ถ้าจะถามผมว่าผมรัก “ทะเล" หรือหลงเสน่ห์ “ภูเขา" มากกว่ากัน ผมขอตอบแบบไม่คิดเลยว่า “ไม่แน่ใจครับ"ผมไม่รู้จริงๆผมรู้แต่ว่าผมหลงใหลในความงามของธรรมชาติ มีความสุขทุกครั้งที่ได้เดินทางออกไปท่องเที่ยว

และจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น เมื่อได้พักในรีสอร์ทที่ออกแบบแนบชิดธรรมชาติอย่างลงตัว ซึ่งรีสอร์ทที่ผมจะพาเพื่อนๆไปพักในทริปนี้คือ X2 Kui Buri (ครอสทู กุยบุรี ) ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่มีดีไซน์เก๋ๆแนบทะเล ที่ทั้งสวยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว



ทริปนี้เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี จัดโครงการการประกวดสุดยอดโรงแรมบูติกไทยขนาดกลางและขนาดเล็ก ครั้งที่ 3 ในชื่อ “Thailand Boutique Awards Season 3 (2014-2015)"มีรีสอร์ทบูติกจากทั่วประเทศ เข้าร่วมประกวดและผมได้รับมอบหมายให้เป็นนักริวิวกิตติมศักดิ์ รีวิวรีสอร์ทในโครงการ และ X2 Kui Buri (ครอสทู กุยบุรี ) จ.ประจวบคีรีขันธ์ คือหนึ่งรีสอร์ทในโครงการที่ผมได้เดินทางเข้าพัก เพื่อทำรีวิว

ถ้าเห็นว่ารีวิวพอจะมีประโยชน์ก็ช่วยกันแชร์ด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆครับ


X2 Kui Buri (ครอสทู กุยบุรี ) ตั้งอยู่ริมทะเลกุยบุรี เกือบถึงจ.ประจวบคีรีขันธ์ วิ่งถนนเพชรเกษม มีป้ายบอกตลอดทาง เป็นหนึ่งในหลายๆรีสอร์ท ที่ Boutique Hotel Management Asia (BHMA) บริหาร

เอกลักษณ์ของ X2 Kui Buri คือผนังหิน ที่ดูสวยงาม แข็งแกร่ง โดยผู้ออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจาก สันเขื่อน

ผมเดินทางโดยรถยนต์ ขับไปแบบชิลล์ๆ ไม่รีบร้อน ก่อนถึงรีสอร์ทขอแวะ บึงบัว สามร้อยยอดซะหน่อย สถานที่ยอดฮิตสำหรับช่างภาพ ทางเข้าจากถนนใหญ่หาไม่ยากครับ แต่พอเข้าไปแล้ว กว่าจะถึง เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน เพราะไม่ค่อยมีป้ายบอก ...แต่ระหว่างทางเจอเจ้าตัวนี

หลังจากจ่ายเงินค่าเข้าชม ทั้งคนและรถแล้ว ก็เอารถมาจอด แล้วก็เดินไปตามสะพานไม้ทอดยาว มองเห็นวิวน้ำ วิวภูเขาสุดลูกหูลูกตาเหนื่อยก็นั่งพักตรงศาลา เสียดายแดดไม่ค่อยมา ฟ้าก็ไม่ใส แต่ก็ได้บรรยากาศดี ภูเขารูปร่างแปลกๆ ลมพัดเย็นสบาย

เดินไปเรื่อยๆ เก็บภาพวิวบ้าง คนบ้าง สัตว์บ้าง เพลินดี



ถึงแล้วครับ X2 Kui Buri (ครอสทู กุยบุรี )

หลังจากจอดรถ เสร็จก็มีพนักงาน มาต้อนรับ และนำกระเป๋าสัมภาระมาที่ล็อบบี้ และนำไปไว้ที่ห้องพัก

