"มึง วันที่ 21 นี้ไปแม่กำปองกัน"
เสียงปลายสายจากเพื่อนคนนึงที่คะยั้นคอให้ไปเที่ยวด้วยกัน สำหรับเราแล้ว เมื่อได้ยินชื่อนี้ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เรากลับรู้สึกว่ามันเป็นแค่สถานที่ที่คนไปเพื่อถ่ายรูปกันเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรน่าไปสำหรับเราเลย แต่ก็ตกลงไปด้วยเพราะคิดว่าลองไปดูก็ได้ มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร......
เราออกเดินทางกันแต่เช้าด้วยรถยนต์ ถนนจากเชียงรายไปเชียงใหม่ทำให้ไม่ค่อยอยากไปเชียงใหม่เท่าไหร่นัก เพราะกำลังทำถนนกัน ซึ่งใช้เวลาเป็นสิบปีเลยก็ว่าได้ แต่ก็ยังไม่เสร็จสักที ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน :(
ทางไปแม่กำปองค่อนข้างคดเคี้ยว สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวดอยอาจจะเมารถได้
พอไปถึงแม่กำปอง ต้องบอกว่าที่นั่นอากาศดีมาก แทบมองไม่เห็นแสงแดดเพราะที่นั่นต้นไม้เยอะมาก
เราพักกันที่บ้านดอกเมี่ยงของลุงนึก เพราะว่าเจ้าของบ้านและครอบครัวใจดี และน่ารักกับเรามาก บ้านลุงนึกเป็นบ้านไม้ ซึ่งต่อเติมห้องชั้นบนสร้างเป็นที่พักให้นักท่องเที่ยว ส่วนเจ้าของบ้านพักอยู่ชั้นล่าง
บ้านพักที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้แบบสมัยก่อน มีระเบียงบ้านด้านบน ปลูกดอกไม้ ต้นไม้รอบบ้าน ดูร่มรื่นสบายตาดี
หน้าห้องจะมีโต๊ะทานข้าว ตู้เย็น ชา กาแฟ น้ำดื่ม และถ้วยชามเตรียมไว้ให้ฟรี เผื่อว่าเราอยากจะซื้ออาหารกลับมาทานที่ห้อง
ห้องพักที่นี่จะคิดราคาเป็นหัวต่อคืนรวมอาหารเช้า ไม่ได้คิดเป็นค่าห้องต่อคืน เราพักกัน 3 คน เลยได้ห้องใหญ่เป็นเตียงคู่ บ้านลุงนึกจะเป็นห้องพัดลม เราคิดว่าที่อื่นก็น่าจะเป็นห้องพัดลมเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องติดแอร์ก็ได้ เพราะที่นี่อากาศเย็นตลอดปี
อาหารเช้า จะเป็นข้าวต้ม ซึ่งพี่เจี๊ยบลูกสาวลุงนึกบอกว่าถ้าไม่พอขอเพิ่มอีกได้ แถมยังมีผลไม้ตามฤดูกาลมาให้ด้วย ใจดีมากๆเลย
อาหารที่นี่ต้องบอกว่าอร่อยแทบทุกร้านเลย โดยเฉพาะร้านไส้อั่วแม่นิ่ม อร่อย และทำอาหารเร็วมาก เราเป็นคนเหนือ กินไส้อั่วมาหลายเจ้า ต้องบอกเลยว่าไส้อั่วร้านนี้อร่อยจริง เป็นเนื้อหมูเน้นๆ ไม่ใช่มีแต่มัน หอมเครื่องสุดๆ ยกนิ้วให้เลยค่ะ
ข้าวซอยไก่ก็อร่อย
การเดินทางไปสถานที่ต่างๆในแม่กำปองเราแนะนำว่าควรใช้บริการรถในหมู่บ้าน เพราะว่าทางค่อนข้างชันและคดเคี้ยว นั่งไปกับคนที่ชำนาญทางจะดีกว่า โดยเฉพาะหน้าฝน ถนนลื่นมากค่ะ ค่าบริการก็สมราคาถ้าเทียบกับความปลอดภัยและการบริการ พี่ต้อมคนขับรถ ขับรถดีมาก คอยบอกตลอดว่าตรงไหนจะขึ้นเขาชัน โค้งหักศอก และคอยเตือนให้เกาะราวก่อนทุกครั้ง แถมยังคอยเล่าเรื่องเกี่ยวกับแม่กำปองให้ฟัง รู้สึกเหมือนมีไกด์ไปด้วยเลย
เรานัดพี่ต้อมไปกิ่วฝิ่นตอนตีห้าเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่พอตีสามฝนตกเหมือนไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เราเลยคุยกันว่าน่าจะไม่ได้ไปแล้ว แต่โชคดีที่ฝนหยุดตกตอนตีห้า เราเลยได้มีโอกาสขึ้นไป
ทางเดินขึ้นกิ่วฝิ่น
เราชอบเที่ยวหน้าฝนมาก เพราะมองไปทางไหนก็เขียว ต้นไม้อุดมสมบูรณ์ อากาศดี ได้เห็นหมอก แต่อากาศไม่หนาวจนเกินไป เหมาะกับคนขี้หนาวอย่างเรา
พี่ต้อมเล่าว่า "ชื่อกิ่วฝิ่น มาจากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่9 ทรงเสด็จมาเยี่ยม ท่านเดินขึ้นมาจากตีนเขาเลยนะ แล้วเห็นว่าชาวบ้านที่นี่ปลูกฝิ่น ท่านอยากให้เลิกปลูก ก็เลยให้เมล็ดกาแฟมา เป็นกาแฟอาราบิก้า ให้เอามาปลูกแทนฝิ่น ชาวบ้านที่นี่ก็เลยปลูกกาแฟกันอย่างที่เราเห็นตามข้างทาง"
