เรานั่งคิดอยู่นานว่า count down 2019 จะไปที่ไหนดี คิดว่าจะไปเชียงคานตั้งหลายปีร้ะ แต่ได้ยินว่าคนเยอะ คนล้นถนน ไปแย่งกินแย่งเที่ยว เลยไม่ได้ไป แต่ก็มาสรุปว่าปีนี้แหละ ที่เราจะไป เราไม่ชอบคำว่า "เค้าว่ากันว่า" ต้องข้าว่านี่ล่ะ5555555

ปีนี้ก็เลยสรุปว่าจะไปเชียงคาน ตอนแรกจะไปกันสามคนกับที่บ้าน แต่ลองถามเพื่อนๆดู เพื่อนๆดันสะดวกวันนึงแล้วก็จะไปต่อกันเองต่อ เลยจัดดิฮะ รอไร!! ไปค่าาาาา

เราใช้เวลาจองที่พักล่วงหน้าอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะกลัวที่อยากได้จะเต็ม ซึ่งเอาจริงๆก็เต็ม55555

ต้องออกตัวก่อนว่าอาจจะมีรูปเรากับวิวเยอะไปหน่อย เพราะเราไม่ได้ถ่ายกะจะมารีวิว ถ่ายเก็บไว้ ชอบเอาตัวอ้วนๆไปอยู่ตรงนั้นด้วยง่ะ ขออภัยหากเกะกะตาเด้อออ555

วันแรกเราไปเขาค้อก่อน จะได้ขับรถไม่ยาวมาก เพราะไปเลยมันก็จะยาวๆหน่อย เกือบ 10 ชม. เลยแวะซักครึ่งทาง เพราะถ้าขาออกยาวๆรถติดล่ะก็..... เราเคยติดหนักมาก จากกรุงเทพไปขอนแก่น 11 ชม. มาแล้ว เลยหลอนนนนT_T

เราออกจากบ้านประมาณตีห้า เพื่อจะได้ไม่ถึงช้าเกินไป เพราะว่าจะพาผู้ใหญ่ไปวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วด้วย ระหว่างทางที่ขับรถไป ปรากฏว่ารถไม่ติดอย่างที่คิด ดีใจมาก เราวิ่งสายเก่า หล่มสัก ไปเรื่อยๆสบายๆ

ถึง Pino Latte ประมาณเกือบบ่ายโมง ก็เดินเล่น กินข้าว กินกาแฟ ถ่ายรูปกันไป ตามประสาคนที่มาที่นี่ก็มีแค่นี้เน้อะ มากี่ทีก็ทำอยู่แค่นี้55555+

ระหว่างนั่งกินข้าว วิวที่มองไปก็จะเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ประมาณนี้

เห็นวิวเขา ไม่เห็นมีวิวเราบ้าง(เอิบ!! เสี่ยวไปค่ะ55)

มีหลายจุดที่ถ่ายแล้วสวยอยู่นะ


หลังจากนั้นก็ไปต่อที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

สวยไม่เปลี่ยน บูรณะเสร็จแล้ว เราไม่ได้ไปค่อนข้างนานแล้ว เพราะตอนที่ไปก็ยังบูรณะนั่นนี่อยู่หลายจุด

วันที่ไปคนก็ไม่ค่อยเยอะมาก เยอะพอประมาณ ไม่เท่ากับที่คิดไว้ 555 เพราะเอาจริงก็แอบกลัวนะว่าคนจะไปทับเบิกกันเยอะ พอเยอะแล้วก็จะมาที่นี่เยอะเหมือนกัน แต่ผิดคาด555


หลังจากออกจากวัด เราก็ตรงเข้าที่พักเลย เราพักที่ อัญญ์ชิสา วิว ตอนแรกเลือกหลายที่ แต่เราก็ยังคงชอบนอนเตนท์(จริงก็เอาเตนท์มาด้วยนะ แต่ขี้เกียจกาง ขี้เกียจเก็บเอง เลยมานอนที่นี่เอา) เอาจริงก็ไม่แย่นะ เราถือว่าใช้ได้เลย สำหรับความกว้าง ความสะอาดของที่พัก และห้องน้ำ (ห้องน้ำนี่ค่อนข้างคิดเยอะหน่อย ) เพราะว่าเราชอบกางเตนท์ เคยไปเจอห้องน้ำที่แบบแย่สุดๆมาเลยสยองหน่อยๆ แต่ที่นี่โอเคอยู่ ห้องน้ำใหม่ มีหลายห้องอยู่