ผมสะดุดตากับล็อบบี้ ที่ถึงจะออกแบบอย่างเรียบง่าย แต่ก็สวยเอาการแม้กลางวันจะดูสวยน้อยไปหน่อย

เมื่อเทียบกับเวลากลางคืนที่ให้แสงอย่างสวยงาม( คืนนี้เจอกันแน่ ล็อบบี้กับแสงทไวไลท์ )

มาเหนื่อยๆ ได้น้ำมะนาวโซดา กับผ้าเย็น แล้วก็ชื่นใจ

ครอสทู (X2) กุยบุรี มีห้องพักทั้งหมด 23 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักแบบดีลักซ์การ์เด้นวิลล่าจำนวน 4 ห้อง พื้นที่ภายในรวมระเบียงและสวนส่วนตัวขนาดรวม 70 ตารางเมตร ห้องพักก็จะคล้ายๆกับ ดีลักซ์พูลวิลล่า เพียงแต่ไม่มีสระส่วนตัวเท่านั้น

ห้องพักแบบดีลักซ์พูลวิลล่า (Deluxe Pool Villa) จำนวน 15 ห้อง

ห้องพักแบบดีลักซ์โอเชี่ยนฟร้อนพูลวิลล่า (Deluxe Oceanfront Pool Villa) จำนวน 2 ห้อง

รูปนี้ที่เห็นเป็น 2 ชั้น 2 หลัง ติดกับสระว่ายน้ำส่วนกลาง เป็นห้องพักแบบลักชัวรี่พูลวิลล่าสวีท (Luxury Pool Villa Suite) 1 ห้อง

ขนาด 145 ตารางเมตร พักได้ 4 ท่าน โดยมีห้องนอนทั้งชั้นบนและชั้นล่างรอยัลวิลล่า (Royal Villa) วิลล่าหรูสำหรับ 4 ท่าน ขนาด 255 ตารางเมตร นอกจากจะมีห้องนอนทั้งบนและล่างแล้ว ยังมีส่วนอาคารที่เชื่อมต่อกันเป็นห้องนั่งเล่นและห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ทำอาหาร ส่วนด้านบนเป็นระเบียงกว้างรับลมทะเลรูปด้านในผมไม่ได้ถ่าย เพราะมีแขกเข้าพักครับ


นี่คืออีกหนึ่งดีไซน์ ป้ายบอกหมายเลขห้องพักอยู่บนพื้นไม้ทางเดิน

คืนแรกผมนอนห้องแบบ ห้องแบบ Deluxe Pool Villa ได้ห้องหมายเลข 8

Deluxe Pool Villa

มีพื้นที่ทั้งหมด 90 ตารางเมตรโดยรวมถึงสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาด 20 ตารางเมตร

บอกได้คำเดียวว่า ตื่นตา ตื่นใจครับ สำหรับที่นี่ แม้จะเก่า เปิดมาหลายปี และเห็นรีวิวมาแล้วมากมาย แต่เมื่อได้มาพักจริงๆ

ก็ยังตื่นเต้นกับดีไซน์ เก๋ๆที่ห้องพักเป็นกล่องสี่เหลี่ยม และผนังเป็นหินไม่หายสวยแปลกตาจริงๆครับ

ห้องพักให้แสงสวยมาก ห้องแบบนี้จะมีสระส่วนตัว ซึ่งแต่ละห้องสระจะอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกันไป เสียดายสระเป็นสีดำ ส่วนตัวผมว่า มันไม่ค่อยน่าว่ายเท่าไหร่