กิ่วฝิ่นยามเช้าหลังฝนตก มีหมอกคลุมเต็มไปหมด แทบมองไม่เห็นวิว รู้เลยว่าคงไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นแล้วล่ะ แต่เราก็ได้เห็นวิวใหม่ๆในแบบที่ชอบนะ :)
พอเริ่มสาย พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว เริ่มมองเห็นวิวภูเขา กับหมอกที่ลอยเคลื่อนไปตามเขา
ท้องฟ้าหลังฝนตกสีสวยสดใสมากเลย
พอถ่ายรูปเสร็จเราก็เดินกลับไปที่รถเพื่อไปที่อื่นต่อ พี่ต้อมก็รอให้ทุกคนถ่ายรูปจนเสร็จ ไม่มีเร่งเลย น่ารักมากค่ะ
เรามาแวะกันต่อที่น้ำตกแม่กำปอง ไม่ค่อยมีใครลงเล่นน้ำเลย เพราะน้ำเย็นมาก ได้แต่เอาเท้าจุ่มๆดู เพราะยังหนาวกันอยู่ 555
ลงมาจากน้ำตก เรากลับมาทานข้าวเช้ากันที่ห้องพัก เจอพระบิณฑบาตรพอดี เลยได้ใส่บาตรกัน ที่นี่เค้ามีบริการเซเว่นเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะที่อาสาเข้าไปซื้อของในเมืองมาให้ชาวบ้านที่แม่กำปอง เราก็ได้ซื้ออาหารมาใส่บาตรจากเซเว่นเคลื่อนที่นี้ด้วยเหมือนกัน
ร้านกาแฟเดอะไจแอนท์ เป็นร้านกาแฟบนต้นไม้ใหญ่ที่วิวดีมาก อยู่ห่างจากตัวหมู่บ้านออกไป เครื่องดื่มค่อนข้างแพงตามบรรยากาศ ถ้าใครอยากถ่ายรูปสวยๆก็แนะนำ ซื้อเครื่องดื่มแลกถ่ายรูป แต่เรารู้สึกเฉยๆ ไม่ถ่ายก็ได้ เรามีรูปวิวร้านกาแฟประมาณนี้เยอะแล้ว เอ๊ะ! หรือเรางก 555
ช่วงหลังโควิดไม่ค่อยมีคน ถ่ายรูปสบายเลย ไม่ต้องไปนั่งแต่งรูปลบคนออก
ภาพนี้เป็นภาพหมู่บ้านแม่กำปองมุมสูงตอนเย็นจากร้านกาแฟระเบียงวิว อากาศดีมาก เห็นแล้วอยากมีบ้านที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาแบบนี้จัง คงจะอากาศดีน่าดู....
เราไปที่ร้านกันตอนกลางวันแล้วรอบนึงแต่คนเยอะมาก นั่งจองโต๊ะตรงระเบียงกันหมด เราเลยกลับกันก่อน แล้วมาที่ร้านอีกทีตอนเย็น ซึ่งร้านปิดแล้ว แต่เจ้าของร้านใจดี ให้เข้าไปถ่ายรูปได้ :)
ตอนกลางคืนเพื่อนทำสายชารจ์แบตตกลงไปข้างเตียง จะขยับเตียงออกมาก็กลัวเสียงดังรบกวนห้องข้างๆ เลยเอาไฟฉายส่องใต้เตียงแล้วมุดเข้าไปเอา แต่ก่อนจะมุดคือเถียงกันว่าใครจะมุดพราะกลัวผีใต้เตียง 555
มีคลิปวิดิโอบรรกาศที่แม่กำปองสั้นมาฝากด้วยค่ะ
ไปเที่ยวแม่กำปองครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ เราได้ไปเที่ยวที่ที่เราไม่เคยคิดอยากไป แต่วันนี้เราพบว่าหลายๆอย่างอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด แม่กำปองไม่ใช่แค่ที่ที่จะไปแค่ถ่ายรูป ที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงาม อากาศดีๆ อาหารอร่อยๆ ผู้คนก็น่ารัก แถมยังได้เพื่อนใหม่ที่เจอกันในรถอีก :)
สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่าที่พักคนละ 500 บาทรวมอาหารเช้า
- ค่ารถเที่ยวในหมู่บ้านไป-กลับคนละ 100 บาท (แชร์กับคนอื่นๆ ถ้าเหมาส่วนตัว 500 บาท)
- ค่าอาหาร 6 มื้อ 502 บาท (ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกกินอะไร)
- ค่าน้ำมันรถหารจ่ายกับเพื่อน 200 บาท
รวมทั้งหมด 1,302 บาท
"เราจะกลับไปเดินป่าแม่กำปองแน่นอน เจอกันใหม่ทริบหน้า"
ชะนีแบกเป้
ติดตามอ่านรีวิวทริปอื่นๆและพูดคุยใกันได้ที่
Readme
https://th.readme.me/id/payalerngpoy
FacebookPage
ที่พักบ้านดอกเมี่ยง ลุงนึก
https://www.facebook.com/Maekamphong/
บริการรถเที่ยวพี่ต้อม
ชะนีแบกเป้
วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.06 น.