พาแฟนเที่ยวเชียงใหม่ ในเวลาสั้นๆ 2 วัน 1 คืน

ภารกิจของทริปนี้ คือ พาคนที่ไม่เคยไปเชียงใหม่เลย เที่ยวเชียงใหม่ ในเวลาสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ซึ่งเราเองเป็นคนชอบออกเดินทางท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยเฉพาะเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ชอบไปมากที่สุด แม้ว่าจะทำงานประจำที่มีทำวันเสาร์สลับกันไปด้วยก็ตาม ครั้งนี้ จะพาแฟนสายโหดไปเปลี่ยนโหมดเป็นสายหวาน พาไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เบาๆ ชิลๆ คบคนชอบเที่ยวก็ต้องไปเที่ยวด้วยกันนี่แหละนะจ๊ะ ฮ่าๆๆๆๆ


ประสบการณ์ที่ 1 : ขึ้นรถทัวร์นอน

ออกตัวให้ ผช ก่อนเลยว่าเป็นคนที่ไม่ชอบขึ้นรถทัวร์รวมถึงรถตู้ด้วย ไม่ชอบนั่งนานๆในที่แคบๆ เรียกว่าเป็นลิงอเลิท เอ้ย! เป็นคนอเลิท แต่เนื่องจากมันเป็นวิธีที่ไม่ลำบากเกินไปและประหยัดที่สุดสำหรับทริปกระทันแบบนี้ และเราเองก็ไปรถทัวร์บ่อยซะจนรู้สึกว่า มันก็โอนะ นอนหลับไปตื่นเช้ายังที่หมายเลย ซึ่งพี่เขาก็ตามใจเรา แค่ต้องอาศัยเล่นเกมไปเรื่อยๆจนหลับ ^^”


7.00 น. มาถึงสถานีขนส่งอาเขตแต่เช้า เจออากาศ 22 องศาเซลเซียสเข้าไป อย่างกับอยู่ในห้องแอร์ขนาดใหญ่ เรานั่งรถแดงไปลงแถวๆประตูเชียงใหม่ คนละ 30 บาท แล้วนั่งรถสีเหลือง สายที่ไปทางจอมทองต่ออีก คนละ 10 บาท ลงตรงข้ามเซ็นทรัลแอร์พอร์ต เส้นที่จะไปสันป่าตอง เพื่อเดินเข้าไปรับรถเช่าในสนามบิน


8.00 น. ได้ทำการจองรถเช่ามาแล้วเรียบร้อย ไปถึงสนามบินก็เข้าไปหน้าเค้าน์เตอร์กันเลย เราเลือกของ Avis ค่ะ เรียกว่าเป็นเจ้าประจำมาตั้งแต่ช่วงแรกๆที่มีการเช่ารถเที่ยว เพราะรถใหม่ เชื่อถือได้ มีโปรโมชั่นบ่อย ที่สำคัญคือ สามารถคืนรถช้าได้อีกตั้ง 4 ชั่วโมง สนใจเข้าไปดูได้ที่ http://www.avisthailand.com หรือลองโทรเช็คที่เบอร์ 02-251-1131-2 และ 02-255-5300-4


ได้รถแล้วก็ตรวจเช็คร่องรอยขีดข่วนรอยเดิมให้รอบคันกันก่อน เสร็จแล้วก็ออกเดินทางได้


ประสบการณ์ที่ 2 : ขึ้นดอย

พี่เขาไม่เคยเที่ยวภาคเหนือ ไม่เคยขึ้นดอย ครั้งนี้เราชวนไปดอยเล็กๆใกล้ๆตัวเมืองเชียงใหม่ก่อนเลย คิดว่าใครๆก็อยากไปที่นี่ “ม่อนแจ่ม” ม่อนดอยเล็กๆที่ไม่ธรรมดา เพราะเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีวิวทิวทัศน์อันงดงามไม่น้อยคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ทุกฤดู ดอกไม้ต้นไม้สลับสับเปลี่ยนให้ชื่นชมหลากสีสัน อากาศเย็นสบายไปจนถึงมีทะเลหมอกในช่วงปลายฝนต้นหนาว


ถือว่าประสบความสำเร็จค่ะ เพราะดูสีหน้าแววตาคือ พี่เขาชอบ เย่!!