ด้านนอกมีศาลาและ daybed ไว้ให้นอนเล่นด้วยในห้องมีหนังสือให้อ่าน มีทีวี พร้อมเครื่องเล่นดีวีดี

daybed แอบเก่าไปนิดครับ

สระว่ายน้ำส่วนตัวสีดำ ยาวเหมือนกันนะครับ ว่ายไปมาได้ออกกำลังกายเต็มที่

ภายในห้อง มีมินิบาร์ พร้อมเครื่องดื่มต่างๆ ขนม น้ำเปล่า

พร้อมด้วยของฟรี ชา กาแฟ กาต้มน้ำ และเครื่องชงกาแฟ


ออกไปเดิน สำรวจด้านนอกก่อนดีกว่าครับป้ายบอกทางเก๋ๆ

สระส่วนกลาง อยู่ใกล้ๆหาด สระใหญ่ บรรยากาศดี น่าว่ายเล่นเหมือนกัน


แดดพอมี ฟ้าก็พอได้ครับ



เดินมาลงหาดครับ ถึงแม้ทรายจะไม่ขาวละเอียดนัก แต่ก็สวย สงบ เป็นส่วนตัว

เดินมาอีกหน่อย จะเจอกับหมู่บ้านชาวประมง เรือหาปลาจอดสงบ รอเวลาที่จะออกหากิน ในท้องทะเลอ่าวไทยอันกว้างใหญ่

หลังจากเดินสู้กับรัศมีพระอาทิตย์แล้ว ก็กลับเข้าห้อง ซักพักก็ได้เวลาออกไปถ่ายรูปอีกแล้ว เป้าหมายอยู่ที่ห้องอาหารอันนี้คือป้ายบอกทาง 4K นั่นแหละครับ คือห้องอาหาร

ห้องอาหาร มีชื่อว่า ห้องอาหารฟอร์ค (4K Restaurant and Bar)ตัวอาคารเป็นทรงสีเหลี่ยม คล้ายๆล็อบบี้ อยู่ริมหาดหันหน้าเข้าหาทะเล บรรยากาศดี รับลมสบายๆ

ห้องอาหารฟอร์ค (4K Restaurant and Bar)

เปิดเวลา 07.00 น. ถึง 23.00 น. บริการอาหารฟิวชั่นทั้งแบบไทยและยุโรปโดยเชฟฝีมือดี

มีบริการบาร์ สำหรับนั่งดื่มด้วย บาร์สีแดงอมส้มสวยสดของ 4K มีความยาวถึง 14.5 เมตรโดยทำมาจาก synthetic stone หรือหินเทียม

บรรยากาศยามช่วงแสงทไวไลท์ เป็นห้องอาหารที่ออกแบบสวยงาม แสงสีสวยจับใจ

ตรงนี้มีโซฟา นั่งเป็นกลุ่ม คุยกันไป กินกันไป ฟินฝุดๆ

ถ้าได้นั่งโต๊ะนี้ มองทะเล ฟังเสียงคลื่น คงจะเจริญอาหารน่าดู

ขยับออกไปถ่ายด้านนอกบ้าง ภาพนี้ใกล้ๆกับห้องอาหาร เป็นจุดชมทะเล ที่โรแมนติกอีกจุดหนึ่ง

ห้องอาหาร ด้านนอกยามแสงสวยๆ


ชั้นบนของร้านอาหารเป็นดาดฟ้าโล่งเหมาะสำหรับใช้เป็นสถานที่จัดดินเนอร์ส่วนตัวเพื่อฉลองโอกาสพิเศษ

ถ่ายรูปบริเวณโดยรอบเสร็จแล้ว ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ถึงเวลาดินเนอร์แล้วสินะ อิอิ

เริ่มด้วยแก้วนี้ น้ำแตงโมปั่น ดับกระหายชื่นใจจริงๆ

เมนูนี้คือต้มยำปลา กินปลาเพื่อสุขภาพครับ ผมชอบภาชนะที่ใส่จัง สวยดี

ส่วนนี่ Salmon Pesto เป็นหนึ่งในเมนูแนะนำ เมนูเด็ดของX2 กุยบุรี เป็นปลาแชลมอนชิ้นโต พร้อมเครื่องเคียงเป็นผักโขม มันฝรั่งบด

