำแห่งหนึ่งในย่านเยาวราช สร้างขึ้นด้วยเงินบริจาคของกลุ่มพ่อค้าชาวจีนแต้จิ๋ว ตั้งอยู่ในบริเวณศาลเจ้าเก่า(เล่าปุนเถ้ากง) ซึ่งเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวจีนในย่านนี้มาแต่เดิม โดยเปิดสอนมาตั้งแต่ พ.ศ. 2463 และเจริญก้าวหน้ามาถึงปัจจุบัน นักเรียนจากโรงเรียนนี้หลายคนได้กลายเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของไทยในเวลาต่อมา
![](https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23167505_523055358048280_4745480333355571285_n.jpg?_nc_cat=110&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.fna&oh=68ca6a3665bdc5be28db0c7d28a7f005&oe=5C985508)
โรงงิ้ว
![](https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23167480_523055364714946_6908043946422367653_n.jpg?_nc_cat=107&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.fna&oh=61f3d08dc6ceae3db53c0fd4ec1936f9&oe=5CAFD271)
แหล่งความบันเทิงและการถ่ายทอดคติธรรม
งิ้วเป็นการแสกดงเก่าแก่ของชาวจีนมักจัดแสดงในงานบุญใหญ่ๆ โดยสร้างโรงขึ้นชั่วคราวตามสถานที่ที่ไปแสดง แต่ในยุคเฟื่องฟูของแหล่งบันเทิงบนถนนเยาวราช มีโรงงิ้วที่สร้างอย่างใหญ่โตถาวรแบบโรงภาพยนตร์ เกิดขึ้นหลายโรงตามสองฝั่งถนนสายนี้ บางโรงมีที่นั่งถึง 400 ที่ และมีที่ยืนชมได้อีก 100 ที่ ช่วงที่โรงงิ้ววันละ 2 รอบ รอบละ 3 ชั่วโมงครึ่ง เรื่องที่แสดงแต่ละเรื่องหรือแต่ละตอนจะแสดงอยู่ประมาณสิบวัน โดยจะเพิ่มหรือลดวันตามจำนวนผู้ชม
นอกจากความบันเทิง งิ้วยังเป็นสื่อที่มีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดคติธรรมความรู้ต่างๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ไม่รู้หนังสือ โดยโรงงิ้วที่เยาวราชส่วนใหญ่เป็นงิ้วแต้จิ๋วที่นิยมแสดงเรื่องในประวัติศาสตร์ซึ่งมีคติสอนใจ เมื่อจะเริ่มแสดงแต่ละเรื่องจะมีงิ้วชุดเบิกโรงที่เรียกว่า "ป่วงเซียง" เพือ่เป็นสิริมงคลก่อนแสดงงิ้วเรื่อง งิ้วเบิกโรงชุดหนึ่งที่นิยมคือ "หลักก็กฮงเสี่ยง" เป็นเรื่องของ 6 แคว้นที่จะรบกันแย่งชิงความเป็นใหญ่ แต่มีอำมาตย์ผู้ใหญ่ของจีนมาเจรจาให้ปรองดองกัน และแต่งตั้งเจ้าผู้ครองแคว้นทั้ง 6 เป็นขุนพลของจีน
![](https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23172727_523055381381611_6502868472131966484_n.jpg?_nc_cat=111&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.fna&oh=898784d9f341688fa364aff7d98ef5f1&oe=5C9F1611)
หนังสือพิมพ์จีน
ความผูกพันกับบ้านเกิดทำให้ชาวจีนในเมืองไทยสนใจติดตามข่าวความเป็นไปในประเทศจีน โดยเฉพาะการเมืองที่สับสนวุ่นวาย นับแต่ยุคของการก่อปฏิวัติโค่นล้มราชวงค์ชิงเป็นต้นมา ซึ่งทำให้เกิดหนังสือพิมพ์จีนขึ้นหลายฉบับในเมมืองไทยตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2450
![](https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23172924_523055408048275_744749464979966936_n.jpg?_nc_cat=110&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.fna&oh=46a44f3f9f0d354222e49a8168e05a9b&oe=5CA4C44D)
