...เส้นทางขุนเขาแห่งศรัทธา " มุ ล า อิ "

เมื่อพูดถึง "มุลาอิ" หลายๆ คนได้ยินชื่อคงจะทำหน้างงๆ!! แล้วถามผมกลับ คืออะไร? ที่ไหน? เป็นยังไง? สวยไหม? ผมไม่รอช้า รีบหาข้อมูลจากเวป เพจต่างๆ รวมทั้งเพื่อนๆ ที่เคยมาที่นี่....

เนื่องจากการเดินทางนั้นค่อนข้างลำบากพอสมควร ทุรกันดาร ระยะทางประมาณ 45 กม. ต้องนั่งรถโฟวิลประมาณ 4-5 ชั่วโมง เมื่อต้องแลกความลำบากและความสวยงามของที่นี่ ต้องยอมเจ็บตัวแบบทุลักทุเล คลุกฝุ่น เพื่อที่จะได้ไปสักการะพระธาตุมุลาอิ พลังศรัทธาอันแรงกล้าของชาวเมียนมาร์ที่มีต่อพระพุทธศาสนา จนขนานนามว่า "ขุนเขาแห่งศรัทธา"

เมื่อพร้อมแล้ว.. จะรออะไร ตามลิงน้อยมาเลยครับ ^^

"มุลาอิ" Mulayit Taung หรือ Myleh Yit เป็นส่วนหนึ่งของแนวเขา Dawna Hills เป็นขุนเขาแห่งศรัทธาของชาวพม่าในรัฐกะเหรี่ยง DKBA มีระดับความสูงของยอดเขาประมาณ 2,078 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตการปกครองของกะเหรี่ยงพุทธ DKBA ที่นับถือที่นี่เป็นยอดเขาศักดิ์สิทธิ์และสูงที่สุดในบรรดายอดเขาทั้ง 4 แห่ง (โมโกตู หรือ มะม่วงสามหมื่น, ดอยพะวี, เมะลาอะ และ มุลาอิ ) มุลาอินั้น สามารถเดินทางข้ามไปจากฝั่งไทย ที่บ้านวาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก โดยที่ทางรัฐกะเหรี่ยง DKBA จะอนุโลมให้ชาวไทย เดินทางเข้าไปสักการะพระธาตุเจดีย์บนภูเขาลูกนี้ได้

เป็นที่ตั้งเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาของชาวพม่า ที่ผู้ชายสามารถขึ้นมาไหว้สักการะได้ ส่วนอีกเจดีย์ที่อยู่ระดับต่ำลงมาประมาณ 30 เมตร อนุญาตให้ผู้หญิงขึ้นมาได้ สภาพอากาศที่นี่บริสุทธิ์เย็นสบายทั้งปี หากใครมาฤดูหนาวคงได้สัมผัสอุณหภูมิเลขตัวเดียวและมีโอกาสเจอน้ำค้างเเข็ง ตั้งแต่ช่วงปลาย ธ.ค.-ม.ค.แล้วแต่สภาพอากาศในแต่ละปี

ตอนลิงน้อยไป อุณหภูมิช่วงกลางวันประมาณ 10-15 องศา ลมเย็น อากาศกำลังดีเลยครับ ช่วงกลางคืนจนถึงรุ่งเช้า ลิงน้อยต้องหดตัวในถุงนอน อุณหภูมิประมาณ 8-9 องศา หนาวมาก ลมแรงด้วย!!!

เวลา 05.30 น. ลิงน้อยเดินทางถึงบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ทุกคนต่างเก็บสัมภาระ ทำภารกิจส่วนตัว พร้อมกินข้าวเช้า ทริปนี้ลิงน้อยได้ร่วมแจมทริปกับพี่เบียร์ เจ้าของเพจ "เดินป่าสายแดก" เมื่อได้เวลาพี่เบียร์แจ้งให้สมาชิก ขนกระเป๋าขึ้นรถ เตรียมพร้อมเดินทางสู่ประเทศพม่า....

