สวัสดีทุกคนน วันนี้จะพาทุกคนหนีความวุ่นวายไปเดินสูดอากาศเย็นสบายๆบนดอยกันฮะ

INSTAGRAM : IPZPEAR

https://www.facebook.com/ipzpear

อ่านกระทู้รีวิวอื่นๆได้ที่นี่นะค้า
แบกกล้องท่องแดนกิมจิกับอุณหภูมิติดลบ 13 องศา

แบกกล้อง ล่องใต้ หลบความวุ่นวาย ไปเกาะพยาม

ลุยเดี่ยวเที่ยวภูลังกา แล้วพาหนีร้อนไปนอนน่านหน้าฝน

เกือบได้นั่งรถไฟ ไปแก่งกระจาน

ทะเลหมอกหน้าฝน บนเขาหลวงสุโขทัย

" ค น เ ดี ย ว " ทริปเหงาๆ ที่เราเลือกไม่ได้

เกาะล้าน " เ ห ง า ๆ " ในวันที่เราไป " ค น เ ดี ย ว "

โบกรถ 2 วัน 6 คัน เที่ยวเขาค้อทับเบิก

ชีวิตช้าๆใน "ท่ า ม ห า ร า ช"

เ ชี ย ง ใ ห ม่ อี ก ค รั้ ง ใ น วั น ที่ อ า ก า ศ ติ ด ล บ

บ า ง พ ร ะ เ ห ง า ๆ ใ น วั น ที่ เ ร า ไ ป ค น เ ดี ย ว

กระทู้นี้เน้นรูปปปป รายละเอียดการเดินทางและค่าใช้จ่ายแบบละเอียดจะแทรกอยู่ในกระทู้นะคะ
ทริปนี้กระทันหันแบบที่ไม่ได้เตรียมอะไรล่วงหน้าเลย นอนๆคิดว่าอยากเที่ยวมากกกก
เพื่อนก็ไม่ว่าง พ่อกับแม่ก็ติดงาน แฟน (ก็ไม่มี หึ!!) ด้วยความที่อยากไปถ่ายรูป เปิดกระทู้เจอรีวิวที่นี่
ก็เลยจัดการบุคกิ้งตั๋วแบบด่วนจี๋ แต่ด้วยความโง่... ทำให้เราดันเลือกไฟลท์ไปลงลำปางเพราะเข้าใจว่ามันใกล้ภูลังกา
และที่ช้ำใจยิ่งกว่าคือค่าตั๋วไปเชียงรายถูกกว่าเกือบ500

17 JUNE 2015
6:00 AM ไฟลท์เช้าโคตรง่วง

เหนือน่านฟ้าเมืองเขลางค์นคร

7:20 AM เขลางค์นคร

ไฟลท์นี้ถึงลำปางเร็วกว่าที่คิด เรานั่งสองแถวเขียวเหลืองออกมาจากสนามบินมาป๊ะกับรถไปพะเยาระหว่างติดไฟแดงพอดี แทบจะโดดลงจากรถเลยกลัวไฟเขียวก่อน 555

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพ-ลำปาง 2490฿รวมค่าประกันภัยกับค่านู่นนี่นั่นของสนามบินแล้ว

รถสองแถวจากสนามบินลำปางไปขนส่ง 50฿ (เราลงกลางทางไม่แน่ใจว่าราคานี้ตลอดสายรึเปล่า)

ค่ารถเมล์เขียวจากลำปางไปพะเยา 95฿ (แอร์)

ตั๋วอะไรทำไมย๊าวยาวว

10:00 AM สวัสดีพะเยา

พอถึงบขส.พะเยา ยืนงงๆอยู่พักนึง หันไปเจอรถเมล์ส้ม พะเยา-เชียงคำ กำลังจะออก วิ่งขึ้นรถอีกแล้ว ระหว่างทางลุงคนขับแกชิวมากค่ะ แวะซื้อของกินตลอดทาง 5555 (ตูจะทันมั้ยยย)