หนังสือพิมพ์จีนเหล่านี้นอกจากจะเสนอข่าวสารทั่วไปแล้ว ยังเป็นสื่อเผยแพร่แนวคิดทางการเมืองที่แบ่งเป็นหลายฝ่ายตามขั้วการเมืองในประเทศจีน ซึ่งต่างก็ปลุกกระแสชาตินิยมให้เกิดขึ้นในหมู่ชาวจีนอย่างกว้างขวาง จนในบางช่วงรัฐบาลไทยต้องควบคุมการนำเสนอข่าวให้อยู่ในขอบเขตที่ไม่กระทบต่อความมั่นคงของไทย
![](https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23130777_523055428048273_2584069181545417974_n.jpg?_nc_cat=109&_nc_ht=scontent.fbkk5-1.fna&oh=fd78005530922516c3c5c28be2e9f4d9&oe=5C66EC4D)
แต่หนังสือพิมพ์จีนก็ยังคงอยู่ต่อมาได้ และทำหน้าที่เป็นสื่อให้ชาวจีนในเมืองไทยได้เข้าถึงข่าวสารทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ หนังสือพิมพ์จีนหลายฉบับซึ่งมีสำนักพิมพ์อยู่ในย่านเยาวราช ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการทำหน้าที่สื่อ โดยนำหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ติดบนกำแพงทุกวัน เรียกว่า "หนังสือพิมพ์กำแพง" เพื่อให้ผู้สนใจมาอ่านได้โดยไม่ต้องซื้อ
ร้านทอง
![](https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23132143_523055444714938_963325598545886591_n.jpg?_nc_cat=109&_nc_ht=scontent.fbkk5-1.fna&oh=76151c7842ddfeae4ceead9ac6ef1f72&oe=5C68B3AE)
ค่านิยมการสะสมทรัพย์สิน ชาวจีนมีค่านิยมในการสะสมทรัพย์สินเงินทอง เมื่อเข้ามาทำมาหากินในเมืองไทยมีรายได้ นอกจากจะส่งกลับไปให้ครอบครัวที่เมืองจีนแล้ว ก็จะเก็บออมส่วนหนึ่งซื้อทรัพย์สินสะสมไว้เป็นการสร้างฐานะ โดยในยุคที่คนจีนจำนวนมากยังมีสถานภาพเป็นคนต่างด้าว ไม่สามารถซื้อที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ก็นิยมซื้อทองรูปพรรณเก็บไว้ ทำให้มีร้านทองเกิดขึ้นหลายร้านในย่านคนจีนที่เยาวราช ซึ่งพัฒนาเป็นร้านใหญ่โตตามเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูในย่านนี้ และกลายเป็นร้านทองชั้นแนวหน้า ที่ถือว่าเป็นแหล่งจำหน่ายทองคำคุณภาพสูงสุดของประเทศ
![](https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23131726_523054888048327_2819823567409374425_n.jpg?_nc_cat=109&_nc_ht=scontent.fbkk5-1.fna&oh=0e5e6aefb585ab4ee0b1817022d98910&oe=5CB1D9F3)
นอกจากนี้ร้านทองที่เยาวราชยังเป็นผู้นำด้านรูปแบบการตกแต่งภายในร้าสน ซึ่งร้านที่อื่นๆ จะทำตามจนเป็นเอกลักษณ์ของร้านทอง โดยแต่เดิมนิยมทาสีเขียวครามตกแต่งด้วยไฟสีแดง ก่อนจะหันมานิยมทาสีแดงในภายหลัง
วาระที่คนจีนนิยมซื้อทองกันมากที่สุดคือตรุญจีน ซึ่งมีการแจกเงินแต๊ะเอีย ผู้ได้รับเงินักจะนำมาซื้อทองเก็บไว้ ในสมัยก่อนเมื่อถึงเทศกาลตรุษจีน ร้านทองที่เยาวราชจะนำวงดนตรีจีนมาบรรเลงสร้างความคึกคัก อีกทั้งมีของแจกแถม ทำให้มีลูกค้าเข้าคิวซื้อทองกันแน่นขนัด
![](https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23167736_523055461381603_6536132055127937328_n.jpg?_nc_cat=103&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.fna&oh=f684e6d05faf1ba62f37178d1fd724f3&oe=5C98F1BA)
วัดจีน
ศูนย์รวมความศรัทธาของชาวจีน เดิมชุมชนจีนในเมืองไทยมีเพียงศาลเจ้าเป็นที่พึ่งทางใจตามความเชื่อซึ่งมีทั้งลัทธิขงจื๊อ เต๋า และพุทธศาสนา ผสมผสานกัน โดยแบ่งแยกเป็นศาลของชาวจีนแต่ละกลุ่มภาษา แต่ไม่มีวัดและพระสงฆ์ ชาวจีนต้องอาศัยวัดญวนหรือวัดไทยเพื่อประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา จนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 จึงมีพระสงฆ์จากเมืองจีนเข้ามา และได้ก่อตั้งวัดจีนแห่งแรกด้วยความศรัทธาจากชาวจีนทุกกลุ่ม เมื่อ พ.ศ. 2414 คือ วัดเล่งเน่ยยี่