อร่อยแช่บเวอร์เลยครับ

2 เมนูนี้ เท่านั้น พร้อมข้าวสวยครึ่งจาน แค่นี้ก็อิ่ม อร่อย ท่ามกลางบรรยากาศเสียงคลื่นและลมทะเลแล้วล่ะครับกลับเข้าห้องพักครับ


ช่วงดึกออกไปถ่ายดาวมา 1 ใบ ไม่กล้าถ่ายเยอะ กลัวเหงา อิอิ

เช้าออกมาถ่ายแสงทไวไลท์เช้ากันก่อน เริ่มที่ล็อบบี้

แล้วก็มาที่หน้าหาด ถ่ายแสงเช้า ได้ฟ้าสวยๆมาใบนึง ยามเช้าที่ฟ้าสวยๆแบบนี้ ช่างเป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆ

เสียดาย อยู่ถ่ายฟ้าไม่ได้นาน ต้องรีบเข้าไปถ่ายในห้อง ภาพนี้เตียงดูดวิญญานผ้าปูอาจจะยับไปซักนิด

นิดเดียวจริงๆครับ เพราะผมนอนแบบพอสังเขป ตื่นมาก็รีบปูใหม่ พร้อมดึงให้ตึง ได้แค่เนี๊ยะครับอิอิ

ตรงผนังห้อง เจาะเป็นที่วางของประดับ และทำเป็นโต๊ะทำงาน สามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้ ทำให้ประหยัดพื้นที่

ห้องน้ำ แยกส่วนเปียก กับส่วนแห้งชัดเจน ออกแบบให้แสงจากด้านนอกเข้ามาด้านใน ทำให้ได้แสงสวยๆในการถ่ายรูป

อ่างล้างหน้า พร้อมด้วยอุปกรณ์ครบครัน

แสงทไวไลท์เช้าหมดแล้ว ออกไปเติมพลังงานดีกว่า

ห้องอาหาร 4k ยามเช้าที่แสงแดดกำลังทาบทา หันหน้าสู่ทะเล

เวลา อาหารเช้าเริ่ม 7 โมง ผมขอรวมอาหารเช้า 2 วันไว้ด้วยกันเลยนะครับ ก่อนอื่นขอเอ็กซ์เพรสโซ่ร้อนหอมกรุ่น ค่อยๆจิบแล้วสั่งจึงอาหารจากเมนู

แขกที่มาพัก สามารถสั่งอาหารจากเมนูได้ไม่อั้น เมนูนี้คือ ซิกเนเจอร์อาหารเช้า White egg Omeletนอกจากหน้าตาดีแล้ว ยังอร่อยอีกด้วยครับ

egg benedict

อีก 2 เมนูข้าวต้มกุ้งข้าวต้มหมู

นอกจากสั่งจากเมนูแล้ว ยังมีอาหารในส่วนของไลน์บุฟเฟ่ อีกไม่อั้น

อันนี้คือ โยเกิต โฮมเมด

ส่วนนี่ Champagne Breakfast ซักแก้วรับอรุณ กระชุ่มกระชวยดีแท้

อิ่มแล้ว ไปเดินย่อยซักหน่อย สระว่ายน้ำส่วนกลางวันที่ผมมา ไม่ค่อยมีแขกมาว่ายเท่าไหร่นัก อาจเป็นเพราะในห้องพักมีสระส่วนตัวกันเสียส่วนมาก

สระลึก 125 ซม.