รูปนี้ต้องขอโทษหม่าม้าเพื่อนด้วย555555555555555555

ข้างนอกประมาณนี้

ข้างในประมาณนี้

ลมแรงมาก ตีปั่บๆๆๆๆ ทั้งคืน เลยส่งผลให้...................ไม่มีหมอก ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิด ไม่มีหมอกเล้ยยยยยยยย โท่วววว!!!! เสียใจมากอ่ะ ตื่นมาฟ้าสดใสเลยทีเดียวT_T แต่ยังดีที่อากาศเย็นๆๆให้ได้ชื่นใจหน่อย

มื้อดึกเราก็กินหมูกระทะ ตามสูตร เพราะไม่รู้จะกินอะไร อากาศแบบนี้ ลมเย็นๆแบบนี้ต้องหมูทะดิ

กินเสร็จแล้วก็นั่งดื่มนั่งเม้ากับเพื่อนอยู่ซักพัก แล้วก็ไปนอนได้ เพราะเช้าต้องขับไปต่ออีก

-------------------------------------------------

เอาล่ะเช้าแล้ว ตื่นนนนนน!!!! ขุดตัวเองจากที่นอนอันเย็นเฉียบไปกินอาหารที่ทางที่พักเตรียมไว้ให้ ก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย มีข้าวต้ม ข้าวผัด ไข่ดาว ไส้กรอก หนมปัง กาแฟ ทั่วๆไป พออิ่มแล้วก็เดินทางจ่ะ ไปต่อค่าาาา!!!

เช้าวันนี้ออกเดินทางประมาณ 9 โมง เพื่อไปเชียงคาน ขากลับออกไปรถค่อนข้างเยอะ ตอนแรกกะจะแวะทุ่งกังหันลม แต่ระหว่างทางจะขึ้นไปนั้นนนนนนน......รถต่อแถวกันอย่างเป็นระเบียบบ้าง ไร้ระเบียบบ้าง เต็มไปหมด5555 เห็นแล้วก็ท้อ เลยไม่แวะ เพราะถ้าแวะน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมงแน่ๆ เลยไปทางเลี่ยงอีกทางนึงที่ตรงข้ามกับไปทับเบิก เพราะทางนั้นก็ใช่ย่อยเลยทีเดียวเหมือนกัน เหอๆๆ

ระหว่างทางลงก็เจอร้านกาแฟ แทนรัก เขาค้อ เห็นคนแวะเยอะดี ไปด้วยยยยยยยย!!!! จอดรถแล้วพุ่งลงมาถ่ายรูปอยู่คนละ 4-5 รูป แล้วรีบไปต่อ

ไปต่อกันที่วัดพระธาตุศรีสองรัก ขึ้นไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุ ขอพร


จากนั้นตั้งพิกัดไปที่ ลานคริสมาสต์ ภูเรือ ก่อน เพราะว่าไม่ใช่จะบานตลอดๆ มาทั้งทีก็แวะไปสิจ๊ะ

ต้นไม้ ใบหญ้าเยอะแยะมากมายให้ถ่ายรูป และเดินเล่น ไปค่ะ วิ่งเข้าทุ่งงงง.....กัน



หลังจากวิ่งเล่นจนสาแก่ใจ และหัวเข่าเริ่มสั่นระริกๆๆแล้วก็ขับรถไปต่อ คราวนี้พิกัดคือ วัดเขาห้วยลาด มีองค์พระประธานองค์ใหญ่ และ เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ และอื่นๆอีกมากมาย




เหนื่อยวุ้ย!!! เข้าที่พักก่อนล่ะ เรานอนเชียงคานสองวัน แต่เรานอนคนละที่ เหตุผลคือ เราอยากนอนที่ใหม่ๆไม่ซ้ำกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ตัวเองและเพื่อนร่วมทริป อีกอย่างคือ...ที่นี่ว่างคืนเดียวด้วยล่ะ55555

คืนแรกที่เชียงคาน เรานอนที่ บ้านเพื่อน ใช่ค่ะ บ้านเพื่อน แต่ไม่ใช่เพื่อนเรานะ เพื่อนใครวะ! ชื่อที่พักน่ะ เค้าอยากให้เรารู้สึกเหมือนนอนบ้านเพื่อน มีแค่ 5 ห้องเองเป็นสไตล์ ปูนเปลือย ซึ่งเราชอบพอดี