ค่ารถ 50฿ ระยะทางราว 80 กม. ใช้เวลาเดินทางราวๆ 1 ชั่วโมง 40 นาที (พัดลม)

11:40 AM เชียงคำ

และแล้วเราก็มาไม่ทันรถเมล์สายเชียงราย-น่านที่มีแค่วันละรอบ ตอน11โมง เลยแวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านเด็ดที่อ่านมาจากพันทิปตรงหัวมุมด้านซ้าย (ถ้าหันหน้าเข้าบขส) อร่อยย

12:10 AM คงไม่ทันน
เจ็บที่ต้องรู้.. ว่ารถเมล์นั้นไปแล้วว คราวซวยมาถึง ตามล่าหารถขึ้นภู มองไปเห็นรถสองแถวสีฟ้าจอดเรียงรายนับร้อยคัน (เว่อ) ตกลงต่อรองราคากันเสร็จสรรพก็ให้ลุงแกแวะเซเว่นเตรียมสเบียงขึ้นภู

ค่ารถสองแถวเหมาขึ้นภูลังการีสอร์ท 600฿/คัน มากันเยอะๆจะคุ้มกว่าค่ะ เรามาคนเดียวจ่ายไปเต็มๆ โคตรแพงงง

12:30 AM จะออกไปแตะขอบฟ้าาา
ข้อดีของการเหมาสองแถวคือทั้งคันเราครองงง จะนั่งนอนตีลังกาก็ไม่มีใครมอง และที่สำคัญ เราจองพื้นที่ท้ายรถลงหลักปักฐานคอยลั่นชัตเตอร์เรื่อยๆ

ชิวมากก

1:30 PM รีสอร์ทในตำนานน...

เมื่อมาถึงภูลังการีสอร์ท สิ่งที่ทักทายเราคือเจ้าตูบสีดำที่เฝ้ารีสอร์ท และความเงียบบบบ ตอนแรกก็คิดไว้ว่ามันคงเงียบเพราะเป็น low season แต่คือไม่คิดว่าจะเงียบขนาดนี้ แล้วเราก็ไปติดต่อบ้านพักภู1ที่อยู่โคตระไกลจากเคาท์เตอร์มากกก พี่เค้าเห็นเรามาคนเดียวเลยให้เราย้ายไปนอนภู 2/1 พี่ที่รีสอร์ทเป็นกันเองและใจดีม๊ากกกก

วิวจากระเบียงห้องพัก

ภู 2/1 ราคา 600฿/คืน/2คน ห้องน้ำในตัว พัดลม มีผ้าเช็ดตัว แชมพู สบู่ มุ้งให้
ภู 1 ที่จองไว้เป็นบ้านไม้ ระเบียงวิวสวยมากก 1200฿/คืน/4คน
ผังห้องพักที่เราเซฟมาจากพันทิปประกอบการตัดสินใจค่ะ

2:30 PM เข้าป่า
จากที่นอนเปื่อย ไม่มีอะไรทำ มาถึงเร็วไป รอหมอกมาช่วงเช้า เลยถามพี่ที่รีสอร์ทไปว่าอยากขึ้นไปบนยอดภู มีรถขึ้นไปมั้ย ปรากฎว่าช่วงนี้เป็นหน้าฝน ทางอุทยานห้ามเอารถขึ้นโดยเด็ดขาด ถ้าจะขึ้นภูต้องเดินเอาประมาณ 30 กม. (เราตัดสินใจนอนต่อละกัน เพราะเราไม่ใช่พี่ติ๊กเนวิเกเตอร์555) กลิ้งไปกลิ้งมาสักพักเลยหยิบกล้องแล้วเดินไปหน้ารีสอร์ท

