สวัสดีค่า อิบ้าพาเที่ยวกลับมาล้าววว อากาศดีๆแบบนี้ จะมาพาเพื่อนๆไปแอ่วเหนือกัน

ทริปนี้เราไป 5 วัน 4 คืน แต่เที่ยวแบบดุเดือด ประหนึ่งไปกันเป็นอาทิตย์
ปาย – กิ่วแม่ปาน – ดอยอินทนนท์ – แกรนแคนยอนหางดง – สุเทพปุย – ขุนช่างเคี่ยน
ไฮไลท์ของทริปนี้คือพญาเสือโคร่งที่ขุนช่างเคี่ยน แต่ดั๊นพลิกล็อค เดี๋ยวจะเหลาให้ฟัง

ขออนุญาตหั่นออกเป็น 3 กระทู้แล้วกันนะคะ แบบว่ารูป และรายละเอียดเยอะมาก
มีคนบอกว่าที่ผ่านมามีแต่รูป ขอรีวิวแบบยิบๆบ้างได้มั้ย โอเคจัดให้! แล้วอ่านกันด้วยนะพวกหล่อน
กระทู้นี้จะเป็น part แรก เราจะพาไปตะลอน ณ ปายกันก่อนค่ะ

รักเดียวใจเดียว ใช้บริการพี่หางแดงเหมือนเดิมค่ะ จากตั๋วโปรจองข้ามปีอีกล้าววว
ได้ราคา ไป-กลับคนละประมาณ 1,600 บาท

แนะนำว่าควรไปไฟล์ทเช้า เรามาถึงเชียงใหม่ประมาณ 9.30 ค่ะ หลังจากนั้นโบกรถแดงค่ะ
บอกว่าไปอาเขตเชียงใหม่ เราไปกัน 7 คน ตอนแรกคุณลุงบอกว่า 400 ไปมั้ย
นี่ก้ตีหน้าเศร้าบอกไปว่า ไม่เป็นไรค่ะ พวกนู๋แบคแพคมา มีตังติดตัวกันไม่เยอะ เดี๋ยวลองเดินไปก้ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
พร้อมยกมือไหว้สวยๆ 1 ที
เท่านั้นแหล่ะ ได้ผลค่า คุณลุงใจดี บอกว่ามาๆ 200 พอ พี่นี่โดดขึ้นรถกันแทบไม่ทัน
บอกล้าว ว่าคนเชียงใหม่เค้าใจดี ถึงจุดหมาย จ่ายเงิน พร้อมกราบขอบพระคุณคุณลุงงามๆอีกที

เราจองตั๋วรถตู้ไปปายตั้งแต่ก่อนมาแล้ว ที่ http://premprachatransports.com/ticket-th
จองก่อนเดินทางได้ 3 วันนะจ๊ะ จะบอกว่านี่เพลียมากกับระบบการจอง
คือหน้าเวปให้เลือกว่าจำนวนผู้เดินทางมีกี่คน มีให้เลือกถึง 9 คน นี่ก้เลือกไป 7 คน
เลือกที่นั่งเสร็จ พร้อมจ่ายเงิน แต่ขึ้น error เฉยเลย นี่ทำอัลไลผิด!? ทำไมจองไม่ได้ฟระ!!!
พยายามอยู่หลายวัน วันละหลายๆรอบ
web มีปัญหา!? หรืออะไร ยังไง ชั้นจะต้องนั่งรถหวานเย็นไปมั้ย โทรเลยค่ะโทร โทรติดยากมากเช่นกัน นี่แทบถอดใจ
คุยไปคุยมา สรุปได้ความว่าให้จองผ่าน web นั่นแหล่ะค่ะ แต่จองได้ทีละ 2 ท่าน
ห่าน!!!!! ละจะมี drop down 9 คนมาให้เพื่อ!!?