ถ้าจะลงสระ ก็มาล้างตัวตรงนี้ ทริปนี้อากาศแปรปรวนๆ ยังไงไม่รู้ครับ พอฟ้าใสได้ซักแป๊บ

รีบถ่ายรูป ได้ไม่กี่ใบ ฟ้าใสก็หายไปอีกแล้ว เป็นอะไรที่ลุ้นมากๆครับ



ใกล้ๆกับที่ล้างตัว มีสปาอยู่ 1ห้อง ผมไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะห้องไม่ว่างครับ

วันนี้ ผมต้องย้ายห้องพัก เปลี่ยนมาเป็นห้องพักแบบ Deluxe Oceanfront Pool Villa

ซึ่งมีเพียงสองห้องเท่านั้นและอยู่หน้าหาดเห็นวิวทะเลเต็มๆผมชอบมากครับ

ห้องนี้พื้นที่ 110 ตะรางเมตรมีสระติดกับผนังห้อง แนวยาวแบบพุ่งลงทะเล



ภายในห้อง คล้ายๆห้อง Deluxe Pool Villa แต่มีโซฟานั่งเล่นที่ปลายเตียงเพิ่มมาให้

หน้าห้องมีDay Bed นั่งเล่น นอนเล่น มีพื้นที่เดินเล่น ชมทะเล หรือจะว่ายน้ำ แช่น้ำชมวิวไป ก็แสนจะชิลล์



ห้องน้ำจะคล้ายๆกับห้องแบบ Deluxe Pool Villa เพียงแต่มีอ่างอาบน้ำเพิ่มเข้ามา และตำแหน่งของอ่างล้างหน้าที่ไม่เหมือนกันมีฝักบัวอาบน้ำอยู่ในส่วนเอาท์ดอร์

ยามเย็นที่รอคอย มาถึงแล้วครับ รูปแสงทไวไลท์ ที่ล็อบบี้ ยังไม่ได้ดั่งใจ เลยต้องมาซ่อมซะหน่อย

วันนี้มีฟ้าสวยๆของพระอาทิตย์ตกด้วยถ่ายเพลินไปเลยครับ

ภาพนี้คือต้นมะขามขนาดใหญ่ อยู่ติดกับล็อบบี้ อายุหลายสิบปี หรือจะเป็นร้อยปีไม่แน่ใจ สวยมากครับ อยู่ท่ามกลางสนาม ทางรีสอร์ทให้ไฟแสงสี สวยงามมาก ใครได้มาพัก อย่าลืมมาถ่ายรูปที่ต้นมะขาม สวยจริงๆครับ



หรือจะมาถ่ายพรีเวดดิ้ง จุดนี้ก็ไม่ควรพลาด

ล็อบบี้เวลานี้ แสงสี สวยมาก ผิดกับตอนกลางวันพอสมควร ถ้าอากาศเย็นๆ มานั่งชิลล์ก็คงจะดีไม่น้อย.

รูปนี้ทางเข้า ห้องอาหาร 4k

จากนั้นรีบบึ่งไปต่อกันที่ สระว่ายน้ำส่วนกลางครับ ได้แสงสวยเป็นที่น่าพอใจ



บริเวณสระว่ายน้ำ ก็มีต้นมะขามใหญ่ ให้ความร่มรื่น แต่ก็จะมีข้อเสีย คือทำให้มีใบมะขามที่ร่วงลงมาบริเวณสระ

หน้าห้องพักครับ



แล้วก็เก็บแสงทไวไลท์ที่ห้องอาหารอีกนิดหน่อยครับ

เสร็จสรรพ ก็ได้เวลาดินเนอร์อีกแล้วครับ ผมนั่งโต๊ะเดิมที่คุ้นเคยฟังเสียงคลื่นเดิมๆลมทะเลพัดมาสัมผัสใบหน้าอันหล่อเหลา เอ้ย!!!เหี่ยวเฉา ก็ลมทะเลเดิมๆ

ส่วนเมนู ไม่เดิมครับ เริ่มด้วยของคั่นเวลา ที่อร่อยไม่เบาเลย

ส่วนนี้เป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ นั่นคือ Salmon Nicoise Salad X2 Styleสลัดแซลมอนแบบเก่าแก่ของเมืองนิช ฝรั่งเศส

และอีกเมนูคือ Beef Tenderloinสเต็กเนื้อสันในทั้งสามเมนูผมจัดการคนเดียว หมดในพริบตาอร่อยมากครับ ..ขอบอก

