จั น บุ รี......................

อีกจังหวัดหนึ่งที่อ้อมมีโอกาสได้ไปเที่ยวบ่อยมาก....แต่ก็ยังเที่ยวไม่ทั่วจังหวัดซักที

เพราะอะไรหนะหรอ...ก็เพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกเที่ยวเยอะมาก

ทั้งทะเลภูเขา น้ำตก ชุมชนเก่า หรือแม้แต่แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์


ส่วนในเรื่องอาหารการกินที่นี่ก็เฟื่องฟูแบบสุดๆ

โดยเฉพาะในฤดูผลไม้ ที่จะมีชาวสวนเปิดสวนให้เราเข้าไปเก็บผลไม้ทานกันได้สดๆจากต้น

และถึงแม้ว่าจะหมดฤดูผลไม้แล้ว ก็ยังมีอาหารที่แปรรูปจากผลไม้

ทั้งคาว ทั้งหวานให้ได้ลองลิ้มชิมรสกันมากมาย

นอกจากผลไม้ ยังมีอาหารทะเลสดๆ รสชาติอร่อยอีกด้วย....


"แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ข้าหลงรัก เมืองจันทบุรี ได้เยี่ยงไรเล่า"



ทุกครั้งที่มาเที่ยวที่จันทบุรี อ้อมจะเน้นหนักไปทางโซนทะเลเสียมากกว่า

แต่ในครั้งนี้อ้อมมีโอกาสได้ร่วมแคมเปญ LocalTable

ซึ่งเป็น แคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร

ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” หรือ ททท.

ร่วมมือกับ TakeMeTour เว็บไซต์จองทริปส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง

dtac, King Power, Thai AirAsia และ AccorHotels

เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบท้องถิ่นให้เข้าถึงชุมชนอย่างแท้จริง

ซึ่งแคมเปญ LocalTable นี้มีเส้นทางทัวร์มากกว่า 70 เส้นทาง

รวมถึงเส้นทางการท่องเที่ยวเมืองรองด้วย

ทุกเส้นทางสร้างสรรค์โดยคนพาเที่ยวท้องถิ่น (Local Expert)

นอกจากจะได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบท้องถิ่นในแต่ละชุมชนแล้ว

เรายังได้ทานอาหารพื้นบ้านที่ปรุงจากวัตถุดิบในท้องถิ่นที่บ้านของคนในชุมชนเอง

หรือจากร้านอาหารขึ้นชื่อประจำจังหวัดอีกด้วย


ถือได้ว่าแคมเปญนี้เป็นแคมเปญที่เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรีในมุมมองใหม่

ที่อ้อมไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเลยหละ จะสนุกแค่ไหน เราไปดูกัน...............




01 ll ค่ายตากสิน ll

เราเริ่มต้นทริปนี้กันที่ค่ายตากสิน

หนึ่งในสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ครั้งที่ฝรั่งเศสเข้ายึดเมืองจันทบุรี

ด้านในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของเมืองจันทบุรีและความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสในยุคต่างๆ

โดยมีคุณ โอ๋ Local Expert คอยบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นมาให้เราได้ฟังกัน


02 ll ร้านจันทรโภชนา ll

จากนั้นเราไปต่อกันที่ร้านจันทรโภชนา

ซึ่งเป็นร้านอาหารพื้นบ้านเมืองจันทบุรี เปิดให้บริการมานานมากกว่า 50 ปี แล้ว

โดยเน้นการนำวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่นมารังสรรค์ปรุงแต่งเป็นเมนูแปลกใหม่ ที่บอกเลยว่าอร่อยสุดๆ

เช่น มัสมั่นทุเรียน แกงหมูชะมวง เส้นจันท์ผัดปู กระวานผัดฉ่าหมู

หรือถ้ามาในช่วงฤดูกาลผลไม้ก็จะได้ลองลิ้มชิมรสกับส้มตำทุเรียน แกงเป็ดเงาะ ยำมังคุด

ร้านจันทรโภชนา เปิดให้บริการ 2 สาขา โดยสาขาแรกอยู่ที่ถนนเบญจมราชูทิศ และสาขา2 อยู่ที่ถนนมหาราช

ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาทานเมนู LocalTable กันที่ สาขาดั้งเดิม คือ ที่ถนนเบญจมราชูทิศ กัน




สำหรับเมนู LocalTable ของเราในวันนี้ เป็นอาหารพื้นบ้านขึ้นชื่อของเมืองจันทบุรี

"เมนู LocalTable"

แสร้งว่า.....