ได้ตั๋วมาเรียบร้อย ไป-กลับคนละ 371 บาท (รวมค่า counter service แล้วค่ะ)
ขาไปจองรถรอบ 11.30 (ต้องไปรับตั๋วก่อนรถออก 30 นาทีนะคะ) เผื่อเวลากินข้าวเช้าด้วย
นั่งโงนเงนอยู่ในรถตู้ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง เนื่องจากกำลังทำถนนใหม่ เลยแอบช้าค่ะ
มาถึงปายตอนบ่าย 3 ออกจากท่ารถเดินเลี้ยวซ้ายไปเช่ามอไซค์มีหลายร้านเลือกเอา
เรทจะอยู่ที่คันละ 150 – 200 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพรถ
เช่ามาแล้วก้เติมน้ำมันคันละ 50 บาทพอ ไม่ต้องใจดีเติมให้เค้าเยอะล่ะ เหลือเฟือ

ได้รถแล้ว ก้ไปเช็คอินที่โรงแรม คืนนี้เรานอนที่ Lilu Pai ค่ะ อยู่ใจกลางถนนคนเดิน
สอยมาจากงานท่องเที่ยว คืนละพันนิดๆเอง ถูกและดี

โยนกระเป๋าเสร็จก้เกือบ 4 โมงละ ไปหาอะไรรองท้อง แล้วตะลุยปายกันค่ะ
ตอนเย็นจะไปดูพระอาทิตย์ตกที่กองแลน หรือปายแคนยอน
ยังพอมีเวลาเหลือ แวะถ่ายรูปจุด Landmark อย่าง Coffee in Love ซะหน่อย

จุดต่อไป The Container Pai
> บางทีการที่เรานั่งเฉยๆกับคนที่เข้าใจเรา มันก้ดีเหมือนกันนะ <

นั่งเพลินไปหน่อย ใกล้ได้เวลาพระอาทิตย์ลาลับฟ้าแล้ว รีบบึ่งหน้าตั้งไปกองแลนกันค่า

เดินยากมากมาย เป็นทรายขาวๆ ลื่นๆ แคบๆ สองฝั่งเป็นเหว ขาพี่นี่จิกจนรองเท้าแทบทะลุ
ไปไหนก้ได้ ถ้าไปกะพวกคนบ้าที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ รักนะพวกเทอว์ ง่อววว

เดินมาอีกจุด คราวนี้เหลือ 6 เพราะน้องอีกคนไม่กล้าเดินมา พี่นี่แทบคลาน เสียวเกิ้น!
บอกแล้วว่ามากะคนบ้า ท่าธรรมดามีที่ไหน๊

หลังจากเสพบรรยากาศกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว ได้เวลาแวนซ์กลับละค่ะ
อากาศลดลงอย่างรวดเร็ว ขี่โต้ลมหนาวกันจนหน้าชา ทำไมขากลับมันไกลจังฟระ!
เอามอไซค์กลับมาเก็บที่รีสอร์ทค่ะ แล้วออกไปหาอะไรกินกัน

มาทีไรต้องกินร้านนี้ทุกที ขนมจีนนั่งยอง ถูกและอร่อย

จัดมา 2 จานค่ะ น้ำยาป่าเถื่อน (น้ำยาป่า+น้ำยากะทิ) และน้ำเงี้ยว+ไข่ 1 ฟอง
ค่าเสียหาย 52 บาทเอง ถูกใช่มั้ยล่ะคะท่านผู้โช้ม

กินอิ่มแล้วก้ไปเดินชิวๆกันที่ถนนคนเดินปายค่ะ

เยลลี่มั้ยฮ้าบ เยลลี่ น่ารักกุ๊งกีง

ร้านขายของฝาก ร้านเสื้อ ร้านโปสการ์ดเก๋ๆก้มีเยอะค่ะ

มาปายทั้งที อย่าลืมแวะมาอุดหนุนร้านเครปฝรั่งเศสกันนะคะ
จะบอกว่าอร่อยโฮกกก ก้คงไม่ผิด อร่อยจิงๆ ไม่เชื่อ ไปลองเอง
พี่คนขายก้ใจดี นางบอกว่าไปซื้อสตรอมาเองก้ได้นะ เดี๋ยวพี่ทำให้ ไส้จะได้แน่นๆ

