แผ่นดินที่ถูกทะเลกลืนกิน... "บ้านขุนสมุทรจีน" เที่ยวชมธรรมชาติง่ายๆใกล้กรุง

วันนี้พวกเราจะพาล่องเรือไปสัมผัสวิถีชุมชนริมปากอ่าว ราคาสบายกระเป๋าแค่คืนล่ะ600บาทเท่านั้น "บ้านขุนสมุทรจีน" สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติริมชายฝั่งทะเล ที่แม้จะอยู่ใกล้กรุงเทพเพียง 19 กม. แต่ก็มีคนส่วนน้อยที่จะรู้จัก ตามไปดูกันเลยค่ะว่าจะธรรมชาติจ๋าาาแค่ไหน (กระซิบๆราคานี้รวมค่าอาหารแล้วด้วยน้าาา)

ประวัติของบ้านขุนสมุทรจีน

บ้านขุนสมุทรจีน ชุมชนริมชายฝั่งอ่าวไทย อยู่ในพื้นที่ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ที่ชื่อว่าบ้านขุนสมุทรจีนเนี้ยเนื่องจากว่าคนที่มาตั้งถิ่นฐานกลุ่มแรกๆเป็นคนจีน เขาเห็นว่าที่นี่เนี้ยเหมาะแก่การเดินเรือสำเภา และบริเวณปากอ่าวมีความอุดมสมบูรณ์มาก

การเดินทางไปยังบ้านขุนสมุทรจีน

วันนี้เราก็มาเริ่มต้นกันที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อที่จะนั่งบีทีเอส(เส้นสุขุมวิท) ไปลงที่สถานีแบริ่ง นะคะ (หรือถ้ารถไฟฟ้าสายที่เพื่อนๆนั่งไปถึงสถานีปากน้ำก็สามารถไปลงที่สถานีนั้นได้เลยค่ะ) เมื่อถึงสถานีแบริ่งให้ลงฝั่งโรงเรียนนานาชาติ จากนั้นต่อรถเมล์สาย365 ไปลงตลาดปากน้ำเลยค่ะ ถ้าใครกลัวลงไม่ถูก ให้บอกกระเป๋ารถเมล์ว่าจะไปท่าเรือข้ามฟาก ให้เขาช่วยบอกเลยค่ะ ป้ากระเป๋ารถเมล์น่ารักมากกก บั๊ยบ่ายนะคะคุณป้าาา

เดินเข้าไปเลยค่ะในซอยข้างเซเว่น เราจะขึ้นเรือข้ามฟากไปลงพระสมุทรเจดีย์ ราคาคนล่ะ 5.50 บาท

นั่งกินลมชมวิวกันไปค่าาาาา พอเห็นพระสมุทรเจดีย์ก็เตรียมตัวลงได้เลยยย

หลังจากที่ลงเรือข้ามฟากที่ท่าพระสมุทรเจดีย์ ให้เดินตรงเข้าไปเรื่อยๆเลยค่ะจะไม่ต้องเลี้ยวใดๆ (นอกจากใครจะหิวนะคะ5555 เพราะระหว่างทางจะมีตลาดขายของกินมากมาย)

พอสุดทางที่เขาขายของแล้วให้เดินเลี้ยวซ้าย จะเห็นรถสีฟ้า(คล้ายๆสองแถวแต่คันใหญ่กว่า) ให้ขึ้นคันที่เขียนว่าไป สาขลา นะคะ ไปลงท่าเรือป้ารี

หลังจากนั่งมาสักพักใหญ่ๆนะคะ... ถึงแล้ววววท่าเรือป้ารี่ อยากขึ้นเรือใจจะขาด เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่อยากมาที่นี่เลยค่ะ5555 ไปเลยค่ะ ราคา คนแรกคิด100บาท คนต่อไป10บาทนะคะ ถ้าไปกันเยอะหรือโชคดีเจอคนไปที่เดียวกันก็ช่วยประหยัดไปได้เยอะค่ะ บอกเขาว่าไปบ้านขุนสมุทรจีน หรือบอกว่าวัดขุนสมุทราวาสก็ได้ค่ะ