![](https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23316296_523055474714935_623135095267571306_n.jpg?_nc_cat=107&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.fna&oh=7ac515c25eeed99d16a763e2be3d03b6&oe=5CA43B72)
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามว่า "วัดมังกรกมลาวาส" อีกทั้งพระราชทานสมณศักดิ์แก่เจ้าอาวาสรูปแรก ถือเป็นจุดกำเนิดคณะสงฆ์จีนนิกายในเมืองไทย ต่อมาจึงเกิดวัดจีนขึ้นอีกหลายแห่ง บริเวณลานหน้าวัดมังกรกมลาวาสในสมัยก่อน คึกคักด้วยแผงขายของเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ สำหรับศาสนิกชนที่มาไหว้เจ้า ทำบุญ สะเดาะเคราะห์ ตลอดจนเสี่ยงทายโชคชะตา นอกจากนี้ยังมีของใช้ให้ซื้อกลับบ้าน นับเป็นแหล่งค้าขายที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากความเชื่อในวิถีชีวิตจีน
![](https://scontent.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23168030_523055511381598_9035635169953521172_n.jpg?_nc_cat=101&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.fna&oh=603d607e2a81575736dbc4d5655d4590&oe=5C940D5D)
ตลาด
![](https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23172626_523055048048311_2010665204076732338_n.jpg?_nc_cat=107&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.fna&oh=cae09179ba83dca05c1ab3197fc36cc0&oe=5CA13427)
ค่านิยมการกินของดี ชาวจีนเมื่อสร้างฐานะได้พอควรแล้วก็จะให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารการกิน โดยมีค่านิยมว่าการกินของดีของอร่อยเป็นความสุขอย่างหนึ่งในชีวิต ตลาดที่เยาวราชจึงคัดสรรแต่ของดีมาจำหน่ายตามความต้องการของลูกค้า จนขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์รวมวัตถุดิบชั้นเยี่ยมในการประกอบอาหาร โดยมีแหล่งของสดที่ตลาดเก่า ผักสดที่ตลาดกรมภูธเรศ และของแห้งที่ตลาดเล่งบ๋วยเอี๊ยทั้งหมดอยู่ใกล้กันสามารถเดินซื้อของได้ในคราวเดียว สินค้าในตลาดเหล่านี้แม้จะมีราคาสูงกว่าที่อื่นๆ แต่ก็เป็นที่นิยมของลูกค้าเพราะเชื่อใจได้ว่าล้วนเป็นของดีมีคุณภาพ
![](https://scontent.fbkk5-5.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23131700_523055518048264_9007786229849694661_n.jpg?_nc_cat=104&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.fna&oh=8d237f2c679d65711f9b31839bb8cbb0&oe=5C90E1E0)
ตลาดเล่งบ๋วยเอี๊ยตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ มีร้านค้าตลอดสองข้างทาง เป็นแหล่งขายของแห้ง ผลไม้ และอาหารสำเร็จรูปนานาชนิด มีจุดเด่นที่ร้านชำแบบกวางตุ้งหรือจาบพ่อโผว ซึ่งจำหน่ายสินค้าทั้งอาหารแห้ง อาหารรมควัน เครื่งปรุงรส ของหมักดอง ทั้งที่ผลิตภายในประเทศ และสินค้านำเข้า รวมทั้งเครื่องครัวเครื่องใช้ของคนจีน ตลอดจนของไหว้ตามเทศกาล ช่วงตรุษจีนเป็นช่วงที่ตลาดคึกคักและมีสีสันที่สุด เต็มไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของไหว้เจ้า ร้านค้าต่างๆ จะจัดเตรียมสินค้าชนิดพิเศษสุดไว้บริการลูกค้า