ก่อนนอนคืนนี้จัดสตรอเบอร์รี่ไปอีก 2 กล่องค่ะ มันฟินจิงๆนะพวกเทอ

มาปายรอบนี้รอบที่ 5 แล้ว เมืองบ้าอะไรวะ มีเสน่ห์ตลอดเลย มาทีไรไม่เคยเบื่อ
อากาศดี คนน่ารัก ของไม่แพง อาหารก็ไม่แพง ทั้งๆที่เป็นเมืองท่องเที่ยว
ความรู้สึกครั้งแรก และครั้งนี้ไม่มีอะไรแตกต่าง นอกจากเพื่อนร่วมทาง

นี่ แ ห ล่ ะ เ ส น่ ห์ ข อ ง เ ธ อ ณ ป า ย

เช้าแล้ว ตื่นตั้งแต่ตี 5 อาบน้ำแต่งตัว แว้นซ์ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล
แวนซ์ท่ามกลางอากาศ 12 องศา โว้ยย หนาวว จะขี่ไวกันทำไม นี่เผื่อเวลาไว้ให้ขี่ช้าๆล้าววว
มาถึงแต่เช้า มืดตื๋อ มีคนอยู่ไม่ถึง 10 คน ถ่ายดาวดีกว่า
เค้ายืนกันเป็นคู่ ส่วนตูมายืนอัลไลตรงนี้ หนาวก้หนาว แต่เหงามากกว่า แฮร่!

ทำไมเช้านี้ดูรักกันจัง หนาวกันล่ะสิ 555

ถ่ายไปเรื่อย เช้านี้หมอกเยอะมาก อดเจอไข่แดงเลย

จิบชาร้อนๆ กินโจ๊ก งับปลาท่องโก๋ท่ามกลางสายหมอกเย็นๆ คิดว่าฟินมั้ยหล่ะ

- PHOTOGRAPHY'S THE BEST CURE FOR A BAD MEMORY -

ใครที่มากันเป็นคู่ก็จะไปซื้อที่ห้อยๆมาเขียนชื่อ แล้วแขวนไว้ที่ต้นไม้แห่งความรัก

ส่วนเรามากะขวาน ฮี่ ฮี่ จะฟันทิ้งทั้งต้นเล้ย

ใครจะเขียนก้เขียนไป มานั่งคุยกะน้องเต่าทองตัวจิ๋วก้ได้ ชิส์!

แ ล้ ว เ ร า จ ะ พ บ กั น ใ ห ม่ . . . ห ยุ น ไ ห ล

หลังจากสูดอากาศกันจนชุ่มปอดแล้ว เริ่มหิวค่ะ กลับมากินอาหารเช้าที่โรงแรม
จะบอกว่าข้าวต้มเห็ดหอมอร่อยมาก แต่ไม่ได้ถ่ายมา เพราะข้าหิ๊ว

กินเสร็จก็เก็บกระเป๋า เตรียม check out กันค่า
จองรถขากลับไว้รอบบ่ายสามครึ่ง เราฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อน แล้วแว้นซ์เที่ยวปายกันต่อ
มาแล้วก้ต้องแวะถ่ายรูปที่จุด Landmark สำคัญอีกที่ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย

แล้วไปแวะที่ Love Strawberry Pai

จากนั้นเราขับกลับไปที่หมู่บ้านสันติชล มาถึงก้หิวโซ ห้ะ! หิวอีกแล้ว ได้ข่าวเพิ่งยัดข้าวเช้ากันมา
เอ้าแหลก ก้แหลกกก พุงแตกเดี๋ยวแจกทอง
มาถึงแล้ว พลาดไม่ได้กับเมนูขาหมู หมั่นโถว

ยอดฟักแม้วผัดน้ำมันหอย เมนูนี้คือดีย์สำหรับเราอ้ะ

แพะแดดเดียว เพื่อนอยากลอง เอ้า ลองก้ลอง แรกๆเหม็นสาบดี หลังๆ เห้ยไมอร่อยจังแก 555

จะบอกว่าขำน้องพนักงานมาก ไปกัน 7 คน สั่งหมั่นโถวแบบนึ่ง 7 ลูก แบบทอด 7 ลูก ข้าวเปล่าอีก 7 ถ้วย
น้องทำหน้าเหวอประหนึ่งพวกแกไปอดอยากจากที่ไหนมา
น้องบอกว่าพี่ครับ ข้าวเอาแค่ 2 ถ้วยก่อนมั้ย หมดแล้วค่อยสั่งอีกได้ครับ
เอาจิงหมั่นโถวคนละ 2 ลูกก้แน่นแล้วครับ คือน้องน่ารักอ้ะ มีเบรคด้วยเว้ย
คนเมืองปายมันน่ารักแบบนี้แหล่ะ ไม่ใช่สักแต่จะขายแบบที่อื่น มื้อนี้แค่ 690 บาท