ม่อนแจ่มจะมีที่จอดรถด้านบน ฟรี แต่มีพื้นที่ไม่มาก จึงเต็มเร็ว มีลานจอดรถอีกจุดอยู่บริเวณโค้งก่อนขึ้นด้านบน จุดนี้เก็บเงินค่าจอดคันละ 20 บาท แล้วเดินขึ้นไป หรือนั่งวินมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปก็ได้


ด้านบนก็ยังคงบรรยากาศดีทุกครั้งที่มา ตัวเราเองมา 5-6 ครั้งแล้ว ก็ยังรู้สึกชอบอยู่นะ มาแต่ละครั้งจะมีพืชพันธุ์ไม้ดอกหมุนเวียนให้ชมเสมอ แต่อากาศจะเย็นสบายทุกครั้ง



ประสบการณ์ที่ 3 : เดินบนน้ำตก

เราไปต่อกันที่ “น้ำตกบัวตอง” ก่อนหน้านี้เราเคยมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ที่นี่ถือว่าเป็นน้ำตกอีกแห่งที่เราชอบมาก แล้วคิดว่าอยากให้แฟนได้มาเห็นมาเล่นด้วยกัน มี 3 ชั้น มองเห็นเป็นเหมือนหน้าผาหินปูนสีขาวขุ่น มีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา


สามารถเดินหรือปีนขึ้นลงได้ทุกชั้น เนื่องจากในน้ำตก เป็นน้ำที่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ มีแคลเซียมคาร์บอเนตผสมอยู่ ไหลผ่านหินเป็นเวลานานจึงเคลือบเกาะหินเป็นเหมือนหินปูนหยาบๆหนาๆ ทำให้ไม่ลื่น มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแวะมาเล่นน้ำกันทั้งวันเลยล่ะค่ะ แน่นอนว่า เป็นที่ชื่นชอบของพี่เขาไม่น้อยเช่นกัน ปีนขึ้นลงกันเป็นว่าเล่น



ประสบการณ์ที่ 4 : เข้าโหมดสายหวาน ใน 2 คาเฟ่ สีชมพู

ด้วยความที่เราชอบเข้าคาเฟ่มากเป็นทุนเดิม ไปไหนก็มองหาคาเฟ่ มีบ้างที่ไม่ได้เข้าอย่างที่ใจอยากเพราะเวลาไม่พอบ้าง เงินไม่พอบ้าง ฮ่าๆๆๆ แต่ครั้งนี้ต้องชวนพี่เขาเข้าให้ได้ คาเฟ่ธรรมดาเดี๋ยวไม่จดจำ ต้องคาเฟ่สีชมพูเท่านั้นค่ะ!! ความจริงอยากไปสัก 4 ร้าน พอดีว่าร้านนึงปิดปรับปรุง ส่วนอีกร้านนึงไปไม่ไหว อิ่มซะก่อน ><


มาเริ่มที่ร้านแรก “Frose Yogurt Café” อยู่ที่ ถนน นิมมานเหมินท์ ซอย 5


ร้านนี้จะเน้นเป็น ไอศครีมโยเกิร์ตพรีเมี่ยมสูตร Low Fat มีเมนูหลากหลาย แต่ไฮไลท์คือ Frose Yourself ที่สามารถเลือกท็อปปิ้งเองได้ ราคาขีดละ 59 บาท เท่านั้นเองค่ะ วิธีการออกแบบโยเกิร์ตสูตรอร่อยของตัวเอง คือ 1. กดไอศกรีมโยเกิร์ต 2. ตักท็อปปิ้ง 3. ชั่งน้ำหนักและจ่ายเงิน