มาคนเดียวแนะนำว่าขาตั้งกล้องจำเป็นมากก หนักหน่อยแต่ได้รูปนะ

ถามทางรีสอร์ท พี่เค้าบอกว่าค่ารถขึ้นยอดภูประมาณ 1200฿ หรือถ้าขับรถมาเองต้องเป็นรถโฟร์วีลเท่านั้น ช่วงหน้าฝนเค้าจะไม่ถางหญ้าทำทางเดินให้ แต่ถ้ามาช่วงหน้าหนาวทางอุทยานจะทำทางไว้ให้ค่า

18 JUNE 2018
6:00 AM นาฬิกาไม่ปลุก..
คุณพระ!! เราสะดุ้งตื่นมา 6 โมง คิดว่าตายละ พระอาทิตย์กับหมอกจะไปยังวะ นาฬิกาเฮงซวย รีบวิ่งไปเปลี่ยนชุดหยิบกล้องกับขาตั้งวิ่งไปหน้ารีสอร์ท หมอกลงบางมาก แอบเซ็งเบาๆ ถ่ายอยู่พักนึงก็ย้ายไปหน้ารีสอร์ท

หมอกเริ่มเคลื่อนตัวมาปกคลุมผาช้างน้อย

6:40 AM โค้งทะเลหมอก & มุมช่างภาพ

อากาศเย็นสบายสุดๆ ราวๆ 28 องศา โค้งนี้มีแค่เรา จองพื้นที่เลยฮะ ถ่ายมันทุกมุม 5555

7:30 AM มื้อเช้ากับหมอกจางๆ

มื้อเช้าทางรีสอร์ทมีข้าวต้มหมู โอวัลติน กาแฟ ให้เราตักบริการตัวเองได้เลย ข้าวต้มอร่อยมาก เราตื่นมากินคนแรกรู้สึกวินสุดๆ5555 แล้วก็เจอลุงเคะเว่นเข้าของรีสอร์ท ลุงแกดูใจดีมากเลยค่ะ เรามารู้ทีหลังว่าแกสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์จีนด้วย ถ้ามีแขกพักเยอะๆแกจะมีการแสดงพิเศษมาให้ชม แต่เราอด 5555

10:30 AM ชาวเหนือใจดี..

ระหว่างที่เรากำลังจะไปรอรถเมล์พี่ที่รีสอร์ทเค้าบอกเราว่ามีแขกที่มาพักรีสอร์ทประจำเค้าจะไปน่าน ติดรถไปมั้ย จะได้ไม่ตองรอรถเมล์ เราก็กล้าๆกลัว แล้วก็ตัดสินใจ เอาวะ ไหนๆก็มาแล้ว จะกลัวอะไร ขาตั้งกล้องก็มี ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ฟาดเลย 555

11:40 PM เมืองท่ามกลางหุบเขา..

ปรากฎว่าพี่เค้าใจดีมากกกกก ชวนเราคุยตลอดทาง และจอดให้ถ่ายรูปตลอดทาง เรานี่เกรงใจมาก แต่ด้วยความที่อยากได้รูปเลยไม่ปฏิเสธ ระหว่างทางปง-น่าน วิวสวยมากๆ เราเคยไปเที่ยวทางเหนือก็บ่อยแต่ไม่เคยเห็นวิวแบบนี้...

12:30 AM ปัว vs น่าน
พอมาถึงแยกท่าวังผา พี่เค้าถามว่าเราจะลงเลยมั้ย แยกนี้จะมีรถต่อไปเมืองน่าน เพราะพี่เค้าจะไปส่งผ้าที่ใกล้ๆปัวแล้วค่อยเข้าตัวเมืองน่าน หรือจะไปด้วยกันก็ได้ น่าจะใช้เวลาไม่นาน เราก็เลยไปต่อ เพราะอยากไปถ่ายรูปที่ปัวอยู่แล้ว