เส้นจันท์ผัดปู.....

กระวานผัดฉ่าหมู.....

วุ้นเส้นกุ้งสับ.....

สละลอยแก้ว.....



เรามาดูแต่ละเมนูกันดีกว่า ว่าจะน่าสนใจขนาดไหน

เริ่มต้นกันที่ เมนู แสร้งว่า เมนูชื่อแปลกหู สำหรับสาวอีสานอย่างเรา แต่รู้มั้ยว่าชื่อนี้มีที่มา....

"เมนูแสร้งว่าเป็นอาหารที่ใช้ถวายในวัง ปกติเขาใช้ไตปลาทำ แต่ชื่อมันไม่เหมาะกับในวัง

ก็เลยตั้งชื่อสมมุติว่า แสร้งว่า (เป็นกุ้ง) แต่จริงๆ คือไตปลา นั่นเอง"

แต่ปัจจุบันก็เอากุ้งมาทำจริงๆ :>

ส่วนประกอบหลักก็คือ กุ้ง ที่เอามาสับหยาบ คลุกเคล้ากับสมุนไพรข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง

คลุกเคล้าน้ำปรุงรส ลักษณะคล้ายๆยำ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เผ็ดนิดๆ ทานคู่กับผักสด

เมนูนี้อ้อมให้ 10 ดาวเลย


เมนูต่อไป คือ เส้นจันท์ผัดปู คล้ายๆกับผัดไทของภาคกลาง

ต่างกันตรงเส้น ที่มีความเหนียวนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเส้นจันท์

ทานคู่กับปูทอดกรอบและผักสดเข้ากั๊น เข้ากัน

กินแล้วนึกถึงผัดหมี่โคราชของบ้านฉันลยจร้า



ถัดมาเป็นเมนู กระวานผัดฉ่าหมู ถึงเครื่อง หอมกระวาน เมนูนี้รสชาติค่อนข้างจัดจ้านนิดนึง

สำหรับ กระวานเป็นสมุนไพรที่ขึ้นชื่อของจังหวัดจันทบุรี

โดยเฉพาะกระวานจากเขต อ.สอยดาว จะมีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย

นิยมนำมาปรุงอาหารเพราะมีกลิ่นหอม รสชาติเผ็ดร้อน มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต

ทั้งอร่อย ทั้งมีประโยชน์เลยหละสำหรับเมนูนี้


เบรคความร้อนแรงจัดจ้านของกระวานด้วยเมนู วุ้นเส้นกุ้งสับ

ที่น้ำซุปหอมหวานเข้ากันกับวุ้นเส้นเหนียวนุ่ม ลดความเผ็ดได้เป็นอย่างดี


นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูแนะนำอย่าง มัสมั่นทุเรียน

ที่ทางร้านเลือกใช้ทุเรียนห่ามมาปรุง ทำให้แกงมัสมั่นมีรสชาติหวานมันกำลังดี

หรือจะเป็นหมูชะมวง หมูสามชั้นผัดกับเครื่องแกง ปรุงรสเปรี้ยวด้วยใบชะมวง

เมนูขึ้นชื่อที่ทางร้านทำเป็นของฝากโดยการบรรจุกระป๋องขายด้วย




และปิดท้ายที่ของหวานอย่าง สละลอยแก้ว ที่รสชาติหวานกำลังดี มีแอบอมเปรี้ยวนิดๆ

หรือ จะรับเป็นไอศครีมทุเรียนที่ทางร้านทำเอง รับรองว่าทุเรียนเน้นๆ ไม่มีแต่งสี แต่งกลิ่นแต่อย่างใด