เวลา 08.00 น. ลิงน้อยพร้อมเพื่อนๆ เดินทางจากประเทศไทยไปยังรัฐกะเหรี่ยง DKBA จังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า ด้วยรถโฟวิล เดินทางบนถนนลูกรังที่เต็มไปด้วยฝุ่นตลบ หิน ผ่านลำธาร ลิงน้อยขอแนะนำว่าต้องพกผ้าบัฟหลายๆ ผืน ผ้าปิดจมูกหรือหน้ากาก N95 ติดไปด้วยเลยนะ ที่สำคัญถ้ามีเสื้อกันฝนจะดีมากๆ กันฝุ่นได้ดีเลยแหละ (สงสารเสื้อกันหนาว) ลิงน้อยนั่งรถประมาณ 30 กม. ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง หัวฟัดหัวเหวี่ยง เจ็บตัวไปตามๆกัน

เดินทางถึงหมู่บ้านที่มีจุดพัก มีร้านค้าให้เราได้เลือกซื้อ หรือใครจะเข้าห้องน้ำก็มีไว้บริการนักท่องเที่ยวนะครับ พี่เบียร์บอกว่า "จุดนี้เป็นจุดที่เราต้องทิ้งเนื้อสัตว์ เพื่อรับประทานอาหารเจ ก่อนจะเดินทางไปวัด" เดินไปสักพักลิงน้อยเจอป้ายเขียนเป็นภาษาไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้รู้และปฏิบัติก่อนเดินทางไปนมัสการพระธาตุ มีทั้งหมด 9 ข้อ

ข้อที่ 1. เขาพระธาตุมุลาอิ เป็นศาสนสถานและเป็นเขตอภัยทาน ผู้แสวงบุญหรือนักท่องเที่ยวงดรับประทานเนื้อสัตว์ ให้รับประทานอาหารเจ ถือศิลห้าอย่างเคร่งครัด

ข้อที่ 2. เมื่อเดินทางมาถึงจุดพัก ทีโพมู ให้ชำระร่างกาย ล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวด้วยชุดสุภาพ หลังจากจุดนี้ไปให้พยายามสำรวมคำพูด ห้ามพูดหยาบคาย ตะโกน ตะคอกหรือแสดงกิริยาที่ไม่สุภาพ

ข้อที่ 3. พอมาถึงบริเวณวัด สิ่งแรกที่ต้องปฏิบัติคือ ไปกราบนมัสการ พือเล่อบา (ศาลพ่อปู่ศิลา) ผู้ปกปักรักษาสถานที่แห่งนี้ ให้ท่านปกปักรักษาระหว่างอยู่ในสถานที่แห่งนี้และตลอดการเดินทาง

ข้อที่ 4. ในบิเวณวัด ห้ามผู้ชายและผู้หญิงเดินเคียงชิดกัน ให้เว้นระยะห่าง หากพักแรมคู่สามีภรรยาจะต้องแยกกันนอน ห้ามนอนด้วยกัน และห้ามผู้หญิงตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ต้องให้ผู้ชายตักให้เท่านั้น

ข้อที่ 5. ห้ามหยิบจับทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของเราโดยพลการ เว้นแต่เจ้าของอนุญาต

ข้อที่ 6. ห้ามผู้หญิงเดินขึ้นไปตั้งแต่ทางเดินทางทิศใต้ของพระธาตุหญิงสู่พระธาตุชาย

ข้อที่ 7. ช่วยกันรักษาความสะอาด

ข้อที่ 8. หากต้องการนำน้ำจากบ่อศักดิ์สิทธิ์กลับไปยังบ้านเพื่อเป็นสิริมงคล ให้ตั้งจิตขออนุญาตจากศาล พือเล่อบา (พ่อปู่ศิลา) ต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นที่ตักน้ำได้

ข้อที่ 9. สถานที่สรงน้ำของพระ (อาบน้ำ) ฆราวาสชายสามารถไปอาบได้ แต่ห้ามตากผ้าร่วมกับจีวรของพระสงฆ์

ได้เวลาลิงน้อยพร้อมลุย !! เหลืออีก 10 กว่ากิโล ...


