สวัสดีชาว Readme ทุกๆท่าน กระทู้รีวิวในวันนี้อยากมาเล่าเรื่องการไปเที่ยวนั่นเอง หลายๆคนอยากเที่ยวต่างจังหวัดแต่ละทีมีปัญหาให้ปวดสมองทุกครั้ง ชวนเพื่อนสนิทบอกไม่ว่าง ชวนเพื่อนร่วมงานบอกตังค์ไม่พอ ชวนแฟน(บางทีไม่มีแฟนปะ) อยากไปเที่ยวทั้งทีไม่มีคนไปด้วย แต่อย่างว่าละสมัยนี้เราสามารถคุยกับคนแปลกหน้าได้ง่ายมากขึ้น เราสามารถค้นหาคนที่มีความชื่นชอบที่คล้ายๆกัน ชอบในสิ่งคล้ายๆกัน ดังนั้นการอยากออกไปเที่ยวแล้วไม่มีเพื่อนไป การหาคนแปลกหน้ากับทริปการเดินทางกับคนแปลกหน้าครั้งใหม่จึงเริ่มขึ้น...


ก่อนจะมาอ่านขอฝากเพจเราเอง เรื่องกิน เรื่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์เก๋ๆ ไว้มาเม้าท์มอยกันนะ
https://www.facebook.com/ijuyyasostory


จุดเริ่มต้นของการรู้จักคนแปลกหน้าครั้งนี้คือการได้รู้จักเพื่อนผ่านแอปพลิเคชั่นหนึ่ง (ผึ้งสีเหลือง) เป็นแอปฯ หาเพื่อนอีกแบบหนึ่ง ซึ่งแอปนี้เราสามารถไปตั้งกระทู้หาต่างๆได้ ห้ามขายของ จำได้ว่าได้เราแอดผู้ชายคนหนึ่งจากกระทู้ที่กำลังหานเพื่อนไปเดินขึ้นเขาไกลอย่าง "ทูเล" คุยกันไปได้สักพัก ทำความรู้จักกันมากพอ เพื่อนชายคนนี้ชื่อ "ตั้ว" ตั้วได้พาเข้ากลุ่มเพื่อนที่ชอบการออกทริปเที่ยว กลุ่มของพวกเรามีเพื่อนกันมากถึง 60 คน ชายจริงหญิงแท้ ทั้งแปลกไม่แปลกปะปนกันไป หากมองในเรื่องของสิ่งเหล่านี้พวกเราใช้คำว่าเพื่อนกันมากกว่า ด้วยบางคนไม่ได้ติดใช้แอปนี้มากเท่าไหร่ ปัจจุบันนี้ได้ย้ายกลุ่มมาคุยกันในไลน์มากขึ้น

ทริปการเดินทางครั้งนี้พวกเรามุ่งหน้าไปที่เนินช้างศึก อ.ทองผาภูมิ จงกาญจนบุรี วันที่พวกเราเดินทางไปนั้น เป็นวันที่มีการแจ้งว่าทั่วประเทศไทยจะมีอากาศหนาวกลับมาอีกรอบ เนินช้างศึกครั้งนี้ทางกลุ่มมีการได้เดินทางไปแล้วช่วงตอนปีใหม่ แล้วเห็นตรงกันว่าอยากไปอีกหนึ่งครั้ง โดยไปครั้งนี้พวกเราไปกันทั้งหมด 13 คน รถยนต์ 3 คัน ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นออกกันคนละ 800 บาท (ขากลับมีเหลือ เด๋วมาบอกเหลือเท่าไหร่) เป็นทริปแรกสำหรับการเดินทางพร้อมกับคนแปลกหน้า คนที่เคยเจอกันครั้งแรก มันจะเป็นอย่างไรบ้างนะ ก่อนไปจะรีวิวทั้งหมด ขอนำเสนอบรรยากาศทริปนี้ด้วย VDO ของพวกเราทั้งหมด แบบนี้จ้า....