03 ll ชุมชนริมน้ำจันทบูร ll

อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นบ้านของดีเมืองจันท์ ที่ร้านจันทรโภชนากันแล้ว

เราก็ออกไปเดินย่อยอาหารที่ชุมชนริมน้ำจันทบูรกัน

ชุมชนริมน้ำจันทบูร เป็นชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำจันทบุรีของชาวจีนและญวน

ที่อพยพมาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น



ซึ่งนอกจากอาคารบ้านเรือนที่ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมเก่าแก่แล้ว

สิ่งที่น่าสนใจของที่นี่ก็คือ อาหารการกินที่ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารพื้นเมือง

หรืออาหารที่มีลักษณะเฉพาะของชุมชนนี้

จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปสำรวจพื้นที่กัน

...................................................

เริ่มต้นกันที่ ข้าวตังโบราณป้าจินดา คนสมัยก่อนเวลาหุงข้าวจะใช้ข้าวสุกที่เหลือติดก้นหม้อมาทำเป็นข้าวตัง แต่ปัจจุบันป้าจินดาเปลี่ยนมาใช้กระทะในการทำข้าวตัง รสชาติข้าวจะใหม้เกรียมหน่อย ๆ หอมกลิ่นไฟนิด ๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรพิเศษ เคี้ยวให้ดังกรุบกรอบกันเลย


..........................................

ต่อมาก็ ร้านไอศกรีมตราจรวด ที่นี่ เป็นโรงงานผลิตไอศกรีมด้วยเครื่องจักรแห่งแรกของเมืองจันทบุรี มีจำหน่ายทั้งไอศกรีมแท่ง ไอศกรีมตัด ไอศกรีมกะทิสด ไอศกรีมแท่งรูปทรงและขนาดต่างแต่ที่ขึ้นชื่อที่สุดก็ไอติมกระเบื้อง นี่แหละ ที่ด้านในจะเป็นไอติมนม รสชาติหวานมัน เคลือบด้วยกระเบื้องที่เป็นเกร็ดน้ำตาลคล้ายๆกับการดริปช็อกโกแลต แต่บางกว่า กรอบกว่าและมีหลายรสชาติให้เลือก เราลองทานรสชานม คือแบบกรอบ อร่อย หวาน มัน อธิบายไปก็ไม่เห็นภาพ ต้องมาลองทานเองถึงจะรู้ว่าอร่อยแค่ไหน




...........................................................

ถัดมาอีกนิดเป็น ทอดมันใบจาก อันนี้ไม่ได้เป็นอาหารที่หาทานยากอะไร เป็นทอดมันที่มีทั่วไปนี้แหละ แต่ที่ต่างจากที่อื่นคือ การเอาทอดมันมาห่อใบจากแล้วย่างด้วยไฟอ่อนๆ ทำให้ทอดมันหอมกลิ่นใบจาก อร่อยไปอีกแบบ


....................................................

เยื้องมาอีกนิด เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องแวะเลย คือ บ้านหลวงราชไมตรี โดยท่านหลวงราชไมตรี ถือเป็น "บิดาแห่งยางพารา ภาคตะวันออก" เพราะท่านเป็นคน นำเอาพันธุ์ยางพาราจาก มาเลเซียมาทดลองปลูกที่ตำบลพลิ้ว และปรับปรุงพันธุ์ ขยายพันธุ์จนสามารถส่งออกไปขายยังประเทศอังกฤษได้ โดยปัจุบันอาคารฝั่งริมน้ำได้เปิดให้บริการที่พักสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในบรรยากาศโบราณและคลาสสิคของชุมชนเก่าแห่งนี้




......................................................

ฟองต้าหู้ทอดกรอบโรงเจเทียงเซ็งตึ๊อร่อยกรุบกรอบทานคู่กับใบมะกรูดทอด อร่อยลงตัว




..............................................................