โพยก๊วย
สายสัมพันธ์กับบ้านเกิด คนจีนส่วนใหญ่เดินทางมาทำมาหากินในเมืองไทยด้วยจุดมุ่งหมายที่จะหาเงินส่งไปให้ครอบครัวที่เมืองจีน การส่งจดหมายพร้อมเงินกลับบ้าน ที่เรียกว่า "โพยก๊วน" จึงเป็นภารกิจสำคัญ ซึ่งทำให้เกิดร้านโพยก๊วนจำนวนมากที่เยาวราช โดยแต่ละร้านจะให้บริกการส่งเฉพาะถิ่น และมีตู้แยกโพยก๊วนตามแซ่เพื่อนำส่งถึงบ้านผู้รับ
![](https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/19247601_523055538048262_2736518023904843124_n.jpg?_nc_cat=111&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.fna&oh=1cfa1625ce71ea84bfd62e51f9747a77&oe=5C943445)
ที่ร้านจะมีกระดาษใบเล็กให้ผู้ส่งเขียนข้อความถึงญาติพี่น้องและบอกจำนวนเงินที่ส่ง อีกทั้งมีบริการเขียนตามคำบอกสำหรับลุกค้าที่เขียนหนังสือไม่เป็น ร้านโพยก๊วนจึงเป็นสื่อความผูกพันระหว่างคนจีนกับบ้านเกิด
![](https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23130780_523055044714978_6503748212313771624_n.jpg?_nc_cat=111&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.fna&oh=fc5068c2d107ee039b3264fad4cbc9eb&oe=5C97D768)
ผู้ที่มาส่งโพยก๊วนที่ร้านมักจะเป็นคนหาเช้ากินค่ำแต่ก็พยายามอดออมเงินส่งให้ครอบครัว บางรายไม่มีเงินก็สามารถขอกู้จากร้านส่งไปก่อนได้แล้วค่อยใช้คืนเมื่อมารับใบตอบรับที่ส่งกลับมาจากเมืองสจีมน นอกจากนี้บางร้านยังจัดข้าวต้มไว้ให้กินโดยไม่ต้องเสียเงิน ส่วนลูกค้าฐานะดีนั้นร้านโพยก๊วนมีบริการไปรับถึงบ้าน
![](https://scontent.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23167809_523055051381644_4893161603604208658_n.jpg?_nc_cat=101&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.fna&oh=469603188fa9a44805ab35c0dcff0d8f&oe=5C64B00E)
ภัตตาคาร
![](https://scontent.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23130679_523055604714922_6462967767902166223_n.jpg?_nc_cat=102&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.fna&oh=d9afe1131ae5b240c4e865bdaad741b1&oe=5CB01A9A)
สถานที่พบปะทางสังคม เยาวราชเป็นย่านที่ขึ้นชื่อว่ามีภัตตาคารชั้นนำหลายแห่งตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่คนกรุงเทพ เริ่มนิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน โดยนอกจากอาหารรสเลิศแล้ว ภัตตาคารที่เยาวราชยังถือเป็นที่สังสรรค์อัมีรสนิยม อีกทั้งมีความสำคัญในวงสังคมชาวจีนโดยเป็นสถานที่พบปะเจรจาเรื่องต่างๆ ตามธรรมเนียมจีนที่นิยมเริ่มต้นพูดคุยเรื่องสำคัญที่โต๊ะอาหาร ตั้งแต่การเจรจาทางธุรกิจ การไกล่เกลี่ยขัดแย้ง การนัดดูตัวชายหญิงเพื่อหมั้นหมาย ไปจนถึงเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงแต่งงานที่ขึ้นหน้าขึ้นตา
ภัตตาคารที่เป็นตำนานความหรูหรามีระดับที่สุดของย่านเยาวราช คือ ห้อยเทียนเหลา หรือหยาดฟ้าภัตตาคาร ที่ถนนเสือป่า ตั้งขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2477 เป็นอาคาร 3 ชั้นใหญ่โตโอ่อ่า มีห้องโถงจัดเลี้ยงบนชั้น 3 และมีสถานที่เต้นรำพร้อมวงดนตรีบนดาดฟ้า เป็นสถานลีลาศแห่งแรกๆ ในเมืองไทยภัตตาคารแห่งนี้จึงเป็นสถานที่สังสรรค์ยอดนิยมในวงสังคมชั้นสูงของกรุงเทพฯอีกทั้งเป็นที่รับรองแขกบ้านแขกเมืองได้อย่างสมฐานะ