การเดินทางครั้งนี้พวกเราออกจากกรุงเทพฯเช้าของวันเสาร์ เป็นเช้ามืดเลยทีเดียวละ เอาละน่าการที่เราได้มาเจอกับเพื่อนๆในกลุ่มครั้งแรก ซึ่งปกติแล้วคนในกลุ่มเขาจะมีนัดเจอกัน มิทติ้ง หรือทำอะไรกันอย่างอื่นอยู่แล้ว ทุกคนค่อนข้างสนิทสนมกันพอควร แต่เรานี่สิหน้าใหม่มากๆ พวกเราออกจากกรุงเทพฯประมาณตีห้าได้ จุดหมายปลายทางที่ จ.กาญจนบุรี โดยมีเป้าหมายแรกที่ทางรถไฟสายมรณะ ซึ่งเป็นทางผ่านและพากันแวะทานข้าวที่นั่น ขอข้ามวาปจากจุดนี้ไปเยแล้วกันนะ เพราะจุดนี้ไม่กล้ายถ่ายรูปกับใครหรอก 555 อย่างที่บอกเราเขิลทุกคนอยู่ 5555 (อะไรจะขนาดนั้น)


1.เดินตลาดทองผาภูมิ ซื้อของทำอาหาร

ก่อนถึงเนินช้างศึก สิ่งที่ต้องทำเลยคือการซื้อของเพื่อไปทำอะไรทานบนนั้น จะเรียกว่ามาเข้าค่าย มาแคมป์ปิ้ง เดินทางไกล หรืออะไรกันนะ เอาเถอะเรียกแมชนี้ว่าแมชกระชับมิตรก็แล้วกัน สิ่งที่เรารู้สึกได้คือความเป็นกันเองของทุกคน ทำให้หลังๆเรารู้สึกสบายตัวมากขึ้นไม่เขิลแล้ว ช่วงที่ซื้อข้าวของไปทำอาหารนั้น ตลาดจะอยู่ริมถนน มีของให้ซื้อครบ หมู เห็ด เป็นไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว เอาให้หมด แม้กระทั่งอาหารทะเล ส่วนนี้ไม่ได้รับผิดชอบ ยังไงจะขอรายละเอียดค่าใช้จ่ายสรุปให้เพิ่มเติมนะ


2. ถึงแล้วเนินช้างศึก

พวกเราถึงเนินช้างศึกเวลา 16.00 น. โดยประมาณ เนินช้างศึกเป็นจุดชมวิวบนยอดเขา ในเขตพรมแดนไทย-พม่า นักท่องเที่ยวที่มาเหมืองปิล๊อก นิยมมาแวะชมวิวที่เห็นทิวทัศน์ได้รอบตัวแบบ 360 องศา อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,053 เมตร ข้างบนมีฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) บางคนก็เรียก ยอดดอยปิล๊อก หรือ ต่องปะแล เป็นฐาน ตชด ที่.ตั้งอยู่ในเส้นพรมแดนไทย-พม่า ตอนที่พวกเราไปถึงมีกลุ่มคนอื่นๆไปถึงแล้วเกือบเต็ม กลุ่มของพวกเราได้มุมที่อยู่ทางเข้าพอดี จะเปลี่ยนเป็นมุมอื่นก็ไม่ได้แล้ว ถึงเวลานั้นลงมือกางเต้นท์ ทำอาหารกันเถอะ....


3. วิวบนเนินช้างศึก 360 องศา

บรรยากาศบนเนินช้างศึกอย่างที่บอกเราสามารถทองวิวได้ทั้งหมด 360 องศา อากาศหนาวตอนเย็นเริ่มขึ้นแล้ว พวกเราทั้งทำอาหารไปชิมไปได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกไปด้วย ทหารที่ดูแลเนินช้างศึกเล่าว่าหากมาในวันที่ท้องฟ้าเปิดสามารถมองเห็นวิวทางฝั่งพม่าได้ไกลถึงทะเลอันดามันได้เลย โชคไม่ดีที่วันนั้นท้องฟ้าไม่เปิด อดเห็นเลยท่านผู้ชม...


4. บรรยากาศยามค่ำคืน พายุลมและแสงดาว

บรรยากาศยามค่ำคืนของพวกเราเริ่มต้นด้วยความสนุกสนาน พวกเรามีเล่นเกมต่างๆด้วยการดื่มนิดหน่อย คืนวันนั้นอากาศหนาวพอสมควร แต่ด้วยความโชคร้านอีกอย่างที่พวกเราต้องเจอนั้นคือลมและพายุ คืนนั้นลมแรงมาก มากจนพวกเราออกอาการเซงกันสุดๆ อาหารในค่ำคืนนั้นมีทั้งย่างเนื้อ ยำ มาม่า อย่างที่บอกลมแรงมาก รูปนี่แทบไม่อยากถ่าย ขอข้ามช่วงเวลานี้ไปเลยแล้วกัน ฮ่าๆๆ