ไปกันเลยยยยวิวดี+บรรยากาศดีมากๆค่ะ เห็นแดดแบบนี้แต่ลมเย็นมากกกก คุณลุงที่ขับเรือพาเทโค้งซิ่งแบบสุดใจ สนุกสุดไม่ต้องไปขี่บานาน่าโบ๊ทถึงพัทยาค่ะ55555

พอถึงท่าเรือบ้านขุนสมุทรจีน ก็จะเห็นนะคะว่าที่นี่ถูกลายล้อมไปด้วยน้ำ มองไปทางไหนก็จะเห็นแต่น้ำ ซึ่งจะมีทางที่สามารถขับรถได้อยู่แค่เส้นเดียว เป็นทางจรงยาวเข้าไปข้างใน ถนนแคบๆ มีรถบริการคล้ายๆรถตุ๊กตุ๊ก (ราคา20บาทนะคะ จ่ายแค่ตอนเข้า ตอนออกไม่ต้องจ่ายค่ะ) สำหรับคนที่ยังไม่พร้อมเหนื่อยตอนนี้ค่ะ แต่พวกเราสายลุยสายเหงือค่ะ เลือกที่จะเดินชมวิวไปเรื่อยๆ55555

บรรยากาศดีมากกก เดินมาไม่ถึงครึ่งทางก็เดี้ยงค่ะ หิวและเหนื่อยและเมื่อยไปหมดขอนั่งพักแปปปป (ไหนขอลองเป็นตากล้องบ้าง)

จะแอคไปไหนคะคุณ

หลังจากเดินตรงมาเรื่อยๆ มองไปซ้ายมือจะเห็นสะพานไม้ที่น่าเดินสุดๆ5555 นั่นแหละค่ะเดินเลี้ยวไปเลย เป็นทางที่จะไปบ้านผู้ใหญ่สมร โฮมเสตย์ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆนะคะ

สถานที่ท่องเที่ยว

ที่แรกนะคะ ศาลเจ้าพ่อหนุ่มน้อยลอยชาย เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน คนที่จะออกเรือไปหาปลาจะมา กราบไหว้ขอพรให้ช่วยคุ้มครอง ให้รอดพ้นจากอันตรายต่างๆค่ะ

และจุดต่อไปที่อยู่ติดๆกับศาลเจ้าพ่อหนุ่มน้อยลอยชาย ก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นบ้านขุนสมุทรจีน ตามชื่อเลยค่ะ เป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมวัตถุโบราณ ข้าวของเครื่องใช้ของคนในหมู่บ้าน ก็ถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ รวมไปถึงวิถีชีวิตของคนที่นี่ค่ะ

...กรี๊งงงง ได้เวลาพักกลางวันแล้วค่ะหลังจากที่เดินกันมาครึ่งวัน ไม่ต้องกลัวเลยนะคะใครที่กำลังว่า อยู่กลางน้ำทะเลแบบนี้จะหาอะไรกินลำบากไหมน้าาา ...ไม่เลยค่ะ อยู่กลางทะเลก็ กินอาหารทะเลไปเลยยยย ที่นี่เขามีบริการอาหารสำหรับคนที่มาแบบ one day trip หรือจะมาค้างคืน แต่ต้องโทรมาบอกล้วงหน้าก่อนนะคะ ราคาค่าอาหารวันนี้คนล่ะ 300 บาท อาหารทะเลสดมากกก อร่อยค่ะ ผ่านนน

ปู กุ้ง หมึก หอยแมงภู่ นางรม แครง มีหมดค่าาา สดมาก ไม่มีกลิ่นคาวเลย (ถ่ายทันแค่นี้ค่ะ พออาหารมาก็ลืมหน้าที่ลืมทุกสิ่ง กินอย่างเดียว55555)