Strawberry Kisses ไอศกรีมโยเกิร์ต ราดซอสสตรอว์เบอร์รี วางทับด้วยสตรอว์เบอร์รีสดสไลด์ บีบวิปครีมเนียนๆด้านบน เนื้อไอศกรีมโยเกิร์ตของร้านนี้อร่อยมาก ไม่เหมือนที่เคยทานที่อื่นๆ รสกลมกล่อมนุ่มลิ้น ออกเปรี้ยวนิดๆหวานหน่อยๆ ลงตัวมาก


Smoothies Bowl Very Berry เป็นเมนูเพื่อสุขภาพจริงๆค่ะเมนูนี้ สมูทตี้เบอร์รี่รวม รสชาติกลมกล่อมหอมหวานจากเนื้อผลไม้แท้ๆ โรยหน้าอัดแน่นมาด้วยสารพัดอย่าง แอปเปิ้ลเขียว ทับทิม องุ่นแดง สตรอว์เบอร์รี อัลมอนด์ทุบหยาบและอัลมอนด์สไลด์


White Rose Champagne เครื่องดื่ม หวานอมเปรี้ยว ออกซ่าเล็กน้อย หอมกลิ่นกุหลาบเบาๆ อร่อยชุ่มคอดีมาก


ชอบทุกเมนูที่ได้ลิ้มลองไป และชอบบรรยากาศของร้านทุกมุม ด้วยความที่เป็นสีชมพู มันทำให้ดูหวานแหววอยู่แล้ว การตกแต่งร้านในแต่ละมุมมุมนั้นใส่ความมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง เข้าไปด้วยพร็อพต่างๆ เหมาะสำหรับการมาถ่ายรูปสวยๆอัพลงโซเชียลเป็นอย่างยิ่ง และทราบมาว่าในปี 2562 จะเปิดให้บริการในโซนใหม่ ชั้น 2 ด้วยนะคะ


ที่อยู่ : ถนน นิมมานเหมินท์ ซอย 5 (ช่วงกลางซอย) ตำบล สุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200

เวลาให้บริการ : 11.00 - 21.00 น.

โทรศัพท์ : 061-789-9165

เฟซบุ๊ก : Frose Yogurt



จากนั้นมาต่อร้านที่ 2 “On cloud nine- A sky full of desserts” อยู่ที่ ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 9 ที่นี่มีลานจอดรถให้เช่าจอดในราคาคันละ 50 บาท อยู่ข้างร้านด้วยนะคะ เราก็มาจอดตรงนี้แล้วเดินไปนู่นมานี่กัน สะดวกหน่อย เพราะหาที่จอดรถค่อนข้างยาก ในซอยใกล้ๆก็มีรถจอดกันเต็มแล้ว นี่จึงเป็นทางเลือกที่ดีมาก


อิ่มแล้วแต่ยังมีใจรัก จึงมาต่อกันอีกร้าน หวานให้สุดกันไปเลย บรรยากาศหน้าร้านเห็นสีชมพูมาแต่ไกล จะมีร้านดอกไม้อยู่บริเวณทางเข้า ซึ่งเป็นร้านเดียวกันกับคาเฟ่เลยค่ะ


สไตล์น่ารักมุ้งมิ้ง ออกแนวเกาหลีหน่อยๆ การตกแต่งก็จะเน้นเป็นโทน ชมพู ฟ้า น้ำเงิน และขาว ทั้งหมดคือโทนสีที่เราชอบเลยนะนั่น ส่วนพี่เขาน่ะเหรอ ยิ้มตาหยีได้ทุกที่ทุกเวลา ฮ่าๆๆๆ


จัด เมนู Unicorn Bubble Tea ตอนพนักงานยกมาเสิร์ฟคือแอบกรี๊ดในใจ ตาเป็นประกายวิ๊งๆ อ๊า.....ยูนิคอนๆๆๆๆ น่ารักมาก!!! มีการปล่อยควันดรายไอซ์พวยพุ่งออกมาข้างๆด้วย ราวกับยูนิคอนบินออกมาจากก้อนเมฆเหมือนในการ์ตูน ^^


ที่อยู่ : 5 ซอย 9 ถนนนิมมานเหมินท์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200

วลาให้บริการ : 11.00 - 22.00 น.