นั่งรถผ่านหมู่บ้าน น้องๆ กำลังเล่นกระโดดยาง พร้อมยกมือ "บ๊ายบาย" ให้กับลิงน้อยด้วย

เดินทางอีก 12 กม. จากจุดพัก ลิงน้อยก็เดินทางมาถึง "ทีโพมู" จะเป็นจุดพักของชาวพม่าที่มาแสวงบุญสักการะองค์พระธาตุ จะต้องชำระร่างกาย ล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยชุดสุภาพ การเดินทางหลังจากจุดนี้ให้พยายามสำรวมคำพูดคำจา ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามตะโกน ห้ามแสดงกิริยาที่ไม่สุภาพ

บริเวณทีโพมู มีจุดให้ลิงน้อยทาหน้าด้วยทานาคา โดยฝนไม้ทานาคากับแผ่นหิน หยดน้ำนิดนึง แล้วนำมาทาหน้า โดยใช้หวีทำเป็นจุดๆ แต่ลิงน้อยทำไม่เป็น! ทาเป็นวงบนแก้ม 2 ข้างละกัน..

การเดินทางที่ยาวนาน พร้อมลุย ! (ลิงน้อย แปะคลิปที่ได้ถ่ายขณะนั่งรถไปยังวัด)

https://scontent.fbkk22-1.fna.fbcdn.net/v/t66.1801...



เดินทางอีก 5 กม. ประมาณเที่ยงก็ถึงบริเวณวัดแล้วววว!! เมื่อถึงบริเวณวัด สิ่งแรกที่ต้องปฏิบัติคือ ไปกราบนมัสการ พือเล่อบา (ศาลพ่อปู่ศิลา) ผู้ปกปักรักษาสถานที่แห่งนี้ ให้ท่านปกปักรักษาระหว่างอยู่ในสถานที่แห่งนี้และตลอดการเดินทาง


หลังจากนั้นลิงน้อยพร้อมแบกเป้ เดินทางไปยังลานกางเต็นท์ เส้นทางเดินสบายมาก เหมือนเดินเล่นที่สวนหลังบ้านก็ว่าได้ เดินทางแนวเขา อากาศไม่ร้อนมาก ...

เดินสักพักต้องสะดุดตาก้อนหิน ซึ่งมีรูปร่างคล้ายปลา สงสัยชาวบ้านคงนำสีขาวมาทาเพื่อให้เหมือนปลา ทุกคนที่เดินผ่านต้องแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหินรูปปลา


เดินได้ครึ่งทางแล้ว ลิงน้อยมองเห็นพระธาตุสีขาวไกลๆ เมื่อเดินทางมาถึงแวะพักกราบไหว้ หลังจากนั้นจึงเดินทางต่อไปยังจุดกางเต็นท์

เดินทาง 1 กม. ก็ถึงลานกางเต็นท์ เราช่วยกันกางเต็นท์จนเสร็จ ต่างคนต่างเก็บสัมภาระเข้าเต็นท์ตัวเอง ลิงน้อยขอพักก่อน เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาค่อนวันแล้ว...

พักผ่อนสักพัก ตื่นอีกทีเวลา 15.00 น. ลิงน้อยและเพื่อนนัดกันไปนมัสการไหว้พระธาตุ เมื่อเดินทางมาถึงก็เจอพระธาตุที่อนุญาตให้ผู้หญิงขึ้นมา ส่วนอีกเจดีย์ที่อยู่สูงขึ้นไปอีกประมาณ 30 เมตร ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงขึ้นไปก่อนถึงพระธาตุจะเจอพระพุทธรูปสีขาว ที่เด่นเป็นสง่า

เดินทางถึงพระธาตุ ลิงน้อยทำการกราบไหว้และชมบรรยากาศรอบพระธาตุ ... (ขออนุญาตบุคคลในภาพนะครับ)

บริเวณด้านบนพระธาตุ ลมแรง วิวสวยมาก...