1:00 PM ผิดแผน!!
แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อรพ.ที่พี่เค้าจะไปส่งของอยู่ที่อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย-ลาว เดินทางรางๆ 1:30 ชม.จากปัว เราก็อึ้ง คิดในใจ เอาไงดีวะ ยังไงก็ไม่มีแพลน จะลงตรงนี้ก็เกรงใจพี่เค้า ก็เลยตัดสินใจไปต่อ วิวระหว่างทำให้เรารู้ว่าคิดไม่ผิดจริงๆที่มา

ธนาคารไม้ อ.ปัว จ.น่าน

วิวจากร้านอาหารบนดอยระหว่างทางไป อ.เฉลิมพระเกียรติ

3:00 PM ชายแดน

อ.เฉลิมพระเกียรติเป็นอ.เล็กๆที่อยู่ติดกับชายแดนไทย-ลาว ห่างจากลาว 1 กม.เท่านั้น ไม่มีรถโดยสารผ่านมาทางนี้ ถือว่าเราโชคดีที่ได้มาา

ดอกไม้จิ๋วใน รพ.เฉลิมพระเกียรติ

ส่วนวันสุดท้ายเดี๋ยวมาลงต่อค่าา

5:30 PM
พอมาถึงน่าน พี่เค้าก็พาเราไปกินก๋วยเตี๋ยวซุป'ดูกต้มยำที่ร้าน เตี๋ยวไร้เทียมทาน

อร่อยค่ะ เนื้อติดกระดูกได้เยอะมากกก น้ำซุปเข้มข้น แต่เผ็ด เรากินไม่หมด 555

พอกินเสร็จก็ตะเวนหาที่พักค่ะ ไปที่เฮือนม่วนใจ๋ก็ดูวังเวงน่าจะปิด ไปเวียงภูมินทร์ก็เต็ม ไปคุ้มเมืองมินทร์ก็เหลือแต่ห้องใหญ่ (แพงไป) ไปบ้านในเวียงก็เต็ม เลยมาลงเอยที่ น่านสุวารินทร์ค่ะ ห้องสวยและคุ้มมากกก วันนี้ห้องว่าง 2 ห้องพอดี เลยจัดไปคนละ 1 ห้องค่ะ รายละเอียดกดดูด้านล่างนะคะ

ราคาห้องละ 400฿/คืน แอร์ free wifi น้ำอุ่น ห้องน้ำในตัว ที่จอดรถกว้าง แต่อยู่ไกลจากย่านหลักๆในตัวเมืองนิดนึงนะคะ

8:00 PM วัดปิด

พอได้ที่พักพี่เค้าก็บอกเดี๋ยวพาไปถ่ายรูปบนพระธาตุเขาน้อย เก็บวิวเมืองน่าน พอไปถึงปรากฎว่าวัดปิดค่าาา มาดึกเกิน อดค่ะ TT เลยลงมาถ่ายวัดภูมินทร์แทน แล้วก็ไปหาอะไรกินก่อนกลับ แนะนำว่าถ้ามาให้มาถ่ายช่วงพระอาทิตย์ตกจะสวยมากกกด

8:30 PM น.น่าน

ร้านนี้มีจักรยานให้เช่าด้วยนะคะ จักรยานสวยด้วย เราสั่งนมปั่นคาราเมล

ท่าทางเจ้านี่จะเป็นเจ้าของร้าน 5555

แก้วละ 60฿ อร่อยนะ แต่เราว่ามันหวานไปนิดนึง คราวหน้าคงต้องสั่งหวานน้อย แล้วก็กลับเข้าที่พัก แยกย้ายหลับยาวว

19 JUNE 2018
7:30 AM วัดไม่ปิดแลัว
กลับมาที่พระธาตุเขาน้อย องค์พระจะอยู่บนยอดเขา อากาศเย็นสบาย 29 องศา ถ่ายรูปตัวเมืองน่านกับอากาศเย็นสบายๆ