ร้านจันอับ : ร้านขนมแห่งชีวิต
จันอับ เป็นคำรวมเรียกขนมหวานแบบแห้งหลายชนิดของคนจีน สำหรับกินกับน้ำชา เช่น ข้าวพอง ถั่วตัด งาตัด ถั่วลิสงเคลือบ ฟักเชื่อม โดยเป็นทั้งของกินเล่นในชีวิตประจำวัน ใช้รับรองแขก เป็นของไหว้เจ้า และเป็นเครื่องประกอบในงานมงคลทุกงานตามคติของชาวจีนที่ถือว่าความหวานคือสัญลักษณ์ของความสุข อีกทั้งจันอับยังมีความหมายถึงความเจริญงอกงามเพราะทำจากเมล็ดธัญพืชหลายอย่างที่งอกได้ง่าย ในการแต่งงานของคนจีนจะต้องใช้ขนมจันอับเป็นส่วนหนึ่งของขบวนของหมั้น และนำไปมอบให้ญาติมิตรพร้อมบัตรเชิญร่วมพิธีแต่งงาน ร้านจันอับจึงมักมีบริการจัดสำรับขนมสำหรับใช้ในพิธีอย่างสวยงาม
ด้วยเหตุที่จันอับถือเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในวิถีชีวิตจีน ในย่านเยาวราช จึงมีร้านจันอับอยู่หลายร้าน เป็นกิจการในครอบครัวที่ถ่ายทอดสูตรการทำขนมจากรุ่นสู่รุ่น ร้านเหล่านี้นอกจากมีขนมจันอับหลายอย่างรวมถึงขนมเปี๊ยะแล้ว ยังมีสิงโตน้ำตาลที่ใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย
![](https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23172666_523055608048255_7653791633383406681_n.jpg?_nc_cat=110&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.fna&oh=c8c5cf2b4265d8bdc4f38383d1b17b95&oe=5CA25B10)
ศาลเจ้า
ความศรัทธาต่อเทพเจ้าของชาวจีน นอกจากทำให้มีการสร้างศาลเจ้าไว้สักการะบูชาแล้ว ยังก่อให้เกิดงานสาฑธารณะกุศลต่างๆ ไปด้วยกัน ดังศาลเจ้าไต้ฮงกงอันเกิดจากความศรัทธาต่อพระภิกษุไต้ฮงที่มีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงค์ซ้อง ในยุคนั้นเกิดโรคระบาดผุ้คนล้มตายกันมาก ท่านได้จัดการเก็บศพไปฝังดดยไม่รังเกียจ ทั้งตั้งโรงรักษาโรค จัดหาอาหารและสิ่งของให้ผู้เดือดร้อน จึงเป็นที่เลื่อมใสของชาวจีนสืบมา ครั้นมีการเชิญรูปสลักไต้ฮงกงเข้ามาในเมืองไทย พ่อค้าจีนจึงร่วมใจกันก่อตั้ง "คณะเก็บศพไต้ฮงกง"
![](https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23130874_523056098048206_1993433127442669707_n.jpg?_nc_cat=109&_nc_ht=scontent.fbkk5-1.fna&oh=aa3c76fff89be0fd3f477173c8c0a8c0&oe=5CA84C63)
เมื่อ พ.ศ. 2452 เพื่อเก็บศพไร้ญาติ และได้สร้างศาลแห่งนี้ขึ้น ซึ่งภายหลังได้จัดตั้งมูลนิธิฮั่วเคี้ยวป๊อเต็กเซี่ยงตึ๊ง หรือ ป่อเต็กตึ๊ง และขยายงานการกุศลไปอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่การรักษาพยาบาล ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ไปจนถึงการให้การศึกษา ส่วนที่ศาลเจ้าก็มีงานบุญใหญ่ประจำปี คืองานทิ้งกระจาด ซึ่งเป็นการทำบุญให้ดวงวิญาณและแจกทานให้คนยากไร้ โดยตั้งพิธีหน้ารูปไต้ฮงกง สวดเชิญวิญญาณมาชุมนุมรับส่วนกุศล หลังจากนั้นจึงแจกทานอันประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง และของใช้ต่างๆ แต่ละปีมีผู้มารับทานจำนวนมาก
![](https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23231470_523055091381640_6532956562107877201_n.jpg?_nc_cat=107&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.fna&oh=8ac53af6d4ce0fb3453f100e15165004&oe=5CB19E9F)
