การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว สถานที่ที่เหมาะกับคำนี้เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย คงต้องยกให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทุกท่านคงคิดไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ใช่ไหมครับ และหนึ่งในใจของหลายๆ คน ผมคิดว่ามี ปางอุ๋ง และ ปาย อยู่ในนั้นด้วยแน่นอน ครั้งนี้เราจึงตัดสินใจเดินทางไปยังที่แห่งนั้นกัน (ริวิวนี้เป็นฉบับย่อนะครับ เน้นรูปเป็นส่วนใหญ่ ถ้าท่านใดสนใจแบบละเอียดเชิญได้ที่รีวิวฉบับเต็ม ลิงค์ด้านล่างครับ) เรามาเริ่มกันเลยครับ

ในการเดินทางจากเชียงใหม่สู่ ปายและแม่ฮ่องสอน บรรยากาศดีตลอดทาง

ถึงโค้งจะเยอะ แต่ถ้าขับอย่างระมัดระวังก็ไม่เป็นไรครับ

เข้าสู่เขตอุทยานฯ ถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ หน่วยฯ ปางอุ๋ง ที่พักของเรา

จุดกางเต็นท์อยู่ริมน้ำ บรรยากาศเย็นสบาย

เดินมาสันเขื่อนในเวลาเย็นๆ รับอากาศสดชื่น ลมเย็นสบาย

เจ้าถิ่นที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยว ถึงบางครั้งก็มีขวางทางบ้างอะไรบ้าง

เดินเยี่ยมชมหมู่บ้านรวมไทยที่อยู่ไม่ไกล ชาวบ้านส่วนใหญ่ปรับปรุงบ้านเป็นโฮมสเตย์ไปในตัว

ระหว่างเดินถ้าหิวก็มีของวางขายตลอดทาง แนะนำถั่วเหลืองทอดอร่อยอย่าบอกใคร

หรือจะจัดมื้อหนักเลยก็ได้ หมูกระทะดอยนั้นเอง ชุดละ 300 บาท

ตื่นเช้า เดินไปถ่ายรูปพระจันทร์กำลังจะเปลี่ยนเวรให้พระอาทิตย์มาทำหน้าที่แทน

พระจันทร์ลับทิวเขาไป แสงสว่างเริ่มมา ลมเอื่อยๆ ปะทะหน้า


แสงได้ วิวได้ ทีมเรา ถ่ายรูปได้


แต่เดี๋ยว คนมายังไม่ครบ รอก่อน มันหนาว

บรรยากาศเหมาะแก่การฝึกพลังปราณ

ผู้คนเริ่มออกร่องเรือชมหมอกในทะเลสาบ

ถ่ายรูปยังไงให้ดูดี ก็ต้องตอนย้อนแสงนี่แหล่ะ เห็นหน้าไม่ชัดดี

แสงอาทิตย์เริ่มสาดสูง ตัดกับละอองหมอกยามเช้า บรรยากาศสวยงาม

ณ จุดเดิมกลับมีหลายเรื่องราว

ดังเช่นสถานะของ "ชีวิตคู่"

ขับรถต่อไปอีกหน่อยไปยังบ้านรักไทย หมู่บ้านริมทะเลสาบ วิวหลักล้าน

มีที่พักในไร่ชาอันขึ้นชื่อ "ลีไวน์รักไทยรีสอร์ท"

ถึงไม่ได้เข้าพักก็เข้าไปถ่ายรูปได้

สายแล้ว แวะกินข้าว ณ "ภัตตาคารอาหารจีนลีไวน์" วิวในร้านสุดเกินจะบรรยาย

จะเป็นมุมในร้านหรือด้านนอกก็สุดแสนจะพิเศษ

หรือจะหามุมสวยๆ เก็บภาพตัวเองไว้เป็นที่ระลึก


มีหลายมุมให้เลือก


ไฮไลท์ของสถานที่ แนะนำเลย "ขาหมูหมั่นโถว" ร้านนี้เด็ด

ขับรถยาวไปเกือบ 2 ชั่วโมง ถึง "บ้านจ่าโบ่" ร้านอาหารขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศดีอีกร้าน

"ก๊วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่" กินก๊วยเตี๋ยวชามละ 40 บาท และได้ชมวิวหลักร้าน

ก่อนกลับก็มีจุดให้ถ่ายภาพให้เก็บไว้เป็นที่ระลึกเช่นเคย

ขับรถมุ่งสู่ปาย ยาวๆ ไป 2 ชั่วโมง ไปยังหมู่บ้าน "สันติชล" ชุมชนชาวจีนยูนานอีกแห่งของไทย

นอกจากจะตกแต่งสถานที่ สไตล์จีนแล้ว ยังมีของที่ระลึกขายด้วย

ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไป ขึ้นไปบนกำแพงเมืองเพื่อถ่ายภาพมุมสูงสวยๆ