จากด้านบนสามารถมองเห็นพระธาตุสีขาว (พระธาตุสำหรับผู้หญิงสักการะได้) สวยเด่นบนสันเขา

ลิงน้อยเดินลงมาข้างล่าง เจอชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากันมากราบไหว้สักการะองค์พระธาต

ก่อนเดินทางลงจากพระธาตุ ถ่ายรูปกับน้องๆ สักหน่อย แค่การเก๊กก็ไม่ธรรมดาซะแล้ว !!

ก่อนกลับที่พัก ด้วยความหิว! ลิงน้อยเดินลงมายังบริเวณวัด รีบเดินหาร้านค้าอยากกินขนม เจอกลุ่มชาวบ้านนั่งผิงไฟ อากาศข้างบนเริ่มหนาวแล้ว ถัดมาจะเจอโรงเจ ชาวบ้านกำลังนั่งกิน ป้าๆชวนลิงน้อยมากินด้วย ตอนนั้นยังไม่หิว อยากกินขนม

ทางระหว่างกลับที่พัก ลิงน้อยแวะถ่ายรูปอาทิตย์อัสดง...

เมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้าได้เวลากลับที่พัก ใกล้ได้เวลานัดกินข้าวเย็น


นักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม เริ่มตั้งวงกินข้าวกันแล้ว แต่ลิงน้อยยังเพลินกับการถ่ายรูปบรรยากาศอยู่เลย..

ได้เวลากินข้าวแล้ววววว...

อาหารเย็นเราได้ ผัดผักใส่เต้าหู้และแกงเขียวหวาน ตบท้ายของหวานด้วย ข้าวเหนียวมะม่วง !

อิ่มแล้ว! หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ลิงน้อยขอนอนก่อนนะครับ ฝันดี ^_^


สวัสดีเช้าวันใหม่ ดวงอาทิตย์โผล่มาแล้วววววว!


ลิงน้อยไม่พลาดที่จะเก็บภาพบรรยากาศยามเช้า วันนี้ไม่มีหมอก แต่ก็สวยไปอีกแบบ มองเห็นหญ้าสีทองสลับกับแนวเขาสีเขียว โดนแสงอาทิตย์สาดส่องมันช่างสวยจริงๆ

เวลา 08.00 น. ได้เวลากินข้าวเช้าแล้ว หลังจากกินเสร็จุทกคนก็ต่างช่วยกันเก็บเต็นท์ เก็บกระเป๋า พร้อมออกเดินทาง

ช่วยกันเก็บเต็นท์...

เดินทางกลับแล้วหนาาาาาา..!

เย้ !! กลับไทยแล้วนะครับบบบบ!! สภาพแต่ละคนหลักจากคลุกฝุ่น...

...เราอยู่ในโลกอันน่าประหลาดใจที่เต็มไปด้วยความงดงาม เสน่ห์ และการผจญภัยมากมาย

ไม่มีคำว่าสิ้นสุดสำหรับการผจญภัยที่เราสัมผัสมันได้

ถ้าเพียงเราเปิดดวงตาค้นหาความงดงามเหล่านั้น...


ขอบคุณนะครับที่เข้ามาอ่าน บักทึกการเดินทางของลิงน้อย ณ มุลาอิ ประเทศพม่า ติ ชม ฝากเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

#มุลาอิ #mulayit #myanmar #เที่ยวดี๊ดี #traveldd

ลิ ง น้ อ ย พ า เ ที่ ย ว

 วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.52 น.

ความคิดเห็น