โรงพยาบาลเพื่อคนยากไร้
![](https://scontent.fbkk5-5.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23244038_523055098048306_7792706246295046490_n.jpg?_nc_cat=104&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.fna&oh=1315ed1ee550468b4e3cc53fbd1fe017&oe=5CAA52EE)
ชาวจีนที่มาอยู่เมืองไทยสมัยก่อน ส่วนใหญ่ฐานะยากจน ต้องทำงานใช้แรงงานหนัก หลายคนมาตัวคนเดียว เมื่อเจ็บป่วยก็ไม่มีใครดูแล จนต้องตายกลายเป็นศพไร้ญาติไปจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้พ่อค้าชาวจีนผู้มั่งคั่งจากทุกกลุ่มภาษาจึงร่วมกันจัดตั้งโรงพยาบาลเทียนฮั่วอุยอี่ขึ้น เพื่อช่วยเหลือให้การรักาาพยาบาลแก่เพื่อนร่วมเชื้อชาติที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จพระราชดำเนินเปิดโรงพยาบาลนี้ เมื่อ พ.ศ. 2448 และพระราชทานเงินสมทบเพื่อเป็นทุนดำเนินการ
![](https://scontent.fbkk5-8.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23131778_523055104714972_8216686332038511879_n.jpg?_nc_cat=106&_nc_ht=scontent.fbkk5-8.fna&oh=de62e3412e1b851205df72b1e91ffd26&oe=5C6713AD)
โรงพยาบาลเทียนฮั้วอุยอี่ ให้การรักษาพยาบาลตามแบบจีน ที่ชาวจีนคุ้นเคย อีกทั้งจัดให้มีแพทย์จีนจากทุกกลุ่มภาษาเพื่อสื่อสารกับคนไข้ทุกกลุ่มได้สะดวก และเป็นการสร้างกำลังใจให้คนไข้รู้สสึกว่ามีคนบ้านเดียวกันเป็นที่พึ่ง เมื่อตรวจโรคแล้วแพทย์จะออกใบสั่งยาส่งไปให้ห้องต้มยาจัดการต้มยาจีนสำหรับคนไข้แต่ละคน แล้วบรรจุลงภาชนะให้คนไข้นำกลับไปกินที่บ้าน ต่อมาโรงพยาบาลนี้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ ซึ่งยังคงดำเนินงานตามอุดมการณ์ดั้งเดิมมาจนถึงปัจจุบัน
ภาพบริเวณห้องที่เราเข้าไปดูเมืองจำลองของวัฒนธรมชาวจีนในไทย
![](https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23244311_523056091381540_7876304970983401601_n.jpg?_nc_cat=108&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.fna&oh=b61168a3fb24252ee73e0297aa5498f6&oe=5CADBEC2)
![](https://scontent.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23130974_523056124714870_6057488921687730586_n.jpg?_nc_cat=102&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.fna&oh=45018f67c480931c12408cb23f745e79&oe=5C9C3FF1)
สวรรค์ชั้น 7 มาจาก ชั้น 7 จริงๆ แหล่งรวมความบันเทิง สนุกสนาน
![](https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23130454_523055231381626_6953166971173145766_n.jpg?_nc_cat=108&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.fna&oh=1b9879c3a095ea794b0033d03375b70e&oe=5CA12225)
โคตรน่ารักเลย
![](https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23318961_523056198048196_5789472131298971196_n.jpg?_nc_cat=103&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.fna&oh=343e7b8c625113cf49b33d27cd1b416a&oe=5C9D341A)
