ช่วงปลายเดือนธันวาคม กับทริปดอยอินทนนท์จุดมุ่งหมายแรกที่เดินทางไปคือ สวนสนบ่อแก้ว ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น นามิ แห่งเมืองไทย ต้นสนสูงตระหง่านเรียงรายเป็นทิวแถว ถึงแม้จะไปถึงในตอนสายแล้วสักสิบโมงแต่อากาศที่นี่ก็ยังเย็น ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว ที่นิยมมาถ่ายภาพกันแบบชิคๆ ตอนที่เราไปเป็นวันธรรมดา นักท่องเที่ยวไม่เยอะ เดินถ่ายภาพได้สบายๆไม่ติดใคร

ออกจากสวนสนมุ่งหน้าไปจุด สูงสุดแดนสยาม ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,565.3341 เมตร ที่นี่ถึงแม้จะเป็นตอนเที่ยงวันแต่อากาศยังเย็นมาก บริเวณนี้จะเป็นป่า และมีทางเดินไม้ให้เราได้เดินศึกษาธรรมชาติ เป็นทางเดินยาวประมาณ 300เมตร ที่ยกสูงเหนือพื้นที่ด้านล่างเป็นป่าพรุที่มีพีชมอส และเฟิร์นสายพันธุ์ต่างๆ

เมื่อเดินมาถึงด้านบนจะมี สถูปเจ้าอิทรวิชยานนท์ เป็นเจ้าผู้ครองเชียงใหม่ในสมัยก่อนให้เราได้กราบไหว้

เดินออกจากบริเวณศึกษาธรรมชาติ เลี้ยวซ้ายออกมาด้านนอกบริเวณ สถานีรายงานดอยอินทนนท์ ของกองทัพอากาศ บริเวณนี้จะเป็นตลาดของกินขนาดย่อมๆ ที่มีบรรดาทหาร และแม่บ้านมาตั้งร้านขายอาหารง่ายๆคลายหนาวในราคาไม่แพง เช่น ก๋วยเตี๋ยว ข้าวซอย นมสดร้อน ขนมปังปิ้ง ข้าวโพดต้ม มันเผา และอื่นๆอีกมากมาย

เราได้ลองชิมข้าวโพด "ราชาทับทิมสยาม" เป็นครั้งแรก พันธุ์นี้คนขายบอกว่าเป็นข้าวโพดที่สามารถกินดิบๆได้เลย รสชาติหวานกรอบอร่อย ราคาฝักละ 20-25บาท เคยเห็นมีขายในห้างที่กทม.เหมือนกัน แต่ราคาค่อนข้างแพงพอสมควร

หลังจากพอได้มีอะไรรองท้องบ้างแล้วก็ขับรถลงมาด้านล่างที่ พระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ ตรงนี้เขาให้จอดรถไว้ด้านนอก(ริมถนน) และเดินเข้าไป ก่อนเข้าต้องซื้อบัตรเข้าชมคนละ 40บาท

พระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ เป็นพระมหาธาตุคู่บารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช(รัชกาลที่9) ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศ ภายในประดิษฐานพระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรม์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์

บริเวณโดยรอบมองไปจะเป็นเป็นแนวทิวเขาสวยงาม ในช่วงเช้าจะมีหมอกให้ได้เห็น

ส่วนของทางขึ้นทั้งสองเจดีย์ จะมีบันไดเลื่อนไว้สำหรับคนขี้เกียจเดิน(อย่างเรา) 555 แต่สำหรับใครที่มีแรงเหลือๆ จะเดินบันไดขึ้นเองก็ได้ค่ะ

บริเวณโดยรอบประดับตกแต่งด้วยดอกไม้เมืองหนาวนานาพรรณสวยงามมาก

ในส่วนของพระมหาธาตุ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00-16.30น.ค่ะ หากไปเที่ยวดอยอินทนนท์ก็แวะเข้าไปชมความงามกันได้นะคะ