เรานอนห้องแรกชื่อ "เพื่อนเล่น" และ 5 ห้องเค้าชื่อน่ารักดี ห้องสอง เพื่อนเรียน ห้องสาม เพื่อนเที่ยว ห้องสี่ เพื่อนสนิท ห้องห้า เพื่อนรัก ง่อวววว!!! ใครจะไปนอนไหนเลือกเอา

มีที่ให้ถ่ายรูปนิดหน่อย

หลังจากเก็บกระเป๋า เข้าห้องน้ำ ทำไรเสร็จ ตามสไตล์ อยู่ห้องพักนานไม่ได้ มันร้อน!!! ไปต่อดิฮะ รอไร

ไปถนนคนเดินต่อเลย ถามเจ้าของที่พักว่าควรไปยังไง เราไม่อยากขับรถไป ขี้เกียจหาที่จอด เค้าบอกว่า ขาไปเดินไปได้ ขากลับน่าจะล้า เรียก skylab เอา ง่วววว!!! มอไซพ่วงหลังน่ะแหละ ที่นี่เค้าเรียกงิ้กัน

ถนนคนเดินเชียงคาน คนไม่เยอะนะวันที่เราไป ถือว่าเรื่อยๆๆ เดินได้ ตอนแรกนึกว่าต้องสไลด์กันไปตามทาง555(ขออภัยหากติดรูปใครมา)

แวะกินข้าวที่ เฮือนหลวงพระบาง อาหารอร่อยดี คนเยอะ ตอนแรกนึกว่าต้องรออาหารนาน แต่ปรากฏว่าเร็วกว่าที่คิด หิวโซซัดโฮกกันเลยทีเดียว ไม่เกิน 15 นาทีเกลี้ยงง!! เพราะระหว่างทางวันนี้ แค่แวะกินอะไรง่ายๆๆ ไม่เต็มท้อง

เดินอยู่ไม่นานก็กลับที่พักไปนอน เก็บแรง ตอนเช้าต้องไปภูทอกและต้องอยู่ไปถึง count down อีก อาจจะน๊อคเอาได้

------------------------------------------------------

ตื่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.......ตีสี่ ใช่จ่ะ ตั้งนาฬิกา 04:00 เพื่ออาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวไปดูทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูทอก พี่เค้าบอกให้ออกไปแต่เช้า เพราะว่าเราต้องขับรถไปจอดที่จุดๆนึงแล้วต่อรถกระบะขึ้นไป(เพื่อสร้างรายได้ให้กับคนแถวนั้น และทางค่อนข้างอันตราย) เราเลยต้องออกกันเช้าหน่อย ไม่นั้นต้องรอคิวรถยาว ซึ่งอาจทำให้ขึ้นไปไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น ตีสี่ครึ่งออกจากที่พัก ขับรถไปไม่นาน 20 นาทีก็ถึง จุดจอดรถเสียค่าจอด 50 บาท แถวนั้นมีของขายมากมาย เน้นๆเลย ข้าวเหนียวชุบไข่อ่ะ มากมายหลายร้านมาก ไม่ต้องเลือกจ่ะ เพราะคิดว่าเหมือนกันหมด 555 แต่เรายังไม่กินนะ รีบดิ่งซื้อตั๋วขึ้นไปข้างบนก่อน ไปรอ

ขึันไปถึงข้างบน ยังไม่ตีห้าครึ่งเลย เช็คจาก Weather พระอาทิตย์ขึ้น 06:59 รอวนไปจ่ะ


เริ่มรู้สึกอะไรมั้ย???

หึหึ!!........ ไหนหมอก!!!!! ไหนอาทิตย์????? ไม่มี......ไม่มีเลยเจ้าค่ะ ลมแรงเว่อร์ ไม่มีไรทั้งงั้น พระอาทิตย์ขึ้นก็เจอเมฆบัง55555 เสียใจเบาๆๆ แต่ไม่เป็นไร ชีวิตต้องไปต่อ เบิ่งตะเว็นใสๆมื้อเช้าไปโลดดดด!!


เมื่อไม่พบเห็นอะไรเลย นอกจากคนที่มากมายแล้วนั้นนน.....ทางเราก็ซมซานกลับลงมาข้างล่าง ต่อคิวขึ้นรถกันเป็นเกือบชั่วโมง คนเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆ พอลงมาได้ก็หาหมู หาหมากินกันกับข้าวเหนียวชุบไข่ อะไรก็อร่อย ตอนนั้นอ่ะ แล้วก็กลับไปเก็บของออกจากที่พัก บ้านเพื่อน


ไม่รอช้าไปต่อกันที่ วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน ไหว้พระกันต่อ