![](https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/27073406_558867677800381_6550886935878468284_n.jpg?_nc_cat=107&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.fna&oh=e7e8b27fa48e9433c1d392bb537f8c84&oe=5C9431B5)
![](https://scontent.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/26992441_558866784467137_7334935552493744545_n.jpg?_nc_cat=102&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.fna&oh=ab3dd3930db7e59c760fd80bb7adf787&oe=5C9FEE58)
![](https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/26993392_558867911133691_218359731923821609_n.jpg?_nc_cat=111&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.fna&oh=d48918872c0728e9aab425395882a955&oe=5C644501)
![](https://scontent.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23130794_523056201381529_1907427137165487523_n.jpg?_nc_cat=102&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.fna&oh=b128db3f4b5b1af812c9c121e5b3f302&oe=5C9825DB)
![](https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23131711_523056204714862_5559580862484132840_n.jpg?_nc_cat=108&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.fna&oh=92d75dfa2a3eb80e45c04ec1fca6ad56&oe=5CB08AD3)
จำลองเคาน์เตอร์โรงแรมสมัยก่อน
![](https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23172653_523056238048192_5057541936296374224_n.jpg?_nc_cat=108&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.fna&oh=108929d48ea1269124c4803d411fc903&oe=5C937BEC)
![](https://scontent.fbkk5-5.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23130767_523055254714957_7428606492899163192_n.jpg?_nc_cat=104&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.fna&oh=7f6c478f5d7fd2e7e9e4890750803bb0&oe=5C67BD98)
สาระน่ารู้
![](https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23167900_523056244714858_8020046206428135123_n.jpg?_nc_cat=108&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.fna&oh=930a8203b80f06f6edd489ef2d78f091&oe=5C64107A)
![](https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23231628_523056261381523_4059852721860283186_n.jpg?_nc_cat=103&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.fna&oh=96667c8a25f590b989bf5bcbcc2ac69d&oe=5CACD275)
ตั้งอยู่บิเวณมืดๆ สะดุ้งจริงๆ นะ
![](https://scontent.fbkk5-5.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23172491_523056298048186_6670012156982207422_n.jpg?_nc_cat=104&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.fna&oh=e7e0b26d195826fdf449885994909ccf&oe=5CA642A3)
![](https://scontent.fbkk5-5.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23172729_523056301381519_7298592442450479326_n.jpg?_nc_cat=104&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.fna&oh=836728ff63d574102347127f43ea113b&oe=5C9ADB02)