และแล้วเวลาที่จะต้องเดินทางกลับ ก็มาถึง ไม่รู้เป็นยังไง วันกลับ ฟ้ามักจะใสทุกที

คงต้องออกไปถ่ายรูปอีกหน่อย เริ่มที่หน้าบ้านริมสระนี่แหละ



แล้วมาที่ใกล้ๆสระส่วนกลาง



โฉบไปที่ห้องอาหารหน่อย เวลานี้ยังไร้แขกมานั่ง

ต่อด้วยเดินเล่นไปถ่ายล็อบบี้ยามแดดดีๆ ถึงจะร้อนไปนิด แต่ก็มีความสุขครับ


มาดูสรุปของ X2 Kui Buri (ครอสทู กุยบุรี )

ผมชอบบรรยากาศทะเลที่นี่ แม้หาดจะไม่ขาว แต่ก็สงบดีสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้จากตัวรีสอร์ท การออกแบบของ X2 กุยบุรี ถูกใจผมมากมีคอนเซ็ปต์เป็นกล่องสี่เหลี่ยม ทั้งในส่วนห้องพัก ล็อบบี้ ห้องอาหารและผนังที่ใช้ก้อนหิน ดูแล้วแปลกตาและเป็นเอกลักษณ์ มีจุดดีไซน์เก๋ๆ ทั่วรีสอร์ท มีWIFI ให้ใช้ฟรีอีกด้วย

ส่วนห้องอาหารก็ออกแบบและให้แสงสีที่สวยมาก อยู่แนบชิดทะเล ทานอาหารไป รับลมทะเลไป

ถ่ายรูปก็เพลินดีเหมือนกันเท่านั้นยังไม่พอ อาหารยังอร่อยอีกด้วยแต่ราคาก็อาจจะแพงไปสักนิดสำหรับบางเมนู

ข้อด้อยอีกอย่างระยะทางที่ค่อนข้างไกลจากกรุงเทพฯ เมื่อเทียบกับ หัวหิน ชะอำ หลายๆจุดเก่ามาก แต่ตอนที่ผมเข้าพัก ทางรีสอร์ท ก็กำลังเร่ง Renovate อยู่เหมือนกัน

สิ่งที่ผมอยากจะบอกทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้รีวิวของผม นั่นคือเรื่องของ "ภาพถ่าย" ทริปนี้ทุกภาพผมถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล และใช้โปรแกรมแต่งภาพ "โฟโต้ช็อป " หลายภาพจบหลังกล้อง และหลายๆภาพมีการปรับแต่งให้สวยงาม

ต้องขอขอบคุณ X2 Kui Buriโครงการ Thailand Boutique Awards Season 32014-2015 ขอบคุณพื้นที่ “พันทิป"สำหรับการรีวิว ขอบคุณเพื่อนๆ "ชาวพันทิป- บล็อกแก๊งค์" ที่เข้ามาอ่าน เข้ามาชม มากด +กดไลค์ และร่วมพูดคุยให้กำลังใจกันรวมถึงท่านที่ไม่ใช่สมาชิกพันทิปที่เข้ามาอ่าน เข้ามาชมกระทู้นี้ของ"ชายคาตะวัน"แต่ไม่สามารถทิ้งร่องรอยการชมได้ผมก็ต้องขอขอบคุณด้วยเช่นกัน

ทะเล ไม่เคยหลับ เพราะคอยต้อนรับพวกเราเสมอ

ถ้าวันนี้ ร่างกายโหยหา “ทะเล"ขอให้เพื่อนๆมี “ทะเลทุกเวลา"

แล้วพบกันใหม่ ใน “รีวิว"ครั้งต่อไปครับ


จากใจนาย "ชายคาตะวัน"

https://www.facebook.com/Chaicatawan



ชายคาตะวัน

 วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 16.53 น.

ความคิดเห็น