แล้วไปต่อกันที่ แก่งคุดคู้ อยากจะรู้คุดคู้แค่ไหน เอิบ!! ไม่เกี่ยว555 ไปเดินหาอาหารและของฝาก

เดินเล่นซื้อของฝาก มะพร้าวแก้ว น้ำตาลอะไรซักอย่าง เสื้อ เกง ได้ครบเลยที่นี่ แล้วก็ไปกินข้าวที่ร้านอาหาร ครัวนุชา รสชาติอาหารพอใช้ได้ ไม่ถึงกับว้าว แต่วิวสวยดี มีจุดให้ถ่ายรูปเล่นด้วย ที่เลือกร้านนี้ เพราะไม่อยากนั่งร้อนๆ ไม่ได้กระแดะนะ แต่ด้วยแดด และลมที่ไม่มีเลย มันจะทำให้เราเป็นบ้า เลยต้องมาหาร้านอาหารที่มันร่มๆหน่อย

มีวิวให้ถ่ายรูปนิดหน่อย และเค้ามีที่พักด้านในด้วย





หลังจากนั้นก็เข้าที่พักอีกที่นึง ภู่เชียงคาน เป็นความโชคดีมาก หลังจากที่เราหาที่พักอยู่นานคือเต็มหมด จริงๆที่นี่ก็เต็มแล้ว แต่วันที่โทรไปเค้าบอกว่าเพิ่งว่างพอดี แล้วจริงๆเค้าก็ยังไม่ปล่อย แต่โทรไปแล้วมันได้พอดี เลยได้ที่นี่ ตรงข้ามเป็นภู่แกลเลอรี่ อยู่ในถนนคนเดินนั่นแหละ สะดวก สวยดี อยู่ริมโขงด้วย วิวดี มีที่จอดรถเป็นของตัวเอง ถ้าจำไม่ผิด ซอย 9 นะ เข้าไปเปิดประตูแล้วจอดได้เลย เค้ามีเขียนไว้


วิวจากหลังห้อง

บรรยากาศจากด้านหน้า

หลังจากเก็บกระเป๋าก็นอนพักผ่อนกันซักครู่ใหญ่ ประมาณทุ่มนึงเราถึงออกมาเดินเล่นไปเรื่อยๆ ระหว่างรอ count down เอาจริงเราถามเจ้าของที่พักแล้วเค้าก็บอกแหละว่า ที่นี่ count down กันเบาๆนะคะ ไม่ค่อยมีอะไร มีพลุน้อยๆ มีเวทีน้อยๆ เท่านั้น ซึ่งโอเค เราก็เข้าใจ ไม่เป็นไร สบายๆวิถีชุมชน ได้หมดอ่ะ

ก็เดินเล่น หาขนมกิน หาซื้อของฝากกันไปตามประสา เดินไปเดินมา เหนื่อยก็กลับมานั่งพักที่ที่พักก่อน แล้วก็เดินไปเรื่อยๆ กิน เดิน เหนื่อย พัก กิน เดิน เหนื่อย พัก จนกว่าจะเที่ยงคืนอ่ะ ไม่นั้นไม่นอน

เอาจริงๆเดินจนท้อ ทำไมมันไม่เที่ยงคืนซะทีวะ5555 เกือบจะเข้าไปนอนหลายทีร้ะ เหนื่อยจัด แต่เพื่อ สว เราต้องทน นางอยากเห็นพลุ นิดหน่อยก็ยังดี ไปค่าาาา

ขาไปเห็นร้านนี้ร้ะ กะว่าขากลับมาจะกินเลยแวะกิน ซุปจักรพรรดิ์ ร้านนี้มีติ่มซำด้วย ไปนั่งปุ๊บ น้องเค้าจะยกมาให้เราเลย Default 5 ถาด แล้วถามว่าเราเอามั้ย เราก็เอามาจ่ะ เอาหมด ขอซุปจักรพรรดิ์ด้วย กินไปรู้สึกถึงความเข้มข้นของยาจีน กินแล้วร้อนเลย เหงื่อแตกพลั่กๆๆ แต่รู้สึกอร่อย รู้สึกดี เลยสั่งมาอีกถ้วย กินไปแบบ alert เลย5555555 ใครไปก็ลองกินดู แต่ถ้าคนไม่ชอบสมุนไพรก็อาจไม่ชอบนะ กลิ่นแรง รสแรง แต่เราคุ้นเลยอร่อย กินคนเดียวไม่มีใครกินด้วย สบายท้องเลย5555