ระหว่างที่เรานั่งเล่นกันอยู่หน้าที่พักก็จะมีชาวเดินเข้ามาเสนอของอร่อยๆให้เรานะคะ มาเสิร์ฟถึงที่เลย อันนี้เป็นข้าวต้มมัดใบจาก ป้าเขาบอกว่าขายมา30กว่าปีแล้ว และได้การตอบรับที่ดีมาก รสชาติเหมือนข้าวต้มมัดปกตินี่แหละค่ะแต่จะเล็กกว่าทานง่ายกว่า มีกลิ่นหอมของใบจาก ถือว่าเป็นของฝากของที่นี่เลยค่ะ มีที่นี่ที่เดียวเลย ต้องลองค่าาา

บรรยากาศที่นั่งพักทานอาหารกลางวันของพวกเรา ตรงนี้จะเป็นโฮมเสตย์ของบ้านผู้ใหญ่สมรนะคะ ใหญ่ สะอาด บรรกาศดี มีเรือให้พายเล่นด้วยย

หลังจากนั่งชมนกชมไม้อยู่พักใหญ่ๆก็ได้เวลาเดินต่อค่ะ ตอนแรกเราจะไปดูสาธิตการแคะหอยนางรม ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจของที่นี่ แต่เนื่องจากวันที่เราไปเขาดันหยุดนะคะก็เลยอด พวกเราเลยเดินต่อไปอีกเพื่อที่จะไปชมป่าชายเลน และที่นี่เขาก็มีแปลงปลูกป่าชายเลนสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาทำกิจกรรมด้านนี่ด้วยค่ะ

เดินไปตามทางเรื่อยๆนะคะเราก็จะเจอ....ทะเลลล เห้ยยย เดินไปเดินมาถึงทะเลเฉยยย ทะเลจริงค่ะ อากาศดีมากกก เสียงคลืนบวกกับลมทะเล ขอนั่งพักชมทะเลหน่อยล่ะกัน

เดินต่อไปตามทางนะคะ ก็จะถึงวัดขุนสมุทราวาส เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่ยื้นออกไปกลางทะเลเลยค่ะ คิอว่าต้องมาเลยอ่ะะะะ

จุดเด่นของที่นี่ก็คืออุโบสถเก่าที่จมอยู่ใต้น้ำ(บางส่วน)เวลาน้ำขึ้น และที่พวกเรารู้สึกชอบที่สุดเลยก็คือพระพุทธรูปที่ยืนหันหน้าเข้าหาทะเล ทางด้านหน้าวัด สวยสง่าเป็นที่สุดอ่าาา

จุดเด่นของบ้านขุนสมุทรจีน

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการเรียนรู้วิถีชุมชน การกินอยู่กับธรรมชาติและท้องทะเล วิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่แหละค่ะ อยู่ท่ามกลางผืนน้ำ.. จริงๆแล้วแต่ก่อน ที่นี่เป็นหมู่บ้านติดทะเล แต่ก็โดนกัดเซาะไปเรื่อยๆจนเหลือพื้นที่ ที่เป็นดินอยู่เพียงเล็กน้อย แต่ชาวบ้านก็ยังคงต่อสู้ และดำรงชีวิตอยู่ต่อไป และพยายามรักษาแผ่นดินตรงนี้ไว้ให้ได้นานที่สุด ตอนนี้มีการสร้างเขื่อนกันคลื่น และป่าโกงกาง เพื่อช่วยบันเทาความแรงของคลื่นไว้ค่ะ

เห็นไหมค่ะว่าเบื้องหลังความสวยงามของธรรมชาติก็มักจะซ่อนความน่ากลัวเอาไว้ ปัจจุบันพื้นที่เกือบจะทั้งหมดของบ้านขุนสมุทรจีนได้โดนน้ำทะเลกลืนกิน จนเหลือเพียงเสาไฟฟ้าบ้างส่วนให้เราได้เห็นกัน

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ สำหรับเพื่อนๆนะคะ ใครที่ชื่นชอบธรรมชาติ ต้นไม้ น้ำทะเล และอาหารทะเล แนะนำว่าควรไปจริงๆค่ะ ถือว่าไม่ไกลจากกรุงเทพเลยและค่าใช้จ่ายไม่สูงด้วยค่ะ ไปสัมผัสบรรยากาศดีๆ วิถีชีวิตของชาวบ้านริมอ่าว สนุก สบาย ผ่อนคลาย ครบทุกรสชาติจริงจริงงง