วัดพระธาตุเขาน้อย

ระหว่างทางแวะที่วัดศรีพันต้น

8:30 AM ข้าวซอยต้นน้ำ

เช้านี้พี่เค้าพามากินข้าวซอยที่ร้านข้าวซอยต้นน้ำ อร่อยกว่าที่คิดค่ะ เราไม่ใส่พริกนะ 555

มื้อนี้เราบอกพี่เค้าว่าขอเลี้ยงบ้าง เค้าบอกไม่เป็นไร มากับเราก็เหมือนมากับลูก เรานี่โคตรเกรงใจเลย แล้วพี่เค้าก็บอกจะไปรอที่ร้านกาแฟ ให้เราเดินถ่ายรูปตามสบาย

ข้าวซอยไก่

ร้านนี้ข้าวซอยอร่อยมากกกกกกกก ถ้าไปอีกเราไม่พลาดแน่นอนน

9:00 AM วัดมิ่งเมือง ศาลหลักเมืองน่าน

เมืองน่านเป็นเมืองที่วัดเยอะมากก เราเจอทุกหัวมุมเลยเริ่มกันที่

วัดมิ่งเมือง ศาลหลักเมืองน่าน

9:30 AM - ศูนย์ OTOP เมืองน่าน

แวะศูนย์OTOPเมืองน่าน หาของฝากให้ ตา ยาย พ่อ แม่ และหาเสื้อผ้าฝ้ายมาใส่ถ่ายรูป สิงอยู่ที่นี่ชั่วโมงครึ่ง 555

11:00 AM วัดภูมินทร์

ตั้งกล้องกลางลานหน้าวัดภูมินทร์ ร้อนมากกกกกก ทั้งวัดมีเรายืนถ่ายกลางแดดอยู่คนเดียว 555

วันภูมินทร์

11:15 AM อุโมงค์ลีลาวดี

หอศิลป์ปิดปรับปรุง เลยได้ถ่ายแค่อุโมงค์ลีลาวดี T_T

ตั้งกล้องอีกแล้วว ลองเปลี่ยนเป็นโทนเย็นๆดูบ้าง

11:25 AM SO SEED สุดสาก

พี่เค้าพาแวะกินข้าวก่อนขึ้นเครื่อง ร้านนี้ส้มตำอร่อยมากกก ออกเปรี้ยวๆหวานๆ เพราะเราไม่กินเผ็ดเลยถูกใจเมนูนี้มาก

ตำถาด

11:50 AM บ๊ายบายเมืองน่าน

ได้เวลาขึ้นเครื่องกลับแล้ว อยากอยู่ต่ออีกสักนิด เพราะเวลาน้อยมาก เที่ยวแค่ไม่กี่ที่ เลยวางแผนไว้ว่าคราวหน้าจะกลับมาอีกและแพลนการเดินทางให้ดีกว่านี้

สุดท้ายนี้อยากฝากถึงเพื่อนๆที่ยังลังเลว่าจะไปเที่ยวนู่นนี่นั่นดีมั้ย มันจะสวยมั้ย ดีมั้ย แพงมั้ย จะไปถูกรึเปล่า?

เราว่านั่งดูรูปต่อให้สวยแค่ไหน ฟังจากคนที่ไป ก็ไม่เท่าไปเห็นด้วยตาตัวเอง
อย่ามัวแต่ลังเล หาเวลาว่าง เก็บกระเป๋า คว้ากล้อง ออกไปท่องโลกกันดีกว่า
หาความสุขให้ตัวเองไว้มากๆก่อนที่เราจะไม่มีโอกาส
ถ้าไม่มีใครไปกับเรา เราก็ไปกับตัวเองเลยค่ะ alone life ก็สุขไปอีกแบบ
ทริปนี้เหงาบ้าง กลัวบ้าง แต่รวมๆแล้วสนุกมาก และได้มิตรภาพดีๆจากคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนกลับมาอีกด้วย

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามจนจบ ไว้ทริปหน้าเจอกันสุโขทัยย