แล้วมาต่อที่ปาโก๋ร้านนี้พลาดไม่ได้นะฮะ มีไส้ เยอะแยะไปหมด สังขยา กล้วย หมู กินไปให้ครบทุกรส เอาจริงเราชอบไส้หมูสุดร้ะ ตอนซื้อมีหมาตาเกือบบอดมาทำหน้าเส้าๆอยู่ เลยซื้อไส้หมูให้อันนึง เอาให้กินต้องชี้เพราะเค้ามองไม่เห็น เลยป้อนซะเลย น่าสงสาร คนแถวนั้นบอกว่าเพิ่งโดนรถทับมา เกือบตายแล้ว แต่พ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นเค้ารวมเงินกันรักษาจนดีขึ้น ก็ยังเป๋ๆมึนๆงงๆแหละ มองไม่ค่อนเห็นอ่ะนะ แต่น่ารักนะ ชอบ ใครเจอก็อย่าลืมซื้อไรให้เค้ากินด้วยเด้ออ ลืมถ่ายรูปหมามา5555

อีกอย่างคือบรรดาของเสียบไม้ พลาดไม่ได้ ของเด็ดของเค้าเหมือนกัน แต่ท้องเรากำลังจะระเบิดแล้ว เลยได้แค่นี้แหละ555

ได้เวลา Count down แล้ว....... ที่เวลาเที่ยงคืน เราก็เดินไปรออยู่แถวๆหน้าเวที เค้าก็ร้องเพลงลูกทุ่งกัน มีหมอลำด้วย แล้วพอ 5 4 3 2 1 ก็มีเพลงและพลุน้อยๆที่คนตรงนั้นแหละจุดกันเอง ปุ้งปั้งๆ แค่นั้นแหละ สบายใจร้ะ กลับที่พักนอนได้

------------------------------------------------------

เอ๊ก อี เอ๊ก เอ๊กกกกกกกกกกกกก.............(ทำเสียงไก่ด้วยนะ เพื่ออรรถรส)

ไปจ่ะ ตักบาตรข้าวเหนียว เราสั่งจากที่พักคนละ 1 ชุด เพราะชุดละ 100 ที่เหลือเราไปซื้อพวกอาหารแห้งใน 7-11 มาใส่เพิ่มอีก 4 ชุด ของที่พักใส่ได้ประมาณ 3 ชุด ก็พอดีไม่มากไม่น้อย

สบายใจร้ะ ไปหากาแฟดริปกินต่อ ลุงหมีดริปดำ กาแฟดำรสไม่ซ้ำหัดทำเมื่อวาน 555555555555+

ข้างๆๆที่พักไม่ไกล มีร้านพี่ผู้ชายมาตั้งขาย แต่เค้าจะขายแค่ไม่เกิน 10 โมง เค้าบอก แดดออกเค้าก็เก็บร้ะ โคตรอินดี้ คูลมาก55555

กินกาแฟเสร็จก็ไปกินข้าวเช้าต่อเลย เพื่อความรวดเร็ว ที่พักให้คูปองมาคนละ 50 บาท ไปกินสองร้านที่เค้ากำหนด เราว่าไอเดียดีนะ ไม่ต้องทำเอง และส่งเสริมให้มีคนไปกินร้านต่างๆเพื่อสร้างรายได้ให้ร้านอื่นด้วย

อิ่มสบายท้องร้ะ


ระหว่างเดินกลับที่พักเจอรถรางเกร๋ๆด้วย


เสร็จแล้วก็ไปนอนต่ออีกซักแป้ป แล้วเก็บกระเป๋ากลับบ้าน ขับรถดิ่งยาวๆๆ แวะกินข้าวในปั๊มก็พอ เพื่อทำเวลา เพื่อไม่ให้รถติดเกินไปและกลัวรถไปติดแถวอยุธยาอีก ออก 10 โมง ถึงบ้าน เกือบสามทุ่ม รถพอสมควรอยู่ นอนสลบ 1 วัน กลับมาวันที่ 1 วันที่ 2 ไปเชียงใหม่ต่อจ้าาาา(แล้วจะกลับมาทำไมใช่ป่ะ ทำไมไม่ไปเลย อ่าวก็เพิ่งกลับจากเลยไง!! อ่ะ ไม่ช่ายย!! พอดีต้องกลับมาส่ง สว ทำงาน เลี้ยงหลานก่อน ส่วนเราค่อยไปต่อ ไม่เป็นไร ชอบขับรถอยู่แล้ว555) เด๋วมาเขียนเล่าให้ฟังอีกทริปนึง Bye......

Ooh Sunrise

 วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.58 น.

ความคิดเห็น