5. เช้าของวันเดินทางกลับ พายุลมยังไม่หายไป

เช้าของวันอาทิตย์อากาสตื่นมาไม่ได้แจ่มใสอย่างที่ต้องการ พายุลมยังไม่หมดตามเดิม ยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง พวกเราพากันตื่นแต่เช้าเพื่อจะเก็บของกลับและเดินทางไปยังสถานนีต่อไป มีการเลือกว่าจะลงไปแช่น้ำร้อนที่หมู่บ้านอีต่องหรือไปน้ำตกจ๊อกกระดิ่ง สุดท้ายตกลงที่จะไปน้ำตกจ๊อกกระดิ่ง บรรยากาศการเก็บข้าวของนั้นวุ่นวายมากเนื่องจากลมแรง เก็บเต้นท์และข้าวของลำบากไปหมด

6. น้ำตกจ๊อกกระดิ่ง

เอาแล้วละท่านผู้ชม...ถึงเวลาสนุกสนานกันแล้ว หลังจากที่พวกเราลงจากเขา ลงจากเนินช้างศึก แวะข้างทางที่น้ำตกจ๊อกกระดิ่ง พวกเราไปถึงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มแรก น้ำตก๗ีอกกระดิ่งแห่งนี้มีพื้นที่ให้รถจอดรถเป็นลานกว้าง มีห้องน้ำให้พร้อม ส่วนค่าเข้าเล่นน้ำตกนนั้น ตกคนที่ 40 บาท พวกเราไปถึงนั้นยังไม่เล่นน้ำตกเลย ขอตั้งวงทำกับข้าวทานกันก่อน อย่างที่ทุกคนเห็นน้ำตกใสมากกกกกกกกกกกกก น้ำเย็นมากนะวันนั้นที่ไป แต่ก้ไม่วายลงเล่นเหมือนเดิม น้ำตกที่นี่ไหลตลอดทั้งปี น้ำตกสะอาด นักท่องเที่ยวไม่ทิ้งขยะเกลื่อนเหมือนที่อื่น หวังว่าคนอื่นๆที่มาจะไม่ทำแบบนั้นเช่นกัน


ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดทริป มีดังนี้

  • ค่าน้ำมันรถ
    • รถคันที่ 1 = 1,160 บาท (Honda Amaz)
    • รถคันที่ 2 = 1,150 บาท (Honda New city)
    • รถคันที่ 3 = 940 บาท (mitsubishi new lancer ใช้ NGV)

รวมค่าน้ำมันรถ 3 คัน = 3,250 บาท

  • ค่าอาหารการกิน
    • ข้าวเช้า (ถ้ำกระแซ) = 570 บาท
    • เครื่องดื่ม = 1,335 บาท
    • เนื้อ (2 โล) = 500 บาท
    • หมู (2 โลครึ่ง) = 335 บาท
    • ลูกชิ้น/แหนม/ไก่ = 382 บาท
    • ไข่ (1 แผง) = 100 บาท
    • ผัก + ปลาส้ม = 235 บาท
    • ขนมขาไก่ = 65 บาท
    • ถ่าน + น้ำเปล่า = 215 บาท
    • ของกิน 7/11 (ปั๊ม) = 532 บาท

รวมค่าอาหารการกินทั้งหมด = 4,269 บาท

รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ค่าอาหาร + ค่าน้ำมัน) = 7,519 บาท

    • จำนวนลูกเรือ 13 คน จ่ายคนละ 800 บาท = 10,400 บาท
    • ค่าใช้จ่ายทั้งหมด = 7,519 บาท
    • คงเหลือ = 2,881 บาท
    • 2,881 หาร 13 คน = 221.16 บาท
    • จ่ายคืนคนละ = 220 บาท

(อาจมีบวกลบเกินมาอีกนิดหน่อยเพราะซื้อของบางร้านลดให้บาทสองบาท)

สรุปทริปนี้ค่าใช้จ่ายคนละ 579 บาท


การเดินทางกับคนแปลกหน้าครั้งนี้ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆเพิ่มขึ้น ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นสิ่งๆใหม่ๆ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกับคนหมู่มาก บางครั้งเราอาจใช้ชีวิตแบบนี้บ่อยไป เช่น การย้ายที่ทำงานใหม่ ย้ายโรงเรียนใหม่ ฯลฯ สิ่งที่ทำให้เราสามารถเข้ากับคนอื่นๆได้ง่ายมากๆนั่นคือการเปิดใจยอมรับอีกฝ่ายอย่างสนิทใจ อย่างสิ่งที่เขาเป็น ขอบคุณมิตรภาพทางสื่อออนไลน์ที่มีจริง ครั้งต่อไปพวกเรามีทริปต่อไปแน่ๆ แล้วเจอกันนะทุกคน หวังว่าคุณจะได้พบมิตรภาพดีๆขณะที่คุณเดินทาง

ชีวิตติดรีวิว

 วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 13.51 น.

ความคิดเห็น