ขนมโก๋ญวน หรือ ขนมโก๋โบราณ ที่มีดีตรงใส้ที่ทำมาจากฟักและฝักผสมงาดำ




................................................

ขนมไข่กรอบ ขนมไข่เนื้อทุเรียน ของฝากแสนอร่อย



..........................................

บ้านเรียนรู้ชุมชนริมน้ำจันทบูร อาคารทรงยุโรปขนาดสองชั้น ชั้นบนเป็นโครงสร้างไม้ ภายในจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายภายในชุมชนจันทบูรที่ยังหลงเหลืออยู่หลังจากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่เมื่อปีพ.ศ. 2533






.................................................

นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีมุมชิคๆให้ถ่ายรูปกันอีกเพียบ






..........................................................

ออกจากชุมชนริมน้ำ ข้ามสะพานมายังอีกฝั่ง

ก็จะพบกับ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล

ซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์คาทอลิกเก่าแก่ที่สวยที่สุดในประเทศไทย

ถือว่าเป็น Unseen แห่งหนึ่งของเมืองจันทบุรีเลย


จากนั่นเรามุ่งตรงไปยังท่าเรือ ท่าแฉลบ

ท่าเรือที่มีความสำคัญในด้านการคมนาคมในสมัยก่อนมากที่สุด

เพื่อขึ้นเรือ ไปยังฟาร์มหอยนางรมป้าหลุยลุงทมกัน

................................................

จากฝั่งใช้เวลา 30 นาทีโดยประมาณ ก็ถึงกระชังเลี้ยงหอยนางรมของลุงทม

ลุงทมเล่าให้ฟังว่า การเลี้ยงหอยนางรมต้องมีความขยันและความอดทนสูง

เพราะกว่าจะขายหอยได้ในแต่ละรุ่นต้องใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงดูถึง 1ปีครึ่ง- 2ปีเลยทีเดียว

อีกทั้งยังต้องจัดการกับศัตรูต่างๆของเจ้าหอยแบบใกล้ชิดอีกด้วย


....................................................

หลังจากดูวิธีการเลี้ยงหอยกันแล้ว

ทุงทมก็พาเรานั่งเรือมาทำบ้านหอยกันต่อโดยมีป้าหลุยเป็นผู้สอน

ซึ่งบ้านหอยนางรมนี้จะใช้ซีเมนต์ผสมกับน้ำ

หยอดลงบนเชือก เป็นแผ่นกลมๆ แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง



และก็ถึงเวลาที่เรารอคอย

นั่นคือการ ได้ชิมหอยนางรมสดๆ สายพันธุ์ต่างๆ ทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่

โอ้ย.....ทั้งหวาน ทั้งอร่อย

.....................................

หลังจากชิมหอยนางรมสดๆ จนหน่ำใจกันแล้ว

เราก็ร่ำลาป้าหลุยกับลุงทมแล้วกลับเข้าฝั่ง

และปิดทริปนี้ด้วย อาหารทะเลมื้ออร่อยที่ ร้านสวนปู ท่าแฉลบ

ซึ่งแต่ละเมนูของที่นี่ไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ โดยเฉพาะเมนูปูหลน อร่อยกลมกล่อมกำลังดี



จบลงแล้ว สำหรับทริปวันเดียวเที่ยวเมืองจันทบุรี

ต้องขอขอบคุณ ททท.และ TakeMeTour ที่เปิดโอกาศให้ได้มาร่วมแคมเปญดีๆ

อย่างแคมเปญ LocalTable นี้นะคะ

..............................................................

เพราะเราเชื่อว่า...การเดินทางสร้างรอยยิ้มให้ผู้ออกเดินทางเสมอ

ฝากติดตามรีวิวการเดินทางของคนอยากเที่ยวต้องได้เที่ยวด้วยนะคะ

https://www.facebook.com/wanttotravel29/


อยากเที่ยวต้องได้เที่ยว Want To Travel

 วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 23.27 น.

ความคิดเห็น