โทรศัพท์ : 065-478-0688

เฟซบุ๊ก : On cloud nine



คืนนี้เลือกพักกันในเมืองค่ะ เพราะคืนวันเสาร์จะพาพี่เขาออกไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน ถนนวัวลาย เดิน ชิม ช็อป กันให้ขาลากไปเล่ย!



ประสบการณ์ที่ 5 : สูงสุดแดนสยาม

เมื่อวานพาขึ้นม่อนดอยเล็กๆ วันนี้พามายังยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย “ดอยอินทนนท์” มาถึงก็สายๆแล้วแต่อุณหภูมิด้านบนยังคงอยู่ที่ 11 – 15 องศาเซลเซียส หนาวมาก หนาวมือแข็งอะบอกเลย เข้าห้องน้ำทีถึงกับสะดุ้ง เหมือนเอาน้ำเย็นจากตู้เย็นมาล้าง.... ฮ่าๆๆๆๆ ดีนะที่ด้านบนมีร้านชากาแฟ ได้ดื่มเมนูร้อนให้พออุ่นขึ้นมาได้บ้าง


จากจุดสูงสุด พาเดินลงมาบริเวณใกล้ๆกัน คือ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา” เส้นทางสีเขียวขจี เขียวทุกอณู มีทั้งต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์ รวมไปถึง มอส เฟิร์น ต้นกระจิ๋วๆทั้งหลายที่เจริญเติบโตอยู่ตามต้นไม้ และสะพานไม้ ตลอดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ จริงๆแล้วช่วงที่เหมาะที่สุด หรือเรียกได้ว่าเขียวชะอุ่มที่สุด ก็คือช่วงฤดูฝน กระทั่งถึงช่วงปลายฝนต้นหนาวค่ะ ภายในบริเวณนี้จะชะอุ่มมากเป็นพิเศษ บางวันมีเมฆหมอกเคลื่อนตัวผ่านจนละอองน้ำติดขนตาเลยล่ะ


มาด้วยกัน การจะเซลฟี่คนเดียวมันก็จะยากนิดนึง ฮ่าๆๆๆๆๆ


จากนั้นไปนั่งพักกันอยู่บริเวณลานจอดรถทางเข้ากิ่วแม่ปาน ชวนพี่เขาเดินเข้าไปข้างในแต่พี่เขาไม่เห็นชอบ เมื่อย ว่างั้น ก็เลยให้นั่งพักเล่นๆ มองดูเมฆ ดูต้นไม้ไปเพลินๆ ^^


ใจคิดอยากพาไปบริเวณ ม่อนน้องแกะ พระตำหนักดอยผาตั้ง แต่วันที่เราไปมีป้ายติดไว้ตรงทางเข้าว่า “ม่อนแกะปิด” แซ้ดมาก อดพาพี่เขาไปเลย ต้องจำใจจากออกมา เอาไว้คราวหน้ามากันใหม่นะ

ก่อนกลับ แวะซื้อของที่ตลาดม้ง แล้วก็ขอแวะที่ "น้ำตกวชิรธาร" อีกแห่ง เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่มาก แม้เข้าช่วงฤดูหนาวแล้วน้ำก็ยังคงเยอะอยู่ เวลาเดินเข้าไปช่วงที่มีลมพัด ละอองน้ำจากน้ำตกจะฟุ้งกระเซ็นออกมาได้ไกล เดินขึ้นบันไดไปไม่ทันถึงป้ายน้ำตกก็ตัวเปียกกันแล้ว แต่สวยอลังมากจริงๆค่ะ


สรุปภารกิจ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีทุกสิ่งอย่าง ความจริงลิสต์ที่เที่ยวมาอีกเยอะมาก แต่ด้วยเวลา และปรึกษากันแล้ว ต้องตัดออกไปบ้าง ครั้งนี้เราเน้นตามใจค่ะ เพราะเราตั้งใจพาเขามาเที่ยวด้วยกัน จึงอยากให้เขารู้สึกดีๆกับเส้นทางที่เห็นพ้องต้องกัน จะได้แฮปปี้..... ^___^

GowithAmp

 วันพฤหัสที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.01 น.

ความคิดเห็น