ภาพบรรยากาศมุมสูง

มีชุดจีนโบราณให้เช่าใส่ถ่าบรูปด้วยหล่ะ ชุดละ 150 บาท

ตกเย็น เริ่มเปิดไฟ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

"ชิงช้า" สัญลักษณ์ของหมู่บ้านสันติชลในยามเย็น

และแสงสุดท้ายก็หมดไป เป็นสัญญาณบ่งบอกให้ไปยังจุดหมายต่อไป

"ถนนคนเดินเมืองปาย" สถานที่ขึ้นชื่อ มาปาย ถ้าไม่ได้มาจะถือว่ามายังไม่ถึง

ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติเดินกันขวักไขว่


ทั้งของกินเล่น กินจริงจัง หรือของใช้ ของที่ระลึกก็มี


บาร์หรือร้านเบียร์ ร้านเหล้าก็ยังมี

ตื่นเช้า ถนนคนเดินก็จะกลับสู่สภาพถนนที่ใช้ในการสัญจรปกติ

เดินไปจนสุดทางจะไปเจอสะพานไม้ข้ามแม่น้ำปาย

ถือเป็นไฮไลท์อีกจุดของเมืองปายในยามเช้าเลย

กังหันน้ำ "บ้านปายริเวอร์ไซด์" ก็เป็นอีกจุดที่วิวดี

เหมาะแก่การเก็บภาพเป็นที่ระลึกเช่นเคย

ในยามที่ไม่มีหมอกก็จะสวยไปอีกแบบ

เดินย้อนกลับมาทางเดิม กลางถนนคนเดิน "ศาลจังหวัด"Classic สวยงาม

ที่พัก "บ้านต้นไม้ ภูเขา ณ ปาย" Classic แบบมีสไตล์

มีห้องนอนและห้องน้ำอย่าง 2 ห้อง และเสริมที่นอนหน้าทีวี

มีโต๊ะกินข้าว โต๊ะนั่งเล่น ไว้ทำกิจกรรม

เดินไม่ถึง 50 ม. มีร้านกาแฟสุดชิลล์ หน้าจุดเริ่มต้นถนนคนเดินปาย


บรรยากาศ Classic แต่ดูดี

"วัดพระธาตุแม่เย็น" ยาม 10 โมง

วิวเมืองปาย "เมืองที่โอบล้อมด้วยภูเขา"

"สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย" อันเก่าแก่

"ปายแคนย่อน" หรือกองแลน

ใจไม่ถึง อย่าไปถ่ายรูปตรงนั้น

ดูคนถ่ายเรายังขาสั่น

นายแบบต้องมั่นใจ ขาต้องมั่นคง ถ้าตกลงไปคงเอาการทีเดียว

สะพานบุญ "โขกู้สุ่ย" สะพานไม้ไผ่แห่งศรัทธา ความยาว 800 ม.


"แผ่นดินแยกปาย" ไหนเอ๋ยแผ่นดินแยก พบเจอแต่ดงกล้วย


หลุดดงกล้วยมาก็จะเจอความหฤหรรษ์เอง

"น้ำตกหมอแปง" ในยามเย็น น้ำเย็นเฉียบ

ไร่สตอเบอรี่ "ม่อนหมอแปง" วิวรถที่เราเช่าขับมากัน


วิวมุมสูงจากไร่สตอเบอรี่

อาหารเย็นกับ "เฮือนขันโตก ปาย" ชุดละ 400 บาท

ดื่มด่ำกับกาแฟยามเช้า ที่ "Coffee In Love"

วิวมุมมหาชนในตำนาน

"พุน้ำร้อนท่าปาย" แหล่งความร้อนใต้ภิภพ

ที่เธอเห็นไม่ใช่หมอก (ไม่ใช่ฝุ่น pm 2.5) มันคือไอน้ำจากบ่อน้ำร้อนนะ


นั่งแช่น้ำร้อนแบบเหงาๆ

หรือจะนั่งแช่น้ำร้อนแบบไม่เหงาก็ได้

"อช.ห้วยน้ำดัง "ในยามเที่ยงตรง

ดั่งมีแสงส่งมาจากสะพานไบฟรอสแห่งแอสการ์ด

อาบน้ำร้อน แช่ออนเซ็น ณ "บ่อน้ำร้อนโป่งเดือด" ถ้าไม่ใช่หน้าหนาว....อย่าได้คิด


แวะจิบกาแฟยามบ่ายระหว่างทางที่ "32 Coffee hill"


กราบพระยามเย็น ณ "วัดบ้านเด่น"

ชมความงดงามของเหล่าอุโบสถที่วิจิตร


> จบการรีวิวฉบับย่อ <


หากท่านไหนสนใจ "รีวิวฉบับเต็ม" รายละเอียดการเดินทางแบบละเอียดยิบ มีรูปกว่า 400 รูป พร้อมสรุปค่าใช้จ่าย สามารถเข้าไปชมได้ที่ >> คลิกดูริวิวฉบับเต็ม










































GoAloneTravel

 วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.11 น.

ความคิดเห็น