![](https://scontent.fbkk5-5.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23130962_523056314714851_1161755411338049680_n.jpg?_nc_cat=104&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.fna&oh=2cd4f1a58beef4b63c0f707cec2d9b69&oe=5CA8037E)
ข้างบนหลังคา ท้องฟ้าเปลี่ยนด้วย เหมือนอยู่ในเรือจริงๆ เลย ทั้งพายุ และฟ้าสว่าง เข้ามาคนเดียวแอบกลัว
![](https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23131811_523055264714956_4727967159456189580_n.jpg?_nc_cat=110&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.fna&oh=e954c413e851c493d8ca593f788f72da&oe=5CAA79BF)
![](https://scontent.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23131881_523055268048289_4201295466124644252_n.jpg?_nc_cat=102&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.fna&oh=01c704874ddb8e5a2bc523964c6b740b&oe=5CB0843F)
![](https://scontent.fbkk5-5.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23319112_523055304714952_8258193272918248822_n.jpg?_nc_cat=100&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.fna&oh=13ae686e5ba1e43743bd0730a8581ec5&oe=5C99AF67)
ชอบอันนี้มากเลย ระบบสัมผัส อยากรู้ที่กิน ที่เที่ยวในเยาวราช มาที่นี่ได้หมดเลย ทั้งแผนที่ ภาพถ่าย จิ้มๆ ง่ายมากๆ
![](https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23130825_523056361381513_3142146199197532857_n.jpg?_nc_cat=103&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.fna&oh=36aea1df4c59b3c6b54eba139518bb61&oe=5C935620)
![](https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23167579_523056364714846_4409696764092275900_n.jpg?_nc_cat=110&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.fna&oh=3ec4d746db71efb18053324be723f9b1&oe=5CA50DEB)
![](https://scontent.fbkk5-8.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23130532_523056371381512_984320519702266121_n.jpg?_nc_cat=106&_nc_ht=scontent.fbkk5-8.fna&oh=d49b659dac54ea6ff9ddab28a7119c65&oe=5C98038C)
![](https://scontent.fbkk5-5.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23131615_523056458048170_6980569326923375675_n.jpg?_nc_cat=104&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.fna&oh=5f26dc31045c8033d2d100fb7773811b&oe=5CA8F470)
วันและเวลาทำการ
วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 08.00 – 17.00 น.
คนไทยไม่เสียค่าเข้าชมนะคะ ฟรีจ้าาาาาาา
ยกเว้นชาวต่างชาติ เก็บค่าเช้าชม 100 บาท
การเดินทาง
รถโดยสารประจำทางสาย 1, 4, 7, 25, 40, 53, 73, 177, 529
รถไฟฟ้า MRT : สถานีหัวลำโพง
มาๆๆ นั่งรถไฟแล้วเดินข้ามถนนมานิดเดียวยังได้เลย นอกจากได้มาไหว้พระแล้ว ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์จีนในอีกแง่มุมหนึ่งด้วย
![](https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/23167861_523055308048285_1651324937458260584_n.jpg?_nc_cat=111&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.fna&oh=70b3f06be930555483f7634a3a5d0ebc&oe=5C9FDCF9)
Boe_Stories
วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 02.59 น.