กิจกรรมในหมู่บ้านสันติชลเยอะมาก ราวกับเมืองไทยสไมล์คลับ
อย่างแรกที่พุ่งไปเล่นเลย ชิงช้ายูนนาน หรือชิงช้าแบบชาวเขาสไตล์นั่นเอง
เดี๋ยวๆ ได้ข่าวว่าเพิ่งยัดขาหมูหมั่นโถวกันมาเมื่อกี้ เอ้า เล่นก้เล่นฟระ

กิจกรรมต่อไปยิงธนู ใครยิงไม่แม่น ลองให้เมียไปยืนเป็นเป้าสิ รับรองว่าแม่นเหมือนจับวาง 555

เป็นผู้หญิงสมัยนี้เค้าไม่ยิงเรือกันแล้ว เค้าเปลี่ยนมายิงเป้ากัน พี่ยิงไม่แม่นหรอก น้องอยากลองมั้ยล่ะ

กิจกรรมสุดท้ายที่เราไม่ได้ทำ เพราะกลัวว่าจะเป็นการทารุณสัตว์ คือการขี่ม้า ฮี๊ฮ่า ฮี๊ฮ่าา

บางทีการนั่งเงียบๆด้วยกัน มันก้ดีเหมือนกันนะ

แล้วเราจะพบกันใหม่ สั น ติ ช ล

บ่ายสามโมงครึ่ง ได้เวลากลับเชียงใหม่แล้ว ไว้เจอกันใหม่นะคุณปาย

มาถึงเชียงใหม่ประมาณเกือบทุ่ม ไป check in ที่บ้านดินกี่ ตั้งอยู่บนอุทยานการค้ากาดสวนแก้ว
สอยมาจากงานท่องเที่ยวตามเคย คืนละ 500 บาท อารมณ์เก่าๆ สไตล์เครืออิมพีเรียลสมัยก่อน

ซึ่งอินี่ไม่โอเค!!! แม่เอ้ยดูน่ากลัวพิกล เอาวะ นอนๆไปเหอะ
ไปถึงเจอแจคพอตอีก ระบบทำน้ำอุ่นของโรงแรมเสียค่ะ ความฝันว่าชั้นจะมีน้ำอุ่นอาบได้พังทลายลงไปต่อหน้าต่อตา
ช้างฟาดดดดด!!!!!!! จะอาบน้ำยังไงเนี่ย สรุปว่ามันไม่อุ่น แต่ก้ไม่ได้เย็นถึงขนาดอาบไม่ได้ ก้ยังดี
โยนกระเป๋าเรียบร้อย ได้เวลาออกไปหาอะไรกิน วันนี้วันเสาร์ มีถนนคนเดินวัวลายนี่หว่า ไปๆ

ร้านที่พลาดไม่ได้เลยต้องร้านนี้ แหนมคลุกโคตรลีลา ลุงยังแซ่บกว่ายำแหนมเหมือนเดิมเลย

ถนนคนเดินวัวลาย ก้ยังเป็นถนนคนเดินวัวลายเหมือนเดิม จะให้เปลี่ยนเป็นถนนคนเดินวัวควายคงไม่ได้ หุ่ย!

เดินไปเดินมา 4 ทุ่มกว่าละ กลับโรงแรมนอนเถอะ พรุ่งนี้ได้ข่าวตื่นตี 3 เราจะพาไปผจญภัย
ไปไหนอ้ะ!!? ไม่บอกหรอก อยากรู้รออ่านนะแจ๊ะ

ไหน ใครอยากรู้ !? ไม่มี๊ เมิงอย่ามโนว่ามีคนอ่านเยอะสิ นี่มันแค่สมุดบันทึกคนบ้า ใครจะมาเปิดอ่าน โว้ะ!